hotaru no hikari ---When Summer is coming!
When Summer is comming ---เมื่อฤดูร้อนมาเยือน นั่นก็หมายถึงว่าเราจะได้ปิดเทอมเสียที จะได้นอนตื่นสาย ได้ใช้เวลาทั้งวันเล่นสนุกกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จำได้ว่าพวกเรามักจะเล่นกระโดดยาง จับแมลงปอ ดีดลูกหิน แล้วก็เล่นขายของ ในบางปีพี่ๆ ลูกของป้าที่อยู่ต่างจังหวัดก็จะมารับพวกเราไปอยู่ด้วย พวกเราจะได้ตระเวณไปเยี่ยมบรรดาญาติๆ พี่ๆ น้องๆ ได้ไปเล่นซน ที่สำคัญได้ไปเที่ยวงานวัด กับงานฉลองหลักเมือง ซึ่งเป็นงานใหญ่ที่ตื่นตา ตื่นใจที่สุดสำหรับเด็กในเมืองอย่างเรา ที่นี่ทำให้ฉันได้รู้จักปืนอัดลม ชิงช้าสวรรค์ รถไต่ถัง ฯลฯ ได้ดูลิเก ดูหนังกลางแปลง หนังตะลุง ยังจำได้ดีว่า ยายเคยพาไปนั่งรอดูสมศักดิ์ ภักดี ลิเกดังตั้งหลายชั่วโมง กว่าพระเอกจะออกมาโชว์ไม่กี่ฉาก

“โฮตารุ” ก็คงจะเป็นแบบเดียวกัน ในช่วงฤดูร้อน เธอจะมาอยู่ที่บ้านของคุณยาย ได้นั่งเล่นที่ระเบียงเฝ้ามองดูหิ่งห้อย และคว้ามันไว้ในอุ้งมือ คุณยายบอกว่า ถ้าไม่มีน้ำที่ใสสะอาดก็จะไม่มีหิ่งห้อย และนี่คือที่มาของซีรีย์ญี่ปุ่นที่ฉันเพิ่งดูจบไป

“หิ่งห้อย” เป็นแมลงที่มหัศจรรย์ชนิดหนึ่งของโลก ด้วยที่ว่ามันมีแสงอยู่ในตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาเทียนไข ไฟฉาย หรือไฟฟ้าอย่างมนุษย์เรา แม้แสงหิ่งห้อยจะน้อยนิดและเทียบไม่ได้กับดวงตะวัน หรือดวงไฟจากฝีมือมนุษย์ แต่หิ่งห้อยก็เป็นแมลงที่ช่วยชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่สำคัญ มีคนเล่าให้ฟังว่าหิ่งห้อยต้องใช้เวลานอยู่นาน 1-2 ปี และเมื่อฟักตัวออกมา หิ่งห้อยก็มีอายุอยู่แค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น ทำให้นึกถึงคำของสมเด็จพระสังฆราชที่กล่าวว่า “ชีวิตนี้น้อยนัก”

ในวรรณกรรมเองก็พูดถึง “หิ่งห้อย” ไว้ไม่น้อย และมักเกี่ยวพันกับความรักและความหวัง อย่างวรรณกรรมดังของไทย เรื่องคู่กรรม หรือวรรณกรรมญี่ปุ่นเรื่องสุสานหิ่งห้อย (Hotaru no Haka) ซึ่งเป็นอัตชีวประวัติของ อะคิยูกิ โนะซากา ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองและน้องสาวในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นเรื่องสะเทือนใจมากๆ นึกถึงทีไรชวนให้น้ำตาไหลทุกที



สำหรับ Hotoru no hikari ! เป็นซีรีย์ญี่ป่นที่เพิ่งจะได้ดูจบไป เริ่มเรื่องด้วยเด็กหญิงกับหิ่งห้อย จนทำให้ตอนแรกนึกว่า สลิมมีเอาแผ่นมาให้ผิด เนื้อเรื่องบังเอิญมาพ้องกับคำถามที่เคยถามตัวเองและเพื่อนพอดี จำได้ว่าวันหนึ่งที่เรานั่งลงคุยกัน มันก็มีหัวข้อสนทนานที่ว่า หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตโสดมานาน แล้ววันหนึ่งเราต้องอยู่กับใครสักคน (ที่เรารักหรือคิดว่ารัก) เราจะอยู่ได้หรือทนอยู่ได้หรือเปล่า ?? จำได้ว่า เพื่อนคนหนึ่งตอบว่า "ไม่ว่าจะยังไงเขาก็จะต้องขอมีใครคนหนึ่งอยู่ข้างๆ" อันนี้ไม่รู้จะเรียกว่าคำตอบหรือเปล่า แต่เธอประกาศกร้าวต่อหน้าเพื่อนๆ หลายคน ส่วนฉันกลับคิดว่า ถ้าต้องทนอยู่กับใครไม่ว่าจะแบบไหนก็คงไม่ได้ เพราะฉันหวงแหวนชีวิตอิสระที่ฉันมี และรู้สึกมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่

