ไปหาดใหญ่คราวนั้น...ฉันยังจดจำ

ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 โซนภาคใต้
11 เม.ย.53 สนามกีฬาจิระนคร
หาดใหญ่ 4-2 นครศรีธรรมราช


“รู้ว่าเสี่ยงแต่ยังต้องขอลอง...”

แหม่! ชื่อเรื่องเป็นเนื้อเพลงยุค’80 (ตามคอนเซ็ปต์ที่เนื้อหาส่วนใหญ่ของผมมักจะเดินเรื่องด้วยเรื่องราวในความทรงจำเป็นหลัก) แต่พอเริ่มเรื่องกลับนั่ง “ไทม์แมชชีน” มาใช้เนื้อเพลงในยุค 2000 ซะงั้น

ที่ว่าเสี่ยงไม่ใช่เรื่องการเดินทางล่องใต้มายังหาดใหญ่อะไรหรอกครับ - -"

แต่เนื้อหาที่ผมจะเขียน...มันเสี่ยงต่อการถูกยัยดั๊กกี้ที่เคารพรักแพ่นหัวกบาลเอาได้ ^^!

ก็ได้แต่หวังว่าเธอจะไม่บังเอิญมาเปิดเจอทั้งในบล็อกและในพันทิปหรอกนะ ส่วนผมก็จะไม่โพสต์ลิงค์นี้ไว้ในเฟซบุ๊คของตัวเองแน่นอน

เหลียวซ้าย แลขวา...เหมือนจะทางโล่งนะ ว่าแล้วก็ขอเริ่มเรื่องซะเลย

“สมัยมัธยมเรียนที่หาดใหญ่วิทยาลัยค่ะ” สาวตาโตที่ไม่ใช่ยัยดั๊กกี้ตอบผมทางโทรศัพท์

เพราะนี่เป็นการโฟนไปคุยครั้งแรก ๆ ผมจึงชวนคุยโน่น นี่ นั่นในเรื่องเบ ๆ พอให้รู้จักกัน หลังจากนั้นเราก็เริ่มออกไปทานข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน

ความสัมพันธ์นั้นดำเนินอยู่นาน...

พูดยังไม่จบ ที่ว่านานนั้นมันต่อด้วยคำว่า “4 เดือน”...นาน 4 เดือนก็จบลง หลังจากนั้นเธอก็หายไป แล้วก็กลับมาใหม่ แล้วก็ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ตามแต่อารมณ์และทรงผม (สำนวนติดปากของเธอ)

ก่อนจะบินลงมาหาดใหญ่เพื่อชมเกมสงขลา-จุฬา ยูไนเต็ด (และอาจจะแถมด้วยคู่หาดใหญ่-นครศรีธรรมราช เพื่อเชียร์ทีมบ้านเกิดของสาวตาโตคนนั้น) ผมโทรศัพท์ไปบอกเธอ

เธอตอบกลับมาว่าจะกลับบ้านช่วงนี้เหมือนกัน...




ป้ายบอกทางไปสนามจิระนคร

คัทเอาท์ทีมหาดใหญ่และโปรแกรมการแข่งขันของทีม

โลโก้ "เร้ด อีเกิลส์"


“วันนี้ดูบอลเป็นไงบ้าง?” สาวตาโตโทรมาคุยหลังความพ่ายแพ้ของทีม Pink Panther

“แพ้” ผมตอบกลับไป หลังจากนั้นเราก็คุยกันหลายต่อหลายเรื่อง ตอนท้ายผมลองหยอด

“บ้านอยู่แถวไหนนี่?” เผื่อชวนไปกินข้าว

“อยู่ใกล้มาเลย์นะ” เสียงใส ๆ ตอบมาตามสาย

หลอกกันเล่นหรือเปล่า? (เงยหน้าขึ้นในมุมข้างแบบพี่โจ นูโวใน M.V.”หลอกกันเล่นเลย”) ก่อนมาผมดูแผนที่จังหวัดสงขลามาแล้ว (ตั้ว สาวก Pink Panther ผู้ขับรถมาจากกรุงเทพฯเปิดแผนที่ในคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้) หาดใหญ่ไม่มีพรมแดนติดมาเลเซีย

“บ้านอยู่อ.สะเดาค่ะ” เธอไขข้อข้องใจ

วูบนั้นผมเพิ่งจำได้ว่า สมัยยังใกล้ชิดกัน ผมเคยดูบัตรประชาชนของเธอ ที่อยู่คืออ.สะเดาจริง ๆ นั่นแหละ

