พาท่านสู่เปอร์โตริโก้ กับนิภาภัทร สุดศิริ บทความบันทึกความทรงจำในขณะเข้าร่วมประกวด "นางงามจักรวาล 1972" เมื่อเดือน กรกฎาคม 2515 ณ ประเทศเปอร์โต ริโก้ จากปลายปากกาของ นิภาภัทร สุดศิริ นางสาวไทย 2514 ![]() อีกไม่กี่นาทีเครื่องบินที่เรานั่งกันมาจากนิวยอร์คเมื่อ 3 ชั่วโมงครึ่งที่แล้ว ก็จะร่อนลงสู่สนามบินเปอร์โต ริโก้ มองลงไปเบื้องล่างรู้สึกว่าสวยซึ้งเอาการทีเดียวค่ะ แม้บรรยากาศและธรรมชาติจะมีลักษณะแบบเมืองร้อนอย่างบ้านเรา แต่เล็กก็รู้สึกเย็นตาและสบายอารมณ์อย่างประหลาดเหมือนเวลาที่เครื่องของการบินไทยจะลงที่กัฑมัณฑุ ประเทศเนปาล ทั้ง ๆ ที่ภูมิภาพข้างล่างผิดกันลิบลับ คือเป็นความแตกต่างระหว่างความเขียวชอุ่มของแมกไม้และน้ำทะเลสีเข้มกับความขาวโพลนของหิมะ และเทือกเขาหิมาลัยที่ดูมหึมาน่ากลัว (แต่ทว่าโรเมนติคดี) เล็กเองไม่ค่อยจะได้ไปเที่ยวที่ไหน จึงไม่ทราบว่าจะเปรียบเทียบอย่างไรดี ท่านผู้อ่านจึงจะเกิดภาพพจน์และมีความรู้สึกตามเล็กไปด้วย แม้อาชีพแอร์โฮสเตรสจะทำให้ต้องเดินทางอยู่บ่อย ๆ ก็ตาม แต่ส่วนมากก็มักจะเป็นไปอย่างฉาบฉวยและเป็นงานเป็นการเสียทั้งสิ้น ![]() เครื่องบินสายอีสเทอร์นแอร์ไลน์นี้เป็นแบบใหม่เอี่ยมคือ L-1101 ใหญ่เกือบเท่าจัมโบ้ 747 ความจริงภายในกว้างเท่าทุกอย่าง แต่ไม่มีบันได้ขึ้นข้างบนชั้น 2 เท่านั้นเองค่ะ ข้างหน้ามีที่ให้นั่งดื่มและเล่นไพ่ก็ได้ บินเรียบดีมาก และอีกไม่กี่นาทีนี้ความโกลาหล และความชุลมุนวุ่นวายอย่างขนาดใหญ่ ก็คงจะเกิดขึ้นอีก ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ารายการที่นี่เป็นอย่างไร แต่ก็เชื่อแน่ได้เลยว่าจะต้องแน่นเปรี๊ยะ จนแทบจะหาเวลาหายใจและเป็นตัวของตัวเองบ้างไม่ได้เลยทีเดียว ... ที่สนามบินอากาศร้อนแบบบ้านเราเลยค่ะ เท่าที่ฟังเขาเล่ารู้สึกว่าอากาศตลอดทั้งปีโดนเฉลั้ยจะตกอยู่ในราว 25 - 26 องศาเซ็นติเกรด หน้าหนาวซึ่งอยู่ระหว่างเดือนมกรา - กุมภา มีอุณหภูมิต่ำสุดราว 22 องศาเซ็นติเกรด และหน้าร้อนซึ่วร้อนจัดมากในเดือนสิงหา - กันยา อุณหภูมิจะสูงแค่ราว 27 องศาเท่านั้น นับว่าเย็นสบายกว่าบ้านเราหน่อย คงจะเพราะมีลมทะเลพัดอยู่เรื่อยก็ได้ ![]() ที่สนามบิน - ห้องวีไอพี มีตำรวจคุ้มกันหนาแน่น นั่งรถผ่านตัวเมืองซานฮวน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเปอร์โต ริโก้ ไปยังหาดโดราโด้นานเกือบ 1 ชั่วโมง พอถึงโฮเต็ลก็เห็นตำรวจในและนอกเครื่องแบบเต็มไปหมดแถวที่ตามระเบียง และหน้าห้องก็ยืนกันอยู่เป็นระยะ ๆ ด้วย ตอนกลางคืนใครเปิดประตูออกมาเขาก็จะส่องไฟฉายถามทันที ก่อนเข้าห้องเขาก็เลิกเตียงขึ้นดู เขาจัดให้เล็กพักอยู่ห้อง 595 คู่กับนางสาวญี่ปุ่น ครั้งแรกเล็กก็ดีใจคิดว่าโชคดีเพราะคุณซาโกะเธอคุยกับเล็กสนุกดีและนิสัยก็ไปกันได้ค่ะ แต่พอเขาให้ตำรวจหญิงมานั่งอยู่ด้วยตลอดเวลา เล็กถึงได้นึกออกว่า มันอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ง่าย ๆ ถ้าชาวเปอร์โตริกันยังไม่หายโมโหญี่ปุ่นที่ยิงพวกเขาตายไปสิบกว่าคน ที่สนามบินเทลาวีฟ เมืองยิวโน่น แล้วคิดจะมาแก้แค้นเอาตอนนี้ แต่ก็ไม่ค่อยกลัวนักหรอกค่ะ เพราะเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เล็กเคารพบูชาอยู่เสมอที่เมืองไทย และนำติดตัวมาด้วยบ้างนั้น คงจะช่วยคุ้มครองป้องกันภัยให้เล็กได้บ้าง อาใหญ่ ... เอ้อ ! ... อาจารย์เกสรี บุลสุข ผู้ปกครองของเล็กอยู่ห้อง 562 คนละปีกของโฮเต็ลเลยทีเดียว โฮเต็ลเซอร์โรม่า บีช เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้เอง ดูเหมือนจะใหญ่โตกว่าเพื่อน สูง 7 ชั้น ปีกแต่ละข้างยาวมาก เพื่อให้รับลมได้เต็มที่ นี่ถ้าเล็กต้องมาคนเดียวคงแย่เลย อาจารย์เก่งไปหมดทุกอย่าง และกรุณาต่อเล็กมากเหลือเกิน ถ้าทำอะไรแทนเล็กได้เป็นทำให้ บุญคุณครั้งนี้และเท่าที่แล้ว ๆ มา เล็กคงไม่มีวันตอบแทนได้หมด ความจริงก็ค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัวของเล็กเองมากกว่า แต่ก็อยากจะเล่าไว้ด้วยเหมือนกัน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เล็กริอ่านเขียนหนังสือก็เลยอยากจะบันทึกไว้สักหน่อยน่ะค่ะ การเขียนของเล็กครั้งนี้ คงจะกระโดดไปกระโดดมา และหาสาระไม่ค่อยได้เพราะเล็กไม่ค่อยถนัดนัก แต่ก็จะพยายาม เห็นคุณตุ๋ม แสงเดือน แม้นวงศ์ เขียนลงในสูจิบัตรฉบับที่แล้ว สนุกดี พอถูกชักชวน ก็เลยรู้สึกเป็นเกียรติจนไม่กล้าปฏิเสธ ทั้ง ๆ ที่เดาเอาไว้แล้วว่า คงจะหาเวลาว่างได้ยาก แต่ก็จะพยายามนะคะ เมื่อตอนอยู่ที่สนามบินดอนเมือง เล็กคิดไม่ถึงว่าจะมีใครต่อใครไปส่งกันมากมายอย่างนั้น ตื้นตันใจจนไม่อยากจากไป อยากจะคุยและนั่งอยู่ด้วยกับทุก ๆ คนไปอีกนาน ๆ มาค่อยหายตื่นเต้นเอาบนเครื่องบินตอนง่วงนอนนั่นแหละค่ะ สายการบินซาเบน่าของเบลเยี่ยมบริการดีมาก รุ่งขึ้นยังเอาหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวเล็ก และรูปที่ "บ้านเมือง" ถ่ายไว้ ไปให้ถึงโรงแรมเมโทรโพลอีกด้วย ที่บรัสเซลล์ส สองวันแรกอาจารย์เกสรีพาเล็กไปเที่ยวนิด ๆ หน่อย ๆ เพราะคนอื่นเขายังไม่มา อาจารย์พูดภาษาฝรั่งเศสได้ปร๋อ เล็กก็เลยสบายมากค่ะ วันที่เราไปถึงบรัสเซลล์สนั้น เพิ่ง 6 โมงเช้า ก่อนเวลาตั้ง 40 นาที สนามบินว่าง แดดออกแจ่มใสเป็นครั้งแรก หลังจากที่ฝนโปรยเบลเยี่ยมมาติด ๆ กันเป็นอาทิตย์ ๆ ![]() สองวันแรกที่ฟรีนี้ เจ้าหน้าที่ SAS ซึ่งการบินไทยฝากฝังมา ดูแลเราเป็นอย่างดี พอวันที่ 14 เมอร์ซิเออร์ คล้อด แบรร์ ผู้แทนบริษัทมิสยูนิเวิร์สประจำยุโรป ก็มาจากปารีส ตอนนี้มีนางงามอยู่ด้วยกัน 4 ชาติ คือ เบลเยี่ยม อิสราเอล เยอรมัน และไทยแลนด์ นางงามอิสราเอลลงมาแนะนำตัวกับเล็กก่อน เพราะเธอมาคนเดียวจึงอยากได้เพื่อน เธอพูดได้แต่ภาษาฮิบบรู และอังกฤษนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอดีกับเล็กล่ะค่ะ งู ๆ ปลา ๆ สนุกดี หน้าตาเธอคล้าย เจน ฟอนด้า เธอเล่าว่าเป็นทหารอิสราเอลด้วย แต่จะแต่งหน้าเท่าไหร่ก็ได้ อาจารย์เกสรีถามเธอว่าต้องยิงปืนด้วยไหม เธอตอบว่าต้องฝึกทั้งนั้น แต่คงไม่ต้องใช้ ... ดีนะคะ เป็นทหารยังไปประกวดนางงามได้ ที่บรัสเซลล์สนั้น นายกเทศมนตรีเชิญเลี้ยงที่ Grand Place ซึ่งเป็นจตุรัสสวยที่สุดในบรัสเซลล์ส เป็นวังเดิมของกษัตริย์และของดยุคแห่งบราบรังท์ กลางวันนัยว่าติดตลาดด้วยแต่คงจะสะอาดแน่ ๆ ที่โต๊ะอาหารโต๊ะเดียวกับเรามีนางงามอิรัคและเตอร์กีร่วมด้วย ทั้ง 2 คนนี้รับประทานแต่ผลไม้ เพราะรายการอาหารที่เลี้ยงมีใส้กรอกต่าง ๆ แบบจานเย็น (ของยุโรปนะคะ ไม่ใช่อย่างของจีน) เขากลัวมีหมูเลยไม่ยอมกิน พวกนี้แต่ละคนสูบบุหรี่กันคนละมาก ๆ ทั้งนั้น คนหนึ่งผมบรอนด์ตาสีฟ้า แต่ทำไมอุตริเมคอัพแบบใหม่ คือ เอาดินสอทำจุดให้เหมือนหน้าตกกระแถว ๆ แก้มและดั้งจมูกก็ไม่ทราบค่ะ บนเครื่องบินซาเบน่า จากบรัสเซลล์สไปนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 16 นั้น คณะนางงามนั่งข้างหน้าติดกับห้องโดยสารชั้น 1 อาจารย์เกสรีและเล็กนั่งอยู่แถวหลังสุด นางงามกรีซหน้าคลาสสิคมาก เป็นดาราภาพยนตร์อยู่แล้ว เธอบอกว่าสนุกดีที่ได้ไปประกวดอีก มิสอินเดียเหมือนดาราหนังแขก นางงามบางคนผมแดงตาสีเขียวสด ดูแล้วรู้สึกว่ามีเสน่ห์ดีเหมือนกัน มิสโปรตุเกสมีพี่เลี้ยง 2 คนและโอ๋กันมาก วันนี้ก่อนขึ้นเครื่องบินนางงาม 2 คน เอาตั๋วไปใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าต้องไปค้นหากันที่สนามบินวุ่นไปหมด