เรื่องของมังคุดและมะลิ


มังคุด

มังคุดเป็นแมวเพศเมีย อายุ 2 ปี สีเทา บางคนบอกมันคือ สีสวาด แม่ของมังคุดชื่อ ส้มเช้ง ส่วนยายก็คือ มะขาม แมวพันธุ์เตอร์กิช สีขาว ตาสองสี มีพี่สาวคือ มะลิ มังคุดกับมะลิเมื่อแรกเกิดมา เจ้าของตั้งชื่อว่า เต้าหู้กับเต้าฮวย ด้วยความที่เจ้าของไม่อยากให้มันเป็นภาระ เนื่องจากเป็นตัวเมียทั้งคู่ จึงยกภาระนี้มาให้ฉันเป็นผู้ดูแล โดยในชั้นแรกนั้นมีเพื่อนรุ่นน้องที่ออฟฟิศ อยากได้แมวสีขาวไปเลี้ยง แต่พอเอาไปได้ไม่นานก็เอามาคืน เพราะมะลิซนมาก กินเก่ง คุ้ยทรายเลอะเทอะ และเข้ากับแมวที่เลี้ยงไว้ก่อนหน้าไม่ได้ ดังนั้นฉันก็เลยต้องดูแลเอง


มะลิ

ความจริงแล้วมะลิเป็นแมวที่ฉลาดพอสมควร ทุกเช้า เวลาประมาณ 8 โมง มะลิจะมารอขอข้าวคุณยายทุกวัน แต่พอหลังๆ คุณยายเลื่อนเวลาออกไป มะลิก็จะกินอาหารเม็ดรองท้อง แล้วนอนรออยู่บนบ้าน พอคุณยายเรียกจึงจะวิ่งลงมา มะลิชอบใช้ชีวิตในสวนหน้าบ้าน ซึ่งมีต้นไม้อยู่ไม่กี่ต้นหรอกค่ะ เพราะมีโรงเก็บของของคุณตาปลูกอยู่ มะลิจะไปลับเล็บกับเถาพวงคราม แล้วปีนเถาพวงครามขึ้นไปบนหลังคา นั่งดูนกกับนอนอาบแดด แต่หลังๆ ไม่รู้ไปซนที่ไหน มองไม่เห็นตัว แต่ถ้าเรียก มะลิจะกลับมาทันที มะลิจะวิ่งเข้า-ออกบ้านบ่อยๆ คือจะกลับมากินข้าวแล้วก็ออกไปใหม่ วันนึงก็หลายรอบด้วยกัน ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนก็จะมีนกสองตัวบินมาโฉบหัวมะลิที่นั่งอยู่บนหลังคา บางครั้งใจกล้าถึงขนาดบินตามมะลิลงมาด้วย แต่ช่วงนี้หายๆ ไปสงสัยจะย้ายที่อยู่ มะลิก็เลยเหงาๆ ไป ทุกเย็นเวลาที่กลับบ้าน จะเห็นมะลิออกมายืนคอย บางครั้งก็จะขอเข้าไปสำรวจในรถ 1 รอบ แต่ถ้าวันไหนกลับบ้านค่ำ ก็จะนั่งรอที่บันไดชั้นสอง พอกลับมาแล้วก็จะขอออกไปเล่นนอกบ้านพักนึง พอสี่ทุ่มก็จะกลับบ้าน ถ้าไม่ขึ้นนอนก็จะนั่งรอ เวลานอนก็จะต้องนอนด้วยกัน โดยมะลิจะร้องเหมียว เหมียว แล้วเอาหัวมาไถที่มือเพื่อให้ลูบหัว ลูบตัว เมื่อพอใจแล้วก็จะไปแต่งตัวแล้วเข้านอน คือนอนเบียดกันบนที่นอน จะกลิ้งทับก็ไม่ว่า ขอนอนด้วยคนนึง

ส่วนมังคุดนั้นตรงกันข้ามกับมะลิ คือกลัวไปหมดทุกสิ่ง แต่ก็ชอบออกไปนอนเล่นบนหลังคา เพื่ออาบแดด และมักถูกไล่โดยแมวอื่นๆ หลบทันบ้าง ไม่ทันบ้าง โดนกัดเล็กๆ น้อยๆ มาครั้งหลังนี่โดนกัดเป็นแผลใหญ่ที่บั้นท้าย จากนั้นก็เริ่มล้มป่วย ซึ่งก่อนหน้านี้ ตอนทำหมันคุณหมอสงสัยว่ามังคุดจะปอดไม่ดี แล้วก็บอกว่าจะดูให้ แต่คุณหมอก็คงลืมไป เนื่องจากตอนทำหมัน มังคุดแพ้ไหมเย็บแผล ทำให้แผลไม่สมานตัว ก็เลยวุ่นวายนิดหน่อย

มังคุดเริ่มป่วยเมื่อประมาณ 24 มิถุนายน 2551 ด้วยอาการหอบ หายใจไม่ออก คุณหมอที่คลินิกบอกว่า ปอดน่าจะมีปัญหา จึงฉีดยาให้ 1 เข็มแล้วรอดูอาการ โดยบอกว่าให้เอ็กซเรย์ปอดกับตรวจเลือดมาให้หมอ ด้วยความไม่รู้ เพราะคิดว่าหมอจะทำในวันถัดไปก็พาไปหาหมอ หมอก็ถามหาผลเอ็กซเรย์ เราก็งงๆ อยู่ หมอก็เลยบอกว่า ที่คลินิกไม่มีที่เอ็กซเรย์ ทำไม่ได้ เราต้องไปจัดการเอง เราจึงขอให้หมอส่งตัวไปคลินิกอีกแห่งที่อยู่หน้าปากซอย แต่คุณหมอก็ไม่สะดวก เพราะไม่ค่อยถูกกัน เนื่องจากที่คลินิกนั้นไม่ค่อยชอบให้หมอส่งผู้ป่วยแบบนี้ (เท่าที่ถามผู้ช่วยเขาบอกว่าที่คลินิกนั้นเขาอยากได้ผู้ป่วยไว้เอง) คุณหมอก็เลยฉีดยาให้อีกเข็ม แล้วสั่งให้ไปโรงพยาบาลที่เกษตรฯ หรือที่มหิดลก็ได้ ให้ไปขอเอ็กซเรย์กับตรวจเลือดเท่านั้น แล้วเอาผลตรวจกลับมา

คืนนั้นมังคุดอาการแย่มากๆ เท่าที่เคยเห็นมา หายใจเสียงดังมาก และลิ้นจุกปาก ไม่ยอมให้แตะต้องตัว วันรุ่งขึ้นเราจึงพามังคุดไปที่โรงพยาบาลสัตว์มหิดล ศาลายา บอกหมอตามที่หมอที่คลินิกสั่ง คุณหมอดูอาการแล้วบอกว่า น่าจะมีสาเหตุอยู่ 2-3 อย่างที่ทำให้เป็นแบบนี้ คือ การติดเชื้อไวรัส กระบังลมฉีกขาด หรือเป็นปอดบวม พอส่งไปเอ็กซเรย์ก็พบว่าในปอดเต็มไปด้วยน้ำ จึงไปเจาะน้ำออกประมาณ 200 ซ๊ซี. ผลจากแล็บบอกว่าในน้ำที่ดูดออกมามีเชื้อแบคทีเรีย หลังจากนั้นก็ฉีดยาฆ่าเชื้อเพื่อบรรเทาอาการ ประมาณ 2 อาทิตย์ก็กลับมามีอาการอีก คราวนี้คุณหมอขอให้เช็คดูว่ามีเชื้อไวรัสหรือไม่ และในระหว่างรอผลก็ส่งไปอัลตร้าซาวนด์ ปรากฏพบถุงน้ำ ซึ่งเข้าใจว่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในช่องอกนั้นสร้างผนังเซลล์หุ้มตัวเอง จนเป็นก้อนใหญ่ราว 8 เซนติเมตร แต่ไม่สามารถผ่าตัดได้ เนื่องจากอันตรายมาก และไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน

คุณหมอเรียกอาการของมังคุดว่า ภาวะหนองในช่องอก (pyotharax) เป็นการติดเชื้อที่มีหนองสะสมอยู่ในเยื่อหุ้มปอด สาเหตุการเกิดมีได้หลายอย่าง เช่น การสำลักเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไป จากบาดแผลที่ทะลุเข้าช่องปอด ซึ่งเกิดจากการกัดกัน หรือติดเชื้อจากบริเวณใกล้เคียงแล้วลุกลามมาที่เยื่อหุ้มปอด หรือเกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันถูกกด เนื้องอก ถ้ามีเชื้อไวรัสร่วมด้วยก็จะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อไวรัสที่ปรากฏ สำหรับมังคุดนั้น ตรวจพบเชื้อไวรัสลูคิเมียด้วย แต่ไม่รุนแรง ลักษณะอาการที่พบคือ หายใจลำบาก น้ำท่วมปอด กินอาหารไม่ได้ บางตัวที่พบด้วยโรคเดียวกันนี้ อยู่ได้ไม่กี่วันก็ตาย แต่มังคุดมักมีอาการทุกๆ 15 วัน ซึ่งต้องไปเจาะเอาน้ำออก แล้วกินยาปฏิชีวนะควบคู่ไปด้วย คุณหมอบอกว่า มังคุดจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 3 ปีเท่านั้น

วันนี้มังคุดสบายดี แต่ก็ต้องรอดูอาการอีกครั้งในวันที่ 14 สค. ซึ่งจะต้องตรวจเลือดร่วมด้วย



Create Date : 11 สิงหาคม 2551
Last Update : 11 สิงหาคม 2551 12:29:57 น.
Counter : 1125 Pageviews.

0 comments
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีความหมาย : กะว่าก๋า
(18 มิ.ย. 2568 04:58:07 น.)
สวนรถไฟ : นกสีชมพูสวน ผู้ชายในสายลมหนาว
(16 มิ.ย. 2568 15:03:09 น.)
Facebook มันรู้ได้ยังไงก่อน!? nonnoiGiwGiw
(5 มิ.ย. 2568 11:21:20 น.)
เหมียว ๆ ไดอารี่ ... ชาลี แมวติดคอนโด ฟ้าใสวันใหม่
(2 มิ.ย. 2568 09:32:44 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Baanmangkut.BlogGang.com

Baan Mangkut
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]