จับมือก้าวผ่านไปด้วยกัน ความต่อจากที่ลูกอยากเรียนหมอ เราหารายชื่อสถาบันกวดวิชา มาถามว่าอยากเรียนที่ไหนบ้าง เพิ่มจากที่เรียนแค่วิชาฟิสิกส์ ลูกขอเรียนเพิ่มแค่วิชาเคมี โดยจ้างรุ่นพี่มาสอน ส่วนวิชาเลขกับชีวะ บอกจะอ่านและทำแบบฝึกหัดเอง วิชาอื่นๆ อังกฤษ ไทย สังคม บอกว่าใช้ sense เอาเป็นว่าเท่าที่เรียนจากที่ รร ก็พอ (ความมั่นใจมากอีกแล้ว) วิชาความถนัดแพทย์ เป็นวิชาที่ขึ้นกับใจคนออกข้อสอบ ก็ทำได้แค่พยายามคิดแบบคนดีในอุดมคติแล้วก็ตอบ จากนั้นก็ดวงล้วน ติวไปคงไม่ช่วยอะไร น่าจะเพราะเป็นคนจัดว่าเรียนดี จึงมีความประมาท เราก็พยายามพูดเตือนว่า เวทีนี้เป็นการแข่งขันระดับประเทศ มีเด็กมากมาย หลาย รร หากจะลงสนามนี้ การเตรียมตัวแบบนี้อาจจะไม่พอหรือไม่ เป็นอีกหนึ่งบทสนทนาที่ยากสำหรับพ่อแม่ จะพูดอย่างไรที่จะเตือน แต่ต้องไม่ทำให้ลูกหมดความเชื่อมั่นในตัวเอง หรือคิดว่าแม่ดูถูกว่าเขาเก่งน้อยกว่าคนอื่น สรุปว่า ลูกก็แค่รับฟัง แต่ก็ยังทำตามแผนของตัวเอง ...... วันที่ผลคะแนนออกมา ลูกเดินมากอดแล้วบอกว่า ขอโทษที่เขาสอบไม่ติดคณะแพทย์ เราบอกลูกว่า พ่อกับแม่รักลูกเสมอ เราสนับสนุนสิ่งที่ลูกอยากเป็น สิ่งที่เราหวัง คือ ความสุขของเขา ไม่ใช่ผลการสอบ หรือ การเรียน ชีวิตของคนๆหนึ่ง จะมีเรื่องต่างๆเข้ามามากมาย การสอบเข้ามหาวิทยาลัยมันก็แค่ประสบการณ์อย่างหนึ่งในชีวิต แต่ไม่ใช่โลกหรืออนาคตทั้งหมดแน่นอน ขอแค่ลูกก้าวเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง สิ่งดีๆโอกาสใหม่ๆ จะเข้ามาให้ได้พบเจอ แม้คะแนนไม่ดีพอจะติดหมอ แต่ก็สูงมากพอที่จะเลือกยื่นคณะอื่นๆ ได้สบาย ลูกตัดสินใจเลือกเรียน นิติ จุฬา ซึ่งเราก็ยินดี และดูว่าน่าจะเหมาะกับศักยภาพของเขา "ความฝัน ความหวัง ความพยายาม และการรับมือกับความจริง บางครั้งอาจสุข หลายครั้งอาจเศร้า แต่เมื่อหันกลับมามอง เราจะขอบคุณกับทุกเรื่องราวที่เข้ามา"
|
บทความทั้งหมด
|