อีกคนหนึ่งทำพาสปอร์ตตกที่เก้าอี้รถบัสแล้วนึกว่าหาย หัวใจจะวายไปตาม ๆ กันเลยค่ะ ![]() ระหว่างบินอยู่เหนือลอนดอน นางงามอังกฤษร้องเล่น ๆ ว่า "ขอลงหน่อยได้ไหม ?" แล้วก็มีอีกนางงามหนึ่งจากประเทศอาหรับ อยากจะสูบบุหรี่ แต่ไม่มีไฟจุด หันไปขอไฟแช็กจากอาจารย์เกสรี ซึ่งก็ไม่มี อาจารย์หันไปจะขออีกข้างให้ ซึ่งปรากฏว่าเป็นมิสอิสราเอลก็เลยต้องงดความตั้งใจ นางงามจากยุโรปคนหนึ่งเห็นเข้าก็เลยเดินเอามาให้คุณอาหรับ แล้วแอบคุยจี้เส้นกับอาจารย์เกสรี เพราะเห็นหัวเราะกันใหญ่ เล็กอยากหัวเราะบ้าง ถามอาจารย์ก็ไม่ยอมเล่าให้ฟัง อาจารย์ซื้อไวน์แจกพวกนางงามนิด ๆ หน่อย ๆ ตามประสาคนไทยใจดี ทำเอาพวกนั้นชอบใจใหญ่ พอถึงนิวยอร์คเขาให้อาจารย์ช่วยเป็นผู้ปกครองดูแลนางงามชาติอื่น ๆ ด้วย ก็เลยไม่มีใครแข็งข้ออันใด พลอยทำให้เล็กได้รับบารมีดี ๆ แถมไปด้วย ที่นิวยอร์ค พักที่โรงแรมฮิลตั้น เขาเกณฑ์ให้สวมชุดอาบน้ำขึ้นไปถ่ายรูปบนดาดฟ้าแล้วก็ให้เล็กทำท่าถ่ายรูปให้เพื่อนนางงาม เล็กไม่อยากทำแต่ก็ต้องจำใจ เพราะในลักษณะอย่างนั้น ระวังท่าทางของตัวเองได้ลำบาก ![]() ที่นิวยอร์คนี้มีนางงามตามมาสมทบอีกหลายชาติ ของเกาหลีสวยดีแต่หน้ามีสิว ฟิลิปปินส์และเกาะกวมสวยแต่สูงไม่ถึง 170 เมื่อคืนวันที่ไปถึงซานฮวน นางงามคนหนึ่งไปคุยกับอาจารย์เกสรีว่า ถ้านางงามคนไหนได้ความนิยมจากหนังสือพิมพ์มาก นางงามคนนั้นมักพลาดจากตำแหน่งชนะเลิศ เธอติดตามไปดูมาหลายแห่งแล้วทั้ง Miss World, Miss International, Miss Universe และ Miss Europe (ตำแหน่งนางงามยุโรปนี้พอได้แล้ว จะไปประกวดที่อื่นอีกไม่ได้เลย) วันที่ 21 ตอนเช้าถ่าย Video Tape ของ ที.วี.สีค่ะ จนเที่ยงยังไม่เสร็จถ่ายต่อไม่ได้ เพราะฝนเกิดตกหนัก ทั้ง ๆ ที่เขาโม้ว่าเปอร์โต ริโก้ ของเขานี้แดดออกปีละ 360 วัน ตอนบ่ายจึงเป็นรายการนำเที่ยว นางงามอเมริกาชวนเล็กบินไปกับเขาด้วยรวมแล้วราว 20 กว่าคน พวกที่นั่งรถก็ไปแค่ใกล้ ๆ ตอนกลางคืนคณะนางงามอเมริกาใต้มาร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วย เขาสวยสะดุดตาทั้งนั้น ![]() คืนนี้มีการบอกวิธีการประกวดด้วยค่ะ พวกที่ไม่มีพี่เลี้ยงของตัวเองไปด้วยเขาน่าสงสารมาก บ่นว่าไม่อยากออกจากห้องไปไหนเลย สำหรับเล็กนั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเวลาเลย แต่ที่เขียนบันทึกนี้ก็เพราะรับปากไว้แล้วก็ต้องยอมอดนอนเอาหน่อย แต่ก็ไม่มีปัญญาและเวลาไปหารูปสวย ๆ ส่งมาประกอบเรื่องมากกว่านี้ นางงามบางคนคงเหนื่อยมากขณะรอถ่ายรูป ถ่ายที.วี. ถึงกับต้องเอาผ้าปูนอนกันในเต้นท์กลางสนาม ![]() เช้าวันที่ 22 ในการใส่ชุดอาบน้ำโชว์นั้น เล็กใช้ร่มสีส้มที่อาจารย์ ดร.นิพนธ์ ศศิธร หัวหน้าทีมฝ่ายงานคนโสดมอบให้เป็นของขวัญ กางบังแดดและโชว์ร่มไปในตัวด้วย แบบที่คุณอาภัสราเคยทำ แต่ชุดอาบน้ำสีมันไม่ค่อยเข้ากันหน่อย เดิมทีเขาว่าจะให้ทุกคนใส่สีขาวหมด พอมาถึงจริง ๆ ปรากฏว่ามี 2 สี และของเล็กได้สีชมพูแบบสีดอกชมพู่ค่ะ ตั้งแต่ออกจากกรุงเทพ ฯ มา ไม่ว่าจะแวะพักที่ไหน Pepsi ส่งดอกไม้สวย ๆ แพง ๆ ช่อเบ้อเร่อรออยู่ก่อนในห้องทั้งของอาจารย์เกสรีและของเล็กเสมอ แต่ออกไปพบหรือเข้ามาพบไม่ได้เลย ทางบริษัทประกวด ฯ เขาเข้มงวดมากค่ะ พี่เลี้ยงประจำของเล็กชื่อ บาร์บาร่า ดาบร็อพสกี้ เป็นอเมริกันอยู่ที่เปอร์โต ริโก้ นิสัยดีมาก เธอต้องดูแลนางงามญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์ด้วยค่ะ ผู้ประกวดจะดื่มอะไรที่มีแอลกอฮอล์ไม่ได้และจะไปไหนโดยไม่มีพี่เลี้ยงก็ไม่ได้ แม้จะไปห้องน้ำ (ตอนอยู่ที่สนามบินน่ะค่ะ) ดูสมุดรายการที่เขาแจกมาให้แล้ว ก็รู้สึกว่าจะต้องเหน็ดเหนื่อยกันมากทั้งอาจารย์เกสรีและทั้งเล็ก แต่เมื่อคิดว่าคนอื่น ๆ อย่างพวกช่างเทคนิคฝ่ายต่าง ๆ นักร้อง นักดนตรี กรรมการ พี่เลี้ยง สื่อมวลชน และแม้กระทั่งตำรวจเองก็คงจะเหน็ดเหนื่อยเช่นกัน ก็เลยพอค่อยทุเลาความห่วยใยในเรื่องนี้ลงไปได้บ้าง ![]() การซ้อมสำหรับวันสุดท้าย ซึ่งมีการถ่ายทอดที.วี. สดผ่านดาวเทียมและเขาคาดว่าจะมีผู้ชมถึง 400 ล้านคนนั้น เขาทำกันเข้มแข็งมากเหลือเกินค่ะ ใช้กล้องตั้ง 4-5 กล้องเพื่อจับมุมต่าง ๆ ของนางงามแต่ละคนว่าหน้าด้านไหนเหมาะสมที่สุด แล้วก็จดใส่สคริปไว้เลยว่าใช้เวลากี่นาที โฆษกพูดได้ตอนไหนใช้เวลาเท่าไหร่ กี่คำ นักร้องนักแสดงจะต้องทำอะไรบ้าง ล้วนแต่ละเอียดลออทั้งนั้น ถ้าไม่ดีก็ซ้อมกันใหม่ วันที่ 25 เป็นวันฉลองรัฐธรรมนูญของ เปอร์โต ริโก้ จะมีขบวนแห่ และพวกเราจะต้องไปร่วมด้วย เขาเริ่มตอนเที่ยงพอดี คงร้อนน่าดู กว่าจะเลิกก็คงไม่แคล้วบ่าย 2 โมง เพราะกำหนดเวลาอาหารกลางวันไว้บ่าย 2 โมงครึ่ง ระหว่างอยู่บนเครื่องบิน เล็กอ่านหนังสือเกี่ยวกับ เปอร์โต ริโก้ ดูแล้ว รู้สึกว่ามีอะไรน่าสนใจอยู่หลายอย่าง จะขอเล่าเพียงย่อ ๆ นะคะ ขืนเล่ามากก้อาจจะผิดได้มาก ดีไม่ดีมีใครเขียนแล้วก็จะตกที่นั่งเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนเปล่า ๆ ![]() เขาว่า ... โคลัมบัสมาพบเกาะนี้เมื่อ พ.ศ. 1493 แต่ ฮวน ปอนเซ่ เด เลออน เพิ่งพาทหารสเปน 50 คน (ห้าสิบคนเท่านั้นนะคะ) มายึดเกาะโบริเคว็นนี้ได้จากพวกอินเดียน (อเมริกาใต้) เมื่อปี 1508 อีก 19 ปีต่อมา ชาวเปอร์โต ริกัน ก็ได้รับสัญชาติเป็นอเมริกัน และในปี 1952 นี่ก็เปลี่ยนสภาพอีกครั้ง เป็นรัฐร่วมอิสระ คือผูกพันกับรัฐบาลกลาง แต่ในเรื่องใหญ่ ๆ เช่น ระบบเงินตรา การสื่อสารทุกประเภท ด่านภาษี การต่างประเทศ และการทหาร เป็นต้น ![]() ชาวเปอร์โตริกัน ซึ่งส่วนมากนิสัยดีและน่ารักเหมือนคนไทย มักมีรูปร่างใหญ่และผิวขาวแบบฝรั่งทั่ว ๆ ไปค่ะ พวกนี้เลือกผู้ว่าการของเขาเอง 4 ปีครั้ง มีสภาผู้แทน และมีตัวแทนอยู่ในสภาคองเกรสส์ของอเมริกา แต่ไม่มีสิทธิออกเสียง พวกที่อยู่บนเกาะราว ๆ 3 ล้านคนไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐบาลกลาง แต่ต้องเป็นทหาร ส่วนพวกที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐมีสิทธิและหน้าที่เหมือนคนอเมริกันทุกประการ ![]() อเมริกามีฐานทัพเรือและอากาศอยู่ที่นี่ด้วย แต่เปอร์โต ริโก้ ก็มีธงชาติของเขาเองนะคะ เป็นรูปดาวสีขาว บนพื้นสามเหลี่ยมสีน้ำเงิน ซึ่งเขาว่าแทนอำนาจทั้ง 3 คือ นิติบัญญัติ บริหาร และยุติธรรม แล้วก็มีแถบสีแดง 3 แถบ แสดงถึงเลือดที่หลั่งออกไปเพื่อให้ได้มาซึ่ง 3 สิ่งเหล่านั้น และสีขาว 2 แถบ แทนสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของเอกชน นี่เล็กก็ว่าไปตามที่เขาเขียนไว้นะคะ ความจริงผู้หญิงก็อยากสนใจการเมืองเหมือนกัน แต่ส่วนมากอาชีพและโอกาสมักไม่ค่อยจะอำนวย เล็กได้ยินมาว่า การประกวดนางงามจักรวาล จะมีที่นี่อย่างน้อย 4 ปี ผู้คนก็คงจะมาชม "ไข่มุก" แห่งแคริบเบียนเม็ดนี้กันมากขึ้น ขณะนี้ก็มีสถิติสูงถึงปีละราว 5 ล้านคนแล้วล่ะค่ะ มีสายการบินผ่านกว่า 10 สาย ขึ้น-ลงปีละราว สองแสนห้าหมื่นเที่ยว (นี่ก็สนใจในฐานะที่เป็นคนเรือบินนะคะ) ค่าเครื่องบิน จากนิวยอร์ค มา เปอร์โต ริโก้ พันบาททีเดียว ปีหนึ่ง ๆ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนำเงินเข้าได้ถึง 4,000 ล้านบาท ทำให้พวกเปอร์โตริกันรวยกันใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ปรกติก็รวยกว่าชาติอื่นใดในกลุ่มละตินอเมริกาอยู่แล้ว แม้เวเนซูเอล่าซึ่งมีน้ำมันก็ยังรวยสู้ไม่ได้ ถนนที่นี่ส่วนมากก็ดีค่ะ สำหรับพื้นที่เพียงร่วม 9,000 ตารางกิโลเมตร เกาะยาว 160 ก.ม. กว้าง 56 ก.ม. เปอร์โต ริโกมีถนนดี ๆ ถึง 7 พันกว่ากิโลเมตร ก็นับว่าไม่เลวนะคะในส่วนที่เป็นเมืองเก่าถนนยังแคบ และมีบ้านอิฐก่อแบบสเปนมีระเบียงเหลืออยู่อีกเยอะ ดูแล้วนึกถึงหนังบางเรื่องก็พลอยเห็นชีวิตสมัยโบราณไปด้วย คงไม่รีบร้อนและ เร่งรัดอย่างปัจจุบันนี้แน่ เล็กยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนมากนัก จึงบรรยายไม่ค่อยถูก เขาบอกว่าอ่าวที่เรียกว่า Phosphorescent Bay ก็สวยทีเดียวค่ะ มองจากบนเครื่องบินเห็นบริเวณชาย ๆ เกาะส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ตรงกลาง ๆ เป็นภูเขา ซึ่งเขาว่าแถวนั้นฝนตกมากหน่อย แต่ก็ไม่มากนัก ปีละราว ๆ 80 นิ้วแค่นั้นเอง อ้อ ... เขาคุยโม้ด้วยค่ะว่า Radio และ Radar Telescope บนเกาะของเขานี้ใหญ่ที่สุดในโลก และเหล้ารัมที่อร่อยที่สุดต้องเป็นของ เปอร์โต ริโก้ เล็กเคยได้ยินแต่ว่าของจาไมก้าอร่อยกว่าเพื่อน แต่เรื่องนี้ผู้ชายคงจะทราบดีกว่าแน่ ๆ ค่ะ อาจารย์เกสรีคงจะออกจากที่นี่วันที่ 31 และคงจะถึงกรุงเทพ ฯ ในราววันที่ 3 สิงหาคม เพราะอาจารย์จะต้อง ไปโชว์แบบผมกับการบินไทยที่ออสเตรเลียในวันที่ 6 ความจริงเล็กก็คิดถึงเมืองไทย (ทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาจะคิดถึงอะไรได้ ... วันที่ 25 - 26 เป็นวันหยุดอาสาฬหบูชากับวันเข้าพรรษาใช่ไหมคะ) ใจ ๆ หนึ่ง ก็อยากจะกลับพร้อมอาจารย์เหมือนกัน แต่อีกใจก็อยากได้รางวัลอะไรติดไม้ติดมือกลับมาเมืองไทยบ้าง เพราะไหน ๆ ก็ไปทั้งทีแล้ว แต่ความจริงในการแข่งขันแบบนี้ ก็ไม่ควรจะหวังอะไรมากนัก เพราะจะชนะไปหมดทุกคนไม่ได้ คติของโอลิมปิคที่ว่า "มาเพื่อแข่งขัน -- ไม่ได้มาเพื่อเอาชนะ" นั้น เล็กว่าดีมาก ถึงอย่างไรเล็กก็มีโอกาสดีอยู่แล้วที่ได้รับ และพบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่างมากมาย ชนิดครั้งเดียวในชีวิตจริง ๆ ![]() วันนี้วันที่ 22 เดี๋ยวเล็กเขียนเสร็จแล้วจะรีบส่งต้นฉบับด่วนเลย แต่กว่าหนังสือเล่มนี้จะออก เล็กก็อาจจะกลับมาถึงกรุงเทพแล้วก็ได้ (เพราะทั้ง 61 คนที่มาก็ล้วนสวย ๆ กันทั้งสิ้น) อย่างไรก็ตาม เล็กขอขอบคุณทุกท่านที่คอยติดตามข่าวคราวพร้อมกับเอาใจช่วยเล็กมาตั้งแต่ต้น .... สวัสดีค่ะ บทความจาก //www.thaimiss.com ขอบคุณที่นำมาให้อ่าน ให้ชมคะ
![]() โดย: Angel Tanya
![]() |
บทความทั้งหมด
|