สุดท้ายเธอแนะนำทางไปตลาดกิมหยง (ซึ่งผมต้องซื้อของฝากคุณแม่...จริง ๆ...ไม่ใช่แม่คุณ) ทางไปสนามจิระนคร รวมทั้งร้านชาชักที่อร่อยที่สุดในความคิดของเธอ

“แต่ร้านมันย้ายไปแล้วนะ พี่ต้องโทรเบอร์นี้...ไปถามเอาเอง” สาวสะเดาว่าพร้อมบอกเบอร์โทรศัพท์

แม่ดอกโสนบานเช้า พ่อดอกสะเดาบานเย็น ผู้หญิงอะไรแหมหน้าทะเล้น ก็อยากมาหน้าเป็นกับเค้าก่อนทำไม...

เสียงใส ๆ ของเธอทำให้พ่อดอกกุหลาบ (ผมเด็กสวนฯ) อย่างผมนอนหลับหน้าเป็นตลอดคืน (^-^)Zzz...

สะดุ้งตื่นขึ้นมาแป๊บนึงเมื่อคิดได้ว่า ในเมื่อเธอเป็นสาวสะเดา ผมก็ไม่จำเป็นต้องมีหาดใหญ่ เอฟ.ซี.เป็น “ทีมกิ๊ก” แล้วสิ...




สนามจิระนคร รังเหย้าของทีมอินทรีแดง

รถบัสของกองเชียร์ "ราชันทะเลใต้" นครศรีธรรมราช


บ่ายวันต่อมาหลังจากช็อปปิงของให้อาแหมะ (สำเนียงเรียกคุณแม่ของครอบครัวผม) ที่ตลาดกิมหยงเสร็จแล้ว บ่ายสามโมงนิด ๆ ผมบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปที่สนามจิระนครทันทีเพื่อเก็บบรรยากาศก่อน

ราว ๆ บ่ายสามครึ่ง รถบัสที่บรรทุกแฟนบอล “เมืองคอน” ทีมเยือนก็มาถึงสนาม

ผมเข้าไปเก็บภาพในสนาม น่าแปลกที่ยังไม่มีนักบอลทั้ง 2 ทีมลงมาวอร์มสักคน เดินออกไปถามเหล่า “Red Eagle Girls” เธอโบ้ยให้ไปถามเจ้าหน้าที่ ได้ความว่าที่นี่เค้าเริ่มแข่งกัน 5 โมงเย็น ไม่ใช่ 4 โมงแบบที่ผมเช็คมาในเว็บไซด์ -*- (เว็บอะไรไม่บอกดีกว่า)

“4 โมงเย็น คนที่นี่ยังไม่เลิกงานค่ะ 5 โมงคนจะเยอะกว่า” 1 ในสาว ๆ ขยายความ

ชวนคุยแบบนี้ก็เข้าทางน่ะสิ ผมจัดการขอถ่ายรูปซะเลย...เอ่อ...ด้วยเหตุผลว่า ถ้าผมเขียนเรื่องและถ่ายรูปมาโดยไม่มีภาพสาว ๆ ผมต้องโดนข้อหา “เกย์แตก” แน่ ๆ เพื่อพ้นข้อหานั้น ผมต้องจำยอม ^^!

“ถ่ายรูปแล้วไม่คิดซื้อของหน่อยหรือคะ?” สาวเจ้าคนเดิมออดอ้อน

ด้วยความเป็นคนขี้ใจอ่อน ทนเห็นสาว ๆ ต้องเหน็ดเหนื่อยเพราะพูดจาอ้อนวอนไม่ไหว - -" ผมเลยควักเงิน 200 บาทซื้อเสื้อเชียร์สีขาว 1 ตัว แถมสิทธิ์การเป็นสมาชิกแฟนคลับ เอ๊ะ! หรือสมัครสมาชิกแฟนคลับ 200 บาทแล้วแถมเสื้อ 1 ตัวก็ไม่รู้

จังหวะนั้น ผมขอเก็บสาวสะเดาไว้ในใจก่อน ในเมื่อมีสาวหาดใหญ่อยู่ตรงหน้าแล้ว

“เสื้อแข่งไม่มีขายหรือครับ?” ผมถาม

“เรากำลังทำคอลเลคชันใหม่อยู่น่ะค่ะ” สาวน้อยคนเดิมที่พูดจาฉะฉานที่สุดตอบ

“งั้นเราซื้อตัวที่เธอใส่อยู่ก็ได้” แกล้งหยอดดู

“แล้วหนูจะใส่อะไรล่ะคะ?” เธอจีบปากว่า

ผมหยุดการสนทนาไว้แค่นั้นเพราะกลัวโดนข้อหา “จิต ๆ” แหม! ถามจริงเถอะ ถ้าเธอถอดเสื้อแล้วขายให้จริง ๆ พอได้เสื้อไป คุณจะ...

