โครงการนี้เข้ามาไกลมากตลอดสองข้างทางไม่น่าเชื่อว่าโครงการนี้จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะตลอดทางที่เข้ามารับรู้ได้เลยว่าที่นี่เคยกันดารมาก่อนแน่นอน บ้านคนน้อยมากแต่ที่นี่ก็เปลี่ยนไปเมื่อมีโครงการช่างหัวมันตามพระราชดำริ จขบ.ขับรถมาตามเส้นทางที่ Google นำมาจนมาถึงโครงการ ค่าเข้าชม 20 บาท ซื้อจากด้านหน้านี้ไว้เลยที่นี่มีทหารดูแลและคอยบริการนักท่องเที่ยว
จขบ.ก็เข้ามาแบบงงๆ เห็นเค้าจอดรถก็จอดตามเค้าตรงหน้าลานกางเต็นท์ปรากฏว่าไม่ใช่จ้าสามารถขับรถเข้าไปได้เลย หากมาเร็วจะสามารถจอดด้านในได้ แต่หากมาช้าคนเยอะก็จะมีลานจอดสำรองที่อยู่ถัดไปไม่ต้องกลัวหลงมีทหารคอยบอกทางค๊า
ที่เห็นอยู่นี้เป็นบ้านหลังใหม่ของพ่อทหารบอกว่า "สร้างไว้ยังไม่ได้มาอยู่เลย"
กังหันลมต้นละ 1,200,000 มีกว่า 20 ต้นในพัดหมุนไปมาน่าดูชมสวยงามเชียว
พลังงานจากกังหันลมขายกลับไปยังการไฟฟ้่าล่ะ
พวกเรามาจอดรถตรงลานจอดสองเพราะด้านในคนเยอะมากทัวร์ก็มากันไม่ได้ขาดสาย
จากนั้นก็ยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่ทหารก็เดินเข้ามาในโครงการได้เลยจ้า
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโครงการนี้กันก่อน โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริมีเนื้อที่ทั้งหมด 250 ไร่เลยทีเดียว
โดยแบ่งเป็นแปลงสาธิตรูปแบบต่างๆ หลายโครงการ
ที่นี่เค้ามีทำกิจกรรมด้วยนะมาถึงก็มาเช็คตารางกันตรงทางเข้าเนี่ยแหละ วันที่พวกเรามาเย็นมากแล้ว
จึงทำให้ไม่ได้เข้าไปดูกิจกรรมอะไรเลย สำหรับใครที่ต้องการขึ้นรถชมไร่ก็มาลงทะเบียน ณ จุดนี้
จากนั้นก็ฟังเรียกชื่อพอได้ยินชื่เราก็เดินมายังอาคารพักรับรอง ด้านหน้าอาคารนี้มีรูปของในหลวงรัชกาลที่ 9
บอกตามตรงว่าแว๊บแรกที่เห็นรูปนี้น้ำตาไหลอย่างอัตโนมัติ คิดถึงพ่อจัง
"ชั่งหัวมัน" ชื่อนี้มีที่มา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ให้วางมันเทศไว้บนตาชั่งโบราณในห้องทรงงานที่วังไกลกังวล ก่อนเสด็จกลับกรุงเทพมหานคร ครั้นเมื่อเสด็จมาวังไกลกังวลอีกครั้ง พบว่าหัวมันนั้นมีรากและใบงอกออกมา จึงมีพระราชดำริว่า "มันอยู่ที่ไหนก็งอกได้" จึงทรงรับสั่งให้นำหัวมันนั้นไปปลูกในกระถาง และในเวลาต่อมาทรงพระราชทานต้นพันธุ์จากหัวมันเทศนั้นมาปลูกที่โครงการและพระราชทานชื่อโครงการนี้ว่า "โครงการช่างหัวมันตามพระราชดำริ"
ระหว่างที่รอขึ้นรถอยู่ก็ฟังชื่อกันให้ดีๆ นะ เจ้าหน้าที่จะประกาศให้ขึ้นรถ จขบ.มาก่อนคณะทัวร์เลยได้เลือกนั่งก่อน
จากนั้นรถก็แล่นพาพวกเราชมสวนของพ่อ
เริ่มต้นจากการปลูกมะนาวพันธุ์ลูกใหญ่เวลาผ่านเพชรบุรีเราจะเห็นเค้าขายข้างทาง คนขายจะถามว่าเอาพันธุ์ของพ่อไหม
พระเจ้าอยู่หัวท่านปลูกที่โครงการชั่งหัวมันลูกใหญ่ มาดูของจริงอืมใหญ่จริงๆ
ที่นี่เลี้ยงวัวพันธุ์ดีด้วยตัวนี้ชื่อว่าคุณตุ่มเป็นตัวผู้พ่อพันธุ์เพียงตัวเดียวนะ อืมทรงพลังจริงๆ พ่อคุณ
ใครมาเยี่ยมชมโครงการ จขบ.แนะนำให้ลองซื้อนมโครงการชั่งหัวมันทานนะ อร่อยมากจริงๆ ขวดละ 35 บาท
จขบ.ชอบตรงมีเทคนิคการเปิดขวดด้วยนะ!!
