|
|
โบรกแนะเก็บ 8 หุ้นแกร่ง-ปันผลดี ดัชนีแกว่งกรอบแคบ เดือนนี้มีโอกาสพักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าเงินบาทเช้านี้ ณ เวลา 9.48 น. ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 31.61 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ หลังจากความกังวลเรื่องหนี้ยุโรป นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวในกรอบจำกัดต่อไป และมีโอกาสพักฐานในเดือนนี้ แนะเลี่ยงหุ้นใหญ่ เก็งกำไร 8 หุ้น ได้แก่ BWG, IVL ,AIT,TISCO,DCC,LPN, STEC และ SAT
แนวโน้มตลาดวันนี้: ยังคงแกว่งตัวในกรอบจำกัด ระยะสั้นเน้น “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ต่อไป
คาดภาพรวมตลาดวันนี้ยังคงผันผวนในกรอบจำกัดระหว่าง 1027-1043 จุด ขณะที่ยังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยเดิมๆ เรื่องหนี้ยุโรป ซึ่งเป็นแรงกดดันให้ตลาดหุ้นยุโรปดิ่งหนักท่ามกลางการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นจำนวนมาก โดยนักลงทุนรอจับตาการประมูลพันธบัตรของสเปนและอิตาลีในสัปดาห์หน้า อีกทั้งปัจจัยภายในของไทยที่ยังไม่ชัดเจนเรื่องการโอนหนี้ FIDF ส่งผลกดดันหุ้นกลุ่มธนาคารอยู่ต่อไป รวมทั้งต้องระวังแนวโน้มการขายของกลุ่มกองทุน LTF ที่ครบกำหนดในปีนี้ด้วย อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างดีกว่าคาดของสหรัฐในระยะหลังๆ ได้ช่วยประคองตลาดหุ้นสหรัