The zodiac รหัสลับแห่งความตาย (10) ....หลังส่งการ์ดถึงทนายเมลวินแล้ว ร่องรอยและการติดต่อจากโซดิแอคเงียบหายไประยะหนึ่ง จนกระทั่งวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 1970 แคทลีน โจนส์ อายุยี่สิบสามปี กำลังท้องแก่ใกล้คลอด ขับรถจากเมือง ซานเบอนาดิโน่ แคลิฟอร์เนีย มุ่งหน้าไปยังเมือง เพ็ททาลูมา เพื่อเยี่ยมมารดาโดยได้นำลูกสาวที่ยังแบเบาะอายุได้เพียงสิบเดือนติดรถไปด้วย ...เนื่องจากเป็นการขับรถในระยะทางไกลและมีเด็กทารก แคทลีนจึงวางแผนที่จะขับเฉพาะตอนกลางคืน เธอเริ่มออกเดินทางจากบ้านในเวลาบ่ายๆใกล้ค่ำ...เวลาประมาณเที่ยงคืนบนถนนไฮเวย์สาย 132 สี่ร้อยไมล์ก่อนจะถึงเมืองที่มุ่งหน้าไป แคทลีนสังเกตเห็นรถที่ขับจี้มาตามหลังคันหนึ่งเปิดไฟกระพริบและบีบแตรเรียกก่อนที่จะขับมาเทียบและคนขับรถคันนั้นได้ตะโกนบอกว่าล้อหลังข้างหนึ่งของรถเธอดูเหมือนน็อตหลวมกำลังจะหลุดอยู่แล้ว ...ได้ยินดังนั้นหญิงสาวรีบเบนหัวรถเข้าจอดข้างทาง พร้อมๆกับรถของผู้แสดงตนเป็นพลเมืองดี...ชายที่เดินมาหาอายุประมาณสามสิบปี หน้าตาสะอาดปราศจากหนวดเครา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เขาได้เสนอที่จะขันน็อตล้อหลังให้ แคทลีนกล่าวขอบคุณและนั่งรอในรถของตนขณะที่ชายคนนั้นเดินอ้อมไปข้างหลังและจัดการกับล้อรถ เมื่อเสร็จเรียบร้อยเขาได้ขับออกไปก่อน ...แคทลีนสตาร์ทรถของตนเองขับไปอีกครั้ง ล้อรถด้านหลังได้หลุดออกในทันใด ชายคนเดิมได้ขับรถย้อนกลับมา เสนอที่จะพาเธอและลูกไปยังปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้เพื่อขอความช่วยเหลือ ปั๊มดังกล่าวอยู่ในระยะที่มองเห็นลิบๆไม่ไกลเท่าไหร่นัก แคทลีนจึงตัดสินใจอุ้มลูกน้อยขึ้นรถของชายคนนั้นตามคำเชิญชวน ...เขาขับผ่านปั๊มน้ำมันโดยไม่มีทีท่าว่าจะจอดให้เธอและลูกลงอย่างที่ตกลงกันไว้ แคทลีนเริ่มสังหรณ์ใจ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว หลังจากเวลาผ่านไประยะหนึ่งชายคนดังกล่าวได้ย้ำบอกเธอครั้งแล้วครั้งเล่าว่า จะฆ่าเธอและทารกน้อยให้ได้ ...เมื่อรถชะลอลงเพื่อเลี้ยวโค้ง หญิงท้องแก่ใกล้คลอดได้ตัดสินใจเสี่ยงตาย กระชับลูกที่อุ้มไว้ในอ้อมแขน เปิดประตูรถกระโดดออกไป และกระเสือกกระสนพาลูกไปซ่อนตัวที่แอ่งลึกข้างทาง ชายคนนั้นจอดรถก้าวออกมาเพื่อจัดการลงมือกับแคทลีนและลูก แต่โชคดีที่มีรถบรรทุกผ่านมาเห็นเหตุการณ์และจอดลงเพื่อให้ความช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายต้องรีบล่าถอยและขับรถหลบหนีไป ....แคทลีนได้ให้รายละเอียดถึงลักษณะรูปร่างหน้าตาของชายผู้นั้นกับตำรวจซึ่งตรงกับคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ในคดีที่คนขับแท็กซี่ถูกฆ่าและเมื่อบังเอิญไปเห็นรูปสเก็ตของฆาตรกรที่สถานีตำรวจ เธอยืนยันทันทีว่าเป็นคนเดียวกันกับที่พยายามฆ่าเธอกับลูก...ชายคนนั้นคือ...โซดิแอค ...การลงมือล่าเหยื่อแต่ละครั้ง ทุกขั้นตอนของฆาตรกรได้ถูกวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างรัดกุม รถที่จอดทิ้งไว้ข้างทางของแคทลีน ตำรวจตามหาจนพบในภายหลังว่าถูกเคลื่อนย้ายไปจากที่เดิม และถูกเผาทิ้งจนไม่เหลือหลักฐานร่องรอยใดๆให้ตามสืบได้อีก ...ปลายเดือนเมษายนของปีเดียวกัน โซดิแอคส่งจดหมายข่มขู่ว่าจะวางระเบิดรถโรงเรียนหากทางตำรวจไม่ยอมเสนอข่าวเกี่ยวกับจดหมายล่าสุดของเขาและแนะนำให้ประชาชนติดเข็มกลัดชนิดที่เป็นกระดุมซึ่งมีสัญญลักษณ์วงกลมทับด้วยเครื่องหมายบวก ทั้งยังกล่าวในจดหมายด้วยว่าเขาจะรู้สึกตื่นเต้นยินดี ถ้าได้เห็นผู้คนติดเข็มกลัดสัญญลักษณ์ของตนเอง...