เสพงานศิลป์ ๕๘



ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto









"แสตมป์ฉลอง ๑oo ปี สมเด็จพระสังฆราช”


บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) จัดทำ ตราไปรษณียากรที่ระลึกชุดที่ ๒ งานฉลองพระชันษา ๑oo ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก วันแรกจำหน่าย ๓ ต.ค. ๒๕๕๖ มีด้วยกัน ๔ ดวง ๆ ละ ๕ บาท เป็นภาพวาดพระรูปสมเด็จพระสังฆราช ผลงาน ธีระพันธุ์ ลอไพบูลย์ หรือ อ.กวง ศิลปินชื่อดังของไทย สะท้อนถึงพระจริยาวัตร ๔ เหตุการณ์สำคัญ ได้แก่


พระรูปเมื่อครั้งเป็นสามเณรเจริญ คชวัตร ,พระรูปขณะเสด็จออกบิณฑบาตเมื่อครั้งเสด็จตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. ๒๕๑๖, พระรูปเมื่อครั้งเสด็จไปประทับ ณ สำนักสงฆ์ดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๖ และพระรูปขณะทรงประทานสิ่งของแก่เด็กนักเรียนชาวม้ง ณ สำนักสงฆ์ในปีเดียวกัน พร้อมซองวันแรกจำหน่าย และตราประทับสัญลักษณ์ตราฉลองพระชันษา ๑oo ปี


นอกจากนี้ไปรษณีย์ไทยยังจัดทำแผ่นชีทที่ระลึกแสตมป์ชุดดังกล่าว พร้อมบทโคลงสดุดี “ศรีศตวรรษ มหาสังฆราชา” ของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี ๒๕๓๖ และกวีรางวัลซีไรต์ ปี ๒๕๒๓ เขียนด้วยลายมือจริง ราคา ๓o บาท


ทั้งนี้จะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายแสตมป์คอลเลคชั่นนี้ ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราชต่อไป ผู้สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ







ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th













"ร้อยเส้นสาย ล้านเส้นศิลป​์ ถิ่นท่ากาน”


ตามที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ได้ทรงมีพระดำริจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน พร้อมทั้งทรงรับสั่งจัดงานกิจกรรมกับชุมชนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อหารายได้สมทบทุนการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ทางศิลปะประวัติศาสตร์ของเวียงท่ากาน อนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมชุมชนโบราณล้านนาและสร้างจิตสำนึกให้แก่ชุมชนได้เห็นความสำคัญของโบราณสถานและโบราณวัตถุในท้องถิ่น รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมแบบยั่งยืนและเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมในเชิงอนุรักษ์






ในการนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จทรงเป็นประธาน งานแถลงข่าว “ร้อยเส้นสาย ล้านเส้นศิลป์ ถิ่นท่ากาน” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ ๔ พร้อมด้วย เจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย หัวหน้าโครงการพิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร่วมด้วย เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ พิพิธภัณฑ์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยในวันเปิดงาน ๑๖ พ.ย.นี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ แทนพระองค์ เสด็จเป็นประธาน ณ โบราณสถานเวียงท่ากาน ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่






พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ มีพระดำรัสว่า กิจกรรมในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากชุมชนเวียงท่ากาน, ส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ และพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดกิจกรรมเพื่อให้ชุมชนและประชาชนทั่วไป เกิดความรู้สึกรักและหวงแหนศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันงดงามและร่วมอนุรักษ์ โดยแบ่งเป็น ๓ ส่วนได้แก่ ส่วนที่ ๑ กิจกรรม การประกวดคร่าวฮ่ำล้านนา ส่วนที่ ๒ กิจกรรม “อุ๊ยสอนหลาน สืบสานฮีตฮอยล้านนา” และ ส่วนที่ ๓ นิทรรศการชุดฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นิทรรศการและกิจกรรมการสาธิตเกี่ยวกับผ้าล้านนาซึ่งหาชมได้ยาก เพราะอยากให้ผู้มาร่วมงานเห็นถึงกระบวนย้อมผ้าและทอผ้า ที่มีความยากลำบากและมีผู้เชี่ยวชาญน้อยมากต่างจากภาคอีสานที่ยังมีคนทำกันเยอะ หากไม่อนุรักษ์ไว้ก็จะยิ่งสูญหายไป จัดแสดงตั้งแต่ ๑๖-๑๘ พ.ย.นี้






ด้าน เจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ กล่าวเสริมรายละเอียดของกิจกรรมว่า การประกวดคร่าวฮ่ำล้านนา เป็นกิจกรรมประกวดศิลปะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทคร่าวฮ่ำล้านนา ชิงโล่ประทานและเงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตรจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ในหัวข้อเรื่อง “ผ้าทอพื้นถิ่นล้านนา” กำหนดรับผลงาน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ ๑๑ ต.ค. ๒๕๕๖ ดูขอมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ //www.banglang.org, //www.facebook.com.banglang.sa, กิจกรรมที่ ๒ “อุ๊ยสอนหลาน สิบสานฮีตฮอยล้านนา” เปิดอบรมเยาวชนระดับ ม.๓-ม.๖ จำนวน ๘o คน ที่อาศัยอยู่รอบบริเวณโบราณสถานเวียงท่ากาน โดยเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรท้องถิ่นถ่ายทอดให้ความรู้เรื่องของวรรณกรรมกวีล้านนาหรือคร่าว วรรณกรรมชนิดหนึ่งของล้านนาในท้องถิ่นอย่างถูกต้องให้แก่เยาวชน โดยจะรวมความรู้เรื่องผ้าพื้นถิ่นเข้าด้วยกัน ในวันที่ ๒ พ.ย.นี้






