Bloggang.com : yonradee24 : --- PTTGC ราคาถูกกว่าภูมิภาค ทยอยเก็บ ปี 55 เป้า 87 บาท

--- PTTGC ราคาถูกกว่าภูมิภาค ทยอยเก็บ ปี 55 เป้า 87 บาท

PTTGCราคาถูกกว่าภูมิภาค ทยอยเก็บปี55เป้า87บาท

บล. เอเชียพลัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ PTTGC หัวหอกเพื่อนำทัพธุรกิจปิโตรเคมีครบวงจรของ PTT…สร้างความมั่นคงในระยะยาว

การปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทในกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่นของ PTT ซึ่งได้แก่ PTTCH และ PTTAR ในครั้งนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จและจะทำการซื้อขายหุ้นเป็นบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ PTT Global Chemical (PTTGC) ในวันที่ 21 ต.ค. 2554 PTTGC ซึ่งถือเป็นหัวหอกเพื่อนำทัพธุรกิจปิโตรเคมีของ PTT ที่ครบวงจรทั้งธุรกิจโรงกลั่น และปิโตรเคมี Integrated Petrochemical and Refining) อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงในระยะยาว จากความหลากหลายของวัตถุดิบที่ใช้ และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ ทำให้ผลการดำเนินงานของ PTTGC มีเสถียรภาพมากขึ้น โดย PTTGC จะมีกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีรวมกันถึง 8.2 ล้านตันต่อปี และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมรวม 2.28 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับต้นๆในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ในเบื้องต้นคาดการควบรวมกิจการจะสามารถสร้างประโยชน์ร่วมกัน (Synergies) มูลค่าราว 80.2-154.1 ล้านเหรียญฯต่อปีหรือคิดเป็น 10-15% ของกำไรสุทธิภายหลังควบรวมกิจการที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งหลักๆมาจากการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ อย่างไรก็ตามคาด Synergies ที่สำคัญจะเกิดขึ้นในอนาคตหลังจากการควบรวมกันมากกว่า โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นปลายร่วมกัน อาทิ สายการผลิตของ Benzene Derivatives เช่น Caprolactam, Polycarbonates และ Propylene Oxide ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมีนัยในอนาคต ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ

ภาพทิศทางอุตฯยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ผลักดันแนวโน้มกำไรเติบโต 2-3 ปี ข้างหน้า

หากมาพิจารณาแนวโน้มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์ และสายอะโรเมติกส์ พบว่ายังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยเฉพาะสายอะโรเมติกส์ เนื่องจากความแข็งแกร่งทางด้าน Demand เพราะในช่วง2H54 โรงงาน PTA ในจีนจำนวน 3 โรง ก่อสร้างแล้วเสร็จ กำลังการผลิตรวม 4.2 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้ PX (เพื่อเป็นวัตถุดิบในโรงงาน PTA) เพิ่มขึ้นราว 8% ของความต้องการใช้ PX ทั่วโลกที่ 38 ล้านตันต่อปี และต่อเนื่องในปี 2555 ที่ตามแผนจะมีโรงงาน PTA เกิดขึ้นใหม่กำลังการผลิตถึง 7 ล้านตันต่อปี แต่หากพิจารณาทางด้าน Supply พบว่าในช่วง 2H54 ไม่มี Supply ใหม่เข้าสู่ตลาด และในปี 2555 จะมี Supply ใหม่เกิดขึ้นเพียง 1.2 ล้านตันต่อปี เช่นเดียวกับทางด้านสายโอเลฟินส์ ที่ในปี 2555 จะมี Supply ใหม่เข้าสู่ตลาดเพียง 3 ล้านตันต่อปี ซึ่งน้อยกว่าการเติบโตของความต้องการใช้เฉลี่ยต่อปีโดยปกติที่ 5 ล้านตัน ทำให้สถานการณ์ Demand และ Supply น่าจะเข้าสู่ภาวะตึงตัว ผลักดันให้ราคา และ Spread ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปรับตัวสูงขึ้นได้ ถึงแม้ความร้อนแรงอาจจะลดลงกว่าที่เคยคาดไว้เดิมว่าจะเป็น Super Cycle ของธุรกิจปิโตรเคมี เพราะถูกกดดันจากปัจจัยทางเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับสมมติฐานของฝ่ายวิจัยที่กำหนดให้ Spread เฉลี่ยในปี 2555 เพิ่มขึ้นจากปี 2554 เพียง 50 เหรียญฯต่อตัน อย่างไรก็ตามหากพิจารณาแนวโน้มกำไรในระยะ 2-3 ปี ข้างหน้า พบว่ายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากปัจจัยทางด้านราคา และปริมาณการผลิตและจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ของโรงงานปิโตรเคมีใหม่ PTTPE ตั้งแต่ปี 2554

PER ต่ำมาก 6.7 เท่า สวนทางกับพื้นฐาน...แนะนำซื้อ FV ปี 2554 เท่ากับ 79 บาท

หากประเมินจากราคาปิดหุ้น PTTCH และ PTTAR ณ วันที่ 10 ต.ค.2554 ราคาตลาด (Market Price) ที่ควรจะเป็นของ PTTGC ณ วันที่ 21 ต.ค. 2554 จะอยู่ในช่วง 50-55 บาทต่อหุ้น เทียบเท่า PER ของPTTGC เพียง 6.5-7 เท่า ถือเป็นระดับที่ต่ำมากหากเทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มในประเทศ และภูมิภาคที่ 8-9 เท่า และ 10-12 เท่า ตามลำดับ ซึ่งฝ่ายวิจัยมีมุมมองว่าเป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่จะทยอยสะสมลงทุนในระยะยาวสำหรับหุ้น PTTGC โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานเบื้องต้นอ้างอิง PER ที่ 10 เท่าของ PTTGC ปี 2554 เท่ากับ 79.42 บาทต่อหุ้น และปี 2555 เท่ากับ 87.29 บาทต่อหุ้น

ที่มา เว็บไซต์ ข่าวหุ้นดอทคอม

Create Date : 24 ตุลาคม 2554

Last Update : 24 ตุลาคม 2554 0:07:40 น.

0 comments

Counter : 627 Pageviews.