ตระเวนแว๊นเที่ยวภูเก็ต+เกาะพีพี วันที่ 2-5 ตุลาคม 2557 และแล้วรีวิวทริปภูเก็ตก็คลอดสักทีหลังจากดองไว้ 2 เดือนกว่าๆ อุอุ ทริปนี้เราไปกันแค่ 4 วันคะ หลังจากมาพักคืนแรกที่ชิโน อินน์ ตามที่รีวิวไปแล้ว วันที่ 2 เราวางแผนไปเที่ยวหมู่เกาะพีพีคะ จองทัวร์กับที่พักในงานท่องเที่ยวไทยเช่นกันคะ ได้ราคาทัวร์เกาะพีพีมา 1,000 ต่อคน เดินทางโดยสปีด โบ๊ตคะ เรามาเที่ยวภูเก็ตช่วงหน้ามรสุม กันดีกว่าคะ 555 เช้ามารถตู้ของบริษัททัวร์มารับหน้าโรงแรมเลยตอนเวลา 8.15 (ตรงเวลามาก เรายังนั่งทานข้าวเหนียว ไก่ทอดกันอยู่เลย) จากนั้นรถตู้ก็ไปรับลูกค้าเพิ่มอีกประมาณ 10 คนคะ จึงพาไปส่งยังบริษัททัวร์ พอได้เวลาเราก็เดินตามหัวหน้าไกด์ไปยังท่าเรืองอ่าวฉลองเพื่อเดินทางไปหมู่เกาะพีพีกัน  ฟ้าใสเป็นบางครั้ง ไม่มีแดดเลย   ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงอ่าวมาหยาคะ (อุตส่าห์ดีใจว่าอ่าวมาหยาจะสวย พอเห็นแล้วเซ็งมากคะ เรือจอดเต็มหาด ขาดความสวยงาม  ไหนๆ มาแล้วขอถ่ายกับป้ายหน่อยละกัน อ่าวมาหยาเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กไม่ใหญ่มากคะ มีพื้นที่เดินเล่นนิดเดียว  หันมาเจอฝูงชน น่าเบื่อมากคะ แต่ทำไงได้เกาะพีพีนี้ขึ้นชื่อในหมู่ชาวต่างขาตินี้นา  สักพักฝนเริ่มตกปรอยๆ และหนาเม็ดขึ้นเรื่อยจนต้องหาที่หลบ มาจะ๊เอ๋กับน้องเหมียวเจ้าถิ่นจนได้   อึ้มครึ้มอย่างแรง อ่าวมาหยา  พอได้เวลา 30 นาทีตามที่ไกด์บอกเราก็รีบขึ้นเรือไปที่อื่นกันต่อคะ บ๊าย บาย อ่าวมาหยา (ทำไมพอกลับฟ้าใสอะ T T)   เพราะฝนตกเราเลยไม่ได้ไปแวะอ่าวปิเละคะ ไกด์พาไปชม Monkey Island ต่อเลย   ที่ Monkey Island ห้ามลงไปที่หาดนะคะ เพราะลิงดุมาก เราเลยได้แค่ยืนชมลิงไต่หินมารับอาหารบนเรือแทน   ลิงมาเป็นร้อยตัวเลย ไต่โขดหินกันเก่งมาก  เสร็จแล้วไกด์แวะพาไปดำน้ำก่อนเวลาอาหารเที่ยงคะ  เรากับคุณแฟนไม่ได้ดำน้ำกับเขาหรอก เพราะฝนตกปรอยๆ กลัวหนาว และคิดว่าใต้ทะเลที่นี่คงไม่สวยเท่าไร (เออ..แล้วจะมาทัวร์ทำไมเนอะ น้ำก็ไม่เล่น 555)  พอได้เวลาไกด์พามาทานอาหารบุฟเฟ่ต์ ที่เกาะพีพีดอนคะ คนทะลักล้านแปดเลย หาคนไทยนี้แทบไม่มี  ชมวิวข้างที่ทานอาหารกันบ้าง  ทานข้าวเสร็จเราไปต่อกันที่เกาะสุดท้ายคือเกาะไข่คะ  ระหว่างทางมาเกาะไข่นี้ฝนกระหน่ำกระจาย เม็ดหนามาก หนาวตัวสั่นเลย  เกาะไข่ไกด์ให้เวลาอยู่ 1 ชั่วโมง บนเกาะไข่เน้นขายน้ำดื่ม และให้บริการห้องน้ำมากกว่าคะ เพราะเป็นเกาะขนาดเล็ก เดินแป๊ปเดียวครบรอบแล้ว เราถ่ายแต่หน้าหาดมาคะ เพราะหลังหาดกับตัวเกาะมีแต่สิ่งปลูกสร้างเป็นที่นั่งให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จะนั่งเก้าอี้ก็เสียเงินนะ ห้องน้ำยังเสียค่าบริการตั้ง 20 บาท (เง้อ!!)  จบทริปหมู่เกาะพีพีประมาณ 16.30 น. คะ รถตู้ก็มาส่งเราถึงหน้าโรงแรมเช่นเดิม วันต่อมาเราเลยตะลุยเที่ยวรอบเมืองภูเก็ตซะเลย พาหนะคู่ใจที่ขาดไม่ได้คือ มอไซต์ที่เราเช่าจากโรงแรมชิโน อินน์ ในราคาวันละ 250 บาทละคะ ขี่ไปได้ตามใจชอบ ลุยมันทั้งๆ ที่ฝนตกนี่ละ  เริ่มกันที่ย่านเมืองเก่าในซอยรมณีย์ก่อนเลย เสียดายที่ฝนตกคะเลยต้องหลบฝนแล้วยืนถ่ายเอาใกล้ๆ  จากนั้นคุณแฟนก็ขับลุยฝนไปถึงสะพานสารสิน จะเข้าเขตจังหวัดพังงาอยู่แล้ว ลุยฝนมาแบบบ้าระห่ำมาก (อย่าทำตามนะคะ) คุณแฟนลุยไปถ่ายรูปท่ามกลางฝนตกปรอยๆ ไอ้เรารึขอหลบฝนใต้สะพานสารสินนี้แ หละ โอกาสน่าค่อยมาแก้ตัวใหม่  ย้อนกลับเข้ามาในเมืองแวะมาตลาดฉำฉาหรือตรงซอยหล่อโรงบ้าง มาดูของทานของจังหวัดภูเก็ตกันบ้างว่ามีไรมั้ง เริ่มจากขนมพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ต "อาโป้ง" ก่อนเลยคะ  เทแป้งขนมลงในกะทะแบบนี้คะ  รอให้แป้งเหลืองแบบนี้ ก็จัดการแคะ แล้วม้วนเป็นอันเสร็จคะ  ราคาไม่แพงด้วย 3 ชิ้น 20 เอง  ข้างในขนมไม่มีไส้นะคะ  มาต่อกันที่ "หมี่หุ้นกระดูกหมู" คะ ความอร่อยมันอยู่ที่น้ำซุปกระดูกหมูนี่เอง ราคาชุดละ 25 บาทคะ   ตบท้ายด้วยขนมหวานขึ้นชื่อของจังหวัดภูเก็ต "โอ้เอ๋ว" สามารถสั่งใส่เครื่องเคียงได้ตามใจชอบคะ  ใส่น้ำเชื่อมแล้วโรยน้ำแดงตามอร่อยมากมาย "โอ้เอ๋ว"นี้แก้ร้อนในกระหายน้ำด้วยคะ  นี้คือน่าตาของ "โอ้เอ๋ว" คะ  มีอยู่คืนหนึ่งเรามาพักแถวหากกะตะ เลยขอรวบรีวิวที่เที่ยวมาไว้รวมกันเลยนะคะ ผ่านหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลกะรนเจอรถโพท้องขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกหน่อย   มาชมหาดกะตะ กะรนมั้ง คลื่นลมแรงน่ากลัวมากคะ  ลมนี่พัดน้ำทะเลกระเด็นเข้าปากเป็นฝอยๆ เลย ลมแรงมาก  วันต่อมาเราก็มีแผนขับไปชมแหลมพรหมเทพกันคะ ขึ้นไปกันแต่เช้า ลมแรงเช่นเคย (ไม่เชื่อโปรดสังเกตต้นมะพร้าวด้านขวามือคะ)  ทัวร์ลงเยอะมากคะที่นี้ โดยเฉพาะคนจีน    พอฝนเริ่มตกเราก็รีบลงจากแหลมพรหมเทพไปไหว้พระที่วัดฉลองกัน  คนเยอะมากวัดนี้  ฝนตกจนไม่สามารถจุดธูปได้คะ  มาแวะนั่งพักที่คาเฟ่แมวกัน  ที่ "บี แคท คาเฟ่" จะเป็นทั้งคาเฟ่แมวและร้านอาหารคะ   มีข้อแม้ในการเข้าคาเฟ่คือต้องสั่งน้ำคนละแก้วคะ และปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันน้องแมวข่วน    เจ้าตัวนี้นั่งชิวชมวิวริมหน้าต่างเลย สบายเขาละ  ภายในคาเฟ่แมวตกแต่งแบบนี้คะ     น้ำผลไม้ปั่นอร่อยมากคะ แต่ก็แพงสมราคาค่าที่  ลองสั่งขนมมาทานบ้าง   เรามาดูโซนร้านอาหารของบี แคท คาเฟ่กันบ้าง   นั่งทานอาหารไป นั่งมองคนเล่นกับแมวในคาเฟ่ได้เพลินเลย    เราว่ายังไงแมวที่เราเลี้ยงก็น่ารักกว่านะคะ 555 เชื่องกว่าด้วย     ขากลับเราจองรถของโรงแรมชิโน อินน์ให้ไปส่งที่สนามบินคะ ได้แวะร้านของฝากคุณแม่จู้ด้วย   ร้านนี้เขาว่าดังเรื่องน้ำพริกคะ  โดยเฉพาะน้ำพริกกุ้งเสียบแบบตำสด  ราคาชุดละ 150 บาท  สาขาที่เรามาอยู่ทางเดียวกับทางไปสนามบินเลย  พี่คนขับเห็นว่ายังมีเวลาเหลือเลยพาแวะเขาไปชมอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ทางขับเข้าไปร่มรื่นดีคะ  หากไม่ใช่หน้ามรสุมคงจะสวยกว่านี้   นั่งรอไปเครื่องบอกดีเลย์ เราก็นะ แกะของฝากมาถ่ายรูปเล่นฆ่าเวลาดีกว่า     หากมีโอกาสกลับไปภูเก็ตจะเลือกไม่ไปหน้ามรสุมแล้วคะ เทีื่ยวยังไม่สะใจวัยรุ่นเลย
thx u crab
โดย: Kavanich96
 วันที่: 16 มกราคม 2558 เวลา:3:45:46 น.ไม่ได้ไปภูเก็ตหลายปีแล้ว เห็นแล้วก็อยากไปอีกจังค่า
 โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน
วันที่: 16 มกราคม 2558 เวลา:8:11:52 น. |
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||||
 |
|