สำหรับกิจกรรมที่ ๓ การจัดงานประจำปี ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย เผยว่า ประกอบด้วยนิทรรศการชุดฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และนิทรรศการและกิจกรรมสาธิตเกี่ยวกับผ้าล้านนา, ย้อมผ้า และทอผ้า ซึ่งพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ขอพระราชานุญาตเชิญฉลองพระองค์ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงในการเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรภาคเหนือและตัดเย็บจากผ้าชาวไทยภูเขา จำนวน ๓ องค์ไปจัดแสดง ได้แก่ ฉลองพระองค์ตัดเย็บจากผ้าไทยชาวภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง ตัดเย็บโดยห้องเสื้อยูไลย เมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมราษฎรที่ จ.เชียงใหม่ และฉลองพระองค์ตัดเย็บจากผ้าชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า ๒ องค์ องค์แรกตัดเย็บโดยช่างชาวไทย องค์ที่สองทรงเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศญี่ปุ่นเป็นการส่วนพระองค์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
dailynews.co.th
thairath.co.th













"พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ อวดความงาม ๙ ฉลองพระองค์ใหม่”


ในโอกาสที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๑ พรรษา วันที่ ๑๒ ส.ค. ๒๕๕๖ พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงอนุรักษ์ผ้าไทยให้มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมทั้งในประเทศและนานาชาติ และเมื่อช่วงบ่ายวันที่ ๑๕ ส.ค.ที่ผ่านมา บริเวณโถงพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ


ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นประธานในการเผยรายละเอียดของกิจกรรม ประกอบด้วย การเชิญฉลองพระองค์ใหม่ ๙ องค์ มาจัดแสดงในนิทรรศการ “ไทยราชนิยม”, การเปิดตัวหนังสือประกอบนิทรรศการ “ราชศิลป์พัสตราภรณ์” ฉบับภาษาอังกฤษ, การจัดงานประชุมวิชาการนานาชาติครั้งที่ ๑ เรื่อง “ผ้าและฉลองพระองค์ในราชสำนัก” และการเปิดห้องสมุดภายในพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ






รายละเอียดของกิจกรรม ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย หัวหน้าโครงการพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ กล่าวว่า ในโอกาสนี้ได้เชิญฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 9 องค์ ประกอบด้วย ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน ๓ องค์, ชุดไทยจักรี ๒ องค์, ชุดไทยดุสิต, ชุดไทยศิวาลัย, ชุดไทยเรือนต้นและชุดไทยจักรพรรดิ มาจัดแสดงให้ชาวไทยได้ร่วมชื่นชมความงดงามของชุดไทยพระราชนิยมในห้องนิทรรศการที่ ๒ และได้เชิญฉลองพระองค์ที่จัดแสดงในชุดก่อนไปดูแลรักษาตามกระบวนการอนุรักษ์สากล เพื่อไม่ให้เกิดการเสื่อมสภาพหรือชำรุดเสียหายอันเกิดจากการจัดแสดงเป็นเวลานาน






ในส่วนหนังสือประกอบนิทรรศการ “ราชศิลป์พัสตราภรณ์” ฉบับภาษาอังกฤษเป็นการจัดทำขึ้นครั้งแรก โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการแต่งกายของสตรีไทยสมัยรัตนโกสินทร์ และพระอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์และสืบสานธรรมเนียมการแต่งกายแบบไทยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นที่มาของชุดไทยพระราชนิยมทั้ง ๘ แบบ ได้แก่ ชุดไทยบรมพิมาน, ชุดไทยจักรี, ชุดไทยดุสิต, ชุดไทยศิวาลัย, ชุดไทยเรือนต้น,ชุดไทยจักรพรรดิ, ชุดไทยจิตรลดา และชุดไทยอัมรินทร์






รวมถึงพระราชกรณียกิจในการฟื้นฟู ส่งเสริมหัตถกรรมทอผ้าพื้นเมืองและการเผยแพร่ผ้าไทย ผ่านเนื้อหาที่ไม่ได้มีการแปลถอดความมาจากฉบับภาษาไทยโดยตรง ชาวต่างชาติจึงสามารถที่จะอ่านและเข้าใจได้ไม่ยาก พร้อมภาพประกอบที่ได้ ณัฐ ประกอบสันติสุข ช่างภาพฝีมือดีมาถ่ายทอดรายละเอียดของผ้าไทยได้อย่างสวยสดงดงาม นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ยังได้จัดทำหนังสือนิทาน สมุดกิจกรรม ตุ๊กตากระดาษเสริมความรู้เรื่องชุดไทยพระราชนิยมและชุดตัวต่อสำหรับเด็ก เพื่อให้เยาวชนได้สนุกกับการเรียนรู้การเลี้ยงไหม การทอผ้าลายต่าง ๆ และการแต่งกายแบบไทย






หัวหน้าโครงการพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เผยต่อว่า ด้วยความภาคภูมิใจที่มุ่งหวังนำเสนอพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ให้เป็นที่รู้จักแก่นานาชาติ จึงได้จัดงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ครั้งที่ ๑ เรื่อง “ผ้าและฉลองพระองค์ในราชสำนัก” ระหว่างวันที่ ๖-๙ พ.ย. ๒๕๕๖ ที่โรงแรมดุสิตธานี เปิดโอกาสให้นักวิชาการไทยและต่างชาติได้มีโอกาสเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งทอในราชสำนักและผ้าชาติพันธุ์ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงยังได้รวบรวมนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากสาขาต่าง ๆ ในสายงานพิพิธภัณฑ์ ด้านประวัติศาสตร์ผ้า เครื่องแต่งกายและงานอนุรักษ์มาให้ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน






ห้องสมุดที่อยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เปิดทำการเมื่อวันที่ ๑๕ ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้แบบครบวงจร รวบรวมและให้บริการหนังสือเฉพาะด้านประวัติศาสตร์ผ้า เครื่องแต่งกาย การออกแบบและแฟชั่น รวมถึงหนังสือรวมพระราชกรณียกิจ ผู้สนใจติดต่อขอใช้บริการห้องสมุดโดยทำการนัดหมายล่วงหน้าที่โทร. o๒-๒๒๕-๙๔๓o ต่อ ๑๕๑ หรือ //www.librarian@qsmtthailand.org ในวันทำการตั้งแต่วันพุธ-อาทิตย์ เวลา ๙.oo-๑๖.๓o น.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
dailynews.co.th













“ศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๙”


การแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ ๕๙ สัญจร หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอเรียนเชิญท่านเข้าร่วมในพิธีเปิดการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๙ โดยจะมีพิธีเปิด ณ ห้องนิทรรศการหมุนเวียน ๑-๓ ชั้น ๑ อาคารหอศิลปะฯ มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัด ชลบุรี มีกำหนดการดังนี้


กำหนดการโครงการ “ศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๙” โดยความร่วมมือระหว่างคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และ หอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ ห้องนิทรรศการหมุนเวียน ๑-๓ ชั้น ๑ อาคารหอศิลปะฯ มหาวิทยาลัยบูรพา


เวลา
๑๖.๓๐ น. - ลงทะเบียน
๑๖.๔๕ น. - ชมการแสดงจากนิสิตสาขาดนตรีและการแสดง
คณะศิลปกรรมศาสตร์
๑๗.๐๐ น. - รองศาสตราจารย์เทพศักดิ์ ทองนพคุณ
คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ กล่าวต้อนรับ
- อาจารย์ ดร. ปรมพร ศิริกุลชยานนท์
ผู้อำนวยการหอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวรายงาน
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญมา ไทยก้าว
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยบูรพา
- ชมนิทรรศการฯ และร่วมรับประทานอาหารว่าง


นิทรรศการจะเปิดให้ชม ระหว่างวันที่ ๔ - ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. เว้นวันหยุดราชการ


ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคศูยน์ศิลปะศิลปากร













"มโนมรรคา" (Destiny to Imagination)


ราวคริสต์ศรรวรรษที่ ๑๔ ถึงกลางกลางคริสต์ศวรรษที่ ๑๗ ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) ศิลปินอิตาเลียนได้นำทักษะการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ สร้างงานศิลปะชั้นเลิศระดับโลก และรากฐานความเชื่อ ศาสนาและวัฒนธรรม เช่น ประติมากรรมหินอ่อน เดวิด (David,1504) โดย มิเคลันเจลโล (Michelangelo,1475-1564) ผลงานชิ้นเอกแห่งยุค ปัจจุบันกลายเป็นความสง่างามของโลก เป็นจินตภาพแห่งบุรุษหนุ่มตามตำนานคัมภีร์ไบเบิล ภาพกำเนิดวีนัส (The Birth of Venus, 1485) เทวีแห่งความรักหรือเรียกตามภาษากรีกว่า อโพรไดต์ (Aphrodite) โดย ซานโดร บอตติเชลลี (Sandro Botticelli, 1445-1510) เป็นการสานต่อความงามจากตำนานสู่ภาพวาดที่ท้าทาย สร้างแรงดึงดูดและเชิญชวนคนจากทั่วโลกให้หมายจะได้ไปเยือน ดังนั้นรากฐานวัฒนธรรมนั้นนอกจากเป็นเบ้าหลอมแล้ว ยังเป็นขุมทรัพย์แห่งจินตนาการที่สามารถนำมาสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะระดับตำนานได้ในทุกยุคสมัย





"ปากกัดตีนถีบ" ผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในปี ๒๕๔o
ส่งผลกระทบให้คนไทยเป็นอย่างไร คำตอบอัดแน่นอยู่ในภาพนี้



ประทีป คชบัว ศิลปินผู้นำรากฐานวัฒนธรรมไทยมาเป็นต้นธาตุแห่งจินตนาการ ผลงานของประทีปนั้นแสดงออกถึงความเป็นปัจเจกนิยม นิทรรศการศิลปะครั้งนี้เป็นการรวบรวมผลงานชิ้นสำคัญของเขานับตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ เป็นต้นมา ซึ่งมีการสะท้อนความคิดฝันในหลากหลายแง่มุมแตกต่าง อาทิ ธรรมะและธรรมชาติ เรือนร่างของสัจจะธรรมชาติ สังคม วัฒนธรรมและความปรารถนา มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์






ปัจจุบันภาพชุดใหม่ก็ยังเต็มไปด้วยไปด้วยพลังแห่งมโนภาพที่สอดแทรกความซับซ้อนของวัฒนธรรมไว้มากมายแต่เรียบง่ายด้วยรูปทรงที่ชวนคิดฝันและเย้ายวน เป็นจิตรกรรมไทยร่วมสมัยที่มีความอย่างโดดเด่น ผลงานของเขาแสดงถึงจิตวิญญาณตะวันออกที่อุดมไปด้วยปรัชญาวิถี อันอยู่ท่ามกลางการเวียนว่าย ตาย เกิด และด้วยทักษะอันเป็นเลิศ จินตนาการที่ถูกอัดแน่นอยู่ภายในจึงพรั่งพรูออกมาเป็นผลงานจิตรกรรมชวนเพ้อฝัน ทำให้เรื่องเล็กๆในชีวิตประจำเป็นความงามของชีวิตที่ทรงคุณค่า แม้กระทั่งรอยกัดบนผิวแตงกวาก็ยังสามารถนำความชุ่มฉ่ำเล็กน้อยนั้นมาแสดงออกด้วยมโนภาพสู่ผืนผ้าใบได้อย่างมหัศจรรย์






