Living Will ความปราถนา
.ในวาระสุดท้าย คุณยายวัย 70 กว่าๆ แอดมิดด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้เมื่อยและเจ็บจากการนอนนิ่ง และมีอุปกรณ์ต่างๆ ติดตามร่างกาย คุณยายอยากจะกลับบ้าน จึงยื่นจดหมายให้คุณหมอ แต่ลูกยังอยากให้แม่รักษาตัวต่อ อาจเพราะหมอได้อธิบายแล้วว่าอาการของคุณยายยังไม่แข็งแรง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หากถอดออก แม้คุณยายอาจจะกลับไปถึงบ้าน แต่ก็ต้องมีอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน หรือในกรณีที่แย่กว่านั้น ก็คือ อาจจะเสียชีวิต แต่...สำหรับคนป่วยที่ไม่มีหวังจะรักษาหายแล้ว คงอยากจะใช้เวลาช่วงสุดท้ายในบ้านของตัวเอง และอยู่กับคนที่รัก มากกว่าจะนอนบนเตียงในห้อง ICU อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางคนแปลกหน้า Living Will ความปราถนาในช่วงเวลาสุดท้ายที่เหลืออยู่ ตามกฎหมาย คนป่วยมีสิทธิในการกำหนดชีวิตของตนเองในวาระสุดท้าย โดยแจ้ง เจตนารมณ์เป็นหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์รับบริการสาธารณสุข เพื่อยืดการตายในวาระสุดท้าย หรือเพื่อยุติการทรมาณจากความเจ็บปวด Do Not Resuscitate (DNR) แต่ในชีวิตจริง หนังสือนี้ ก็ไม่ได้ให้สิทธิหมอสามารถปลดหรือถอดการรักษาที่พยุงชีวิตอยู่ออกโดยพละการ ยิ่งมีความเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่างคนป่วยกับคนในครอบครัว หากหมอทำตามที่คนป่วยต้องการ หมอก็เสี่ยงที่อาจถูกฟ้องร้องจากญาติของคนป่วยได้ ทำให้เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการสู้คดี ดังนั้นหมอเจ้าของไข้จะพูดคุย กับคนป่วย และ ญาติ ให้ชัดเจน ถึงผลที่ตามมา หากได้ข้อสรุปตรงกัน จึงทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ตอนนี้ คุณยายและครอบครัวยังไม่ได้ข้อสรุปที่เห็นตรงกัน สิ่งที่หมอเจ้าของไข้ทำได้ คือ ขอความร่วมมือไปที่ หมอด้าน Palliative Care ซึ่งจะทำหน้าที่ในการวางแผนรักษาแบบประคับประคอง สำหรับคนป่วยในระยะสุดท้าย เพื่อช่วยให้คนป่วยเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่สามารถ จนกว่าจะถึงเวลาสุดท้าย และจะช่วยดูแลเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของญาติให้พร้อมรับกับความสูญสียคนที่รักไป มองดูเรื่องของเขา ทำให้ย้อนกลับมาดูเรื่องของตัวเอง ปัจจุบันเราพยายามที่มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ทำให้ดีในแต่ละวัน เราก็จะพบเรื่องดีๆ หากต้องเจอเรื่องไม่ดี ก็เชื่อว่า เมื่อถึงพรุ่งนี้เรื่องของวันนี้ก็จะเป็นเมื่อวาน ปล่อยให้ผ่านไป ใช้สติ คิด รู้ทันอารมณ์ พยายามไม่ยึดติดทั้งสุขหรือทุกข์ เพราะไม่มีสิ่งใดอยู่จีรังถาวร ถึงอาจจะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็พยายามทำแบบนี้เรื่อยๆ ส่วนเรื่อง ช่วงเวลาสุดท้ายของการเดินทางของเรา นั้น จากที่ผ่านประสบการณ์รับรู้ข่าวร้ายอาการป่วยของตัวเองเมื่อ 10 ปีก่อน เราจึงได้วางแผนชีวิตจัดการเรื่องต่างๆ ให้พร้อม หากจะต้องตาย และขอคนในครอบครัวให้สนับสนุนความปราถนาในวาระสุดท้ายของเรา ชีวิตคือการเดินทาง สิ่งใดๆผ่านมาแล้วย่อมผ่านไป ใยจึงยึดติดให้เป็นสุขหรือเป็นทุกข์ สู้ปล่อยวางแล้วแค่เดินผ่านไป
|
บทความทั้งหมด
|