ฝรั่งคนหนึ่งที่ชื่อโทเบียส - คนอะไรวะ...ช่าง... (คำเตือน : บล็อกนี้หยาบคายและทุเรศทุรังเล็กน้อยถึงปานกลาง กรุณาปิดต่อมจริตก่อนอ่าน) เรามีเพื่อนฝรั่งค่อนข้างจะหลายคนอยู่ ็จำไม่ได้เหมือนกันว่ารู้จักมันมาจากไหนกันบ้าง (ขออนุญาต เรียกมัน เพราะสนิทกัน เตะตูดกันได้) แต่เอาเข้าจริงๆ ส่วนมากก็มาจากอินเตอร์เน็ตเนี่ยแหละ เป็นเว็บที่แลกข้อมูลท่องเที่ยวกันบ้าง เว็บเกี่ยวกับงานออกแบบบ้าง คุยกันไปคุยกันมา จู่ๆมันแห่กันมาเที่ยวเมืองไทย เราก็เลยต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี คอยพามันเที่ยว (แต่ก็เต็มใจนะ เพราะไม่มีงานทำอยู่แล้วไง แก้เซ็ง บางทีก็หลอกให้เพื่อนถอดรองเท้าก่อนขึ้นรถแท็กซี่ บอกมันว่าคนไทยถือ มันก็ทำ) อาทิตย์ที่ผ่านมา มีมาอีกหนึ่งคน เป็นคนสวีเดน ชื่อ โทเบียส อายุก็เพิ่งจะขึ้นเลข 3 มาหมาดๆ แต่ผมนี่หายไปแล้วเป็นตารางเมตร เลยต้องทำทรงหัวเกรียนซะเลย เพื่อทำลายหลักฐาน ผมบลอนด์อยู่แล้ว โกนไปก็ไม่เห็นหรอกว่าหัวล้าน เคยนวดหัวให้มัน มันบอกว่า "ถ้าแกนวดให้ผมชั้นขึ้นได้นะ ชั้นจะทิปแกอย่างงาม" ไอ้บ้า ต่อให้นวดไปถึงชาติหน้าก็ไม่งอกหรอก งานนี้ขอเผาเพื่อนล้วน ๆ เพราะเมื่อวานมันทำเราโมโหมาก ในรอบหลายๆ เดือนที่ผ่านมา โทเบียสเป็นคนง่าย ๆ บางทีออกจะง่ายเกินไป และมันเป็นคนขี้ลืมมาก ถึงมากที่สุด และผูกมิตรกับคนได้เร็วมากจนน่าเป็นห่วง เช่น มีอยู่วันนึง มันต้องไปทำเลสิค ที่ รพ. วิภาวดี มันก็ไปของมันเอง ดุ่ยๆ ขณะยืนพลิกแผนที่ไปมา งงๆ ว่ากรูอยู่ไหนนั้น ก็มีสาวไทยหัวใจเกินร้อย เดินเข้ามาคุยเพื่อที่จะช่วยเหลือ ไอ้ช่วยไม่ช่วยเปล่า เธอ(สองคน) ช่วยเสร็จแล้ว ยังตามไปมันโรงพยาบาล ไปนั่งรอมันคุยกะหมอเสร็จอีกต่างหาก ถึงตอนนี้ ฝรั่งมันคงจะงง ว่าที่เมืองไทยนี่ เรื่องแบบนี้มันคงเป็นเรื่องปรกติมั้ง? อะไรวะ ยืนอยู่ดี ๆ ก็มีคนมาคุยด้วยแถมตามไปนู่นไปนี่หน้าตาเฉย มันก็เสือกยอมให้เค้าไปด้วยซะงั้น.. พอเย็นๆ มันก็กลับมานอนแถวถนนข้าวสารเหมือนเดิม (ถามว่าทำไมต้องไปนอนแถวนั้นด้วย มันบอก ก็ไม่รู้ว่ามีที่ไหนอีก ก็ตามๆเค้าไป) เย็นนั้นเราเลยแห่ไปกินข้าวเย็นกัน โดยมีเพื่อนชาวสวีเดนของเราอีก 