อุปนิสัยหลายประการของศิลปินปรากฎอยู่ในผลงานจิตรกรรมของเขา การดำเนินชีวิตอย่างมีสุนทรียภาพนั้นทำให้เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งเล็ก ๆ ใกล้ตัว และสามารถนำความสำคัญในมุมมองส่วนตัวนั้น แสดงออกเป็นความสำคัญระดับสาธารณะ ทั้งความสุข ความทุกข์ ความเศร้า ความหวั่นวิตก ความปรารถนา ทั้งหมดเป็นความรู้สึกที่ถูกบรรจงใส่ไว้ในผลงาน สามารถส่งผ่านในรูปสู่ผู้ชมได้โดยไม่ต้องอาศัยคำบรรยายแบบอัตโนมัติ






ผลงานจิตรกรรมของเขานับตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ เป็นต้นมา ได้เข้าไปอยู่ในใจของมหาชน และได้รับกระแสตอบรับจากผู้คนในทุกๆกลุ่มอาชีพ มโนภาพของเขาได้เข้าไปเติมเต็มบางส่วนที่ขาดหายไปในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ซึ่งถูกจำกัดด้วยขอบเขตของกฏกติกาสังคมและเวลาพักผ่อนอันน้อยนิด ลักษณะโดดเด่นในผลงานของเขา ประการสำคัญ คือ จินตนาการที่ถ่ายทอดออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด หลายภาพเป็นดินแดนที่ถูกเนรมิตรขึ้นมาจากความปรารถนา เพื่อหลีกหลบจากสภาวะความวุ่นวายในสังคม เป็นดินแดนสำหรับพักผ่อนจิตวิญญาณ เพื่อเติมพลังสำหรับเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง






หากมีโอกาสไปเยือนเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ทุกท่านก็ไม่ควรที่จะพลาดชม ภาพอาหารมื้อสุดท้าย (The Last Supper,1498) โดย เลโอนาโด ดาวินชี (Leonardo da Vinci, 1452-1519) เช่นเดียวกันหากเมื่อมีผู้คนจากทั่วโลกมาเยือนกรุงเทพฯประเทศไทย หนึ่งในผลงานจิตรกรรมซึ่งจะกลายเป็นมรดกล้ำค่าที่ทุกคนจะต้องมาชื่นชม ก็น่าจะต้องเป็นผลงานชิ้นสำคัญของ ประทีป คชบัว แน่นอนเช่นเดียวกัน






พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย(MOCA BANGKOK) ภูมิใจนำเสนอนิทรรศการศิลปะครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นการรวมรวบผลงานชิ้นสำคัญในช่วง ๒ ทศวรรษที่ผ่านมา ของศิลปินผู้สร้างกระแสในวงการศิลปะไทยร่วมสมัยอย่างสูง ประทีป คชบัว ระหว่างวันที่ ๑๔ กันยายน ถึง ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย โดยมีพิธีเปิดนิทรรศการ ในวันศุกร์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๘.oo น. พร้อมกับเปิดตัวหนังสือรวมรวมผลงานจิตรกรรม Destiny to Imagination เพื่อนำเสนอสุนทรียภาพแห่งชีวิต ความคิดฝันและจินตนาการของศิลปินไทยสู่สาธารณะชน และ…สู่สายตานานาอารยประเทศ






นิทรรศการ : “มโนมรรคา” (Destiny to Imagination)
ศิลปิน : ประทีป คชบัว
ภัณฑารักษ์ : สุริยา นามวงษ์
วันที่ : ๑๔ กันยายน – ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๖
สถานที่ : MOCA BANGKOK พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย
ภัณฑารักษ์ : สุริยา นามวงษ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
MOCA BANGKOK
โทรศัพท์ : o๒-๙๕๓-๑oo๕-๗
แฟกซ์ : o๒-๙๕๓-๑oo๘
E- Mail : info@mocabangkok.com
Website : //www.mocabangkok.com
Facebook : //www.facebook.com/MOCA.BKK
Instagram : @mocabangkok


หนังสือ Destiny to Imagination by Prateep Kochabua
ชุด Limited Edition
Destiny to Imagination: Prateep Kochabua
Limited Edition หนังสือชุดสะสมพิเศษ เพียง ๑oo ชุดเท่านั้น
จองด่วน รับภาพพิมพ์มูลค่า ๑,๕oo บาท ฟรี















ภาพและข้อมูลจากเวบ
sacbangkok.com
thailandexhibition.com













"ศิลปกรรมสมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติแห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๖”


กลุ่มศิลปินในนามสมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติ แห่งประเทศไทย ได้รวมตัวกันอีกครั้งเพื่อจัดนิทรรศการศิลปกรรมสมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติ แห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๖ ระหว่างวันที่ ๔ – ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยพิธีเปิดนิทรรศการจะมีขึ้นในวันอังคารที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๘.๓o น. หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานเปิดนิทรรศการ






กลุ่มศิลปินจากสมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติ แห่งประเทศไทย นำโดย คุณสมศักดิ์ รักษ์สุวรรณ นายกสมาคมฯ ได้ร่วมแรงร่วมใจจัดนิทรรศการขึ้นอีกครั้ง ซึ่งในปี ๒๕๕๖ เป็นครั้งที่ ๖ นับตั้งแต่ได้ก่อตั้งสมาคมฯขึ้น เมื่อปี ๒๕๕๒ การแสดงนิทรรศการศิลปะครั้งนี้เป็นการแสดงผลงานของศิลปินกิตติมศักดิ์ ศิลปินแห่งชาติ ศิลปินชั้นแนวหน้า และศิลปินรุ่นใหม่ของไทย จำนวนกว่า ๒oo ท่าน มีผลงานศิลปะรวมทั้งสิ้นกว่า ๔oo ชิ้นงาน ถือได้ว่าเป็นการร่วมแรงร่วมใจครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์ในการเชิดชูเกียรติศิลปิน และเผยแพร่ผลงานศิลปะของศิลปิน การเสริมสร้างความเข้าใจ อันดีระหว่างศิลปินไทยและนานาชาติ โดยรายได้จากผู้ให้การสนับสนุนและจำหน่ายผลงานจะนำไปช่วยเหลือศิลปินในด้านต่างๆ ดังที่สมาคมฯได้เคยทำไปแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา






การแสดงนิทรรศการศิลปะครั้งนี้นอกจากจะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในหมู่ศิลปินด้วยกัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่จะสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่สวยงาม มีความหมายให้แก่สังคมต่อไป ในขณะเดียวกัน ผู้รักศิลปะที่ได้เข้าชมงานก็จะได้รับความรื่นรมย์อันก่อให้เกิดความสุขสงบที่มีความหมายยิ่งในการดำรงชีวิตในสังคมอันเต็มไปด้วยความเร่งรีบ สับสนในปัจจุบัน


สอบถามเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โทร. o๒-๒๘๑-๕๓๖o-๑







ภาพและข้อมูลจากเวบ
fineart-magazine.com













"สถานพักตากอากาศ นิทรรศการศิลปะเพื่อภูมิทัศน์แห่งการพัก”


ในบรรยากาศแห่งการรุดหน้าของการดำเนินชีวิต การดึงตัวตนให้หยุดหรือช้าลงเกือบจะเป็นสิ่งที่ต้านทานอย่างสิ้นเชิง กับกระแสความเร็วของโลก ความสำคัญในเวลาแห่งการพักถูกแลกกับความต้องการอันหลากหลายของชีวิต เพื่อสร้าง ภูมิทัศน์ของสิ่งรายล้อมรอบตัว ประกอบขึ้นเป็นภาพความหมายของตัวตน จัดสร้างตำแหน่งของตนต่อโลกรอบข้าง แต่ในขณะที่เราตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อภูมิทัศน์ภายนอก เป็นเรื่องง่ายที่เรามองข้ามดินแดนภายใน ซึ่งคือพื้นที่ส่วนบุคคลประกอบภาพของตัวตนที่สำคัญยิ่งกว่า ภูมิทัศน์ของมนุษย์ในการตอบรับต่อโลกภายนอก มีความหมายอยู่ในสิ่งที่ตาเห็น ซึ่งต่างจากความหมายของดินแดนภายในสร้างผ่านการสะสมข้อมูลชั้นละเอียด ผ่านประสบการณ์การรับรู้และสัมผัส


ภูมิทัศน์หรือทัศนะแห่งการมองโลก เปรียบได้กับการมองเห็นจักรวาลอันกว้างใหญ่ มีพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอยู่ร่วมกันเป็นคู่ขนาน และมีเส้นต่างของการรับรู้แค่การบิดเปลี่ยน ในทางดาราศาสตร์ คำว่า ‘พารัลแลกซ์’ (Parallax) ให้ความหมายของการมองเปลี่ยนมุมที่นำมาประเมินระยะ สร้างมิติแห่งความลึก เอื้อให้เห็นตำแหน่งของสิ่งต่างๆ มุมมองต่อโลกที่เราสามารถบิดเปลี่ยนคือสาระสำคัญในที่นี้ ที่สามารถอธิบายความหมายของการพักควบคู่กันไปกับการดำเนินชีวิต บิดเปลี่ยนทัศนะจากภายนอกสู่ภายใน ขับเคลื่อนเวลาด้วยกฏแห่งความช้าและความเข้าใจ ในการเดินทางเหลื่อมมุมไร้เงื่อนไขของเวลานี้ ได้สร้างทางพิเศษเฉพาะบุคคลเพื่อค้นหาทิศทางของตน ปลดปล่อย หลีกหนี หลบภัย ทำความเข้าใจซึ่งตัวตน เพื่อรักษาคุณสมบัติอันเปราะบางที่สำคัญของตนให้ปลอดภัยจากเงื่อนไขรอบข้าง


ในพื้นที่ เวลา และความเป็นเจ้าของซึ่งตัวตน คือความหมายของ ‘สถานพักตากอากาศ’ ที่ต้องอาศัยการเดินทางไปในอีกลักษณะ ในสถานที่นี้คือการบอกเล่าถึงความละเอียดของชีวิตด้วยเวลาที่ยืดขยาย สภาวะแปลกใหม่ที่อยู่ในความคุ้นชิน ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ความเป็นไปได้พื้นที่เล็กๆ ที่แบ่งปันในอาณาจักรอันยิ่งใหญ่แห่งความว่างเปล่า การกลับถึงบ้านที่มีที่ตั้งอยู่ในตัวเรา และความเข้าใจในที่พักอาศัยที่ไม่ใช่แค่ก้อนสถาปัตยกรรม แต่เป็นสถานที่ที่ถูกค้นพบคุณค่าอันแท้จริงของการใช้ชีวิตอยู่ เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งสารผ่านผลงานศิลปะต่างรูปแบบ ขยายความหมายของการพักพ้นสภาวะทางกายภาพ ในขณะที่แต่ละผลงานนำเสนอความคิดและความรู้สึก ก็ได้นำเสนอช่องว่างที่เอื้อสู่จินตนาการของการสร้างพื้นที่ จัดเตรียมเวลา เพื่อตอบสนองภูมิศาสตร์ทางความคิด สร้างภาพรวมแห่งการพัก รอการค้นพบสำหรับแต่ละบุคคล


