บ้านไร่ นาเรา เชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช
สถานที่เยียวยาหัวใจ เมื่อยังเป็นเด็ก

ภาพธรรมชาติแห่งท้องทุ่งนา ผุดขึ้นมาในห้วงของความรู้สึกนึกคิด ในความทรงจำอยู่เสมอ
บ้านที่ให้กำเนิดอยู่ริมคลอง มี ต้นจาก มากมาย มี ต้นกำชำ ต้นขรบ ต้นหว้า เราชอบกินผลของมันมาก

ลูกกำชำ เมื่อสุกแดง อื้อฮือ อร่อยจริงๆ มันออกลูกดกเป็นกิ่งๆ เรากับแม่ ช่วย กันสอยกิ่งที่มีผล แดงๆดำๆ แล้วหักกิ่ง มัดเป็นพวงๆ ค่อยๆเด็ดผลของมัน ทีละผล สองผล เข้าปาก เคี้ยวน้อยๆ มีเม็ดเล็กๆก็คายออกเสีย เดี๋ยวนี้ ไม่มีลูกกำชำให้กินอีกแล้ว.......

ต้นขรบ มีผลเขียว ผลแดง ลำต้นมีหนามแหลม เมื่อปีนขึ้นไปเก็บผลของมัน ต้อง ค่อยๆระวัง ไม่ให้หนามตำ

ต้นจาก ก็มีลูกจาก เมื่อมันมีลูก เขาจะเรียกว่า “ทะลาย” เมื่อมันอร่อย พอกินได้ ภาษาใต้เขาเรียกว่า “ทรามกิน” พ่อบ้าง แม่บ้าง ก็จะ ใช้มีด พร้า ฟันมา ครั้งละ 1 – 2 ทะลาย แล้วใช้ด้ามขวาน ค่อยๆกระแทก ให้ผลมันหลุดจากทะลาย ทีละหลายๆลูก แล้วใช้มีด หรือ พร้า ผ่าเป็น 2 ซีก จะมีเนื้อขาวๆ นุ่มๆ มีน้ำหวาน เราก็ใช้ หัวแม่มือ แซะกินอย่างเอร็ดอร่อย เดี๋ยวนี้ ลูกจากยังพอหากินได้อยู่

เมื่อคิดถึง ป่าจาก บ้านเราสมัยนั้นยังไม่มีห้องน้ำ ห้องส้วม เมื่อจำเป็นต้องปลด ปล่อยทุกข์ ก็วิ่งเข้าไปในป่าจาก หาที่สบายๆ บรรจงสร้างส้วมธรรมชาติ ด้วยตนเอง ใช้กอจากที่หักแล้ว ที่เรียกว่า “พอนจาก” วางเรียงสลับกันระหว่างต้นจากให้สูงพอ หย่อน ก้นได้ แล้วใช้สองมือ เกาะต้นจากเบาๆ เพื่อความกระชับ แล้วนั่งปลดทุกข์ อย่างมีความสุข ท่ามกลางสายลม เย็นๆ

ใครที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ ก็คงจะพอนึกภาพออก เมื่อปลดทุกข์เสร็จแล้ว ก็ใช้น้ำจากลำคลอง ชำระล้างเพื่อความสะอาด ของอวัยวะ นั้น

ยามว่างก็ไปเก็บหอย จากต้นจากหลายๆต้น ก็ได้ หอยจาก เต็มกระป๋องเอามาต้ม กิน เวลากินก็ต้องใช้ เข็มสอยผ้า ค่อยๆเขี่ยเนื้อมันออกมา เพราะหอยจาก ตัวมันเล็ก แต่อร่อยมาก บางทีแม่ก็หา ตัวด้วง จากต้นมะพร้าว มาผัดให้กิน เราชอบกินมันทุกอย่าง

เราเคยหาปลามาให้แม่ โดยวิธีการตกเบ็ด เมื่อฤดูฝน น้ำจะเต็มท้องนา มีต้นกล้า ขึ้น เขียวชอุ่มไปหมด เราออกหาเหยื่อให้ปลา เรียกว่า “ปูสองดอง” ( ปูที่เพิ่งลอกคราบ เสร็จ ) ซึ่งก็คือ ปูนิ่ม แต่เป็น ปูนา ตัวเล็ก

ใช้เบ็ดเกี่ยวที่เนื้อนิ่มของมัน แล้วค่อยๆเดินย่องๆไป แหวกต้นกล้าให้มีพื้นที่ว่าง ประมาณ 1 ตารางฟุต แล้วจึงหย่อนคันเบ็ดยาวๆ ที่มีเหยื่อลงไปเบาๆ ยืนมองนิ่งๆ เงียบๆ เมื่อปลามันมากินเหยื่อ สายเบ็ดจะตึง เราจะกระตุกเบาๆ ด้วยความชำนาญ ก็จะได้ ปลาหมอบ้าง ปลาช่อนบ้าง ปลาดุกบ้าง ดีใจจัง มื้อนี้มีอาหารให้แม่ทำกิน

นอกจากตกเบ็ด หาปลาแล้ว ก็ยังหาปูเป็นอีกด้วย ออกหาปูตามท้องนา, คันนา เจอปูมีก้ามใหญ่ๆ ก็จับหักเอาเฉพาะก้ามปูที่ใหญ่ๆ มาต้มกิน อร่อย

ก็ยังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งนะที่มันขุดรูอยู่ตามหัวคันนาเราต้อง ค่อยๆแหวกกอหญ้า หารูของมัน เมื่อมันดีดตัวออกมาจากรู เราต้องใช้ความว่องไว ตะปบมันให้ได้ จับได้หลายๆตัว ก็เอาไปต้ม หรือผัดกิน ก็ได้ เรียกสัตว์ชนิดนี้ว่า “ กุ้งยิง” เดี๋ยวนี้ มันสูญพันธุ์ ไปแล้ว น่าเสียดาย

เมื่อหน้าฤดูเกี่ยวข้าว แต่ก่อนเขามีการ ลงแขก เกี่ยวข้าวกัน คือ จะมีเพื่อนบ้านหลายๆคน มาช่วยเกี่ยวข้าวให้บ้านเรา เรา และเพื่อนบ้าน ก็จะไปช่วยคนอื่นๆต่อๆกันไป พอตอเที่ยง ก็นั่งล้อมวงกินข้าวกันใต้ต้นไม้

เราก็เกี่ยวข้าวเป็นตั้งแต่เล็กๆ เริ่มโดยใช้มีดอีโต้ ฟันข้าวทีละรวงๆ ต่อมาแม่สอน ให้ใช้ “แกะ” ซึ่งเป็นอุปกรณ์การเกี่ยวข้าว มีใบมีดเล็กๆ คมๆ วางอยู่บนแผ่นไม้เล็กตาม แนวราบ แล้วมีคันวางเป็นแนวตั้ง เวลาใช้ ก็เอาแกนสอดไว้ระหว่างนิ้วนาง และนิ้ว กลาง โดยใช้นิ้วกลางเป็นนิ้วที่ดึงรวงข้าว มาตัดกับใบมีดเล็กๆนั้น ทีละรวงๆ ทุกครั้งที่กระดิกนิ้วนิ้วกลาง เมื่อดึงรวงข้าวเข้าหาใบมีดบนแกะ รวงข้าวก็จะถูกใบมีดเฉือน ทีละรวงๆ

ถ้าทำเร็ว (ชำนาญ) ก็ได้ข้าวมาก ถ้าทำช้าก็ได้น้อย ไม่เหมือนกับการใช้เคียวของทางภาคกลาง ซึ่งจะได้ ทีละมากกว่า

เหล่านี้ เป็นศิลปะการใช้ชีวิต อย่างสร้างสรรค์ ในวัยเด็ก ซึ่งมันจะบ่มเพาะเข้ามาในจิตใจ ส่งผลให้ เป็นเด็กดี มีน้ำใจ จากสภาพธรรมชาติของชีวิต และการเลี้ยงดูด้วยความรัก และ แม่ได้ให้โอกาส ในการช่วยเหลือตนเอง

ขอบคุณแม่จริงๆ



Create Date : 06 ธันวาคม 2549
Last Update : 6 ธันวาคม 2549 12:31:09 น.
Counter : 1061 Pageviews.