2 คนกับแฟนคนไทยอีกคนไปด้วยกัน คืนนั้นเมากันปลิ้น เมาชนิดที่ว่า ไปซื้อฮอทด็อกที่เซเว่น ทำหล่นพื้นแล้วก็ยังกิน (แหวะ) ไปจบลงที่เราไปอ้วกแตกอยู่ที่ห้องมันจนถึง ตี 3 กว่าๆ เห็นจะได้ มันก็ดีใจหาย เอาอ้วกเราไปเทให้ด้วย (แหวะะะะ) บอกแล้วว่ากระทู้นี้ทุเรศ ...5555 แต่หลังจากนั้นมันก็เลยทำให้เราสนิทกันไปโดยปริยาย แต่มันก็ตามมาด้วยพฤติกรรมน่ารำคาญของเพื่อน ที่เรารับไม่ค่อยจะได้ เช่น เป็นคนไม่ตรงเวลา (อย่างมาก) และเป็นคนที่ติดโทรศัพท์มือถือ "ตลอดเวลา" บางทีเราคุยๆอะไรอยู่ ปิ๊บๆ ปิ๊บๆ มาแล้ว โทสับมัน.. วันละ 800 รอบ เราก็อ้าปากค้าง อ่าาาาาาาาาาาา เมื่อกี๊กรูคุยไรอยู่วะ ลืมแล้ว แล้วโทเบียสเป็นฝรั่งที่หลงทางง่ายอย่างไม่น่าให้อภัย เช่น นั่งใช้เน็ตอยู่ซอย ซูซี่ บอกว่าเสร็จแล้ว ให้ไปเจอที่เบอร์เกอร์คิง มันก็ออกมาแล้วเดินเลี้ยวไปทาง สน. ชนะสงคราม เพราะคิดว่า มันเดินๆไป เดี๋ยวก็คงทะลุไปถึงเบอร์เกอร์คิงเอง รู้ตัวอีกที ไปยืนอยู่ท่าพระอาทิตย์ แบบนี้เป็นต้น แถมบอกมันแล้วว่า "อย่า" ไปพัทยา ยิ่งไปคนเดียว เดี๋ยวก็โดนกะเทยควายก็คาบไปแด็ก มันก็มีหน้าส่ง SMS มาบอกว่า "รู้ๆๆๆ ว่าเตือนแล้วแต่อยากรู้ว่ามันเป็นไง ตอนนี้อยู่บนรถไปพัทยา" เออ เรื่องของมรึง จะไปไหนก็ไป แล้วอย่ามาหาว่าไม่เตือนละกัน เช้าวันต่อมา มันมาจริงๆ มาเล่าว่า ไปกินข้าวแล้ววางมือถือไว้แป๊บเดียว หายไปแล้ว!! มันเลยไปหาตำรวจท่องเที่ยว แจ้งโทรศัพท์หาย ตำรวจทำหน้าเอือมๆ แล้วหายไปพักใหญ่ พร้อมกลับมา พร้อมโทรศัพท์ของโทเบียส สร้างความงุนงงให้แก่เพื่อนเราเป็นอย่างมาก "ก็เค้าบอกว่า รู้ละว่าใครเอาไป แค่เนี้ยแล้วเค้าก็เอามาคืน แต่.. ไม่เห็นจับคนที่หยิบไปเลยอ่ะ" "แล้วพัทยาเป็นไงล่ะ" "ก็รอดชีวิตมาได้" ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย.... ยัง มันยังไม่จบ นิสัยขี้ลืมและ ไม่หือไม่อือของโทเบียส วันก่อนมันตามเราไปศูนย์ออกแบบด้วย เราก็นั่งหาข้อมูลไป มันก็นั่งใช้เน็ตไป เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โน้น เที่ยงคืน มันโทรมา เสียงแบบหมาปวดขี้ ถามว่า "แกเห็นกล้องชั้นมั้ยวะ?" เราก็อะนะ ก็เห็นวางอยู่บนโต๊ะ ตอนใช้เน็ตที่ศุนย์ไง อย่าบอกนะว่าลืม ปรากฎว่ามันลืมจริงๆ เราฟังแล้วก็เซ็งแทน เลยสัญญาว่า 10 โมงเช้า ตอนศูนย์เปิดเราจะโทรไปเช็คให้ เช้ามาเราโทรไปเช็ค ศูนย์ก็ดีใจหาย บอกว่าจะเช็คให้ถ้าเจอจะโทรไปบอก ก็เจอจริงๆ เค้าก็โทรเข้ามาให้ไปรับ เราเลย sms ไปบอกโทเบียส ว่าให้เข้าไปเอา แต่มันดันติดนัดหมอ เราเลย โอเคๆ เดี๋ยวกรูไปเอาให้ก็ได้วะ อยากจะบอกว่า บ้านเราอยู่ปิ่นเกล้า ศูนย์ออกแบบอยู่เอ็มโพเรียม เราต้องถ่อไปเพราะความขี้ลืมของเพื่อน ระหว่างเดินทางไป ก็ด่ามันไปในใจตลอด ได้กล้องมาแล้วยังต้องนัดมันมาเอาอีก บอกว่างั้นไปเจอที่เบอร์เกอร์คิง ข้าวสารเหมือนเดิมละกัน อย่าเสือกหลงอีกล่ะ มันก็โอเคๆๆๆ ได้ๆๆ ขอบใจยูมากนะ แกน่ารักที่สุดในโลก ฯลฯ เราไปนั่งแกร่วอยู่เบอร์เกอร์คิง มันก็อยู่ข้าวสารแล้ว แต่ส่งข้อความมาบอกว่า กำลังซื้อของอยู่ รอแป๊บบบบนึงนะ แป๊บบ้านมันน่ะ ชั่วโมงนึง อยากจะด่ามันเป็นภาษาสวีเดน แต่พูดไม่เป็น เจ็บใจ เรานั่งอยู่ชั้นสอง เห็นเพื่อนเดินหัวโล้นเสื้อเขียวมาแต่ไกล ก็ยังแบบ อ้าว มาถึงแล้วนี่ นึกว่าไปตายที่ไหน แต่พอมันกำลังจะข้ามถนน มันก็หยุด!! แล้วเดินหันหลังกลับไปทางเดิม!! (คิดว่าคงไปกด ATM) แต่เรานั่งมองอยู่ด้วยความอึ้ง มันเดินไกลออกไป..ไกลออกไป...ไกลออกไป... จนหายไปฝูงฝรั่งบนถนนข้าวสาร!! ตอนนั้นขันติเป็นขันแตกแล้ว ไอ้คว๊ายยยยย เรานะถ่อจากปิ่นเกล้า ไปพร้อมพงศ์ ไปเอากล้องกลับมาให้ พอมาถึง ยังมาให้เรานั่งรออีกชั่วโมงนึง แถมมาถึงแล้ว ยังเสือกเดินย้อนกลับไป ไปไหนก็ไม่โทรมาบอก เราก็ไม่ชอบโทรจิกใครด้วย เพราะถ้ารู้ตัวเองว่าจะผิดนัด ก็ควรจะเป็นฝ่ายโทร ไม่ใช่ให้เราโทรตาม เป็นคนงี่เง่าแบบนั้น เราไม่ทำหรอก แค่นั้นแหละ เราขึ้นแท็กซี่กลับบ้านเลย แล้วส่ง SMS ไปบอกว่า "เอ่ย กรูกลับบ้านแล้วนะ ไม่รอแล้ว" ทีนี้แหละ ตาลีตาเหลือกโทรมา ว่า เฮ้ย ไปไหนวะ ตกลงจะเจอที่ไหน มาดิๆๆ เนี่ยรออยู่หน้าเบอร์เกอร์คิงแล้ว ไม่ต้องมาคง มาคิงแล้ว กรูจะกลับบ้านนนนนนนนนน... แถมเราก็บอกมันแล้ว ว่าวันนี้ถ้าจะใช้คอมเรา(โทเบียส เป็นนักเขียนอิสระ เขียนบทความส่งหนังสือ) ก็ให้รีบมา แล้วรีบๆเขียนให้เสร็จซะ มันก็ดันพาเพื่อนมาด้วย เพื่อนที่เรา ไม่รู้จักมักจี่เป็นการส่วนตัว เคยเจอกันผิวๆ แค่วันเดียวเท่านั้น (วันที่มันไปจองตั๋วรถไฟ เพื่อนคนนี้ของมันก็อยู่ด้วย) แล้วจู่ ๆ ดันจะพาเพื่อนมันมา "บ้านเรา" เนี่ยนะ อย่าหาว่าเราใจแคบเลย แต่บ้านเรานะ ไม่ใช่สยามพารากอน จะได้เดินดุ่มๆ กันเข้ามา คอมก็อยู่ในห้องนอนเรา เราต้องปล่อยให้มันใช้คนเดียวอยู่แล้ว แล้วเราจะนั่งดูทีวีรอ อยู่ข้างล่าง แล้วถ้ามันเอาเพื่อนมาด้วย ให้เรานั่งมองหน้าเพื่อนมันตาปริบ ๆ แบบ เอ่อ อ่า หวัดดี เราคุยอะไรกันดี.. บ้า ใครจะอยากทำวะ จะมาไม่ว่า บอกล่วงหน้า ตามวิสัยคนที่มีมารยาทเค้าทำกันซะหน่อย มันไม่น่าจะยากเย็นอะไร ที่เรางงคือเพื่อนคนไทยของมัีนเนี่ย ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้างเลย? ที่อยู่ ๆ ก็ตามมันมาไปบ้านเพื่อน (ที่ตัวเองก็ไม่รู้จัก) แต่กรูจะไป มีอะไรมั้ย เราเลยบอก งั้นไปเจอกันทุ่มนึงเลยละกัน ตอนนี้ ไม่มีอารมณ์อยากเห็นหน้าเอ็งเลยให้ตายเหอะ.. ไว้เย็นๆ กรูพาไปร้องคาราโอเกะละกัน ตอนนี้อยากอยู่คนเดียว สงบสติอารมณ์ เลยจบลง ด้วยการไปแหกปากร้องคาราโอเกะกัน ที่สยามดิส (ซะงั้น) เพื่อนมันก็ยังอยู่ด้วยนะ เราไม่ได้ไม่ชอบเค้าหรืออะไร (ตราบใดที่ไม่จู่ๆก็โผล่มาบ้านเรา) แต่ประทานโท๊ดดด เพลงที่เธอเลือกแต่ละเพลง ชั๊บ ชั๊บ ชั๊บ ของเจมส์เงี๊ยะ ฟังแล้วอยากจะลาบวชตลอดชีวิต เกิดมาไม่เคยคิดว่าจะมีใครเลือกเพลงนี้ร้องในคาราโอเกะ ในปี 2549 จะร้อง มิสเตอร์ดี ไปเลยยังไม่เคืองเท่า ชั๊บ ชั๊บ ชั๊บ โอ่ย ทำไมวีรกรรมมันมากมายแบบนี้นะ ถ้ายังไม่เบื่อก็อ่านต่อไป เพราะมันยังไม่จบ วันนี้โทเบียสมีโปรแกรมจะไปเชียงใหม่ (หลังจากที่เราบอกว่าให้จองตั๋วล่วงหน้าซัก 1 อาทิตย์ เพราะรถไฟไปเชียงใหม่ มักจะเต็ม) มันก็ไม่จอง... พอไปจองก็เต็มอย่างที่เราว่า ก็เลยต้องไปชั้น 2 วันเสาร์เช้า พอแยกย้ายจากคาราโอเกะ เราเลยส่ง sms ไปบอกว่า ไปถึงเชียงใหม่แล้ว นั่งรถแดง 15 บาท (อย่าเสือกจ่ายมากกว่านั้นล่ะ) ไปแถวๆท่าแพก็ได้ แล้วไปเดินหาที่พักเอา กับข้อมูลจำเป็นอีกนิดหน่อย (มันเล่นมาเมืองไทย ไม่มีไกด์บุ๊คไม่มีอะไรเลย เชียงใหม่ มีอะไรก็ไม่รู้ ได้ยินแต่ชื่อ คนเค้าไปกันก็เลยไปบ้าง) มันก็ตอบกลับมาว่า โอ ขอบคุณมากๆๆๆ ใช่เลย ข้อมูลที่ต้องการ เราก็ เออ เที่ยวให้หนุกละกัน ซักเที่ยงคืน(อีกแล้ว!) มันส่ง sms มาอีก บอกว่า "เฮ้ย โทดที พอดีเราไปเผลอ ลบข้อความตะกี๊เข้า ช่วยส่งมาใหม่ได้ไหม นะจ๊ะๆๆๆ" ยังดีที่มันยังอยู่ใน sent messages เราก็เลยส่งไปอีกรอบ เช้ามา 8 โมง (ธรรมดาเราจะตื่นสายมาก ประมาณ 10 โมง) มีเบอร์อะไรไม่รู้ ไม่คุ้น โทรเข้ามา "ฮะโหล" "เฮ้ยยยยย ชั้นเองนะ" "ใครวะ?" "โทเบียส" "อ้าว แล้วเบอร์โทรเป็นไรไปอะ?" "อ๋อ แหะๆๆๆ" "ไร บอกมาเลย ไม่ต้องมาแหะ" "ก็..เราลืมโทรศัพท์ไว้บ้านเพื่อนอ่ะ" "โห.. โทเบียส..นี่มันโคตรมรึงเลยนะ ไม่ทำของหายก็ลืม ไม่ลืมก็หลงทาง ไม่หลงทางก็ผิดนัดเนี่ย.." "เออ รู้ๆ ชั้นมันเลวววว...แต่...คืออออ.." "เออ.. อะไร" "คือว่าช่วยบอกข้อมูล เชียงใหม่อีกทีได้มะ อีกครึ่งชั่วโมงชั้นจะขึ้นรถแล้วอ่ะ" เราฟังแล้วเครียกแด่ก อยากจะโกรธมันแต่ก็ไม่รู้จะโกรธเรื่องอะไรแล้ว หมดมุข ... แวะมาเยี่ยม บังเอิญเห็นblogพี่ผึ้งอ่า
น่ารักดีจ้า ไว้มีโอกาสจามาแอบอ่านน้า ปล. PddYคือคนที่ไปดูโหมโรงกะเจ๊อ่า โดย: PddY IP: 141.155.116.122 วันที่: 9 มีนาคม 2549 เวลา:0:48:45 น.
หุหุ เขียนซะแบบว่าเห็นภาพเลยค่ะ
โดย: ss IP: 58.10.80.106 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:13:53:40 น.
ตามมาเรื่อยๆจากทั้งพันทิป ทั้ง TKT
เขียนสนุกดีนะคะ :) โดย: [4]P IP: 124.157.244.57 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:52:30 น.
สาธุ...
ดีแล้วที่ไม่รู้ว่าเราอยู่เชียงใหม่ ฮ่า...กลัวได้เป็นเพื่อนจัง อีตาคนนี้ โดย: นราเกตต์ วันที่: 16 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:28:58 น.
คุณเป็นเพื่อนที่เยี่ยมยอดมาก
โดย: วันวันบ้านนอก IP: 110.164.233.72 วันที่: 12 ตุลาคม 2558 เวลา:9:54:23 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ถ้าเป็นเรา เลิกคบกับมันตั้งแต่ครั้งแรกที่มันผิดนัดแล้วละ
มันเป็นฝรั่งอะป่าว เรื่องผิดนัดเนี่ยสำคัญเชียวละ