ภัณฑารักษ์ : พิชญา ศุภวานิช


ศิลปิน :
อาคิค อาว
จักรวาล นิลธำรงค์
ฌอง ลุค วิลมุท
ฌอง ดาวิด ไกยูเอ็ท
กรินทร์ พิศลยบุตร
ลิม ค็อค ยุง
ไมเคิล ลี
นิติ วัตุยา
อรวรรณ อรุณรักษ์
ปรีชญา ศิริพานิช
สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์
สันติ ลอรัชวี
สมบูรณ์ หอมเทียนทอง
สุริยะ อัมพันศิริรัตน์
อุเทน มหามิตร
วูฟกัง เบลวิงเกิล


โครงการริเริ่มและดำเนินงานโดย ฝ่ายนิทรรศการ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
สอบถามรายละเอียด
ฝ่ายการสื่อสารและประชาสัมพันธ์
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
๙๓๙ ถ. พระรามที่ ๑ แขวงวังใหม่
เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ๑o๓๓o
โทรศัพท์ o๒-๒๑๔-๖๖๓o โทรสาร o๒-๒๑๔-๖๖๓๙
เวบไซต์ bacc.or.th



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคนิทรศการ













"เยือนถิ่นโบราณสถาน”


โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ ขอเชิญเข้าชมงานนิทรรศการศิลปะชุด “เยือนถิ่นโบราณสถาน” ผลงานของ ศิลปินกลุ่มทาง_ยาว ผลงานจิตรกรรมที่สร้างสรรค์จากประสบการณ์การเดินทางเยี่ยมชม โบราณสถานต่างๆของกลุ่มศิลปิน


ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณที่บ่งบอกถึงอารยธรรมเมื่อครั้งเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านจิตใจและวัตถุ อีกทั้งยังบอกเล่าถึงฝีมืออันปราณีตวิจิตรบรรจงของช่างโบราณที่จัดเรียงวางอิฐทุกก้อนอย่างมีระเบียบแบบแผนแม้ในวันนี้จะเหลือเพียงร่องรอยซากปรักหักพังของสถาปัตยกรรมต่างๆแต่ความงามอันทรงคุณค่าเหล่านี้ยังคงเป็นหลักฐานยืนยันให้คนรุ่นหลังได้ประจักษ์ว่าชาชาติไทยของเราเป็นผู้ที่มีความเจริญทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล






นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานใน วันอังคารที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๘.๓o น. ณ บริเวณลานนิทรรศการ ชั้น ๓ ของโรงแรมฯ


รายได้จากการจำหน่ายภาพบางส่วนสมทบทุน ช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสในชุมชนยากจนเขตกรุงเทพมหานคร
นิทรรศการ : “เยือนถิ่นโบราณสถาน”
ศิลปิน : ศิลปินกลุ่มทาง_ยาว
วันที่ : ๘-๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖
สถานที่ : โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท บริเวณลานนิทรรศการ ชั้น ๓ ของโรงแรมฯ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร : o๒-๖๕๓-๙ooo ต่อ ๕o๒o-๑



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com













"งานออกแบบศิลปะแฮนด์เมดระดับโลก”


สยามเซ็นเตอร์ได้ร่วมกับนิตยสาร Wallpaper นำเสนอนิทรรศการ "Siam Center World Handmade Design Trend by Wallpaper" ภายใต้ชื่อธีม "Hand Made" ผลงานศิลปะที่ได้รับการคัดเลือกมาจัดนิทรรศการ เพื่อเป็นตัวแทนนำเสนอเทรนด์งานออกแบบสร้างสรรค์ศิลปะในแบบ "Hand Made" รวมจำนวน ๑๙ ชิ้น ทั้งของศิลปินระดับโลกและศิลปินไทย ได้แก่ แฟชั่นคอลเลคชั่น "CHIN" โดย Tube Gallery และ Christian Develter, แหวน Forever Love Ring โดย NutreJeweller, โคมไฟไม้และซีเมนต์ โดย Think Studio, ภาชนะใส่ผลไม้ โดย Studio 248, ผลงานเฟอร์นิเจอร์ชุด "กระโปรง" โดย อานนท์ ไพโรจน์, ตุ๊กตาเซรามิกพร้อมชุด โดย The Immortal Classique และ Kloset, Eat Cake มีเอกสารประกอบการชมนิทรรศการวางแจกฟรีให้ศึกษาข้อมูลของสิ่งของครบทุกชิ้น ชื่นชมผลงานที่เกิดจากพลังสร้างสรรค์มันสมองและสองมือ จัดแสดงที่ Idea Avenue บริเวณร้าน Magnum เดิม ณ ชั้น ๑ สยามเซ็นเตอร์ วันนี้-๓๑ ตุลาคม เวลา ๑o.oo-๒๒.oo น.































ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
manager.co.th













"The 13 Thailand Art of stucco Exhibition 2013”


ศิลปะปูนปั้น เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าอีกส่วนหนึ่งในงานศิลปะไทย โดยใช้ปูนที่มีส่วนผสมเฉพาะ มีความเหนียวดีนำมาปั้นเป็นงานประติมากรรม ทั้งที่เป็นรูปเคารพและตกแต่งอาคารสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่อย่างมากมายในประเทศไทย






โดยเฉพาะบริเวณเมืองเก่าเช่น เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา สุโขทัย กำแพงเพชร อยุธยา เพชรบุรี และกรุงเทพฯ ปัจจุบันเทคนิคดังกล่าวเป็นที่รู้จักในแวดวงจำกัด เช่น พระสงฆ์ ช่างและนักเรียน นักศึกษาที่เรียนศิลปะ จึงทำให้เยาวชนและคนทั่วไปในปัจจุบันไม่เข้าใจถึงที่มาที่ไป คุณค่า และหน้าที่ใช้งานของศิลปะปูนปั้น ซึ่งในระยะยาวจะมีผลต่อการอนุรักษ์และพัฒนาได้






วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงร่วมกับบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) กรมศิลปากร สมาคมประติมากรไทย การจัดแสดงนิทรรศการศิลปะปูนปั้นครั้งที่ ๑๓ ซึ่งผ่านการแข่งขันในระหว่างวันที่ ๘ – ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖





ผลงานชนะเลิศ ประเภทประติมากรรมลอยตัว
ศิลปิน : นายมงคล ฤาชัยราม
ชื่อผลงาน : วิถีแห่งแห่งความสุข



โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับชาติตัดสิน อาจารย์นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน อาจารย์ชำเรือง วิเชียรเขต อาจารย์ทองร่วง เอมโอษฐ์ รศ.ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี อาจารย์จุลทรรศน์ พยาฆรานนท์ อาจารย์ สุดสาคร ชายเสม อาจารย์ปัญญา เพ็ชรชู อาจารย์ปรัชญา จันทราทิพย์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ส่งเสริมและพัฒนาศิลปะปูนปั้นให้คงอยู่สืบไป ปรากฏว่าได้รับความสนใจมีผู้ส่งผลงานและเข้าร่วมประกวดมากมาย





ผลงานชนะเลิศระดับเยาวชน ประเภทการปั้นปูนสำเร็จรูป ทีพีไอ
ศิลปิน : ภานุพัฒน์ วิบูลรุ่งเรือง
ชื่อผลงาน : วัวเทียมเกวียน



โดยแบ่งการแข่งขันเป็นประเภท ๔ ได้แก่ ประเภทปั้นปูนสด หัวข้อ”มหาชาติ ๑๓ กัณฑ์” ประเภทปั้นปูนสำเร็จรูปทีพีไอ หัวข้อ “พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๒ ละครนอก” ประเภทผลงานสำเร็จรูป หัวข้อ”ความอบอุ่น” ประเภทปั้นปูนสำเร็จรูป ทีพีไอ ระดับเยาวชน หัวข้อ “การละเล่นของไทย” โดยผลงานที่ชนะเลิศ จะได้รับโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัล ๑๖๐,๐๐๐ บาท และมีรางวัลอื่นๆอีกมากมาย มีผลงานที่ร่วมจัดแสดง จำนวน ๑๖๐ ชิ้น





ผลงานชนะเลิศระดับประชาชน ประเภทการปั้นปูนสด
ศิลปิน : สมพงษ์ สงคลิ้ง
ชื่อผลงาน : กัณฑ์กุมาร





ผลงานชนะเลิศ ประเภทการปั้นปูนสำเร็จรูป ทีพีไอ
ศิลปิน : ธาดา แก้วสมนึก
ชื่อผลงงาน : มนต์เสน่หาชาละวัน



นิทรรศการ : การจัดแสดงนิทรรศการศิลปะปูนปั้นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๑๓ ประจำปี ๒๕๕๖
วันที่ : ๔–๓o ตุลาคม ๒๕๕๖
เวลา : ๙.oo น. – ๑๖.oo น.
สถานที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : อาจารย์สมยศ คำแสง o๘๑-๖๒๘-๘๙๗๙



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com












"HUMAN-NOID”


"ศิลปินเองก็คือมนุษย์ประเภทหนึ่ง วิธีการทีเลือกเพื่อจะสื่อสารเรื่องราวที่ตกตะกอนในใจเหล่านั้น การทำงานศิลปะคือคำตอบ"

"Human-Noid" นิทรรศการแสดงศิลปะที่มีจุดเชื่อมโยงทั้งสองศิลปินทั้ง "เขา" และ "เธอ" เข้าไว้ด้วยกัน เป็นนิทรรศการศิลปะที่สะท้อน "เรื่องราวของมนุษย์" สื่อสารเรื่องราวเหล่านั้นให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้รับรู้
ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนก็เปรียบเสมือนหนทางการระบายสิ่งที่อัดอั้นเพื่อขยายพื้นที่หัวใจให้ได้รับสิ่งใหม่ ๆ






"Human-Noid" นิทรรศการศิลปะโคตรมันส์ ที่ศิลปิน คนรักศิลปะ หรือแม้แต่คนวงนอกสังคมศิลปะ ไม่ควรพลาดเพราะนิทรรศการครั้งนี้ ไม่ได้มีดีแค่เฉพาะเจาะจงที่ตัวงานศิลป์ที่เปี่ยมเสน่ห์และพลังให้เสพกันเท่านั้น แต่การได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโลกจินตนาการของเขาและเธอ อาจทำให้กำแพงตัวตนของคุณทลายลง และได้มีโอกาสมองย้อนกลับไปฟังเสียงในหัว มองหาอีกจิตสำนึกที่คุณหลงลืมในตัวคุณอีกครั้ง
พบกันวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคมนี้ และร่วมพืธีเปิดนิทรรศการ เวลา 18:00 น. ที่ Subhashok The Arts Centre






"Human-Noid" โดย อรรถวิท บุญวรรณ, เปี่ยมจันทร์ บุญไตร
นิทรรศการเริ่มวันที่ : 19 ตุลาคม – 20 ธันวาคม 2556
สถานที่ : ศุภโชค ดิ อาร์ต เซนเตอร์ (Subhashok The Arts Centre หรือ S.A.C. )
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ศุภโชค ดิ อาร์ต เซนเตอร์ โทร : 02-662-0299, 086-891-1893, 089-694-5389
เว็บไซต์ : //www.sacbangkok.com
เฟสบุ๊ค : //www.facebook.com/sacbangkok



































ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.comเฟซบุคนิทรรศการ













"เด็กไทยขอมือหน่อย”


มูลนิธิยุวพัฒน์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศิลปากรจัดงานนิทรรศการภาพศิลปะเด็ก ในหัวข้อ ‘เด็กไทยขอมือหน่อย คนละไม้ คนละมือ ช่วยกันทำเพื่อชุมชนของเรา’ นำเสนอผลงานของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศที่ได้ส่งภาพวาดเข้าร่วมประกวดศิลปกรรมยุวพัฒน์ ครั้งที่ ๒o ประจำปี ๒๕๕๖


