ทองผาภูมิ แค่ฟังชื่อก็รู้สึกว่าไกลแล้วล่ะแต่ไหนๆ มาแล้วเลยไปปิล็อกเลยแระกัน ปิล็อกสำหรับ จขบ.แล้วรู้จักที่นี่เพราะมันคือที่พักก่อนเดินทางสู่เขาช้างเผือกที่สุดอันซีนในดินแดนตะวันตก จริงๆ แล้วปีนี้ จขบ.มีทริปที่จะไปพิชิตเขาช้างเผือกแหละ แต่ปีนี้เค้ายังไม่เปิดให้ขึ้นไปเพราะมีช้างป่าลง (ในใจนี่แอบดีใจลงมาเที่ยวนานๆ นะน้องช้างพี่ยังทำใจขึ้นเขาช้างเผือกไม่ได้) คือกลัวกำลังขาและสังขารมันไม่เอื้ออำนวยยังไม่ได้เตรียมพร้อมเลย ดังนั้นปีนี้จึงรอดตัวไปเปลี่ยนแผนไปเที่ยวปิล็อกกันค๊า
จากตัวเมืองกาญจนบุรีเดินทางไปยังปิล็อกใช้เวลาราวๆ สามถึงสี่ชั่วโมงเลยทีเดียวแล้วแต่สภาพการจราจร
สองข้างทางก็จะเห็นต้นไม้แห้งๆ มีไฟใหม้อยู่เป็นระยะเพราะอากาศร้อนมาก
ช่วงจะขึ้นปิล็อกทางก็จะเลี้ยวลดคตเคี้ยวมาเป็นระยะ ทางจะเริ่มแคบลงเรื่อยๆ
ปิล็อกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ดังนั้นจึงมีหลายจุดให้แวะเที่ยวกันไปเรื่อยๆ
จุดแรกที่เราจะแวะคือเนินช้างศึกเนืองจากพระอาทิตย์ยังไม่ตกดินพวกเราเลยจะขึ้นไปเนินช้างศึก
เพื่อเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินเห็นชายแดนฝั่งพม่าแบบสวยงาม อันนี้คือความคิดแต่นี่ความเป็นจริง
สองข้างทางที่ขึ้นไปเนินช้างศึกมองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ ขาวโพลนตลอดเส้นทาง
พอมาถึงโอ้ยยยนี่ช้านอยู่กาญจนบุรีเรอะ โมเม้นท์นี้ยังไม่เคยเจอกาญจนบุรีหนาวค๊า เอาแล้วไงใครจะคิดว่ามันจะมีหมอกฟ่ะ
จากที่คิดว่าจะได้ดูพระอาทิตย์ตกดินกลายเป็นตื่นเต้นกับหมอกลงยามเย็น ณ กาญจนบุรี
สรุปคือไม่เห็นอะไรเลยนอกจากหมอกก็ตื่นเต้นไปอีกแบบน่าจะเป็นอิทธิพลมาจากความกดอากาศต่ำจากจีนล่ะ
ไหนๆ ก็ไม่เห็นอะไรเลยเข้าที่พักกันดีกว่าพวกเราจองไว้ที่เลิฟปิล็อก (Love Pilok)
ต้องรีบลงไม่งั้นไม่เห็นทางจะอันตราย
มาเที่ยวปิล็อกก็จอดรถไว้ที่ลานจอดแล้วเดินเข้าที่พัก "เลิฟปิล็อก" เราจองไว้คืนละ 1,000 บาท
ทำเลติดอ่างเก็บน้ำเลย ห้องนอนสบายใช้ได้อยู่ น้องที่ดูแลบอกว่าพี่โชคดีมากนะที่มาวันนี้ปกติที่นี่หน้านี้ไม่มีหมอกลงนะ
พอจัดการเก็บข้าวของเสร็จก็ได้เวลากินสิจ๊ะ
"ครัวเจ๊ณี" เป็นพิกัดเป้าหมายของเรา เพราะที่นี่มีเมนูปูพม่าหากใครจะมาที่นี่อยากกินปูพม่า
โทรเช็คร้านนี้ก่อนเลย เพราะถ้ามีปูพม่าแสดงว่าตลาดทองผาภูมิก็จะมีเช่นกัน วันนี้โชคไม่ดีเลยที่ปูพม่าไม่มีจ้า
สั่งเมนูอื่นมาลองแระกัน เพลานี้ก็ดึกแล้วความหิวไม่ปราณีใครจริงๆ นะ
ต้มยำทะเล รสชาติสไตล์ประยุกต์จะไม่เหมือนต้มยำบ้านเราเดาว่าน่าจะมีส่วนผสมของซอสพริก
เห็ดหอมผัดน้ำมันหอย ไม่รู้เป็นไงต้องมากินบ้านๆ เนี่ยแหละถึงจะอร่อยรสชาติโอเคเลย
ไข่เจียวกุ้ง ด้วยความที่ราคาไม่ต่างกับไข่เจียวหมูสับมากนักเลยสั่งกุ้งดีกว่า
แปลกไหมที่เวลาสั่งไข่เจียวมักจะโดนประณามแต่ก็ไม่เคยเหลือนะ ทานกับต้มยำเนี่ยฟินเลยทีเดียว
เมนูสุดท้าย ไก่ทอดเกลือ อันนี้อร่อยจริงๆ ไรจริงคือเค้าทอดไก่ได้แห้งมากไม่มีน้ำมันเลย
ส่วนประกอบก็กรอบจนทานได้หมดไม่ว่าจะเป็นตะไคร้ใบมะกรูดเรียบไม่มีเหลือ
ค่าเสียหายตามรายการ 520 บาท ราคาไม่แพงจานใหญ่ด้วยนะ
ไว้คราวหน้าจะมาใหม่ต้องกินปูพม่าให้ได้ จขบ.เคยทานที่ตากอร่อยมากปูเค้าเนื้อแน่นราคาไม่แพงด้วย
ปกติจะขึ้นมาขายที่ปิล็อกและไปทองผาภูมิดังนั้นถ้าปิล็อกมีทองผาภูมิก็ต้องมีเช่นกัน เอาล่ะได้เวลาชิลแล้วล่ะพี่น้อง
อากาศกำลังดีเลยวันนี้จิบเบียร์เย็นๆ ตามวัยสบายอุรากันเลยทีเดียว
ที่ปิล็อกนี่เหมาะแก่การมาพักผ่อนชิลๆ เดินเล่นสบายๆ ได้เลย แม้จะไม่ขึ้นเขาช้างเผือก (แค่คิดก็เหนื่อยแระ)
มิน่าเค้าบอกว่าถ้าไม่มั่นใจนอนรอที่ปิล็อกได้นะ ตอนหน้า จขบ.จะพาไปเที่ยวต่อค๊า
Photo and Story By
Patthanid C.