10 comments
มื้อนี้เสี่ยอั๋นขอเลี้ยงเอง nokeja
(11 ม.ค. 2568 20:28:46 น.)
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ชัมบาลา : กะว่าก๋า
(11 ม.ค. 2568 05:42:07 น.)
ไฮไลท์ บุนเดสลีก้า มึนเช่นกลัดบัค - บาเยิร์น มิวนิค nokeja
(12 ม.ค. 2568 11:41:09 น.)
รวมธรรม14 นาฬิกาสีชมพู
(12 ม.ค. 2568 07:41:17 น.)
  
พี่เป็นอาจารย์รึปล่าวคะ เขียนบทความอ่านเพลินเลย
โดย: BIG MANGO IP: 124.121.173.249 วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:13:45:33 น.
  
มีสาระมากเลยครับ จะมาอ่านประสบการณ์ชีวิตอีก
โดย: PIWAT วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:15:32:11 น.
  
อ่านแล้วคิดถึงบ้านเลยค่ะ แต่สมัยนี้ความเจริญมันเข้าไปถึงหมดแล้ว
เลยไม่ค่อยมีภาพแบบนี้ให้ดูเท่าไหร่
บ้านย่าสาวเขียนอยู่ปากพนัง เมื่อก่อนต้องนั่งเรือหางยาวเข้าไปเท่านั้น
แต่เดี๋ยวนี้ ถนนถึงหน้าบ้านไปแล้วค่ะ
โดย: สาวเขียน วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:21:20:21 น.
  
บ้านผมอยู่ลานสกา อยากจะไปเที่ยวมั่ง ไปปรือ?
เริ่มต้นจากหน้าเมือง.
ขอบคุณครับ
โดย: ป๋อง IP: 203.107.203.224 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:05:29 น.
  
ไม่ใช่คนคอน แต่ชอบอ่านมากๆ รู้สึกดี และอยากให้ธรรมชาติแบบนั้นคงอยู่กับพวกเราไปนานๆๆๆๆ อยากให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจธรรมชาติ พร้อมใจกันกลับสู่บ้านเกิดไปพัฒนาให้เจริญในแนวทางที่เหมาะสมกับชุมชนจริงๆ
รักบ้านนอก
Ginny
โดย: Ginny IP: 124.121.128.125 วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:59:56 น.
  
เมืองไทยในแต่ก่อนนั่งการทำงานที่ดีของเมืองไทยนั่งคือ ข้าว ที่ให้คนไทยได้กิน
ถาคนไทยไม้ที ข้าวเราคงไม้มีอาชีการทำนาถึงทุกวันนี้ *.*




จากสุรดี ป 6. 3
โรงเรีอนโสมาภานุสสรณ์
โดย: สุรดีหรือเมย์ IP: 124.120.129.163 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:09:12 น.
  
สุขใดเล่าจะเท่ากับอยู่บ้านเรา
โดย: นายหัวครก IP: 125.25.97.161 วันที่: 28 ธันวาคม 2550 เวลา:20:46:31 น.
  
ดี
โดย: ไร้นาม IP: 58.64.114.48 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:19:11 น.
  
คคิดถึงบ้านดอนจิก เชียรใหญ่แปลบๆครับ
โดย: หนุ่มเมืองใต้ วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:19:31:06 น.
  
บ้านฉานเวลาลูกสุกจะออกสีดำ น่ากินคล้ายๆลูกหว้า นึกแล้วอยากกินมากๆ ลูกออกเป็นช่อ ที่แหลงมาทั้งเพ้นทั้งเพ หมันม้ายนิ กินแล้วปากดำเหมือนลูกเบร้ ลูกแสงขัน พร้าวนกคุ้มก้อหวาน หากินยากแล้วทุกวันนี้ ลูกนมควายเวลาสุกเปลือกสีจะออกแดงปนส้มแต่เม็ดมาก คิดถึงอดีตจิงๆ ของกินปลอดสารพิษหมดเลยเนอะ
โดย: ลูกกำซำ IP: 180.180.192.101 วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:39:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Duangta.BlogGang.com

ผมขาว
Location :
สงขลา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด