วันนี้วิ่งนี้ซะตูดขาดเลย!! { ปูมวันที่ 12 }
xx xxxx 2502
เขาโล้น
วันนี้ตื่นมาแต่เช้าด้วยความสดชื่นยิ่งนัก คงเพราะการปราบไอ้กุดลงได้เมื่อวานที่ทำให้หมดกังวลไป เลยหลับสบาย แต่เมื่อคืนป่าทั้งป่าก็เงียบสงัดเอาซะจริงๆ ราวกับจะไว้อาลัยให้กับการตายของไอ้กุด เมื่อเช้ารพินทร์มาแจ้งว่า ได้ส่งบุญคำกับลูกหาบที่ชื่ออินให้นำหนังไอ้กุดกลับไปให้นายอำพล แล้วจะตามไปสมทบกับคณะเราที่โป่งกระทิง ไอ้หนังเสือผืนนั้นเห็นเชษฐาอยากได้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว คงกะจะเอาไปปูไว้ที่ห้องรับแขกเลยมั้ง ก็น่าอยู่หรอก ขนาดของมันนี่ ถ้ากางออก คนธรรมดาลงไปนอนได้ตั้งสามสี่คน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจตอนเช้ากันเรียบร้อยแล้ว รพินทร์ก็นำพวกเราออกเดินทางต่อทันที บ่ายหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งไปยังโป่งกระทิง แล้วพักกินข้าวเที่ยงแบบง่าย แถวดงไผ่เหลืองตอนหนึ่ง
พอตกบ่าย ก็ออกเดินทางกันต่อ ระหว่างทางพบรอยวัวแดง รพินทร์คงเห็นเราผิดหวังจากวัวแดงเมื่อวันก่อน เลยชวนให้ตามแกะรอย น้อยคงนึกสนุกจึงขอตามมาด้วย แต่เชษฐาขอนั่งพักไปบนเกวียนบอกว่าขี้เกียจเดิน แต่ก็ดูรู้แหละว่า เชษฐาคงจงใจเปิดโอกาสให้เรา
คิดๆ ไปก็ตลกอยู่เหมือนกัน ครั้งที่แล้ว ตั้งหน้าตั้งตาแกะรอย เสียเวลาเดินเป็นวันๆ กลับพลาด คว้าน้ำเหลวซะอย่างนั้น แต่มาคราวนี้ ไม่ได้คิดที่จะล่ามันเลย กลับโผล่หน้ามาให้เห็น แถมคราวนี้ยังมากันเป็นฝูงให้เลือกยิง น้อยก็รู้ใจเราเป็นอย่างดี ปล่อยให้เราได้แสดงฝีมือเต็มที่ เราเองก็ไม่เลวเหมือนกัน ส่องร่วงทั้งสองตัว
แต่จะมาทีเหลวก็ตอนที่อยู่ดีๆ ไอ้ตัวหนึ่งมันฟื้นขึ้นมาวิ่งไล่เรานั่นแหละ เล่นเอาซะกางเกงตูดขาด วิ่งขึ้นต้นไม้แทบไม่ทัน ดีที่รพินทร์อยู่ด้วย ช่วยจัดการให้ แต่ก็วุ่นวาย ประดักประเดิดเสียเหลือเกิน ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าตายแล้วแน่ๆ นอนเอาจมูกฟุบดินแน่นิ่งขนาดนั้น กลับทะลึ่งพรวดขึ้นมาได้ยังไงก็ไม่รู้ แทนที่จะกู้หน้า กลับเสียหน้าอีกจนได้ เป็นทีให้ยายน้อยขี่แพะไล่ไปตลอดทาง
ระหว่างทางกลับ ยังไม่ทันจะถึงขบวนของเราดี เสียงปืนดังเป็นประทัดแตก ดังก้องต้อนรับมาแต่ไกล รพินทร์บอกว่าพวกกองเกวียนเราคงปะทะเข้ากับโขลงช้าง แล้วก็จริงตามนั้นเสียด้วย ขบวนของพวกเราปะทะเข้ากับช้างโขลงใหญ่ทีเดียว ดีที่พวกเราอยู่ตรงชัยภูมิที่ได้เปรียบ และอาวุธเราก็มีอำนาจพอที่จะรับมือกับพวกมันได้ พอจ่าโขลงโดนเชษฐายิงล้มลง ที่เหลือก็กระจัดกระจายหนีกันหางจุกตูด
ดูเอาเถอะ ตั้งแต่เริ่มเดินทางแล้ว พอเรายิงหมูป่าได้ เชษฐาก็ข้ามชั้นไปยิงวัวแดง พอทีนี้เรายิงวัวแดงได้บ้าง พ่อเจ้าประคุณก็ข้ามไปซัดกับช้างแล้ว ยิ่งเห็นรอยกระสุนที่เชษฐายิงนัดนั้น เจาะเข้าเนินน้ำเต้าจุดตายของมันพอดิบพอดี ยิ่งเห็นชัดเลยว่าฝีมือเชิงพรานของเรายังห่างชั้นจากเชษฐาอีกเยอะ เฮ้อ...เชษฐานะเชษฐา หยั่งงี้เมื่อไหร่ชั้นถึงจะตามแกทันวะ
ตอนหนึ่งของการเดินทาง รพินทร์เล่าถึงเกียรติประวัติอันไม่มีที่ติของพ่อเจ้าประคุณแหว่งให้พวกเราฟัง รพินทร์อาจกลัวว่าพวกเราจะเสียขวัญจากเรื่องที่เขาเล่าให้ฟังกระมัง ครั้งนี้เลยดูจะเป็นการปลุกปลอบให้กำลังใจยังไงพิกล แต่ก็สมควรอยู่หรอก ประวัติพ่อหูแหว่งนี่ ใช่ย่อยซะที่ไหนล่ะ ย่ำหมู่บ้านซะราบมาแล้วสี่หมู่บ้าน รื้อแค้มป์นักสำรวจไปสามแค้มป์ เหยียบคนตายมาแล้วกว่าสี่สิบศพ อืม...น่าทึ่งไม่หยอกนะ ถ้าเป็นคน ป่านนี้คงโดนประหารชีวิตไปหลายรอบแล้ว แต่ก็นะ จะให้ขนช้างไปขึ้นศาลก็คงไม่ใช่ที่
ในเมื่อไม่มีใครมาตัดสินความผิดให้กับพวกมัน พวกเราก็ควรอนุเคราะห์ ใช้อำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ของลูกปืนตัดสินแทน ให้ความเมตตาจากลูกปืน ส่งมันไปสู่สุขคติซะ นี่ถ้ามันรู้คงจะปลาบปลื้มในความกรุณาที่เรามอบให้นี้ จนน้ำหูน้ำตาไหลเลยแหละนะ
คืนนี้เราหยุดพักแรมในจุดที่อนุชาเคยมาพัก และเจอกับรพินทร์ที่นี่ “โป่งกระทิง” ทั้งเชษฐาและน้อยเงียบไปถนัดตา น้อยถึงกับน้ำตาคลอ เราเองก็ไม่น้อยไปกว่ากัน คิดถึงอนุชาขึ้นมาจับใจ...
เราออกเดินทางตามหลังอนุชาช้าไปร่วมปี ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้างแล้ว
เหมือนกับมีอะไรบางอย่างคอยบอกเราอยู่เสมอว่าอนุชายังอยู่ อนุชายังไม่ตาย คงเพราะเสียงนี้กระมังที่ทำให้เรามีกำลังใจจะติดตามเขาต่อไป
ที่พักของเราคืนนี้แย่ไปกว่าทุกคืนที่ผ่านมา คงเป็นที่อากาศ รู้สึกมันอับๆ ทึบๆ ยังไงพิกล รพินทร์บอกว่าเป็นเพราะที่พักของเราคืนนี้อยู่บนที่ราบสูงตอนหนึ่ง ตั้งอยู่ระหว่างส่วนลาดของหุบเขาสองลูก จึงทำให้อากาศที่นี่เหมือนอยู่ในหุบลึก มาถึงที่พักได้ก็รู้สึกปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว เนื่องจากเดินทั้งวัน แต่โชคดีที่มีตัวช่วยอย่าง “เหล้าโรงผสมเลือดค่าง” ที่รพินทร์เสนอมาให้ พอน้อยรู้ว่าเป็นอะไรเท่านั้นแหละ บ่นซะไม่มีดี ต่างกับพี่ชายของเธอลิบ ขานั้นคว้ามาดวดรวดเดียวเกือบหมดขวด จะว่าไปรสชาติมันฝาดๆ แต่ก็กินไม่ยากนัก
 ในขณะที่เรากำลังคุยกันอย่างออกรส ความยุติธรรมของธรรมชาติตามที่พรานใหญ่เรียก ก็ได้แสดงตัวออกมาให้เราเห็นเป็นครั้งแรก ภาพของเสือดาวโตเต็มวัยถูกเขาอันแหลมโง้งของกวางหนุ่มตัวเขื่องเสียบทะลุตัว นอนตายอยู่คู่กัน ภาพนั้นยังติดตามาจนบัดนี้ มันเป็นความยุติธรรมของธรรมชาติอย่างถึงที่สุด เท่าที่มันจะแสดงออกมาได้ เสือดาวตัวนั้นคงหมายตะครุบเหยื่อของมันตามธรรมชาติวิสัย แต่คงเลือกมุมผิดไปหน่อย ผ่ากระโจนเข้าทางเขากวาง เจ้ากวางตัวนั้นคงสะบัดเขาขึ้นรับพอดี เลยทำให้เขาของมันไปเสียบเข้ากลางลำตัวเจ้าเสือหนุ่มพอดี แต่เจ้าเสือตัวนั้นก็ไม่ทิ้งลายเจ้าป่า ลากเจ้ากวางหนุ่มตายไปพร้อมกับมันด้วย
 ข่าวดีอีกเรื่องสำหรับคืนนี้ เรามีทางออกสำหรับปัญหาเนื้อสัตว์ที่มีอยู่มากเกินไป รพินทร์เสนอให้เราแจกจ่ายให้แก่พวกลูกหาบ ในตอนที่เราต้องแยกจากกันที่หล่มช้าง
::::::::::: credit ::::::::::::::::::::::::::::::
ตรวจคำผิด :mera , สหายน้อย
ตรวจเนื้อหา :wormy , นายเค
รวบรวมแก้ไข : ฟ้ากาง
ตรวจสำนวน :ภคิน , จตร
รูปประกอบ : นายเค
|
คุณฟาฬ คนใจกว้างอย่างไชยันต์ คงไม่เขียนปูม กรณีที่พี่ใหญ่ นั่งเกวียน ว่าเปิดทางให้เขาหรอกนะคะ
ความรู้สึกส่วนตัวค่ะ