ที่นี่มีปลูกยางพาราด้วยนะใช้ระบบเจาะไม่ใช้ระบบกรีดเพิ่งเริ่มปลูกน้ำยางจึงได้ไม่มากเท่าไหร่
แต่การใช้ระบบนี้จะทำให้ต้นยางอยู่ได้นานกว่าปกติล่ะ
มีหน่วยผลิตน้ำมันทดแทนหรือไบโอดีเซลเพื่อใช้ในโครงการด้วยล่ะ ต้องบอกว่าที่นี่ครบวงจรมากๆ
หากเราทำได้แบบที่นี่แทบจะไม่ต้องเสียเงินซื้ออะไรเลย
แปลงต่อไปเป็นแปลงปลูกพืชผักสวนครัวมีหลายอย่างมากเรียกว่าไม่ต้องซื้อผักกินเลย
ถัดไปเป็นแปลงสาธิตปลูกหญ้าแฝกนานาชนิดรวมไว้อยู่ที่นี่และยังมีแปลงปลูกหญ้าแบบทุ่งหญ้าด้วยล่ะ
ที่เห็นนี้เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดเพชรบุรี "ชมพู่เพชร" ปลูกเรียงกันเป็นแถวลูกงี้ดกเชียว จากนั้นรถชมไร่ก็วนกลับไปยังจุดเดิม หากใครต้องการชมเพิ่มเติมสามารถนำบัตรประชาชนไปแลกจักรยานมาขี่ชมไร่ได้ค่ะ เนื่องจาก จขบ.มาเย็นมากตอนแรกว่าจะขี่จักรยานไปดูแปลงผักซะหน่อย จำได้ว่าเคยฟังรายการวิทยุเค้าเล่าว่า ที่นี่มีเทคนิคไล่แมลงแบบธรรมชาติคือการปลูกสลับแปลง เช่น แปลงแรกปลูกผักบุ้ง แปลงถัดไปปลูกคะน้า สลับพันธุ์พืชที่กลิ่นแรงด้วยประมาณนี้แหละ กะว่าจะศึกษาซะหน่อยเสียดายเวลาไม่พอเลยเปลี่ยนมาเดินชมบ้านพ่อก่อน
จขบ.ว่าพระองค์ท่านเลือกทำเลได้ดีมากที่นี่มีลมพัดตลอดเวลามิน่าถึงตั้งกังหันลมขนาดว่าวันที่ จขบ.มาร้อนมาก
ยังรู้สึกว่าเดินสบายๆ อยู่เลยเพราะลมพัดตลอดเวลาไปชมบ้านพ่อกันค่ะ
"บ้านพ่อ" เรียบง่ายมากต้องชมคนออกแบบหากดูตามโครงสร้างของบ้านแล้วหากไม่ติดแอร์บ้านหลังนี้ก็จะเย็นมาก เพราะดูจากทิศทางของบ้านรับลมได้ดีประกอบกับเป็นอาคารแนวตรงหากเปิดกระจกพร้อมกันสองด้านลมจะพัดผ่านบ้านพอดีถือเป็นแบบบ้านประหยัดพลังงานได้เลย พระองค์ท่านทำให้เห็นว่าแม้จะเรียบง่าย แต่อยู่สบายเนี่ยสำคัญกว่า
รถที่พระองค์ท่านใช้อายุเยอะแล้วนะเนี่ย ทะเบียนเชียงใหม่เสียด้วยน่าจะใช้งานมายาวนานแต่ยังคงรักษาเป็นอย่างดี นี่ก็เป็นต้นแบบให้หยุดคิดเช่นกันพระองค์ท่านจะซื้อรถใหม่สักร้อยคันยังได้เลย ทำไมต้องใช้รถเก่า จขบ. เดาว่าพระองค์ท่านทรงให้ความสำคัญกับคุณค่ามากกว่าราคานะ เพราะรถมีสี่ล้อเหมือนกันวิ่งได้เหมือนกัน หากเราดูแลรักษามันเป็นอย่างดีก็ใช้ได้ยาวนาน
ทำไมพระองค์ท่านถึงสอนให้เราพอเพียง เพราะความพอเพียงทำให้เราเพียงพอ หากเรามีเพียงพอแล้วก็จะสามารถแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นได้ จขบ.ยืดถือคำสอนของพระองค์ท่านมาเป็นแนวทางแห่งการดำเนินชีวิต เหมือนเราได้ดูตัวอย่างจากพ่อ ทำไมพ่อถึงเก่งเพราะพ่อเรียนรู้ ทำไมพ่อถึงรอบรู้เพราะพ่อไม่เคยหยุดนิ่งวิจัยและพัฒนาต่อยอด ทำไมพ่อถึงประหยัดเพราะพ่อรู้ว่าความประหยัดจะนำพาความมั่งมี ทำไมพ่อถึงให้อยากให้เราเป็นคนดีเพราะคนดีจะซื่อสัตย์ไม่คดโกงเหล่านี้เป็นพื้นฐานแนวทางการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ถ้าหลายคนคิดหลายคนทำตามแบบพ่อคิดดูประเทศเราจะสงบสุขขนาดไหนเพราะความพอดีพอเพียงและเพียงพอ ..
วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:3:20:24 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [