ถนนสายนี้มีตะพาบ km 72 >> เหตุเกิดในคืนพระจันทร์แดง
คำเตือน : ตะพาบนี้ไม่เหมาะกับคนที่ขวัญอ่อน ขี้ตกใจ เป็นโรคหัวใจ รับไม่ได้กับเรื่องต่ำ ๆ
และที่สำคัญมาก ๆ 18+ ค่ะ


บอกไว้ก่อน มัน Dark มาก
----------------------------------------------------------------

ณ บ้านเช่าเลขที่ 5312 ซึ่งเป็นบ้านหลังสุดท้ายในซอย 4
บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น สภาพกลางเก่า กลางใหม่
ในทุกคืนพระจันทร์แดง จะมีเสียงเพลงแนวหลอน ๆ ลอยมา



หญิงสาวผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ซึ่งอยู่ในบ้านเช่ากำลังทำอะไรบางอย่างกับของที่ถูกห่อด้วยพลาสติกใส
มองดี ๆ สิ่งที่ถูกห่อคือร่างของมนุษย์ทั้งชายและหญิงอีก 2 ร่างซึ่งแน่นิ่งราวกับผัก
มีบางส่วนของร่างกายที่เรียกว่าครกกับสากเท่านั้นที่ไม่ถูกห่อพลาสติก

หญิงสาวจัดการร่างเปล่าเปลือยที่อยู่ยังมีลมหายใจแต่ไร้ความรู้สึกของคนคู่หนึ่ง
ซึ่งท่าทางที่ว่าก็เป็นท่าทางการเสพสังวาสร่วมกัน โดยมีเธอเป็นผู้คุมเกมของคนทั้งคู่


หญิงสาวบริสุทธิ์ผู้มีร่างกายที่เปล่าเปลือยปราศจากพลาสติกห่อหุ้มซึ่งแตกต่างจากชายหญิงอีกคู่
กำลังใช้มือเรียวยาวขาวซีดของเธอลูบไล้ไปบนอวัยวะสำคัญที่ทำให้เกิดการกระตุ้นทางเพศ
และเริ่มต้นเดินเรื่องในบทอัศจรรย์กับเหยื่อของเธอทีละคน
เหยื่อทั้งสองไม่สามารถขัดขืนได้เพราะมีสภาพร่างกายไม่ต่างจากผักที่นอนแน่นิ่งนั่นเอง
ในขณะที่เธอกำลังทำกิจกรรมรักกับใครคนหนึ่ง เธอก็จะคนที่รออยู่เห็นทุกท่วงท่าด้วย
พร้อมทั้งมีการถ่ายคลิปกิจกรรมของเธอตั้งแต่เริ่มต้นที่เธอทำราวกับว่า
หญิงสาวและชายหนุ่มผู้ซึ่งมีลมหายใจแต่ไร้ความรู้สึกนั้นเป็นเพียงตุ๊กตาตัวใหญ่ของเธอ

หลังจากเกมแห่งการร่วมเพศแบบแซนด์วิชที่มีผู้ควบคุมเพียงคนเดียวจบลง
หญิงสาวเจ้าของบ้าน ก็จัดการร่างของชายหญิงที่เป็นอัมพาตด้วยน้ำมือของเธอ
ด้วยการเอามีดปาดคอคนทั้งคู่พร้อมทั้งนำศพไปเผาอำพรางที่ป่าหญ้าฝั่งตรงข้ามห้องเช่า
เพราะถือว่าคนคู่นี้หมดสภาพที่เธอจะใช้งานได้แล้ว
และเธอก็ไม่ต้องการที่จะหลงเหลือหลักฐานความทรงจำอันเลวร้ายของเธออีกต่อไป

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมือวางเพลิงและคู่ชายหญิงที่ถูกเผาอำพรางในป่าหญ้า
หญิงสาวบริสุทธิ์กลายผู้ชื่นชอบการเสพสังวาสกับคนที่เป็นอัมพาตแล้วฆ่าทิ้งได้อย่างไร


ประวัติของเธอช่างเลือนลางเหลือเลิน

ที่รู้ ๆ ก็เพียงแค่เธอเคยถูกรุมข่มขืนพร้อมทั้งถูกไม้แทงเข้าไปที่ช่องคลอดจนบาดเจ็บเจียนตาย
แต่เมื่อเธอรอดมาได้ เราก็เห็นเธอจัดการกับเหยื่อของเธอแบบนี้มาตั้งนานแล้ว

____________________________________________________________



Create Date : 11 มกราคม 2556
Last Update : 11 มกราคม 2556 9:22:58 น.
Counter : 1627 Pageviews.

24 comments
The Greatest Hits (2024) ไมเคิล คอร์เลโอเน
(18 เม.ย. 2567 18:36:03 น.)
봄 처녀(Virgin spring) by 홍난파(NanPa Hong) ปรศุราม
(17 เม.ย. 2567 10:09:12 น.)
เวลาที่หายไป - บทที่ 27 ดอยสะเก็ด
(16 เม.ย. 2567 20:17:49 น.)
: รูปแบบของการตระหนักในการรับรู้ : กะว่าก๋า
(15 เม.ย. 2567 05:37:45 น.)
  
เรื่องราวความแค้น
โดย: panwat วันที่: 11 มกราคม 2556 เวลา:2:48:10 น.
  
รัก กลายเป็นแค้น นี่น่ากลัวครับ
อ่านเเล้วสยอง จริงๆๆ
โดย: Sleeping_prince วันที่: 11 มกราคม 2556 เวลา:7:55:33 น.
  
เห็นภาพเลยครับ
สยอง

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มกราคม 2556 เวลา:14:04:28 น.
  
โอ๊ย..น่ากลัวใจ แค้นต้องชำระเหรอคะ

สยองน่ะนี่
โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 11 มกราคม 2556 เวลา:20:46:17 น.
  
สยองจนเห็นภาพเลยล่ะครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มกราคม 2556 เวลา:21:55:23 น.
  
ป้าดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
โดย: JewNid วันที่: 11 มกราคม 2556 เวลา:22:20:23 น.
  
น่ากลัวมากๆๆๆๆๆๆ กลายเป็นโรคจิตไปซะแล้ว อันตรายมากกกกกค่ะ
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 12 มกราคม 2556 เวลา:7:56:09 น.
  
พี่ก๋ากินเงินเดือนตั้ง 8 พันตอนจบใหม่
ตอนนั้นเหลือเงินทุกเดือนเลยครับ

เพื่อนเงินเดือน 2 หมื่น
มันบอกไม่พอใช้

แต่ตอนนี้พี่ก๋าเงินเดือนเยอะ
แต่ไม่เหลือเลย 5555


ใช้การงานค้นหาสตัวเองไปเรือ่ยๆครับ
สักวันเราจะรู้ว่าอยากเป็นอะไร
อยากทำอะไร

การได้ทำงานที่เ่รารักและรักงานทีเ่ราทำ
นั่นเป็นสิ่งที่วิเศษสุดเลยล่ะครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2556 เวลา:8:15:47 น.
  
คำถามเราน่าสนใจ
พี่ก๋าขอคิดคำตอบก่อน
เดี๋ยวมาส่งคำตอบให้นะครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2556 เวลา:13:01:52 น.
  
เห็นบอกว่าเรื่องนี้มืด แต่ไม่คิดว่าจะมืดขนาดนี้ โหดไปมั้ย
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 มกราคม 2556 เวลา:13:40:59 น.
  
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปเยือน
เรื่องนี้ยังไม่ dark มาก ถ้าไม่มีบทสรุป ก็จะไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหญิงวิกลจริตผู้นี้ จึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น ผู้อ่านอาจจะต้องเดาเอาเอง ว่า

เธอเป็นเช่นนี้ เพราะถูกพ่อเลี้ยงขืนใจในวัยเด็ก
เธอเป็นเช่นนี้ เพราะเห็นเพื่อนรักโดนรุมโทรมและถูกฆ่าทิ้ง
เธอเป็นเช่นนี้ เพราะความผิดปกติทางจิตที่เกิดจากการดูหนัง
ฯลฯ

เรื่องราวนี้ เป็นการใช้ หลักจิตวิทยาเป็นตัวเอกของเรื่อง ถ้าเป็นนิยายฝรั่งจะหลอนเอามาก ๆ นี่ดีที่เป็นเรื่องสั้น ^^
โดย: oa (rosebay ) วันที่: 12 มกราคม 2556 เวลา:22:09:08 น.
  
:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องโรมุ ::


อยากถามพี่ก๋าว่าความสำเร็จในชีวิตวัดจากไหน
ทุกคนต้องมีมาตรฐานความสำเร็จเป็น pattern เดียวตายตัวไหม

การที่มีเงินเดือนสูง ๆ ได้แต่งงานพร้อมทั้งมีครอบครัวในวัย 24-25
นี่คือความสำเร็จที่สุดของคนเลยหรือเปล่าพี่

ตอนนี้เริ่มรู้สึกแย่กับตัวเองในบางช่วงเวลา
เห็นเพื่อนที่เรียนจบรุ่นเดียวกันพากันมีแฟน แต่งงาน มีครอบครัวหลายคนแล้ว
แถมบางคนทำงานเงินเดือนสูงกว่า 2 เท่า
ในขณะที่เราแค่ level ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว มันยังไม่มีอะไรจริงๆ
แฟนก็ไม่มี แถมอกหักซ้ำซ้อนจนรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เอาไหน
ปากก็บอกได้ว่าทำใจกับการที่ใครสักคนเขาไม่สนใจได้ เราเข้มแข็งแล้ว
คิดอยู่ในใจว่าคงทำให้เขาลงมาอยู่ใน level พี่ชายที่แสนดีได้
เลยไม่กล้าลบเบอร์ ลบเฟซ หรือลบอะไรก็ตามเกี่ยวกับเขาทิ้ง
แต่ถึงเวลาจริง พอนึกอยากติดต่อเขา
มันจะเกิดอาการกดดันอย่างบอกไม่ถูก

พี่ก๋าแนะนำวิธีทำใจเรื่องงานกับเรื่องรักได้ไหมคะ
จะให้คิดแบบพวกลูกเพื่อนแม่ ที่หลัก 30 แล้วอัพสเตตัสว่าเป็นโสดดีกว่า
ก็ทำไม่ได้ด้วย




คำถามโดย : น้องโรมุ (rommunee)




............................................





ความสำเร็จในชีวิตคนเรา
วัดได้จากหลายเหตุผล
ขึ้นอยู่กับการเลือกว่าจะวัดความสำเร็จจากอะไร ?

ถ้าวัดจาก “ความรวย”
มหาเศรษฐีแสนล้านในประเทศไทยน่าจะเรียกได้ว่า
เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง

ถ้าวัดจาก “ชื่อเสียงและการยอมรับ”
ดารานักร้องนางแบบนายแบบซุปเปอร์สตาร์
ต้องถือเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ

ถ้าวัดจาก “สิ่งที่ทำ”
ผู้เสียสละและนักกิจกรรมจิตอาสาทั้งหลาย
ย่อมนับได้ว่าเป็นผู้ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

ปัจจัยที่จะชี้วัดว่าคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จในชีวิตมีมากมาย
สำหรับพี่ก๋าการเป็นพ่อที่ดีของลูก เป็นสามีที่ดีของภรรยา
ก็นับว่าเป็นความสำเร็จอันยิ่งยวด
การมีความสุขกับการงานที่เรารัก
การได้ตื่นนอนขึ้นมาทุกเช้าและรู้ว่าตัวเองไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
การได้พบเพื่อนที่ดี ลูกค้าที่น่ารัก
ฯลฯ

สิ่งต่างๆเหล่านี้นับเป็น “ความสำเร็จ” ได้เช่นกัน

อยู่ที่เราจะวัดด้วย “มูลค่า” หรือ “คุณค่า”


.........................................


ถ้าวัดด้วย “มูลค่า”
คนหิ้วกระเป๋าแบรนด์เนม มีบ้านหลังละ 20 ล้าน
ไปเที่ยวต่างประเทศทุกเดือน มีคู่นอนไม่ซ้ำหน้า
เป็นเซเลบฯที่ทุกงานต้องการตัว มีเงินใช้เดือนละ 3 แสน
ขับรถหรูนำเข้าคันละ 7 ล้าน ฯลฯ

เหล่านี้เรียกว่า “ความสำเร็จ”

แต่เมื่อวัดด้วย “คุณค่า”
คนที่รู้จักแบ่งปันเงินทองของตนเพื่อช่วยงานจิตอาสา
คนที่เสียสละแรงกายเมื่อเกิดภัยพิบัติ
คนที่ช่วยเหลือเมื่อเห็นผู้อื่นเดือดร้อน
คนที่ไม่เห็นแก่ตัว ข้าราชการที่ไม่คอรัปชั่น
พระสงฆ์ผู้ประพฤติปฏิบัติดี ครูที่ตั้งใจสอนนักเรียน
พ่อที่ดีของลูก ภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อความรัก
ฯลฯ

มีใครกล้าพูดบ้างว่าคนเหล่านี้ไม่ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต

อยู่ที่เราจะตัดสินคนจากอะไร ?
จาก มูลค่า หรือ คุณค่า ?


............................................


ความรักกับความสำเร็จด้านการงาน
ไม่แตกต่างกันเลยนะครับน้องโรมุ

นางงามจักรวาลแต่งงานกับมหาเศรษฐีทำไมถึงหย่าร้าง
มองขึ้นไปในสังคมชั้นสูง มีคู่รักกี่คู่ที่รักษาความรักเอาไว้ได้ตลอดรอดฝั่ง

เงินเดือนหมื่นสอง แต่ใช้เงินเดือนละ 8 พัน
ยังเหลือเงินเก็บเงินฝาก

เงินเดือนสองแสน รูดบัตรเครดิต 5 ใบ
หนี้ท่วมทุกเดือน

มีเท่าไหร่ รับเท่าไหร่
ไม่สำคัญเท่าใช้อย่างไร ใช้เพื่ออะไร ?

มีความรักหรือไม่มี
โสดหรือมีชีวิตคู่
ไม่มีใครบอกได้ว่าชีวิตแบบไหนดีกว่ากัน

เพราะไม่มีสูตรสำเร็จทั้งในเรื่องของความรักและการทำงาน
ดีของเรา อาจไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นปรารถนา
เช่นกัน...รักในแบบของเรา
ใครจะรู้ดีไปกว่าตัวเรา
ว่าคนรักแบบไหนที่เรารอคอยหรือเขาเหมาะสมกับเราหรือเปล่า
จนกว่าจะได้ตัดสินใจรักใครคนนั้น
ถึงจะรู้ได้ว่าเราควรมีรักหรือไม่
และคนๆนั้นควรเป็นอย่างไร
จึงจะอยู่ร่วมกันกับเราได้ตลอดรอดฝั่ง


.................................................


เว้นเสียแต่ว่า
เรามัวแต่เสียเวลาชีวิตเพื่อคอยเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
ยิ่งเปรียบเทียบยิ่งเหนื่อย ยิ่งท้อ ยิ่งต้องดิ้นรน

ทำไมเขามีชีวิตคู่ที่ดีกว่าเรา
ทำไมหน้าที่การงานเขาดีกว่าเรา
ทำไมเงินเดือนของเขาสูงกว่า
ฯลฯ

นั่นเป็นสิ่งที่เรามองเห็น
แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังจากสิ่งที่เห็นยังมีอีกมาที่เราไม่รู้

ใครจะไปรู้ว่าคู่รักที่ดูหวานชื่น
เมื่อกลับเข้าห้องอาจไม่แตะเนื้อต้องตัวกันเลย

ใครจะไปคิดว่าเศรษฐีร้อยล้าน
อาจจะกำลังล้มละลายเนื่องจากติดหนี้พนัน

ใครจะไปคิดว่าคนที่ยิ้มระรื่นในที่ทำงาน
อาจต้องดูแลพ่อที่อัมพาตและแม่ที่ป่วยหนักจนทำงานไม่ได้

ฯลฯ

ทำทุกสิ่งให้ดีที่สุด
เท่าที่เราจะทำได้

นั่นเป็นหนทางเดียวที่จะสร้างความสำเร็จ

อย่าเน้นไปที่เรื่องของความเร็ว

ชีวิตไม่ได้มีแต่การเหยียบคันเร่งและเข้าเส้นชัย
ระหว่างทางมีเรื่องราวให้ได้เรียนรู้และสัมผัสแง่มุมที่สวยงามด้วย

ใครจะเป็นอย่างไร จะรวย จะประสบความสำเร็จแค่ไหน
อย่าไปสนใจเลยครับ

ดูตัวเรา ดูความคิดของเรา
ว่ามันดีขึ้นจากวันก่อนแล้วหรือยัง
มีพัฒนาการอะไรไปบ้าง
ในแต่ละวันที่ผ่านไปชีวิตมีสุขมีทุกข์อย่างไร

ถ้าค่อยๆไล่เรียงและลำดับความสำคัญของคำนิยามเรื่องความสำเร็จได้
พี่ก๋าคิดว่าเราจะได้คำตอบกับตัวเองแล้วล่ะครับ
ว่า “ความสำเร็จที่แท้จริงของชีวิต” คืออะไร


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2556 เวลา:22:30:08 น.
  
ขอโทษเจ้าค่ะ พอดีเห็นคำถามที่บ้านน้องก๋า

เลยแวะมาส่งกำลังใจให้ไปพลางก่อน ระหว่างที่รอคำตอบจากน้องก๋า

ขอแทนตัวเองว่าพี่

พี่เลี้ยงหลาน น้องสะใภ้บอกว่าอยากให้หลานเรียนโรงเรียนดี ๆ ดัง ๆ ค่าเทอม เทอมละหลายหมื่น

พี่บอกว่า คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ได้วัดที่บ้านหลังโต รถแสนโก้ สามีอลังการ ลูกดีเด่น ทรัพย์มหาศาล

ไม้บรรทัดของแต่ละคนต่างกัน บางคนบ้านยากจน บ้านหลังเล็ก ๆ คนอยู่เป็นสิบ แลดูอบอุ่น ถึงแม้จะมีทะเลาะกันบ้างก็เป็นธรรมดาของคน

คนฐานะปานกลาง ก็มีความสุขกับชีวิตได้

คนความรู้น้อย ก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตได้

ฯลฯ

เพราะคนเหล่านั้น ไม่ได้เปรียบเทียบตนเองกับใคร เค้าพอใจกับสิ่งที่เค้าเป็น สิ่งที่เค้ามี

ที่สำคัญทุกอย่างที่ว่ามา (ทรัพย์สมบัติ สามี ลูก) ไม่ใช่เครื่องประดับ ไม่จำเป็นต้องเอาออกมาโชว์ สิ่งสำคัญคือ ความรัก ความเข้าใจ ของครอบครัวมากกว่า

พี่เป็นคนที่มองโลกในแบบนามธรรมออกจะมากไปหน่อย เลยไม่ค่อยแคร์ใคร ใครจะมอง ใครจะว่าอะไร ก็ชั่งหัวเขา เพราะเขาไม่ใช่เรา ถ้าเก็บมาใส่ใจ คนที่ทุกข์คือเรา ไม่ใช่เขา แบบนี้น่าจะทำให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตขึ้นมาบ้าง

เอาเป็นว่า รอน้องก๋าแวะมาตอบก็แล้วกันจ้า เผื่อจะโดนใจกว่าเนอะ^^
โดย: oa (rosebay ) วันที่: 12 มกราคม 2556 เวลา:22:37:49 น.
  
ตะพาบรอบนี้Darkจริง
อ่านเม้นจากข้างบน
ชีวิตต้องสู้กันต่อไปครับ
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 13 มกราคม 2556 เวลา:1:58:25 น.
  
อี๊ โรมุโรคจิต

เข้ามาอ่านก๋าราณีและโอ๋ราณีไปพลางๆครับ เขียนให้คำแนะนำได้ดีทั้งคู่เลยครับ สมแล้วที่ผ่านประสบการณ์ร้อนหนาวมามาก ถึงตัวคุณโอ๋เองจะมีปัญหาเข้ามากับตัวเองไม่น้อยก็เถอะ

สำหรับผมคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีความสุขได้ครับ
ต่อให้รวยล้นฟ้า แต่ถ้าต้องหวาดระแวงคู่แข่ง กลัวคนรอบข้างหักหลัง ต้องทำงานไม่ได้หยุดได้หย่อน ผมว่าคนนั้นไม่ใช่คนประสบความสำเร็จนะ
โดย: ชีริว วันที่: 13 มกราคม 2556 เวลา:19:56:38 น.
  
โอย น่ากลัวมากเลยค่ะ สยอง แถมยัง Dark อย่างที่บอกจริงๆ ด้วย หึย
โดย: ประกายพรึก วันที่: 15 มกราคม 2556 เวลา:15:39:55 น.
  



More Friendship Flower Comments

-----------------------
แวะมาทักทายกันก่อนนอน ราตรีสวัสดิ์ค่ะน้องโรม
โดย: เกศสุริยง วันที่: 15 มกราคม 2556 เวลา:22:24:07 น.
  

พี่อุ้มอ่านแล้วสยองจุงเบย
โดย: อุ้มสี วันที่: 16 มกราคม 2556 เวลา:12:15:42 น.
  
ขอบคุณที่ชอบงานเขียนที่บ้านค่า แหม เป็นปลื้มจริงๆ เลย

แวะมาทักทายวันครู+วันหวยออกค่า
โดย: ประกายพรึก วันที่: 16 มกราคม 2556 เวลา:14:55:33 น.
  
image by free.in.th
------------------------
ขอบคุณมากๆค่ะน้องโรม
โดย: เกศสุริยง วันที่: 17 มกราคม 2556 เวลา:0:18:57 น.
  
มันดาร์กมากมากกกกกกก

แค้นฝังหุ่นประมาณว่าจูออนที่ยังมีชีวิตอยู่เลยครับ เหอเหอ

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 17 มกราคม 2556 เวลา:11:22:22 น.
  
image by free.in.th
----------------------------
แวะมาส่งน้องโรม เข้านอน หลับฝันดีมีความสุขนะคะ
โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:21:49:46 น.
  
เล่าได้ชัดเจนและมองเห็นภาพแห่งความร้อนรุ่มคุ่มแค้น
และการ pay back..โหดมากค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:15:20:42 น.
  
มารออ่านตะพาบตัวที่ 73 ครับน้องโรมุ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มกราคม 2556 เวลา:6:52:28 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Rommunee.BlogGang.com

ROMMUNEE
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

บทความทั้งหมด