ภาพที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้มีจำนวนมากกว่า ๑๖o ภาพ ซึ่งเป็นภาพรางวัลและภาพร่วมแสดงที่ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมพร รอดบุญ, อาจารย์วีรเดช พนมวัน ณ อยุธยา, อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร, อาจารย์สังคมทองมี และ คุณสุนันทา ตุลยธัญ

ติดต่อซื้อภาพได้ที่ โทร. o๒-๓o๑-๑o๙๓-๕ คุณสโรชา/คุณวันวิสาข์


นิทรรศการจัดวันที่ : ๔ ตุลาคม - ๒o ตุลาคม ๒๕๕๖
สถานที่: โถงชั้น L หน้าห้องสมุดศิลปะ หอศิลปวัฒนธรรรมแห่งกรุงเทพฯ



ภาพและข้อมูลจากเวบ
bacc.or.th













"นิทรรศ-กาล คราม บันดาลใจ จากผืนน้ำ ผืนฟ้า สู่ผืนผ้า”


‘คราม’ ( indigo ) สีจากพืชที่อยู่คู่วัฒนธรรมมนุษย์มานานกว่า ๖,ooo ปี ใช้ย้อมสีเส้นใยต่าง ๆ เพื่อถัก ทอ เป็นแพรพรรณ สร้างลวดลาย สีสัน สะท้อนภูมิปัญญาเชิงช่าง เชิงศิลป์ของแต่ละกลุ่มคน กลุ่มเผ่า


สีสันของ ‘คราม’ คือสีฟ้าที่อ่อนที่สุด จนถึงสีกรมท่าอมม่วงที่เข้มที่สุด ความงามของสีครามเชื่อมโยงกับความงามของสีท้องฟ้า ทะเล แม่น้ำ ทั้งบางเบา และเข้มลึก






ในกระบวนการคิด และหาแรงบันดาลใจ เพื่อสร้างลวดลาย และสีสันบนผืนผ้าทอมือแบรนด์ mann craft ของ แมน - ปราชญ์ นิยมค้า เขามักนำความประทับใจในความงามของ ‘ฟ้า’ และ ‘น้ำ’ มาออกแบบ และได้ผสมผสานองค์ความรู้การย้อมครามตามสูตรภูไทพื้นบ้านเข้ากับองค์ความรู้ในเชิงวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทดลอง ฝึกฝนต่อเนื่องกว่า ๒ ปีจนได้ความกลมกล่อมของโทนสี ‘คราม’ อันเป็นเอกลักษณ์ของตน






การย้อม ‘คราม’ เป็นภูมิปัญญาโบราณของมนุษย์ในหลายพื้นที่ของโลก รวมถึงสกลนครที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน และขาดช่วงไปในบางช่วงเวลา


การย้อม ‘คราม’ ธรรมชาติ เปรียบได้ดั่งศิลปะพื้นบ้านผสานกับองค์ความรู้ท้องถิ่นที่รวมทั้งความเชื่อและสิ่งที่วิทยาศาสตร์อธิบายได้ บนโลกเรามีต้นไม้นับหมื่นนับแสนสายพันธุ์ ใครเล่าจะรู้ว่าต้นไม้ต้นเล็ก ๆ จะสามารถให้สีเดียวกับสีของท้องฟ้าและผืนน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาลได้






‘นิทรรศ-กาล คราม บันดาลใจจากผืนน้ำ ผืนฟ้า สู่ผืนผ้า’ คือนิทรรศการแสดงเดี่ยวครั้งแรกของ ปราชญ์ นิยมค้า เป็นการเสนอความประทับใจในสีสัน และปรากฏการณ์ของท้องฟ้าและผืนน้ำ ผ่านความงดงามของผ้าทอมืออีสาน ๑๒ แบบ ที่ย้อมสีด้วยครามธรรมชาติซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นอันทรงคุณค่าของสกลนคร ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่เป็นนักออกแบบ ปราชญ์ยังทำการ ย้อมสีและควบคุมขั้นตอนการทอด้วยตนเอง






นอกจากนี้ภายในนิทรรศการ ยังมีการนำผลงานผ้าทอมือฝีมือของช่างทอผ้าพื้นบ้านนับ 10 ชีวิต มาร่วมจัดแสดงให้ผู้สนใจได้ชมอีกด้วย


‘นิทรรศ-กาล คราม บันดาลใจจากผืนน้ำ ผืนฟ้า สู่ผืนผ้า’ ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ - วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo - ๑๗.oo น. (ปิดทุกวันพุธ) ณ อาคาร ครามทอง ถนนสุขเกษม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร (เข้าชมไม่เสียค่าใช้จ่าย เด็กเล็กเข้าชมได้ สามารถถ่ายรูป) โทร. o๘๑-o๕๕-๖๓o๑











ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 08 ตุลาคม 2556
Last Update : 8 ตุลาคม 2556 19:35:12 น.
Counter : 12220 Pageviews.

0 comments
Naram Kalja (नरम कालजा) from Amar Singh Chamkila (अमर सिंह चमकिला) ปรศุราม
(29 เม.ย. 2567 11:12:50 น.)
Mentre io godo in dolce oblio by ALESSANDRO SCARLATTI ปรศุราม
(26 เม.ย. 2567 11:54:40 น.)
봄 처녀(Virgin spring) by 홍난파(NanPa Hong) ปรศุราม
(17 เม.ย. 2567 10:09:12 น.)
Pecchè? By Gaetano Errico Pennino ปรศุราม
(8 เม.ย. 2567 11:54:21 น.)

Haiku.BlogGang.com

haiku
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]

บทความทั้งหมด