ฤาความตาย ใช่จะน่ากลัวอย่างที่คิด


พิจารณาความตายจากคนใกล้ชิด
30 กันยายน 2551
ในความทรงจำที่ได้อยู่ใกล้ชิดมาก ๆ กับคนใกล้หมดลมหายใจ
คนแรกสุดก็คือ แม่
แม่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบเดือน
เมื่อปี พ. ศ. 2535 ขณะนั้น แม่อายุได้ 73 ปี

แม่เป็นคนทำงานหนักมาโดยตลอด
แม่มีลูก 3 คน ทุกคนเป็นคนดี เพราะมีแม่เป็นแบบอย่างของความอดทน
ต่อสู้กับความยากจน ที่ชนชั้นชาวนาเขาเป็นกัน
ตั้งแต่สมัยโบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

ความจนกับความเครียดนำโรคร้ายมาทำลายชีวิต
วาระสุดท้ายของแม่ที่ค่อย ๆ หยุดหายใจ
ทุกคนร้องไห้กับการจากไปของแม่ เพราะแม่คอยห่วงใยลูกหลานทุก ๆ คน
แม่ทำงานหนักเพื่อครอบครัว เพื่อลูก
เมื่อเรารู้สึกเหนื่อยล้า เราก็มักจะนึกถึงแม่ที่ทำงานหนัก เพื่อลูกทุกครั้ง เราก็มีแรงสู้
มีพลังของความเข้มแข็ง อดทน
นี่คือสิ่งที่มีคุณค่ามหาศาลที่แม่ได้มอบแรงใจไว้ให้ลูก
ได้ต่อสู้ชีวิต ได้คิดเชิงบวก เหมือนดังสุภาษิตที่ว่า

เปลวเทียนมลายแท่ง เพื่อเปล่งแสงอันอำไพ
ชีวิตมลายไป เหลืออะไรทิ้งไว้แทน


ขณะแม่ตาย เราอายุได้ 35 ปี

และปี 2551 เมื่อวานนี้เอง ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับคนใกล้ตายอีกครั้ง
นับเป็นครั้งที่สอง ซึ่งได้สร้างคุณค่ามหาศาลกับทางจิตใจ

ด้วยวัย 51 ปี ประสบการณ์ชีวิตได้ผ่านเข้ามามากมาย
ทั้งสมหวังและสูญเสีย เมื่อสมหวังก็ดีใจ เมื่อผิดหวังก็เสียใจ
เป็นอารมณ์ปกติของมนุษย์

ญาติใกล้ชิด ซึ่งเป็นพี่ชายของสามี ป่วยด้วยโรคตับ
นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 2 ครั้ง ในระยะเวลา 1 เดือน
แล้วอาการก็ทรุดหนักลงอย่างรวดเร็ว
จนวาระสุดท้าย หมอให้ญาติพาคนไข้กลับมาอยู่ที่บ้าน

สภาพผู้ป่วยที่เราได้อยู่ใกล้ชิด ไม่รู้สึกตัว กระวนกระวาย
ด้วยภาวะตับไตที่ไม่ทำงาน มือเท้าซีด เย็น ผอม หายใจหอบเหนื่อย
พยายามที่จะต่อสู้ ไขว่คว้าหาลมหายใจ
จากหายใจแรงเปลี่ยนเป็นหายใจสั้น
ลมหายใจออกมากกว่าลมหายใจเข้า

ญาติ ๆ รายเรียงกันอยู่รอบ ๆ พร้อมหน้าพร้อมตา
ทั้งพี่ น้อง ลูก ภรรยา หลาน ๆ
ทุก ๆ คนสัมผัสคนป่วยอย่างอบอุ่น แม้ใจทุกคนจะเศร้าหมองกับการที่คนป่วย
จะต้องจากไป ลูก ๆ ไม่อยากให้พ่อต้องทรมานกับความเจ็บปวด กระวนกระวาย

