เอ็นเนียแกรม (Enneagram) คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ระหว่างบริหารคนกับบริหารเครื่องจักร การบริหารคนเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายอย่างที่สุด แต่..........อยากจะบอกว่ามีสิ่งที่ยากกว่าการบริหารคน นั่นคือการบริหารตน เพราะ คนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะพยายามควบคุมคนอื่น และอยากให้คนอื่นเป็นในแบบที่เราคิดเราต้องการ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือหลายสิ่งหลายอย่างที่เราพูดหรือสั่งคนอื่นนั้น ตัวเราเองยังทำไม่ได้เลย ถ้าเรายังสั่งตัวเองให้ทำไม่ได้แล้วจะไปสั่งให้ใครทำได้ล่ะ มีนักจิตวิทยาและนักสังเกตพฤติกรรมคนมากมายที่พยายามจะอธิบายความแตกต่างของคน ถึงความรู้สึกนึกคิดและความต้องการภายในลึกๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ร่วมด้วยช่วยกันทำประโยชน์ ไม่เกิดความขัดแย้งอันเนื่องมาจากความไม่เข้าใจในกันและกัน เอ็นเนียแกรม (Enneagram) เป็นเครื่องมือชั้นเลิศสำหรับมืออาชีพ ที่จะนำไปใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า หัวหน้า เพื่อนร่วมงาน และลูกน้อง สำหรับคนไทย เอ็นเนียแกรม อาจเป็นเรื่องใหม่และไม่คุ้นหู แต่สำหรับ ผู้สนใจศาสตร์เพื่อการเรียนรู้พัฒนาตนเอง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นแล้ว เอ็นเนียแกรมกำลังเป็นที่สนใจและศึกษากันอย่างแพร่หลาย ใครเลยจะรู้ว่าศาสตร์ที่ได้รับการสืบทอดและพัฒนามายาวนานนี้ จะสามารถนำมาปรับประยุกต์ใช้ ให้เข้ากับสังคมปัจจุบันที่มีความซับซ้อนมากขึ้นได้ โดยเฉพาะในการพัฒนาองค์กรและธุรกิจ ตามหลักของ ENNEAGRAM แบ่งคนออกเป็นเก้าแบบ แทนด้วยจุดเก้าจุดที่เรียงอยู่บนเส้นรอบวงของวงกลมด้วยระยะห่างที่เท่าๆกัน แบบหนึ่ง ; นักปฏิรูป คนสมบูรณ์แบบ มีหลักการ มีระเบียบวินัยต่อตนเอง เคร่งครัดต่อกฎเกณฑ์ มีจุดยืนที่แน่นอนในทุกๆ เรื่อง ชอบวิพากษ์วิจารณ์ คาดหวังให้คนอื่นดีเหมือนๆกับตน อยากเห็นสังคมดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ รักความยุติธรรม บางทีดูเป็นคนแข็ง ไม่อรุ่มอร่วย จริงจังกับชีวิต แบบสอง ; นักบุญ ผู้ช่วยเหลือ ดูแลเอาใจใส่ทุกข์สุขของคนรอบข้าง คิดถึงปัญหาของคนอื่น มากกว่าปัญหาของตัวเอง พยายามทำตัวเป็นที่รักของคนอื่น ด้วยการให้ ยกย่อง "ความรัก" เหนือสิ่งอื่นใด บางทีก็ชอบกะเกณฑ์คนอื่น ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของคน แบบสาม ; ผู้ชนะ ผู้ใฝ่สำเร็จ ปรับตัวเก่ง ทะเยอทะยาน เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง มองเป้าหมายเป็นหลัก ทำงานเก่ง ใส่ใจภาพลักษณ์ บุคลิกภาพ และการแต่งตัว ปกปิดความล้มเหลว โฆษณาตัวเอง แบบสี่ ; ศิลปิน คนโรแมนติก มีความคิดสร้างสรรค์ ยกย่องจินตนาการ มีความถนัดทางศิลปะ ใจลอย ไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบัน ค้นหาตัวเอง อยู่กับตัวเอง มีอารมณ์เศร้า ไม่หลอกตัวเอง มองเห็นข้อเสียของตัวเองมากกว่าข้อดี ขาดความมั่นใจ แบบห้า ; นักวิชาการ นักสังเกตการณ์ เป็นนักคิดมากกว่าปฏิบัติ นักประดิษฐ์ ช่างสังเกต และพยายามทำความเข้าใจสิ่งรอบตัว หาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอ ชอบงานที่ใช้ทักษะเฉพาะทาง ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกตัดสิน ไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามเรื่องส่วนตัว ขาดทักษะทางสังคม ไม่ชอบตารางเวลา ทำอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนใคร แบบหก ; เพื่อนยาก นักปุจฉา มีศิลปะของการทำงานเป็นทีม เป็นนักจัดการองค์กร หรือนักรณรงค์เพื่อสวัสดิภาพที่ดีขึ้นของชุมชน สร้างมิตร สร้างความสามัคคี ชอบการพึ่งพาซึ่งกันและกัน ตัดสินใจยาก เดาใจลำบาก เวลารู้สึกไม่ปลอดภัย จะกลายเป็นคนขี้ระแวง แบบเจ็ด ; เจ้าสำราญ นักผจญภัย สนุกสนาน ร่าเริง ชอบสังคม เฮไหน เฮนั่น แสวงหาประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิตอยู่เสมอ ชอบทำอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน เก่งหลายเรื่อง ชอบง่ายหน่ายเร็ว กระฉับกระเฉง อยู่ไม่นิ่ง แบบแปด ; ผู้นำ ผู้ปกป้อง เด็ดขาด เชื่อมั่นในตัวเองสูง กล้าตัดสินใจ มีลักษณะของผู้นำ ท้าทายอำนาจอื่นอย่างไม่กลัวเกรง ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ ชอบควบคุมคนอื่น ใจนักเลง ให้ความคุ้มครองดูแลทุกข์สุขของคนที่ฟังและเชื่อมั่นในตัวเขา แบบเก้า ; ผู้รักสงบ ผู้ประสานไมตรี รักสงบ นิยมธรรมชาติ ไม่มีศัตรู ไม่ทะยานอยาก มองโลกในแง่ดี ไม่เครียดหรือวิตกกังวล ไม่เห็นด้วยก็ไม่คัดค้าน แต่จะไม่ทำ ดูเชื่องช้า ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปเอง ไม่วางแผน ไม่เตรียมการ ซ่อนปัญหาไว้ใต้พรม ดื้อเงียบ ตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ทุกคน จะอธิบายได้ด้วยแบบใดแบบหนึ่งในเก้าแบบนี้ ซึ่งเป็นลักษณะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และอาจพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นหรือต่ำลงก็ได้ เมื่อโตขึ้น แต่.............จะไม่มีวันเปลี่ยนไปจากแบบที่ตัวเองเป็นไปได้ ที่สำคัญคนแต่ละแบบ มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย เพียงแต่ว่าถ้าเราสามารถนำจุดเด่นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ และควบคุมจุดด้อยไม่ให้สร้างปัญหา รวมถึงทำความเข้าใจในความแตกต่างของคนอื่นๆที่อาจมีลักษณะที่เหมือนหรือต่างไปจากเราแล้ว ความสัมพันธ์ที่ดีและเข้าใจในกันและกัน จะช่วยนำพามาซึ่งความสุขความสำเร็จร่วมกัน ที่มา จาก ; จดหมายข่าวรายเดือน สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ปีที่ 9 ฉบับที่ 100 กรกฎาคม 2551 เช่นเคยครับ เข้ามาแล้ว อย่าลืมแวะทักทายกันบ้างนะครับ |
บทความทั้งหมด
|