ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้...ได้เกิดปรากฎการณ์ คนรวมกลุ่มต่อต้าน ด่าทอ ขับไล่นายกทักษิณ ในทุกที่ที่นายกไปปฎิบัติภารกิจ..แม้กระทั่งในจังหวัดเชียงใหม่บ้านเกิดของนายกฯทักษิณเอง....ราวกับว่า..ทุกแห่งหนบนแผ่นดินไทยแห่งนี้ เต็มไปด้วยคนเกลียดชังและต่อต้านทักษิณกันทั้งนั้น...และถ้าคนจำนวนมาก เชื่อและเห็นด้วยกับภาพเหตุการณ์และข้อสรุปเช่นว่านี้.....พ.ต.ท. ทักษิณ ชิณวัตร ไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกต่อไป...ทักษิณ ต้องไม่ลงเลือกตั้ง หรือต้องเว้นวรรค หรือ อย่าไปเลือกทักษิณ และพรรคไทยรักไทย..........
ข้อความดังกล่าว....คือความประสงค์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อทำลายประชาธิปไตย และถ้าบังเกิดผลขึ้นจริงๆ ผู้รับประโยชน์จากสถานการณ์เช่นนี้ ก็คือพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ
แต่ผลลัพธ์ที่ปรากฎกลับกลายเป็นว่าทุกที่ ทุกเหตุการณ์ที่พวกเขาไปรวมกลุ่มด่าทอ ต่อต้านนายกฯนั้น....ประชาชนผู้รักความเป็นธรรมไม่อาจทนมองดูอยู่อย่างเฉยเมยได้ พวกเขาได้ปรากฎตัว แสดงตน เป็นฝ่ายสนับสนุนนายกฯทักษิณอย่างมิได้นัดหมาย...และเผชิญหน้ากับฝ่ายต่อต้านด้วยความรู้สึกที่เหลือ อด เหลือทน...จนเกิดการปะทะกัน ถึงขั้นเลือดตกยางออก........กลายเป็นว่าทุกที่ที่มีคนต่อต้านนายก ก็ปรากฎผู้คนที่สู้เพื่อนายกถึงขั้น ยอมหลั่งเลือด ติดคุก..........กลายเป็นว่ามีคนรัก สนับสนุน และปกป้องนายกอยู่ทุกแห่งทุกหน...
ปรากฎการณ์ทางสังคมเช่นนี้...มีคำอธิบายดังต่อไปนี้:-
หนึ่งพฤติกรรมก้าวร้าว กระเหี้ยน กระหือรือ ของขบวนการด่านายกตามงานต่างๆ มีศูนย์กลางสร้างความเกลียดชังและมีกลไกแพร่ระบาดที่ปฎิบัติการมาอย่างต่อเนื่อง
---------- กลุ่มคนที่ ไม่เอาทักษิณ มิใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีขึ้นตั้งแต่ พ.ต.ท. ทักษิณ ก้าวเข้าสู่การเมืองในยุคพรรคพลังธรรม มีเพิ่มขึ้นอีก เมื่อประกาศตั้งพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2541 และเพิ่มมากขึ้นหลังจากประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ในการเป็นรัฐบาลสมัยแรก...การเพิ่มขึ้นของคน ไม่เอาทักษิณ ในช่วงเวลานี้ คือกลุ่มการเมืองที่เป็นคู่แข่ง และกลุ่มที่เสียประโยชน์จากการดำเนินนโยบายของ นายกฯทักษิณ.....พฤติกรรมทางการเมืองของคนกลุ่มนี้ แสดงออกโดยการแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ ผ่านสื่อ และเวธีสาธารณะ ---------- ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมาคน ไม่เอาทักษิณ ก็ยังเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นจากพวก NPL ที่ปรับโครงสร้างหนี้ไม่ได้หวังพึ่งรัฐบาลเพื่อขอสิทธิพิเศษฟื้นฟูกิจการของตน ตลอดจนพวกที่ต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองไม่สมประสงค์ ทั้งภายในพรรคและนอกพรรค....พฤติกรรมทางการเมืองของคนกลุ่มนี้..มุ่งสร้างสตอรี่..ใส่ร้ายป้ายสี..บิดเบือนข้อเท็จจริง แอบอิงสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีเจตนาสร้างเหตุให้ดูเหมือนว่า นายกฯทักษิณ ไม่จงรักภักดี.....เขาใช้สื่อในกลุ่มธุรกิจและเครือข่าย ปฎิบัติการเพื่อสร้างความเกลียด ความชัง นับจากกลางปี 2548 เป็นต้นมา...
----------เมื่อเกิดกรณีการขายหุ้นชิน...พวก ไม่เอาทักษิณ ก็มีเงื่อนไข และปัจจัยสนับสนุน ทำให้พวกเขาได้สนธิกำลังกัน ภายใต้การจัดการของอำนาจผู้มากบารมี ด้วยวิธีการที่แยบยล....และนั่นคือต้นกำเนิดของ พันธมิตรประชาชนเพื่อทำลายประชาธิปไตย......ซึ่งก็คือ ศูนย์กลางสร้างความเกลียดชัง ต่อ นายกฯทักษิณ โดยมีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียกับการดำรงอยู่ของ ศูนย์กลางสร้างความเกลียดชังแห่งนี้
----------เมื่อศูนย์นี้ทำท่าจะหมดความหมาย เนื่องจากผู้เข้าร่วมรายการเมืองไทยสัญจรน้อยลงทุกที....ก็ได้กำเนิด ศูนย์กลางสร้างความเกลียดชัง แห่งใหม่ขึ้น นั้นคือกลุ่ม หยุดทักษิณ นำโดย สังศิต back up ทางวิชาการและกุนซือของพรรคมหาชน
----------เวป manager, หนังสือพิมพ์ในกลุ่มผู้จัดการ, ASTV, วิทยุ 92.25, รายการเมืองไทยรายสับดาห์สัญจร....คือสื่อที่ทำหน้าที่แพร่อารมณ์เกลียดชังให้ระบาดออกไป...ผู้คนที่เสพสื่อเหล่านี้เป็นประจำ ไม่เพียงแต่ รับข้อความเคลือบความเกลียดชัง ต่อนายกทักษิณ เข้าไปทุกวันเท่านั้น....แต่มันทำหน้าที่ ชี้แนะ ปลุกเร้า ให้ ผู้เสพ มีอาการก้าวร้าว กระเหี้ยน กระหือรือ เก่ง กล้า และท้าทาย เพราะเชื่อกันเป็นการภายในว่า มีพวกเป็นตุลาการ และมี Back เป็นถึงผู้มากบารมี......
สอง ฝ่ายที่สนับสนุน นายกฯทักษิณ สั่งสมความอัดอั้น และเก็บกด มานมนาน
----------ส่วนประชาชนกลุ่มที่สนับสนุนนายกทักษิณ...ได้แต่ดูเขาชุมนุม ไฮปาร์กด่าคนที่ตนรัก มาเป็นเวลาแรมเดือน ทนอ่านข่าวบิดเบือนมาแรมปี อยากจะเคลื่อนไหวทางการเมืองตอบโต้ ก็กลัวสถานการณ์จะบานปลาย จึงได้แต่อดทน กล้ำกลืน...ยอมถูกด่าฝ่ายเดียวมานานเต็มที....ถ้าใช้คำว่าอยู่ในภาวะ เก็บกด ก็ไม่เกินความจริงนัก..
----------สภาพทั้งหมดนี้ คือสภาวะทางความคิดและอารมณ์ มวลชนที่แบ่งขั้วและเผชิญหน้า คล้ายฟางแห้งที่พร้อมจะติดไฟได้ทุกเมื่อ....เพียงมีลมกระพือและมีแค่สะเก็ดไฟเท่านั้น......
----------การที่กลุ่มหยุดทักษิณ ที่นำโดยสังศิต มีคำชี้แนะแก่สาวกของตนนับสิบข้อ แจกจ่ายเป็นคู่มือปฎิบัติการหยุดทักษิณ...หนึ่งในนั้น..คือการกระจายกำลังเป็นกลุ่มเล็กๆ ไปต่อต้าน ขับไล่ ในทุกหนแห่ง..ที่นายกฯ ทักษิณไปปฎิบัตภารกิจ.....เท่ากับว่า สังศิตและพวก กำลังสร้างเงื่อนไขการปะทะ..ในสถานการณ์ที่เปราะบาง ต่อการเกิดเหตุรุณแรงแบบไฟลามทุ่งอย่างยิ่ง......จะด้วยเหตุเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือ โดยเจตนาก็ตาม...เราขอประณามความคิด แนวทาง การต่อต้านนายกทักษิณ ด้วยวิธีนี้ และขอให้ยุติแนวทางการต่อต้านเช่นนี้ อย่างไม่มีเงือนไข และโดยทันที
----------จากคำอธิบายทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ย่อมไม่ต้องหาคำตอบแล้วว่า...เหตุใดขบวนการด่านายกตามงานต่างๆ จึงเพิ่งเกิดและเกิดขึ้นถี่มากในช่วงเวลา ครึ่งเดือนที่ผ่านมา....
และแล้ว..ความรุนแรงที่หนักยิ่งกว่าก็เกิดขึ้น
----------ช่วงเช้าวันที่ 24 สิงหาคม 2549: ตำรวจได้ตรวจพบวัตถุระเบิดในรถซึ่งพร้อมทำงาน...โดยรูปการหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นปฎิบัติการเพื่อลอบสังหารนายกฯทักษิณ.....แต่มีการตั้งข้อสังเกตจากฝ่ายต่อต้านว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อเรียกคะแนนสงสาร.....ผู้แทนความคิดนี้ได้แก่ ประสงค์ สุ่นศิริ...และหลายกระทู้ในชุมชนราชดำเนินแห่งนี้..
----------สิ่งใดที่เป็นเหตุการณ์มันคือข้อเท็จจริง(Facts) มิใช่ความคิดเห็น..ผลการสอบสวนจะบอกได้ว่าใครคือผู้ลงมือ ใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้ลงมือมีความประสงค์สร้างสถานการณ์หรือลอบสังหารกันแน่....กาลเวลาจะเปิดเผยข้อเท็จจริงออกมาเอง.....
----------ไม่ว่าเป้าหมายคือสิ่งใด...ก็บอกได้ว่าความขัดแย้งทางความคิดเห็น นำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมือง กำลังเดินไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นหมายเอาชีวิตกัน.....
ปรากฎการณ์ทางสังคมเช่นนี้...เราจะอธิบายกันอย่างไร?
----------ความขัดแย้งทางการเมืองที่หาข้อยุติไม่ได้และหมายจะเอาชนะกันให้ได้ น่าจะมีเหตุผลเพียง 2 ประการ ประการแรก..ถ้ามิใช่เป็นเพราะความเกลียด เคียดแค้นชิงชัง จนถึงขั้นที่ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกันได้ ก็อาจเป็นประการที่สอง...คือจิตใจที่จะเอาชนะให้ได้..แต่มองไม่เห็นว่าตนจะเอาชนะจากการแข่งขันในระบบได้ จึงใช้วิธีการเอาชนะโดยไม่เลือกวิธี ดังคำพังเพยไทยที่ว่า....ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยกล ก็เอาด้วยมนต์ถาถา...
----------เราแสดงความคิดเห็น พิทักษ์ ปกป้อง นายกทักษิณ มิใช่ความหลงไหล ต้องมนต์เสน่ห์นายกฯทักษิณแบบไม่ลืมหูลืมตา...แท้จริง เราเลือกทักษิณมาใช้งาน มิใช่ไว้บูชา...หากอยากให้ทักษิณออกไป..ก็เสนอคนใหม่ที่ดีกว่า เสนอนโยบายที่ดีกว่า ทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่าคุณทำได้ดีกว่าจริงๆ ง่ายๆ แค่นี้ คุณก็ได้อำนาจรัฐ ได้ใจจากพวกเรา โดยทีไม่ต้องทะเลาะ ขัดแย้ง เสียเลือด เสียเนื้อกันแม้แต่หยดเดียว.....ทำไมถึงทำกันไม่ได้.
----------ถ้าทำไม่ได้...คุณก็ต้องรู้จักรอให้ครบวาระ..ในช่วงที่รอจังหวะอย่าให้เวลาหมดไปกับการ โจมตี ด่าว่าผู้อื่น...แต่ควรใช้เวลาพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ดียิ่งกว่านายกทักษิณ...ค้นหา หรือปั้นคนที่คุณคิดว่าแน่กว่าทักษิณ พัฒนานโยบายออกมาเพื่อบอกว่าดีกว่าทักษิณอย่างไร...เชื่อเถอะคนไทยมีสายตา รู้ว่าอะไรคือภาพลักษณ์ อะไรคือของจริง....
|
Grassroot.BlogGang.com
grassroot
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [ ?]
|
|
|
|
|
ผมเลือกผู้แทนสมัยก่อนไม่เคยได้รับเลือกเลยเพราะเลือกคนที่ไม่ซื้อเสียงแต่ก็อดทนและยอมรับเสียงส่วนใหญ่ เลือกพรรคไทยรักไทยก็เพราะชอบนโยบายที่ให้คนยากคนจนมีโอกาสอยู่อย่างพอเพียงบ้าง
ที่ผ่านมาคนไม่กี่ครอบครัวที่ควบคุมเศรษฐกิจของไทยและไม่เคยเหลียวแลรากหญ้าเลย ครับ