บางครั้งที่ชีวิตของเราเลือก(ไม่)ได้ เรื่องแรกเราเลือกที่รักษาตัวได้ไหม มีคนไข้วัย 70 กว่า ถูกนำส่งตัวมาหาหมอ ด้วยอาการ แน่นหน้าอก หายใจไม่ค่อยได้ ความดันตก ทีมหมอห้อง ฉุกเฉิน ทำการสอดท่อช่วยหายใจ แล้วตามทีม Med มาดูอาการ หลังจากตรวจเบื้องต้น หมอแนะนำให้พักรักษาตัวใน รพ วันนั้นคนไข้โชคดี ที่มีเตียงว่างในห้องผู้ป่วยรวม ซึ่งเป็นเตียงสุดท้าย เมื่อคนไข้ไปถึงเห็นสภาพเตียงในห้องผู้ป่วยรวม ก็บอกลูกว่าจะย้ายไป รพ เอกชน แห่งหนึ่ง เอาจริงๆ ย้ายไปสำหรับหมอแล้ว ก็ดี ลดภาระงานไปได้ แต่ หมอก็ต้องอธิบาย ว่าอาการคนไข้ในกรณีนี้ หากเป็น เอกชน อาจจะต้องไปพักในห้อง ICU ซึ่งมี คชจ คืนละ 5000 บาท อันนั้นเฉพาะค่าห้องเท่านั้น ไม่รวม คชจ อื่นๆ ที่หมอรู้ค่าห้อง เพราะมีญาติคนไข้หลายคน มาติดต่อขอย้ายมารักษาที่นี่ เพราะจ่ายค่ารักษาไม่ไหวแล้ว แต่หมอก็นั่งอธิบายแผนการรักษา ในแต่ละขั้นตอนให้ญาติฟัง ตอนนี้ หมอ ทำอะไรได้บ้าง ต่อไป จะเป็นไง หากคนไข้ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจไปนานสักพัก ก็จะมีปัญหาเรื่อง เสลด ทำให้ต้องเจาะคอ และ กรณี คนไข้มีอาการวิกฤติ ทางคนไข้และญาติ ต้องการให้หมอ ทำอะไรบ้าง ปั้มหัวใจ ฉีดยากระตุ้นหัวใจ และอื่นๆ แน่นอนอธิบายไปกี่ราย ก็จะขอเวลาคิดก่อน ซึ่งหมอก็ไม่บังคับ คนไข้กับญาติอาจไม่รู้ว่า ระยะเวลาตั้งแต่ที่ หมอไปตรวจรักษา จนจัดการเขียนบันทึกอาการและการวินิจฉัย การรักษาจนเสร็จ และได้กลับไปพัก ในวันนั้น หมอคนนั้นทำงานมาทั้งหมด 30 ชั่วโมงต่อเนื่อง จริงๆ หมอต้องออกเวรตอนที่โดนตามให้มาตรวจคนไข้ แต่ก็ต้องลงมาดู พอเจอเคสแบบนี้ก็ยาวล่วงเวลาไปเลย และหมอเองได้กินข้าวมื้อสุดท้าย คือ 17 ชั่วโมง ที่ผ่านมา ผ่านไป 1 คืน คนไข้ยืนยันจะขอย้าย หมอก็เขียนใบรับรองให้ลูกนำไปติดต่อ รพ เอกชน หากทางโน้นต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็โทรติดต่อกลับมาได้ หากทางโน้นจะส่งรถพยาบาลมารับเมื่อไร ก็แจ้งมา ทาง นี้ไม่ขัดข้อง แต่แล้ว เมื่อญาติไปติดต่อ รพ เอกชน ก็กลับมาถามหมอว่า คุณพ่อจะต้องรักษานานแค่ไหน เพราะว่าทางนั้นประเมิน คชจ ขั้นต้น วันละ 5000-10000 บาท ซึ่งหมอบอกอาการของคนไข้แบบนี้ ไม่สามารถบอกได้ชัดเจน ดังนั้นลูกๆ จึงตัดสินใจให้พ่อรักษาตัวที่นี่ต่อไป แต่ละวันเมื่อหมอไปเยี่ยมคนไข้ แกก็จะทำท่าไม่พอใจ คงคิดว่าหมอไม่ให้แกย้ายออกมั้ง ซึ่งหมอก็ไม่ได้พูดอะไร ก็ทำตามหน้าที่ไป เรื่องที่สอง ทำไมต้องเป็นเรา เปิดชาร์ท เตรียมไปตรวจเยี่ยมคนไข้ เตียงถัดไปจากคุณรายข้างบน เป็นเรื่องของ นักศึกษาแพทย์ปี 4 ที่เพิ่งตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลาม คนไข้นอนเหม่อลอง หน้าตาหมองเศร้า หลังจากสอบถามอาการต่างๆ แล้ว ก็คงให้น้องรักษาตัวตามแผนการรักษาของหมอทางด้านมะเร็ง หมอทั่วไปอาจจะช่วยดูว่ามีอาการแทรกซ้อนอะไรที่ผิดปกติ หรือไม่ เท่านั้น และก็เดินออกมาด้วยความรู้สึกที่เศร้าจับใจ คนๆหนึ่งอายุเพียง 20 ต้นๆ ใช้ชีวิตที่ผ่านมา ด้วยการ ตั้งใจเรียน อ่านหนังสืออย่างหนัก กำลังจะได้ทำอาชีพที่ฝัน แต่แล้วทุกอย่างต้องจบลง เพราะอาการป่วย ลูกเคยพูดติดตลกๆ ว่า ใครที่อยากปลงกับชีวิต ลองมานั่งดูที่ รพ รัฐ ใหญ่ๆ ในแต่ละวัน คุณจะเจอ คนเกิดใหม่ คนที่แก่ คนที่เจ็บ และสุดท้าย ก็ คือ ตาย น่าจะช่วยให้เข้าถึงสัจธรรมชีวิตเร็วกว่าไปนั่งในวัด
ในช่วงเวลาที่ชีวิตเราต้องเผชิญกับความท้าทายและการตัดสินใจที่ยากลำบาก บางครั้งก็รู้สึกเหมือนกับการเล่นเกมที่ซับซ้อนและไม่สามารถคาดเดาได้ เช่นเดียวกับเกม wordle unlimited ที่ต้องใช้ความคิดและกลยุทธ์ในการหาคำที่ถูกต้อง ชีวิตเราก็มีเรื่องที่เราต้องจัดการและเลือกทางเดินที่ดีที่สุดแม้จะไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
โดย: Nancy (สมาชิกหมายเลข 8314798 ) วันที่: 15 สิงหาคม 2567 เวลา:11:31:05 น.
|
BlogGang Popular Award#20
แมวเหมียวลายสีชมพู
บทความทั้งหมด
|
นอกจากเกิด แก่ ป่วย ตาย แบบเห็น ๆ (เพราะไปบ่อย) เราจะได้รู้ว่า ทุกข์ของเรา ไม่ได้ใหญ่กว่าทุกข์ของคนอื่นเลย มันวัดปริมาณความทุกข์กันไม่ได้เลยค่ะ
เพื่อนร่วมโลก และ เพื่อนร่วมโรค อันนี้ก็จริงนะคะ