Hotoru no hikari ! ถ้าแปลกันตรงๆ ตามภาษาญี่ปุ่นก็ต้องแปลว่า แสงของหิ่งห้อย (โฮตารุ=หิ่งห้อย, โนะ= ของ ,ฮิคาริ = แสง) แต่ถ้าตั้งแบบนั้นมันก็ไม่เร้าใจกับการเป็นซีรีย์ ดังนั้นชื่อภาษาไทยจึงตั้งว่า "สาวรักคุดขอปิ๊งรัก" บางคนก็ตั้งว่าสาวปลาแห้ง ซึ่งเป็นแสลงของญี่ปุ่นที่เรียกผู้หญิงที่ชอบใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเลิกงาน ไม่ชอบสังสรรค์ทำนองนั้น นางเอกคือ Ayase Haruko ที่เล่น Fantastic deerman/Cyborg she เรื่องหลังยังไม่ได้ดู แต่คาดว่าจะไม่พลาด ส่วนพระเอกก็คือ Naohito Fujiki คนที่เคยเล่น Love revolution/antique/Slow dance/to the one I love ซึ่งกำลังฉายทาง PBs แถมยังเคยเป็น Hanazawa Rui ในภาพยนตร์เรื่อง Hana Yuri dango (รักใสๆ หัวใจเดียวกัน) เวอร์ชั่นปี 1995 บทเดียวกับที่ vic หรือไจ่ไจ๋แสดง (ตัวละครตัวนี้ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจมาจากทาคุยะ คิมูระ อีกตะหาก ตอนเป็นหนังก็ดีเบทกันว่าทาคุจะได้บทนี้ แต่เป็นนาโอะมาสอยไปแทน)

Hotoru no hikari ! ดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ป่นของ Hiura Satoru เป็นเรื่องราวของสาวออฟฟิศอายุยี่สิบกว่าๆ ที่มีชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการ คือทำงานเสร็จกลับบ้าน มานอนเกลือกกลิ้ง กินเบียร์ แถมบ้านรกสุดๆ วันหนึ่งลูกชายเจ้าของบ้านที่เธอเช่าอยู่ย้ายกลับมาบ้าน เพื่อใช้เวลาตัดสินใจว่าจะหย่าขาดจากภรรยาหรือไม่ โดยที่ไม่รู้ว่าเธออาศัยอยู่ก่อน และเนื่องจากเธอไม่มีที่ไปจึงต้องอยู่ร่วมบ้านกับลูกชายเจ้าของบ้าน ซึ่งก็คือ หัวหน้าของเธอเอง ตอนทั้งคู่เจอกัน ตลกดี ใครจะคิดว่า คนที่ทำงานเห็นหน้ากันทุกวันจะมาอยู่ในบ้านของ(พ่อ) ตัวเอง โดยที่ลูกชายไม่รู้ แถมพ่อก็หนีไปอยู่ต่างประเทศซะอีก

เมื่อคนสองคนที่ต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนอีกคนก็รกสุดๆ แต่ทั้งสองก็อยู่ด้วยกันได้ ดีบ้างไม่ดีบ้าง ด้วยกฎเหล็กที่ทั้งสองตั้งขึ้นมา แถมหัวหน้ายังช่วยให้เธอได้สมหวังกับการคบหาหนุ่มฮอตของออฟฟิศ ซึ่งมีใจให้เธอซะอีก ถึงขนาดออกปากให้ไปอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่เธอจะเผยธาตุแท้ในตัวเองให้เขารู้ก็ตาม จนแล้วจนรอด ความมีชีวิตที่เป็นตัวของตัวเองต่อหน้าคนรัก มันเป็นเรื่องยากที่จะปฏิบัติได้ แม้อีกฝ่ายหนึ่งที่จะบอกว่า "ทนได้ -ขอแค่เรามีกันและกัน" แต่สุดท้ายมันก็ไปไม่รอด เพราะความรักกับความเข้าใจมันมักจะเดินสวนทางกัน ทำให้นึกถึงเพื่อนคนหนึ่งที่เคยหลุดปากบอกว่า "ถ้าชีวิตย้อนกลับได้ เธอจะไม่แต่งงาน เพราะชีวิตแต่งงานมันเป็นเรื่องซับซ้อน และยากมากๆ สำหรับคนในยุคนี้ที่ต่างฝ่ายต่างก็ต้องทำงานหาเงิน" เธอจะบ่นอิจฉาฉันทุกครั้งที่ได้ทำงานอย่างที่ฝัน แม้จะไม่ Lucky in love ก็ตามที

มีหลายตอนในตัวละครพูดแล้วน่าประทับใจ อย่างตอนที่รุ่นพี่ยามาดะบอกนางเอกของเราว่า ความรักไม่มีถูกไม่มีผิด ไม่ว่าจะเลือกอะไร มันก็ถูกสำหรับเราทั้งนั้น หรือตอนที่หัวหน้าต้องขึ้นกล่าวคำอวยพรในงานแต่งงาน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เพิ่งจะหย่ากับภรรยา โดยยกคำพูดของนักเขียนนักคิดดังๆ มาอวยพร ดูแล้วมันน่าเศร้าที่จะต้องไปบอกคนอื่นให้รักกัน เข้าใจกัน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เพิ่งล้มเหลว แต่ก็ให้ข้อคิดว่า นี่แหละชีวิต

ท้ายที่สุด นางเอกของเราก็เลยต้องอยู่คนเดียว เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง แล้วเธอก็ได้พบความจริงในใจ อิอิอิ เล่าจนหมดเลย สรุปแล้วเป็นซีรีย์ที่น่ารัก อย่าพลาดดูนะคะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่รักทุกคน




Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2552 15:38:48 น.
Counter : 1155 Pageviews.

2 comments
  
เดี๋ยวหามาดูมั่งครับ
โดย: dreamingbutterfly วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:4:21:33 น.
  
หลงรักบุโจวมั้ยคะ
โดย: ก้มลงกราบ วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:21:14:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Baanmangkut.BlogGang.com

Baan Mangkut
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]