หลากหลายเสียง เถียงกันยังไงก็ไม่มีวันจบสิ้น หากจะมาตัดสิน ว่า ''ผู้หญิงประเทศไหนสวยที่สุดในโลก??'' แต่ถ้าจะอุปโลกน์ยกสาวไทยเป็นคำตอบสุดท้าย...เชื่อว่าสาวๆ จากประเทศต่างๆ คงจะไม่พอใจเป็นแน่แท้ แต่ถ้าจะเอาเรื่องของสถิติบนเวทีการประชันสวยเวทีโลก อย่างมิสยูนิเวิร์ส หรือ นางงามจักรวาล มาว่ากัน ก็คงต้องยกให้กับสาวงามจากสหรัฐอเมริกา ต้นกำเนิดเวทีแห่งนี้ ที่คว้ามงกุฎมากที่สุด ถึง 7 สมัย รองลงมาก็ไม่ใช่ใคร เป็นสาวจากเวเนซุเอลา ที่เพิ่งจะคว้าสมัยที่ 5 จากนางแบบวัย 22 ปี ดายาน่า เมนโดซ่า ที่ประเทศเวียดนามมาสดๆ ร้อนๆ ตอนเช้าๆ ของวันก่อนนี่เอง
ส่วนสาวไทยก็ไม่น้อยหน้าใคร เพราะติดท็อปไฟฟ์ 5 อันดับแรกของโลกเลยทีเดียว เพราะจาก 57 ครั้งที่ผ่านมา มิสไทยแลนด์คว้าไปมาแล้วถึง 2 สมัย จาก อภัสรา หงสกุล ในปี 1965 และ ''ปุ๋ย'' ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ในปี 1988 คิดแล้ว...ก็อดที่จะภูมิใจแทนสาวไทยไม่ได้เช่นกัน
แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น ที่อาจจะพูดได้ว่ามีความสำคัญไม่แพ้ มงกุฎนางงามจักวาล นั่นคือการประกวดการแต่งกายชุดประจำชาติ เพราะนอกจากจะเป็นการเผยแพร่เอกลักษณ์ วัฒนธรรมของแต่ละประเทศแล้ว การประชันชุดประจำชาติในแต่ละปี ยังถือเป็นสีสันบนเวทีนางงามโลกแห่งนี้เลยทีเดียว
และจากความสำเร็จของ
''น้องแก้ม'' กวินตรา โพธิจักร ที่สามารถคว้าตำแหน่ง
ชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ในการประกวด
''มิสยูนิเวิร์ส 2008'' ที่ประเทศเวียดนาม ว่าแล้ววันนี้เราก็เลยขอพาคุณๆ ท่านๆ ย้อนวันวาน กลับไปดูความยิ่งใหญ่ เมื่อเอกลักษณ์ความเป็นไทย ที่ไปประกาศศักดา คว้ารางวัลชนะเลิศชุดประจำชาติ บนเวทีนางงามจักรวาลมาแล้วถึง 3 ครั้ง 3 ครา (น้องแก้มเป็นคนที่ 4) และยังคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 และอันดับ 2 ชุดประจำชาติยอดเยี่ยมได้อย่างละ 1 ครั้ง ด้วย
เริ่มต้นที่ปี
1969 ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งตัวแทนสาวไทยในปีนั้น มีนามว่า
แสงเดือน แม้นวงศ์ ที่เธอเลือกเอาชุดของนางละคร ที่มีความอ่อนช้อยประณีตไปประชันบนเวที ซึ่งชุดนี้ก็สร้างประวัติศาสตร์ เพราะได้รับตำแหน่ง ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมมาฝากคนไทยเป็นครั้งแรก
ต่อมาในปี
1988 ที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งความสำเร็จของ
''ปุ๋ย'' ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ที่นอกจากจะทำให้คนไทยได้สมใจกับตำแหน่งนางงามจักรวาลเป็นคนที่ 2 ของสยามประเทศแล้ว ปีนั้นเธอยังเอารางวัล
''ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม'' จากชุดไทยประยุกต์ที่ดัดแปลงมาจากชุดฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กลับมาอีกตำแหน่งด้วย
หลังจากนั้นคนไทยก็ต้องรอถึง 17 ปีเต็ม เมื่อการประกวดมิสยูนิเวิร์ส
2005 ที่ประเทศไทยรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการประกวด และ
''น้องน้อด'' ชนันภรณ์ รสจันทน์ ก็อวดชุดไทยประยุกต์ ที่มีมงกุฎและเครื่องประดับสมัยโบราณเป็นส่วนผสม จนท้ายที่สุดเธอก็พิชิตรางวัลชุดประจำชาติ เป็นคนที่ 3 บนแผ่นดินเกิดของตัวเอง
และสดๆ ร้อนๆ ปี
2008 กับ
''น้องแก้ม'' กวินตรา โพธิจักร ที่ประกาศศักดาบนผืนสังเวียนขาอ่อน กับการคว้ารางวัลชุดประจำชาติมาฝากคนไทยได้อีกสมัย จากชุดมวยไทยโบราณ ซึ่งบอกถึงความอ่อนหวานตามแบบฉบับของสตรีไทย แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง กล้าหาญไม่แพ้ชายชาตรี พูดแล้วก็ขอปรบมือให้กับไอเดียดีๆ ของ
''น้องมอมแมม'' สถาปัตย์ มูลมา นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ ม.ขอนแก่น
ส่วนอีก 2 รางวัลเป็นรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม ประจำปี
1989 โดยยลดา รองหานาม ตัวแทนสาวไทยในปีนั้น สามารถคว้ารางวัลมาให้คนไทยได้ชื่นชมเช่นกัน (โดยที่จริงแล้วยลดา ได้รับรางวัลรองอันดับที่ 2 แต่เพราะรองอันดับ 1 จากกัวเตมาลาถูกตัดสิทธิ์ เพราะวัตถุดิบที่มิสกัวเตมาลานำมาตัดเย็บนั้นไม่ได้มาจากประเทศของเธอเอง)
และสุดท้ายรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมประจำปี 1992 โดยอรอนงค์ ปัญญาวงศ์ สามารถคว้ารางวัลนี้ในการประกวดที่บ้านเราเมื่อปี 1992 และอรอนงค์ ก็มีส่วนร่วมในการออกแบบชุดประจำชาตินี้ด้วย
สาวงามคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับรางวัล แต่ก็ยังถือว่าเป็นการอวดเอกลักษณ์ความเป็นไทย ให้ทั่วโลกได้ประจักษ์
ภาพและข้อมูลDolce_Romanzo
111
โมร่า มิสเปรู
สยามดารา
เรียบเรียงค้นคว้าเพิ่มเติมโดยbeauty-queen.bloggang.com
เห็นแล้วขุดสวย
ดูเบื้องหลังการถ่ายทำแล้วด้วย
ก็โอเค..มั๊กๆๆ
Comments for Hi5, Myspace Hi5 Blog บล๊อคส่วนตัว