“ พ่อเหนื่อยมามากแล้ว ขอให้พ่อไปดีมีความสุข ไม่ต้องห่วงคนข้างหลัง”
ลูกอ่านบทสวดมนตร์ปนเสียงสะอื้นเบา ๆ
“ขอให้พ่อไปดีมีความสุขนะพ่อนะ “

ลูกทำทุกอย่างให้พ่อมีความสุขที่สุด ก่อนหมดลมหายใจ นิมนตร์พระมาสวดต่ออายุ
ก่อนพ่อจากไป ลูกทุกคนสวดมนตร์ สร้างพลังใจ ส่งแรงใจให้พ่อ
เรานั่งพิจารณาอย่างใกล้ชิด ใช้มือจับชีพจรที่ค่อย ๆ เต้นช้าลง ๆ ๆ
ริมฝีปากที่หายใจเป่าลมออก ค่อยปิดลงช้า ๆ
เปลือกตาที่เปิดอยู่ มองเห็นแววตาที่เลื่อนลอย
ไม่มีความรู้สึกถึงสื่อความหมายใด ๆ ค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ
จนหยุดลมหายใจในที่สุด
ก่อนหมดลมทุกคนที่นั่งรายรอบอยู่มองเห็นรอยยิ้มน้อย ๆ ก่อนนิ่งสนิท

เสียงร่ำไห้ที่มิอาจกลั้นได้จากคนใกล้ชิด เป็นอยู่ชั่วระยะหนึ่ง
แล้วทุกคนก็กุลีกุจอจัดเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายที่ได้เตรียมไว้ให้พ่อดูดีที่สุด
ใส่ถุงเท้า รองเท้า นอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง เพื่อรอพิธีรดน้ำศพต่อไป

นี่ เป็นการตายที่เป็นธรรมชาติที่สุด อบอุ่นที่สุด ท่ามกลางญาติมิตร
ถ้าเราเลือกตายได้ วิธีธรรมชาติเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ความตายไม่น่ากลัว เพราะทุก ๆ คนก็ต้องตาย

การได้สัมผัสคุ้นเคยกับคนใกล้ตาย เป็นการปล่อยวางจากการโลภ โกรธ หลง
ทรัพย์สมบัติสร้างไว้มากมายขนาดไหนก็เอาไปไม่ได้เลย
สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ คือความทรงจำของความดี ไม่ดี เท่านั้น
ตายอย่างสร้างสรรค์ ได้สร้างสิ่งดี ๆ ไว้ให้คนรุ่นหลังมากมาย
ชีวิตเกิดมาแล้วช่วยกันสร้างความสงบสุขให้กับครอบครัว ให้กับลูก ให้กับหลาน

ลูกหลานไม่ทะเลาะกัน พ่อแม่ก็มีความสุข
สายใยรักของครอบครัวสำคัญยิ่งเหนือสิ่งอื่นใด
ทรัพย์สินเงินทองเป็นแต่เพียงส่วนประกอบ ในการยังชีพเท่านั้น

ความตายเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมาถึงตัวเราทุกคน
เพียงแต่เราไม่รู้ว่า มันจะมาเมื่อใด เท่านั้น


นิมนต์พระมา บังสุกุลเป็น


พี่ น้อง ภรรยา ลูก และหลาน นั่งให้กำลังใจ


พี่ น้อง ภรรยา ลูก และหลาน นั่งให้กำลังใจ


ลูกพูดกับพ่อ ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต
“ พ่อเหนื่อยมามากแล้ว ขอให้พ่อไปดีมีความสุข ไม่ต้องห่วงคนข้างหลัง”


ฤา ความตาย ใช่จะน่ากลัวอย่างที่คิด





Create Date : 30 กันยายน 2551
Last Update : 30 กันยายน 2551 23:54:19 น.
Counter : 1138 Pageviews.

6 comments
บึงบอระเพ็ด : เป็ดหางแหลม ผู้ชายในสายลมหนาว
(21 เม.ย. 2568 11:08:03 น.)
เมื่ออยู่ในวัย"คุณน้า" กิจกรรมพักผ่อน คือไปดูพระอรหันตธาตุ,อัฐิธาตุพระอาจารย์ peaceplay
(19 เม.ย. 2568 23:20:46 น.)
ส ง ก ร า น ต์ 2 5 6 8 nonnoiGiwGiw
(18 เม.ย. 2568 15:58:15 น.)
พืชอวบน้ำกุหลาบหิน สมาชิกหมายเลข 4313444
(15 เม.ย. 2568 01:03:28 น.)
  

คุณดวงตาเขียนเรื่องความตายที่ให้สติคนเป็นได้อย่างงดงามดีมากๆครับ

ขอให้คุณพี่ ไปสู่ ณ ที่สงบ สะอาด สบาย ไร้สิ่งรบกวนใดๆตลอดกาลครับ



โดย: yyswim วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:23:02:34 น.
  

ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของพี่ชายค่ะ
สิ่งที่ครอบครัว ลูก ภรรยา ญาติพี่น้อง และคุณผมขาวได้มอบแก่ผู้ที่จากไป
คือสิ่งที่ดีที่สุด ถูกต้องและเหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ

ทุกชีวิตล้วนมาเพื่อที่จะจากไป
ซึ่งจะเป็นวันไหนนั้นไม่มีใครทราบล่วงหน้า
แต่เมื่อถึงกำหนดวันของตน……ทุกคนล้วนต้องเดินทาง
ไม่เว้นกระทั่งตัวเราเองเมื่อวันนั้นมาถึง

ข้อเขียนของคุณผมขาวให้แนวคิดที่ดีสำหรับผู้ที่ยังอยู่

ถูกต้องค่ะ
……..ความตายเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมาถึงตัวเราทุกคน
เพียงแต่เราไม่รู้ว่า มันจะมาเมื่อใด เท่านั้น ……….

ขออานิสงส์แห่งบุญซึ่งพี่ชายได้สร้างสมมาตลอดเป็นระยะเวลายาวนาน
จากอดีตจนถึงวันสุดท้ายของการเดินทาง
จงรวมพลังเป็นตบะเดชะ พลวปัจจัยอำนวยผลให้ดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์
ได้สถิต ณ สุคติภูมิ และได้ประพฤติบำเพ็ญธรรมต่อเนื่องไปทุกภพทุกชาติ
ตราบกระทั่งบรรลุมรรคผลนิพพาน ในภพภูมิอันใกล้นี้

โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:17:41:55 น.
  
สวัสดีค่ะคุณผมขาว ป้าแป๋วตามป้ากุ๊กไก่มาด้วยคนค่ะ
อ่านบทความแล้วเป็นบทเรียนสอนใจให้คนที่ยังอยู่ได้อีกเยอะเลยค่ะ
ตอนที่ป้าแป๋วเสียพ่อไป ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ท่านเลยค่ะ
รุ้สีกเสียใจที่ทิ้งให้ท่านเดียวดาย....

ขอบคุณสำหรับบทความนี้ค่ะ
ขอให้วิญญาณของพี่ชายคุณทวีศักดิ์ไปสู่สุขคติค่ะ
โดย: แป๋วภูเก็ต วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:0:03:13 น.
  
น้ำตาพลัดเลยค่ะ ........................

ไม่ได้แวะมานาน คุณผมขาวสบายดีน๊ะคะ

เขียนได้ดีมากๆๆ อ่านแล้ว คิดตามเห็นภาพไปด้วยเลยค่ะ
โดย: สาวเขียน IP: 74.78.202.240 วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:5:22:05 น.
  
ขอชมเลยว่าเขียนดีมากเเละต้องขอแสดงความเสียใจด้วยน่ะค่ะ

โดย: ไหมแฝงนาม (คนตาพิการ ) วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:7:22:29 น.
  
ขอชมเลยว่าเขียนดีมากเเละต้องขอแสดงความเสียใจด้วยน่ะค่ะ
โดย: ไหมแฝงนาม (คนตาพิการ ) วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:7:23:25 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Duangta.BlogGang.com

ผมขาว
Location :
สงขลา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด