หนักหนาอีกปี ผ่านมาและดำเนินไปอย่างทุลักทุเล เพิ่งมีเวลา/มีอารมณ์นั่งเขียนบันทึก เพื่อหาวิธีระบายความเหนื่อยใจ ปีนี้เป็นตามที่คาดเดาไว้ว่าน้ำจะท่วมบ้านอีกรอบ ทุกคนในหมู่บ้านเฝ้าระวังกันดีที่สุดแล้ว แต่พนังกั้นน้ำก็ขาดและน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนริมแม่น้ำในที่สุด ระดับน้ำไม่เท่าปีที่แล้ว ระดับความเสียหายไม่เท่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกใจหายและเสียใจยังมากมายพอๆกับปีที่แล้วอยู่ดี แม่พาน้องหมาไปพักที่บ้านเก่าของตาทวดเหมือนปีที่แล้ว แต่ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนแม่ เพราะวันรุ่งขึ้นหลังจากถ่ายภาพบ้านเสร็จ เดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ผลเลือดไม่ดี ได้แอดมิทตามที่เดาไว้ไม่มีผิดอีกเช่นกัน เป็นปีที่รู้สึกท้อมากอีกปี คิดหลายเรื่อง กังวลหลายอย่าง พอต้องเข้าโรงพยาบาล เลยต้องคิดแค่เรื่องรักษาตัวเองตรงหน้า แจ้งข้อมูลหัวหน้างาน แจ้งเพื่อนร่วมงานฝากฝังงานค้าง ทีมแพทย์เดิม แต่ครั้งนี้เซอร์ไพรซ์ที่ตรวจเจอเชื้อราในปอดด้วย แต่อาการกลับไม่รุนแรงอย่างที่เคยเป็น นี่ถือว่าเป็นเรื่องดีอย่างแรก หมอวางแผนรักษาพยาบาลโดยการฉีดแอนตี้ไบโอติก 28 วัน เหมือนเดิม แต่ด้วยเงื่อนไขหลายอย่างจึงต้องขอทีมแพทย์ไปว่าไม่สามารถอยู่รับยาครบคอร์สได้ ต่อรองขออยู่แค่ 14 วัน แพทย์ขอต่อไปอีกหน่อย จึงลงตัวที่ 17 วัน เป็นการรับการรักษาไม่เต็มคอร์สรักษาตามรูปแบบเดิม เพราะรักษาตามคำขอของคนไข้ ในแต่ละวัน นอนมองเพดานโรงพยาบาลและนับวันรอว่าเมื่อไหร่น้ำท่วมจะลดลง นั่งมองมือถือว่าเมื่อไหร่เจ้าหน้าที่ประกันภัยบ้านจะส่งข้อความ/โทรเข้ามา นั่งนึกสภาพว่า ออกจากโรงพยาบาลไปจะใช้ชีวิตให้ถึงปลายเดือนพฤศจิกายนอย่างไร ในสภาพที่ไม่ได้รับเงินเดือนตามปกติ สิทธิ์การลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน ล้วนใช้ไปหมดเกลี้ยงแล้ว สิทธิ์ที่ลาได้คือ ลาแต่ถูกตัดเงินตามจำนวนวันที่ขาด คิดกับตัวเองว่า ก็ยังดีกว่าถูกไล่ออก อย่างน้อยก็ยังมีงานรองรับ อย่างน้อยหัวหน้างานก็เมตตา แล้วสองสามวันต่อมา ก็ทราบข่าวอีกว่า แม่ต้องเข้ารับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เพื่อคัดกรองมะเร็ง อีกสองวันต่อมา มีเรื่องยุ่งยากเกี่ยวกับการเบิกจ่ายยาบางตัวของประกันสังคม มีส่วนต่างค่ายาที่ต้องจ่ายเอง (Linezolid) ทั้งเรื่องตัวเองป่วย ทั้งเรื่องจัดการบ้านหลังน้ำท่วม ทั้งเรื่องแม่ไม่สบาย ทั้งเรื่องงาน เรื่องค่ารักษาพยาบาล มีเรื่องให้คิดมากมายเหมือนปีที่แล้วไม่มีผิด ปัญหาวนมาให้คิดให้แก้ เป็นการแอดมิทที่ทุกข์ทรมานใจอย่างมากอีกครั้ง สังเกตความคิดและอารมณ์ตนเอง พบว่าเป็นแบบเดียวกับทุกครั้ง รู้สึกท้อที่พอทุกอย่างเหมือนกำลังจะดีแล้ว แต่ก็มีเหตุให้ไม่เป็นไปตามที่คาด วนลูปกลับมาตั้งหลักใหม่ เริ่มต้นใหม่ ซ้ำแล้วซ้ำอีก บางทีก็คิดว่าเกิดเป็นตัวเราทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้... อยากลาออกจากการเป็นตัวเอง นอนโรงพยาบาลนับวันออกอย่างเดียว คิดว่าไม่หายก็ช่างเถอะ เอาตามที่ไหว แอดมิท 11 - 28 ตุลาคม แม่ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ 29 ตุลาคม พบแพทย์ติดตามอาการหลังออกโรงพยาบาล 8 พฤศจิกายน แม้แต่ตอนนี้ สภาพจิตใจก็ไม่ค่อยปกติ รู้สึกได้ว่าตนเองเครียด จนต้องหาเวลามาเขียนระบายออก ที่จัดการไปแล้ว 1) ค่ารักษาพยาบาลค่ายาส่วนต่าง ได้แจ้งกับแพทย์ไปแล้วว่า ไม่ขอรับยาที่ต้องจ่ายเงินซื้อเอง ขอใช้แค่ยาตามสิทธิ์ที่เบิกจ่ายได้ก็พอ 2) แม่เข้ารับการตรวจลำไส้ใหญ่แล้ว ผลปกติ เป็นเรื่องที่โล่งใจมาก 3) ทางบริษัทประกันเข้าสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ จ่ายสินไหมให้แค่ 1 หลัง (เฉพาะหลังที่น้ำท่วมถึงในบ้าน) 4) กลับเข้าทำงานเคลียร์งานที่ค้าง เขียนใบลาย้อนหลัง 5) จัดการบริหารเงินตามที่มี สอบถามเพื่อนบางคนเพื่อขอความช่วยเหลือ 6) แจ้งธนาคารขอผ่อนผันหนี้บางส่วน ไม่ประสบความสำเร็จแต่ก็ได้ทำแล้ว 7) แจ้งเจ้าหน้าที่กล้องวงจรปิดมาตรวจสภาพกล้องที่ถูกทำลาย พี่ชายเมาและยิงหนังสติ๊กใส่หน้ากล้องแตก ตัดสินใจว่าจะนำกล้องถ่ายรูป ไอแพด สมาร์ทวอช และมือถือ ออกจำหน่ายเพื่อรวบรวมเงินมาไว้ใช้จ่าย ปรากฎว่าทั้งหมดทั้งมวลนั้น เป็นของตกรุ่นแล้ว ไม่ได้ราคา ที่จะพอขายได้คือ "มือถือ" ที่ต้องคิดหนัก 1 สัปดาห์หลังออกจากโรงพยาบาล ดีที่รุ่นพี่/เพื่อนร่วมงานเลี้ยงข้าว จึงรอดพ้นไปได้สัปดาห์ ยังต้องสู้ต่อไปให้ถึงสิ้นเดือน ก่อนหน้านี้ ขัดสนมาก จนตัดสินใจขายกำไลข้อมือทองคำเก่าของยาย น้ำหนัก 3.6 กรัม กำไลทองโบราณที่ชำรุด (อายุน่าจะ 66-67 ปีที่ถูกเก็บสะสมมา) เคยเอาไปให้ร้านทองซ่อมแต่เขาไม่รับทำให้ จึงเก็บไว้ในกระเป๋าเป็นเครื่องรางประจำตัว แต่เพราะต้องใช้จ่าย เลยต้องขาย ตอนรับเงินน้ำตาไหลอาบหน้าดีที่ใส่แมสก์ปิดคนขายทองเลยมองไม่เห็น ทองเก่าเนื้อดี รนไฟก็ไม่ขึ้นสีเขียว น้ำประสานก็แทบไม่มี ตอนอยู่ที่ร้านยังลังเลว่าจะถอยกลับออกมา แต่ก็คิดเสียว่า ทองมันขาดซ่อมไม่ได้แล้ว.... ยายให้ตอนเรียนปริญญาตรี ยายเป็นคนไม่สะสมทอง มีแค่เส้นนี้ที่ให้ไว้ ได้เงินราวๆ 6500 บาท เป็นสมบัติของยาย ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเสียใจมาก ที่รักษาเอาไว้ไม่ได้ เพื่อนำเงินไปต่อ พรบ. รถยนต์ และใช้จ่ายระหว่างอยู่โรงพยาบาล และระหว่างที่แม่เข้ารับการตรวจลำไส้ใหญ่ และใช้เติมน้ำมันรถกลับไปพบแพทย์เพื่อติดตามอาการหลังออกจากโรงพยาบาล ทุกครั้งที่ใช้เงินออกไป รู้สึกขอบคุณยาย ที่แม้จากไปแล้ว แต่สิ่งที่เหลือให้ยังสามารถช่วยต่อชีวิตลูกหลานได้อีก ต้องลำบากแม่โอนเงินให้ใช้ ถึงแม่บอกเป็นเงินที่ส่งไปให้แต่ละเดือนแม่เก็บเอาไว้ไม่ได้ใช้ รู้สึกละอายใจที่ต้องมาขอแม่แบบนี้ สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ลืมความรู้สึกของช่วงเวลานี้เด็ดขาด ความรู้สึกนี้จะจำเอาไว้ จะไม่ให้พลาดอีกต่อไป... เพราะการใช้จ่ายที่เกินตัว กับการลงทุนที่ไม่มีความรู้ ที่ยังไม่เล่าให้ใครฟัง ได้แต่เก็บเอาไว้กับตัวเอง... จะต้องไม่เกิดปัญหาแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ตั้งใจว่าจะวางแผนรองรับที่รัดกุมกว่านี้... แต่ทั้งนี้ก็ตามสภาพร่างกายที่ไหว สู้ต่อไปตัวเรา เท่าที่ยังไปต่อไหว..
เป็นกำลังใจให้น้องหน่อยค่ะ..
คิดดังเช่นคุณสีเมจิก การได้พูดสิ่งที่คิด ที่ค้างคาในใจ นับเป็นการระบายความอัดอั้นเป็นอย่างดี เคราะห็ซ้ำกำซัดรอบตัว คุณหน่อยที่พื้นฐานจิตใจที่เข้มแข็ง มี หน.งาน และเพื่อนที่ดี เป็นตัวช่วย ภาวนาให้โรคร้ายมลายไปโดยเร็ว ขอปาฎิหารย์ค่ะ โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 พฤศจิกายน 2565 เวลา:18:32:19 น.
ค่อยๆแก้ไปที่ละเรื่องครับ
ชีวิตยังต้องไปต่อ โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 9 พฤศจิกายน 2565 เวลา:23:09:01 น.
ทุกข์และสุขอยู่คู่กับทุกชีวิต
ส่งกำลังใจให้คุณหน่อยผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยดีนะคะ โดย: Sweet_pills วันที่: 11 พฤศจิกายน 2565 เวลา:0:44:05 น.
ต้องผ่านไปได้ค่ะคุณหน่อย
คุณหน่อยนอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ โดย: Sweet_pills วันที่: 12 พฤศจิกายน 2565 เวลา:22:36:38 น.
สวัสดีวันพุธ สวัสดีวันพระ ส่งการบ้าน ตะพาบ 315: รางวัลปลอบใจ ค่ะ โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2565 เวลา:12:29:38 น.
เงินทองของนอกกาย ไม่เป็นรก็หาใหม่ได้ค่ะ
เพิ่งจะทราบว่าเปลี่ยนล็อกอินใหม่ค่ะ โดย: หอมกร วันที่: 29 พฤศจิกายน 2565 เวลา:14:36:17 น.
เรียกคุณหน่อยบ้างดีกว่า
อย่าลืมทำบุญปล่อยสัตว์ปล่อยปลา ขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวรด้วยนะคะ โดย: หอมกร วันที่: 1 ธันวาคม 2565 เวลา:8:20:43 น.
|
บทความทั้งหมด
|
สวัสดีครับคุณหน่อย
เขียนระบายเถอะครับ อย่างน้อยผมก็ได้อ่านที่คุณหน่อยเขียนแล้ว
ชีวิตคนทุกคน มันก็ไม่ได้เรียบง่าย สะดวกสบายไปตลอดนะครับ
ไม่มีใครเลย ที่เกิดมาแล้วไม่มีความทุกข์
ต่อให้รวยระดับเจ้าสัว หรือจนต้องนอนข้างถนน
สุขกับทุกข์มันอยู่ด้วยกันตลอดเวลา
ทุกอย่างมันย่อมมีจุดสิ้นสุด ไม่ได้ดำเนินอยู่ตลอดไป
พายุฝนตกหนักที่ดำเนินอยู่ เดี๋ยวมันก็ต้องสิ้นสุดลง
ยังไงก็ต้องไปต่อ ยังไงก็ต้องไหว
กำลังใจของตัวเราเองเป็นสิ่งสำคัญ
เป็นตัวขับเคลื่อนชีวิตของเราให้เดินต่อไปข้างหน้าครับ
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับคุณหน่อย