ก. ใส่

ข. เก็บสะสม

หรือ

ค. ดม!?!

ใกล้ ๆ กันผมได้ยินเสียงชายคนหนึ่งถามหาตัวผม

“เห็นว่าพี่ที่อยู่จุฬา ยูไนเต็ดจะมาดูนี่ ผมเข้าไปอ่านเจอในบล็อกของเขา”

“ผมนี่แหละครับ พี่คนนั้น” ผมตัดสินใจแสดงตัวทันที แล้วก็ชวนแฟนเจ้าถิ่นคุยเรื่องฟุตบอล

“ทีมหาดใหญ่นี่ใครเด่นเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สุดน่ะครับ” ผมเริ่มเรื่อง

“ไม่มีนะ เราเน้นการเล่นเป็นทีมมากกว่า” คนหนึ่งตอบ ส่วนอีกคนเสริมว่า

“น่าจะเป็นเบอร์ 30 กว่า ๆ ที่ได้ตัวมาเสริมใหม่นะ เห็นว่าเคยติดทีมชาติ แต่ผมจำชื่อไม่ได้นะ”

“แล้วทีมนี้ใครเป็นดาวเด่นน่ะครับ” ผมโบ้ยไปทางทีมสาว ๆ

“เด่นทุกคนค่ะ” พวกเธอพร้อมใจกันตอบ

นั่นน่ะสิ หน้าตาทุกคนก็ “พอ ๆ กัน” นั่นแหละ แต่ถ้าหากให้ผมจำเป็นต้อง “เลือกคนที่จะหลงเสน่ห์” (สำนวนนักเขียนหน่อย แต่ถ้าใช้สำนวนแบบชาวบ้าน ๆ ก็คือ “เลือกคนที่จะหม้อ”) คงเป็นเจ้าของความฉอเลาะที่ทำให้ผมต้องเสียเงินไปนั่นแหละ

ฉีดความหวานเข้าสู่เส้นเลือดพอหอมปากหอมคอ จากนั้นผมก็เดินเข้าไปเก็บบรรยากาศในสนามอีกครั้ง ตัวมัสคอต “อินทรีแดง” ในชุดแดงทั้งชุด (ก็แหงล่ะ ไม่ใช่อินทรีด่างนี่หว่า-ทำเสียงผู้ร้ายด้วย) ทักทายแฟนบอลทั้งสองฝั่ง

แฟน ๆ ทีมเยือนปรบมือให้ตัวมัสคอต สักพักมีเสียงแซวขำ ๆ ว่า

“เสื้อแดงออกไป”

ไม่รู้เขาพูดถึง “ตัว” อะไรนะ แต่ก็ทำเอาผมขำในใจหึ หึ แล้วก็แอบเข้าใจเอาเองว่าทำไมนักเตะหาดใหญ่ เจ้าบ้านถึงเลือกใส่ชุดสีน้ำเงินในวันนี้ทั้ง ๆ ที่มีฉายาว่า “อินทรีแดง”




ดรีมทีมสาว ๆ Red Eagle Girls

สาว ๆ กับตัวมัสคอต


ผมนั่งไล่รายชื่อทีมหาดใหญ่ โฟกัสไปที่เบอร์ 30 กว่า ๆ ไม่คุ้นว่าใครเคยเป็นนักเตะทีมชาติเลย แถมพอดูผังการเล่น หมายเลข 32 ก็เป็นผู้รักษาประตูซะอีก

“32 พิศิษฐ์ ตรียาพงษ์”

ผมเพ่งชื่อนี้อีกแป๊บนึงก็เกิดความรู้สึกคุ้น ๆ ว่าน่าจะเคยเล่นให้ทีมสโมสรในเมืองกรุง

“ไม่เคย ผมไม่เคยติดทีมอะไรเลย” ผู้รักษาประตูหาดใหญ่ปฏิเสธพลางหัวเราะ วินาทีที่กำลังคิดว่าผมคงคุ้น ๆ ไปเองมากกว่า พิศิษฐ์ก็เฉลยว่า

“ผมเคยเล่นให้โอสถสภาเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว”

ด่านสุดท้ายวัย 39 ขวบจอมอำคนนี้ (อายุน้อยกว่าเอดวิน ฟาน เดอ ซาร์แค่ปีเดียวเอง) เลิกเล่นฟุตบอลไปนานประมาณ 7-8 ปีแล้ว แต่เพราะน้าซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของหาดใหญ่อยู่ ทำให้เขาได้หวลคืนสู่กลิ่นสาบลูกหนังอีกครั้ง

“น้าเขาขุดผมขึ้นมาเล่นอีกครั้ง เพื่อเอามาช่วยน้อง ๆ เฝ้าเสาประตูก่อน ผมลองซ้อมดู รู้สึกว่าไหวก็โอเค จะพยายามช่วยเหลือทีมให้ดีที่สุด ซึ่งนี่ก็เป็นแม็ทช์แรกของผม สารภาพว่ายังรู้จักเพื่อนร่วมทีมไม่หมดเลย” ผู้รักษาประตูจอมเก๋าเล่า

นอกจากพิศิษฐ์แล้ว ขุมกำลังของหาดใหญ่ในระบบ 4-4-2 ยังประกอบไปด้วย แผงหลังไล่จากขวามาซ้ายมีปรีชา ชัยสวัสดิ์, วัชระ นิเวศพงษ์, วิเศษ เกลี้ยงเกลา (กัปตันทีม), สมเดช หลำเบญหมุด แดนกลางมีสุทธิศักดิ์ มหันตพันธ์ดูแลเกมรับ มีดาวเตะต่างชาติอย่างบัวเต็งเดินเกมรุก ใช้กำพล กิติระกับยะโกบ บาราสันเลื้อยด้านข้าง ขวา-ซ้ายตามลำดับ คู่หน้าเป็นอาดูกับสมเดช กาสาเอก

“ราชันทะเลใต้” นครศรีธรรมราช ผู้มาเยือนมีธนเดช ศรีวิชัยเป็นด่านสุดท้าย แผงหลังไล่จากขวามาซ้ายมีอภิชาติ เพชรรัตน์, กิตติพงษ์ สกุณา, นิรันดร์ นุกูลและพิสิษฐ์ กรส่งแก้ว แดนกลางใช้อดิศร หนูนารถยืนคุมคู่กับวีระวุฒิ วารีวนิจ มีกัปตันทีม เอกชัย บุหงาขึ้นทางขวาและทวีพงศ์ เจริญรูปขึ้นทางซ้าย ใช้วิษณุ ปานมีจับคู่ล่าตาข่ายกับมานะ หลักชุม

ไล่ชื่อมาจนถึงโค้ช อารมณ์ “เรโทรรำลึก” ทำงานอีกครั้ง

“พัฒพงศ์ ผลบุญ”

นี่มันนักเตะทหารบกสมัยผมยังวัยสะรุ่นอยู่นี่ นอกจากจะเล่นให้ทัพบกแล้ว ยังเดินสายเล่นบอลแถบภาคใต้อยู่บ่อยครั้งด้วย

ความสุขเล็ก ๆ ของการดูบอลสมัยนี้ก็คืออารมณ์ “เรโทรรำลึก” นี่แหละ ได้เห็นนักบอลสมัยตัวเองยังละอ่อน บ้างก็ใช้ความเก๋าเล่นอยู่ บ้างก็ก้าวขึ้นมาเป็นโค้ช

“โค้ชเขาลาออกไปแล้วนะครับ” ช่างภาพมาดเซอร์ประจำทีมนครศรีธรรมราชบอกเล่า เมื่อผมวานให้เขาชี้ตัวอดีตนักเตะทหารบกให้หน่อย

“โค้ชเก่าติดภารกิจอยู่ที่ 3 จังหวัด แต่ถ้ามีเวลาว่างก็ยังมาช่วยให้คำปรึกษาอยู่” คุณสัญชัย แซ่ลิ้ม ผู้จัดการทีมราชันทะเลใต้เพิ่มเติมข้อมูล

ส่วนโค้ชคนใหม่นั้นผมไม่ได้ถามชื่อมา พี่แกใส่เสื้อสีเขียว ถ้าไม่เห็นหน้า ได้ยินแค่เสียงติดทองแดง เห็นแวบ ๆ แค่เครางาม ๆ อาจจะเผลอไผลคิดไปว่าเฮียสมชาย ทรัพย์เพิ่มลงมาคุมทีมภูธรเองเลยนะนี่

ก็พี่แกเล่นยืนสั่งการแบบติดขอบสนามตลอด ไม่ยอมนั่งเหมือนอดีตโค้ชจอมยียวนของบียูเด๊ะเลย (แต่แค่ครึ่งแรกเท่านั้น ครึ่งหลังสลับให้คุณสัญชัยออกไปเมื่อยขาบ้าง)




นักเตะทั้ง 2 ทีมเดินลงสู่สนามจิระนคร

วิเศษ กัปตันทีมหาดใหญ่จับมือกับเอกชัย กัปตันทีมนครศรีธรรมราช


เจ้าบ้านบินขึ้นนำได้อย่างรวดเร็วแค่ 11 นาทีเท่านั้นจากจังหวะผิดพลาดในการขึ้นบอลหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือน จังหวะสุดท้ายเป็นบัวเต็งที่เผด็จศึกสำเร็จ 1-0

ราชันทะเลใต้ไม่ได้มายอมแพ้ง่าย ๆ แค่ 3 นาทีต่อมาวีระวุฒิลองส่องไกลดู แต่จอมเก๋าวัย 39 ปีของหาดใหญ่ลอยตัวปัดข้ามคานได้

เร้ด อีเกิลส์เน้นขึ้นเกมทางซ้าย แต่นักเตะที่มีบทบาทในการเดินเกมกลับไม่ใช่ปีกซ้ายเท่าไหร่นัก กลับเป็นอาดูที่มักจะฉีกตัวออกไปลากเลื้อย โดยมีบัวเต็งสอดขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวที่สองได้อย่างสุดอันตราย

อาดูมีโอกาสส่องให้เจ้าบ้านหนีห่าง 2-3 ครั้งแต่ยังไม่เกิดผล ส่วนทีมเยือนนั้น วิษณุคือตัวอันตรายสร้างสรรค์เกมรุกได้ดี หาจังหวะยิงได้สวย โอกาสใกล้เคียงที่สุดคือลูกฟรีคิกในนาทีที่ 40 แต่อดีตผู้รักษาประตูระดับถ้วย ก ที่ถูกหาดใหญ่ขุดกรุขึ้นมาใหม่ปัดข้ามคานไว้ได้

ก่อนหมดเวลา 3 นาทีเกมที่สูสีกลับจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ที่ดูขาด เมื่ออาดูลากบอลไปทางซ้ายก่อนจะโยนให้กำพล กิติระสังหารตุงตาข่าย 2-0 แล้ว




นักเตะทั้งสองทีมโรมรันกันทางอากาศ

สมเดชลากบอลหนีกองหลังทีมเยือน

กำพลของเจ้าถิ่นแย่งลูกโหม่งกับทวีพงศ์

บัวเต็งโถมทั้งตัว แต่ลูกนี้ไปไม่ถึงบอล

ลีลาลูกหนังกลางอากาศของอภิชาติ

บัวเต็งเฮฮากับอาดูหลังจากยิงขึ้นนำ 1-0

วิษณุ ตัวเก่งนครศรีธรรมราชโชว์ลีลา

กำพลเปลี่ยนมาบู๊ภาคพื้นดินกับทวีพงศ์

นักเตะทั้ง 2 ทีมนัวเนียกันกลางสนาม

ลีลาการเซฟของธนเดช ผู้รักษาประตูราชันทะเลใต้

ทวีพงศ์ยกขาสูงเพื่อช่วงชิงบอล

วิษณุโหม่งลูกนี้เฉียดเสาไปอย่างน่าเสียดาย


พักครึ่ง อรรถพล ประกอบของที่ไม่รู้เป็นอะไรกับกฤษฎี ประกอบของ แบ็กซ้ายทีมอินทรี-เพื่อนตำรวจหรือเปล่า? มาร่วมสนุกจับสลากและแจกของรางวัลให้แฟนบอลด้วย

ใครน่ะอรรถพล ประกอบของ?

ก็พี่เอ็ม เดอะ สตาร์นั่นไงล่ะ




เอ็ม เดอะสตาร์จับสลากแจกของรางวัลให้แฟน ๆ

โฉมหน้าแฟนบอลผู้โชคดีบางส่วนที่มารับของรางวัลจากมือนักร้องหนุ่ม


โค้ชทั้งสองฝั่งปรับเปลี่ยนตัวคนละตำแหน่งทันทีตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง หาดใหญ่ส่งซาฮูดิน เบญจลักษณ์ลงมาแทนยะโกบ ส่วนนครศรีธรรมราชส่งวุฒิกร เจตนุรักษ์ลงมาเล่นศูนย์หน้าแทนแบ็กขวาอย่างอภิชาติ จึงต้องปรับทัพกันยกใหญ่ ถ่างมานะไปเล่นด้านขวา แล้วถอยเอกชัย กัปตันทีมลงไปเล่นแบ็กขวา

ก่อนเริ่มครึ่งหลัง ผู้สื่อข่าวร่างใหญ่ประจำทีมเยือนเดินมาคุยกับผม

“เกมสูสีนะ ถ้าได้คืนเร็ว ผมว่ามีสิทธิ์”

แต่เขาไม่ได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ เพราะครึ่งหลังเปิดฉากมาแค่ 9 นาที บัวเต็งก็สังหารฟรีคิกให้หาดใหญ่หนีห่าง 3-0 ซะแล้ว

วิษณุ ปานมียังคงเป็นตัวอันตรายของราชันทะเลใต้ นาทีที่ 57 เขายิงฟรีคิกข้ามคานไป แต่นาทีต่อมาก็เป็นเขานี่แหละที่จุดความหวังให้กับทีม เมื่อตีไข่แตกได้สำเร็จไล่มาเป็น 1-3

เกมช่วงนี้เป็นทีมเยือนที่ดูเล่นกันคึกคักมากขึ้น แต่ก็แค่ไม่นานนักเพราะหลังจากนั้นเกมก็กลับมาสูสีอีกครั้ง

นาทีที่ 65 กิตติพงศ์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟหมายเลข 10 ของทีมเยือนไปเบรกเกมเจ้าบ้านบริเวณฝั่งซ้ายในแดนตนเอง รับใบเหลืองไป และจากลูกฟรีคิกที่โยนเข้ามา บอลกิ๊ก ๆ กั๊ก ๆ อยู่พักนึงก่อนที่จะเป็นอาดูที่ซัดเข้าไปให้อินทรีแดงทะยานนำห่าง 4-1

นครศรีธรรมราชแม้จะยังไม่ท้อ แต่เกมช่วงนี้กลับดูเนือย ๆ ลงไปแล้ว พวกเขาพยายามปรับทัพอีก 2 ครั้งด้วยการส่งศราวุธ บัวคงลงเล่นกลางแทนอดิศรในนาทีที่ 71 และส่งวณาสัณฑ์ สุวรรณโณลงไปแทนนิรันดร์อีก 6 นาทีต่อมา

ส่วนหาดใหญ่นั้น อาจจะเห็นว่าวันนี้เป็นวันแรกที่มีงานมิดไนท์สงกรานต์ จึงต้อนรับเทศกาลนี้ด้วยการส่งสงกรานต์ บุญคำลงไปแทนกำพลในนาทีที่ 72 ก่อนที่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายจะส่งศรัญญู ถนอมภูมิลงไปแทนสมเดช

เกมเนือย ๆ เหมือนจะจบแค่นั้น แต่ช่วงทดเวลาเจ็บกลับมีประตูที่ 6 ให้แฟน ๆ ได้มันส์ เมื่อวิษณุบรรจงปั่นฟรีคิกเข้าไปตุงตาข่ายช่วยให้ราชันทะเลใต้แพ้น้อยหน่อยแค่ 2-4

“นี่เป็นลูกที่ 6 ใน 4 นัดของเขานะ” ผู้สื่อข่าวคนเดิมของทีมเยือนทำตัวเป็นจูออน จู่ ๆ ก็โผล่มาประชิดผมเพื่อรายงานข้อมูล “นี่เขาเพิ่งฟื้นมานะนี่”

“เพิ่งหายเจ็บเหรอครับ?” ผมขอความกระจ่าง แต่พี่แกส่ายหน้า

“อย่าบอกนะว่าเพิ่งหายแฮงค์”

ไม่มีคำตอบใด ๆ แต่อวัจนภาษาของเขาเหมือนจะคอนเฟิร์มในคำตอบที่ 2 ของผม




เปิดครึ่งหลังมาทั้งสองทีมก็เปลี่ยนตัวแก้เกมกันเลย

โฉมหน้าของผู้รักษาประตูจอมเก๋า พิศิษฐ์ ตรียาพงษ์

ลูกฟรีคิกจากเท้าของบัวเต็งพุ่งวาบเสียบเสาสองเป็นประตู 3-0

บัวเต็งวิ่งมาขอบคุณแฟน ๆ หลังยิงนำ 3-0

พิศิษฐ์ผวาจะเซฟลูกนี้ ดีที่บอลข้ามคานไป

วีระวุฒิพยายามแหวกแผงหลังเจ้าบ้าน

วิษณุวิ่งดีใจหลังยิงตีไข่แตก ส่วนพิศิษฐ์หมดสิทธิ์เซฟจริง ๆ

วิษณุตั้งท่าก่อนจะปั่นลูกนี้ตีตื้นเป็น 2-4


พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้จัดการทีมหาดใหญ่ให้ความเห็นหลังจบเกมว่า “เกมวันนี้ดีขึ้น ระบบการเล่นเป็นไปตามที่วางแผนกันไว้ ส่วนผลที่ออกมาก็น่าพอใจ ทั้งนี้ต้องยอมรับอย่างหนึ่งด้วยว่านครศรีธรรมราชไม่ค่อยพร้อม ถ้าทีมเขาพร้อมกว่านี้ เชื่อว่าเราจะมีงานหนักขึ้นแน่”

ในขณะที่คุณสัญชัย ผู้จัดการทีมฝั่งผู้แพ้บอกว่า “ยอมรับว่าวันนี้ลูกทีมของผมเล่นไม่ดี แต่ทุกคนก็ทำดีที่สุดแล้ว ผมมองว่ายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องแก้ไข เช่น พละกำลัง เป็นต้น คิดว่าต้องกลับไปเพิ่มอะไรอีกหลายอย่างเพื่อต้อนรับการมาเยือนของสุราษฎร์ธานีในนัดหน้า”

ส่วนพิศิษฐ์ ผู้รักษาประตูจอมเก๋าพูดถึง 2 ประตูที่เสียไปสั้น ๆ ว่า “ลูกแรกผมล้มตัวไม่ทัน ส่วนลูกที่ 2 โดนบังเลยไม่เห็น”

ห่างหายจากวงการฟุตบอลไปนาน กลับมาประเดิมสนามกับบอลลีกภูมิภาคแบบนี้ อดีตผู้รักษาประตูระดับถ้วย ก ย้อนกลับไปเปรียบเทียบกับฟุตบอลระดับที่เขาเคยแข่งขันว่า “บอลดิวิชัน 2 นี่โอเค...สุดยอดเลย เดี๋ยวนี้มันพัฒนาไปไกลแล้ว ผมว่าบอลดิวิชัน 2 สมัยนี้สนุกกว่าบอลถ้วย ก ในสมัยก่อนอีกนะ”

กรรมการเป่านกหวีดจบเกม ผมก็จบเกมของผมเหมือนกัน

ผมเดินไปทวงเสื้อเชียร์สีขาวที่ฝากไว้กับ “Red Eagle Girls” ในเสื้อสีน้ำเงินนางนั้น จากนั้นก็บึ่งมอเตอร์ไซค์กลับโรงแรมทันที โดยไม่มีการถามชื่อ ขอเบอร์โทรอะไรทั้งสิ้น แค่เพียงเก็บหาดใหญ่ เอฟ.ซี.ไว้ในใจให้เป็นอีกทีมหนึ่งที่จะเอาใจช่วย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม...เล่นน่าเชียร์, บรรยากาศการเชียร์, ผู้รักษาประตูเรโทรรำลึกคนนั้น, สาวสะเดาตาโตที่จบมัธยมจากหาดใหญ่วิทยาลัยหรือสาว ๆ Red Eagle Girls ก็ตาม

กับผู้หญิง...ผมว่าถ้าเราต้องการสวัสดิภาพในชีวิต ก็ควรจะมีคนเดียวไว้ในใจนะ แต่กับฟุตบอล คุณจะมีทีมกิ๊กกี่ทีม รับรองไม่มีใครมาแพ่นหัวกบาลคุณแน่




กองเชียร์ The Red Eagle ของหาดใหญ่

กองเชียร์ "ราชันทะเลใต้" นครศรีธรรมราชก็คึกคักไม่เบา


สาย ๆ วันต่อมา ผมหยิบเสื้อแฟนคลับหาดใหญ่มาใส่เพื่อเป็นชุดเดินทางกลับกรุงเทพฯ วินาทีนั้น มีความคิดบางอย่างแล่นวูบเข้ามา

กี่ปีแล้วนะ ที่ผมมาต่างจังหวัดทีไรก็ต้องตื่นแต่เช้าออกไปทำงาน อาจจะมีสังสรรค์ตอนเย็นได้บ้าง แต่พอเสร็จงานก็ต้องรีบเดินทางกลับ ไม่ได้เปิดหูเปิดตาในจังหวัดนั้น ๆ เลย แต่มาทริปนี้ ผมตื่นนอนตามที่หัวใจสั่ง ผมไปไหนต่อไหนแบบชิว ๆ ด้วยอารมณ์พาไป แม้ที่ผมเขียนมามันจะมีแต่เรื่องฟุตบอล (และผู้หญิง) แต่ความประทับใจกับทริปนี้มันมีมากกว่านั้น

ที่สนามบิน ผมโทรหาสาวสะเดาตาโตคนนั้นเพื่อบอกคำลา...ทว่าเธอไม่รับสาย

ผมหยิบโน้ตบุ๊คมาพิมพ์ Review เกมหาดใหญ่-นครศรีธรรมราช แล้วก็นั่งพิมพ์ต่อบนเครื่อง...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งพิมพ์งานบนเครื่องบิน ส่วนบนรถไฟนั้น ผมเคยลองมาแล้วเมื่อครั้งที่ไปเยอรมันเมื่อ 4 ก่อนในฐานะผู้ชนะเลิศการประกวด TOT World Cup Reporter ซึ่งมีภารกิจต้องเขียนคอลัมน์ลงหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวันตลอด 11 วันที่อยู่เมืองเบียร์

“ภาพความหลังยังฝังซึ้งใจไม่เลือน เมฆคอยเป็นเพื่อนใจในท้องนภา เสียงรถไฟ (เครื่องบิน) สายใต้ มันคล้ายคำบัญชา อีกไม่นานแล้วหนาฉันต้องกลับไป...”

ผมไม่รู้ว่าจะได้ไปหาดใหญ่อีกเมื่อไหร่ แต่คำว่า “กลับไป” ในที่นี้ ผมหมายถึงการกลับไปเก็บความประทับใจในจังหวัดอื่น ๆ อีก...ฟุตบอล, ท่องเที่ยว, ช็อปปิง และแม้จะเขียนเรื่องราวมาในแนวนี้ แต่ถึงยังไงผมก็ยังอยากยืนยันว่า “การหม้อหญิง” เอ้ย! การ “หลงเสน่ห์หญิง” เป็นของหวานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละทริปเท่านั้นเอง

เชียงราย, ขอนแก่น, นราธิวาส รวมทั้งที่ใกล้ ๆ อย่างจันทบุรี, ปราจีนบุรี, สุพรรณบุรี, นครปฐมเป็นไฟท์บังคับที่รอผมอยู่




Create Date : 14 เมษายน 2553
Last Update : 14 เมษายน 2553 13:14:09 น.
Counter : 1793 Pageviews.

6 comments
LFC # M6 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(24 ก.ย. 2566 08:57:52 น.)
LFC UEL EFL โฮมสเตย์ริมน้ำ
(13 ก.ย. 2566 09:05:01 น.)
Day..115 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(5 ก.ย. 2566 09:24:06 น.)
TOYOTA Youth Super Series 2023 สนามชิงชนะเลิศ The Kop Civil
(4 ก.ย. 2566 10:39:29 น.)
  
เขียนได้ดีมากๆครับ

รักและคิดถึงหาดใหญ่มากๆเหมือนกัน
โดย: nurselover IP: 161.200.104.135 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:10:02:53 น.
  
โดย: thanitsita วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:12:20:37 น.
  
หึหึ

จะเอาเบอร์อินทรีสาว

ผ่านผมไปก่อนนะ
โดย: Lawioza IP: 113.53.9.125 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:12:41:09 น.
  
category_id=113&sid=b5fde3e404b1f78f4c3d2f656b76a6df" target="_blank">คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: TREE AND LOVE วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:13:33:51 น.
  
สวัสดีครับไม่ได้แนะนำชื่อกันในสนาม และคงจำจูออนคนนั้นได้นะครับ
ถ้าจำหน้าไม่ได้ผมอยู่รูปสุดท้ายที่ถือโทรโข่งและห้อยบัตรนักข่าวคนนั้นแหละครับ ว่างๆแวะไปเยี่ยมเยียนพวกเราที่เวป นครศรีฯfcบ้างนะครับ ส่วนอันนี้คือที่ผมเขียนครับ
//www.nakhonsifc.com/webboard/index.php/topic,5033.0.html
ปล.ขอเซฟรูปสุดท้ายไว้ดูเล่นะครับ
ปล.2แล้วคงได้เจอกันในสนามอีกครับ
โดย: จอมมารโต (kitsanato ) วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:16:48:49 น.
  
อยู่ในสนามเกมนี้เหมือนกัน

เจ้าเติ้ล วิษณุฟอร์มกำลังแรง

นครศรีธรรมราชเอฟซี เสียประตูง่ายไปนิด

จูออนที่ว่า นี่ก็พี่จอมมารโตนี่เอง 5555+

โดย: K.K.K. IP: 125.27.213.44 วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:51:31 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Futbolreview.BlogGang.com

baevi
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]