จุดตั้งต้นของเรื่องเล่าจากลูก คุณแม่ทั้งที่ลูกโต หรือลูกเล็ก ๆที่รู้จักครอบครัวเรา ชอบมาขอคำแนะนำหรือถาม ว่าเขาต้องทำอย่างไร เขาอยากมีความสนิทสนมกับลูก อยากให้ลูกเปิดใจเล่าเรื่องต่างๆ แม้จะคิดต่างกับพ่อและแม่ ให้ฟัง แบบเรากับลูก เรามานั่งนึกว่า เพราะอะไรหรือ เพราะเขาเป็นลูกคนเดียว พ่อกับแม่จึงต้องเล่นด้วยหรือเปล่า เพราะเรามีนิสัยชอบถาม ให้ลูกตอบตั้งแต่ตั้งแต่เขาเด็กๆหรือเปล่า เพราะเราจะตั้งใจฟังทุกเรื่องที่เขาเล่า อาจจะมีถามกลับบ้าง เพื่อให้เขาหาคำตอบเจอหรือเปล่า เพราะเรากับเขาช่วยกันคิดหาทางออก ทางเลือก แต่สุดท้ายจะให้เขาเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำอะไร โดยเขาต้องยอมรับผลที่ตามมา ไม่โทษใคร หรือเปล่า เพราะเราจะไม่ซ้ำเติม แม้เขาจะทำผิด แต่จะใช้การพูดคุย ว่าอะไรที่ควรหรือไม่ควรทำ และร่วมกันคิดบทลงโทษที่เขาต้องรับ เมื่อเขาทำผิด หรือเปล่า เพราะเราพยายามควบคุม ความคิด อารมณ์ ของตัวเอง ไม่รีบด่วนสรุป ไม่ด่วนตัดสินถูก/ผิดไม่ยกตนข่มลูกว่าเรื่องของเราหนักกว่าที่เขาเจอไม่ หรือเปล่า นี่คือ สิ่งต่างๆ ที่เราพยายามใช้เวลา ใช้การสื่อสารกับลูกมาตั้งแต่เขาเกิด แม้เราต้องทำงานกลับบ้านดึก เราก็จะพูดคุยให้เขาเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง บางทีเขาก็อยากให้เราเล่าเรื่องที่ทำงานให้ฟังบ้าง สิ่งสำคัญ คือ เรารักษาคำมั่นสัญญากับลูก และขอให้เขาทำเช่นนั้นเช่นกัน เพราการรักษาสัญญา มันแสดงว่า เรารักกัน แคร์กัน ให้ความสำคัญต่อกันมากๆ หากจะมีเหตุให้ทำไม่ได้ก็ต้อง ขอโทษและอธิบายเหตุผลให้กันรู้ เราต้องการให้ลูกรู้สึกว่า ครอบครัวเป็นเซฟโซน ที่เขาสามารถเป็นตัวของตัวเอง เขาอาจคิดต่างกับเราได้ แต่เราต้องเคารพความเห็นของคนอื่น ทุกคตมีสิทธิคิด หรือทำอะไรได้ ตราบที่สิ่งนั้น ไม่เบียดเบียน สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น มิฉะนั้นมันก็อาจย้อนทำอันตรายกับตัวเองได้ พ่อชอบบอกกับลูก ว่า ทนเอาหน่อยมี แม่ชอบเล่นเกม 20 คำถาม 😆 ลูกจึงเหมือนได้รับการพัฒนาทักษะ เป็นนักเล่าเรื่อง (Storytelling) มีผลให้ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้ากลุ่มในการนำเสนองาน ทั้งในระดับ ห้องเรียน ระดับชั้น จนเป็นตัวแทนของโรงเรียน ได้รับการยอมรับว่ามีทักษะการนำเสนอ มีปฏิภาณไหวพริบแก้ปัญหา ตอบคำถามในเวลาที่นำเสนอ ก็ลองเจอแม่ถามว่าทำไม ทำไม มานานแสนนานสิ 555 ทุกวันนี้ เด็กตัวน้อย เติบโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นคุณหมอ ทำหน้าที่ดูแลรักษาคนไข้ แม้จะต้องไปทำงานไกลจากบ้าน แต่ก็จะโทรมาหาเพื่อถามสารทุกข์ของแม่ ปรึกษาเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังสม่ำเสมอ อาจไม่มากเท่าตอนยังเด็ก และแม่ก็ยอมรับว่าลูกโตขึ้น มีวุฒิภาวะเป็นผู้ใหญ่ หลายครั้งแม่ก็ต้องขอความเห็น คำแนะนำจากลูก แต่ก็ดีใจที่ลูกก็ยังมาขอคำปรึกษาเรื่องต่างๆในชีวิต แม้บางครั้ง แม่รู้ว่าลูกตัดสินใจแล้วล่ะ แต่ก็ยังให้เกียรติมาถามว่าแม่เห็นด้วยไหม ต่อจากนี้ แม่จะเริ่มเขียนไดอารี่เรื่องราว จากเรื่องเล่าจากลูก ในตอน ชีวิตแม่ของหมอ
ขอบคุณ คุณ สายหมอกและก้อนเมฆที่ติดตามอ่านนะคะ
โดย: แมวเหมียวลายสีชมพู วันที่: 30 พฤษภาคม 2567 เวลา:18:57:48 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ขอบคุณค่ะ