ความต้องการของโซดิแอคได้รับการสนองตอบเพียงบางส่วนเท่านั้นและไม่มีใครติดเข็มกลัดอย่างที่เขาต้องการเห็น ทำให้จดหมายฉบับต่อๆมาของโซดิแอคแฝงไว้ด้วยความเดือดดาลใจ และอ้างว่าได้ลงมือฆ่าคนเพิ่มขึ้นอีก แต่การสอบสวนในคดีฆาตรกรรมต่างๆ ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงที่ชัดเจนว่าเป็นฝีมือของโซดิแอค ....แต่ความหวาดกลัวที่มีต่อฆาตรกรลึกลับรายนี้ถูกย้ำเตือนด้วยจดหมายและรหัสแปลกๆที่ส่งเข้ามาเป็นระยะ รวมทั้งการ์ดเนื่องในวันฮาโลวีนที่ส่งถึงนักข่าวของหนังสือพิมพ์ ซานฟรานซิสโก โครนิคอล ชื่อ พอล เอเวอรี่ ผู้ที่เป็นหัวหน้าทีมนักข่าวตามสืบเสาะร่องรอยของโซดิแอคชนิดกัดไม่ปล่อย การ์ดใบนั้นมีข้อความสั้นๆว่า " แกจะต้องได้รับเคราะห์" ....พอลได้คิดหาวิธีป้องกันด้วยการพกปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา และทำกระดุมแบบเข็มกลัดติดบนเสื้อของตนเองรวมทั้งเพื่อนนักข่าวร่วมทีม เป็นกระดุมที่มีข้อความเขียนไว้ชัดเจนว่า " ผมไม่ใช่พอล เอเวอรี่ " พอลได้ตามสืบเสาะจนสามารถเชื่อมโยงคดีฆ่าเชอรี่ โจ ที่เมืองริเวอร์ไซด์ ว่าเป็นคดีเริ่มแรกของโซดิแอค ...เขาและเพื่อนนักข่าวอีกคนคือโรเบิร์ต เกรย์สมิธ ได้พยายามนำปริศนาและข้อมูลต่างๆที่สืบหามาได้ รวมกันเข้าเหมือนการต่อภาพจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจาย ให้ชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างเพื่อเปิดเผยโฉมหน้าและตัวตนที่แท้จริงของ "โซดิแอค" ...ฆาตรกรที่แม้ว่าทางตำรวจจะระดมผู้เชี่ยวชาญและมันสมองระดับมืออาชีพมาสืบหาอย่างไร ก็ยังไม่สามารถตะครุบตัวได้ ...หนึ่งในจำนวนผู้ต้องสงสัยที่มีประวัติเบื้องหลัง และสถานการณ์หลายๆอย่างสอดคล้องกับโซดิแอคมากที่สุดคือ อาเธอร์ ลี อัลเลน... อย่ อย่า..บอกว่านี่เป็นรูปพี่โซดิแอ๊คนะเนี่ย รับไม่ได้ ขออ่านก่องนะค๊า
โดย: โจเซฟิน วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:16:47:21 น.
เห็นโจมาแล้วชื่นจายย...ไปนอนต่อได้ละ
โดย: มาแร้วๆๆ (แม่ของจิตร ) วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:16:58:04 น.
อ่านแบบหูตูบมากค่ะ
..คดีเกิดก่อนที่โจจะเกิดอีกนะคะเนี่ย โชคดีที่เราไม่เจอกันนะลุงโซดิแอค(มันหน้าตาไม่หล่อ เลยหมดความสนใจ กร๊ากก) ไปค้นดูแฟ้มเก่าๆในเน็ต หน้าตาคนที่โซดิแอคฆ่า ส่วนมากหน้าตาดีทั้งนั้นเลยนะคะ คดีดำเนินล่าช้ามากเกือบ 10 กว่าปี กว่าจะเจอโซดิแอค ยังไม่เคยอ่านบทสรุปของคดีนี้ ลุ้นๆ ว่าจะจบยังไง โดย: โจเซฟิน วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:17:01:34 น.
หน้าตาบอกยี่ห้อเลยค่ะ แต่แหม คนเราบางทีรู้หน้าไม่รู้ใจ จะรออ่านต่อนะคะ.....
โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:20:26:16 น.
แวะมาลงชื่อค่ะ...
เดี่ยวแวะมาใหม่ค่ะ..งานยุ่งนิดหน่อยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะพี่มิน... โดย: น้องแดดร่ม....^-^ IP: 203.144.130.176 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:18:04:04 น.
|
บทความทั้งหมด
|
...อาจจะแปลเรื่อง Amityville horror บ้านวิญญาณหลอน เรื่องจริงที่เป็นข่าวเกรียวกราวและฮอลลีวู้ดนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ อีกเรื่องหนึ่ง ...หรืออาจจะเปลี่ยนมาเขียนบล็อกเรื่องบางอย่างที่อยากเขียนจากความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัว...ไม่ทราบว่าจะเลือกอันไหนก่อนคงขึ้นอยู่กับอารมณ์ที่อยากด้วย...คิดถึงทุกท่านค่ะ