บทที่ 4 Day2 มิวนิค เวียนนา บันทึกการเดินทางเที่ยวยุโรป 3ประเทศ บทที่ 4 Day2 มิวนิค เวียนนา เมื่อกินอาหารเช้าอย่างอิ่มหนำแล้ว เราก็เช็คเอาท์และแวะจุดแรกที่ร้านLidl และdm เป็นร้านประเภทซุปเปอร์มาร์เกตและร้านขายยาจิปาถะ น้องสาวกับคุณอาช้อปปิ้งวิตามินของฝากกันมาคนละถุงใหญ่ ฉันกับลูกชายก็ได้ผลไม้ขนมและเครื่องดื่มติดไปเป็นเสบียง ต่อจากนั้นเราเข้าเมืองเพื่อไปชม Residence Pladz และ Marian Pladz ที่ตั้งใจไปชมนาฬิกาที่มีตุ๊กตาเต้นรำ และเราก็ทะเลาะกับGPSไปตลอดทาง บางซอยที่มันนำทางไปกลายเป็นถนนคนเดินที่ไม่ให้รถเข้า น้องสาวใช้วิธีขับไปเรื่อยเพื่อให้มันปรับเส้นทางให้เราใหม่ จนในที่สุดเราได้เข้าถนนที่ถูกต้องและยังได้ที่จอดรถที่ใกล้มากๆ แถมยังทันเวลา11.00น.ที่นาฬิกาตีระฆังพร้อมกับเต้นรำอีกด้วย เมื่อชมการแสดงจบน้องสาวกับคุณอาขอไปเดินชอปปิ้ง แต่ฉันขอกลับไปรอที่รถ ทั้งสองไม่ได้ซื้ออะไรเพราะร้านรวงมากมายจนไม่รู้จะซื้ออะไร แต่ก็ได้ขนมปังสอดไส้ไส้กรอกเยอรมันมาฝากเป็นอาหารกลางวัน จุดหมายต่อไปคือ พระราชวัง Nymphenberg ไม่รู้เหมือนกันว่าสำคัญอย่างไร แต่เป็นอาคารที่มีผังวางเป็นรูปตัวยู และกินอาณาบริเวณที่กว้างมาก กว้างจนคิดไม่ออกว่าคนที่อยู่นั้นเขาจะใช้พื้นที่ทั้งหมดได้อย่างไร เมื่อชมวังคร่าวๆแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปเวียนนา ซึ่งต้องใช้เวลาขับรถถึง 4ชม. ขับรถบนมอเตอร์เวย์ค่อนข้างนาน มีแวะพักเข้าห้องน้ำที่จุดพักรถบ้าง กว่าจะเข้าเขตตัวเมืองเวียนนาก็เป็นเวลาเย็นประมาณ17.00น. โชคดีที่เรามายุโรปช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงที่มืดช้า ดังนั้นแม้จะมาถึงล่าช้าแต่ฟ้ายังสว่าง ช่วยให้รู้สึกว่ายังไม่สายเท่าใดนัก เราต้องขับรถวนหลายรอบเพื่อหาที่พักที่จองไว้ ซึ่งเป็นอพาร์ทเมนท์ ตอนที่ดูรูปในแอปจองที่พักก็ดูดีสภาพห้องสวยงาม รีวิวบอกตั้งอยู่ในเขตเมืองใกล้สถานีรถไฟใกล้ตลาด ปัญหาเดิมๆของเราก็คือการกำหนดจุดหมายบน GPSของรถทำได้ยากมาก เพราะเราเองก็ชินกับการจุดหมายบนกูเกิ้ลแมพ ครั้นเราต้องระบุที่อยู่เป็นบ้านเลขที่ ชื่อถนน และรหัสพื้นที่ จึงเป็นเรื่องลำบาก เราเลยต้องอาศัยเครื่องมือทั้งสองมาประกอบกัน คือปักหมุดใกล้เคียงไว้ก่อนแล้วเปิดแมพในมือถือเพื่อหาตำแหน่งที่แน่นอน เราขับวนผ่านหน้าที่พักที่จองสองรอบเพราะไม่คิดว่าใช่ เนื่องจากหน้าตาอาคารไม่เหมือนกับที่เราคิดไว้ ประตูทางเข้าดูทรุดโทรม วิธีการรับกุญแจมีขั้นตอนบอกมาในอีเมล รายละเอียดซับซ้อนประหนึ่งเล่นเกมแอดเวนเจอร์ คุณต้องกดกริ่งเมื่อประตูเปิดให้เดินขึ้นไปชั้นหนึ่ง หันซ้ายหาตู้จดหมาย หยิบกุญแจในตู้แล้วเดินขึ้นชั้นสองห้องอยู่ทางซ้าย เฮ้อ! น้องสาวกับลูกชายอาสาไปเดินหาแล้วก็กลับมาบอกสภาพห้องที่ได้เห็นว่า ห้องสวยดีมีอุปกรณ์ครัวครบ แต่เป็นห้องแบบสตูดิโอ ไม่มีห้องนอนที่กั้นเป็นสัดส่วน เตียงที่มี3เตียงเป็นขนาดเล็กที่ไม่น่าจะพอสำหรับคณะเรา ห้องอยู่ชั้น2ซึ่งในยุโรปนี้เรียกชั้นพื้นดินว่าเป็นชั้น0 ฉันซึ่งมีแผนไว้ในใจตั้งแต่แรกแล้วว่าหากเกิดสถานการณ์ที่พักไม่ตรงปกฉันจะขอแยกไปหาที่พักใหม่ เมื่อเราพิจารณาสถานการณ์แล้ว แม้ว่าเราจะแยกกันพักแต่การขนกระเป๋า2ใบ แต่ละใบขนาด24นิ้วหนักเกือบ20กิโลขึ้นบันไดไปสามชั้นไม่น่าอภิรมย์แม้แต่น้อย ฉันเลยชักชวนคณะว่ายอมทิ้งที่พักนี้แล้วหาโรงแรมใหม่กันเถอะ แม้ว่าเราจะเสียดายเงินที่จองไปแล้วมากแค่ไหน แต่เพื่อความสะดวกกว่าคณะเลยยอมไปหาที่ใหม่ด้วยกัน เราเสียเวลาเปิดกูเกิ้ลและขับรถไปดูโรงแรมอีกแห่ง ซึ่งไม่มีห้องพักแบบทวินเบดอย่างที่เราต้องการ เราเลยต้องตะลอนต่อไปหาโรงแรมที่สาม กว่าจะไปถึงก็เป็นเวลาประมาณ2ทุ่มแล้ว ที่พักนี้เป็นโรงแรมในเมือง โฆษณาไว้ว่ามีที่จอดรถซึ่งจริงๆแล้วคิดค่าจอดเพิ่มจากค่าห้องพัก ต่อรองราคากันเรียบร้อยเราก็ตกลงพักที่ Senator Hotel ที่จอดรถต้องลงไปใต้ถุนอาคาร ทางเข้าที่จอดรถแคบชนิดที่เซนเซอร์ร้องเตือนตลอดทางที่เราขับเข้าไป แต่เมื่อลงไปถึงลานจอดแล้วก็รู้สึกพอใจ มีรถจอดอยู่ก่อนไม่กี่คัน ลานมีไฟส่องสว่างไม่น่ากลัว มีประตูเข้าอาคารและขึ้นลิฟท์ได้อย่างสะดวก แน่นอนพวกเราสลบไสลด้วยความอ่อนเพลียเช่นเคย |
บทความทั้งหมด
|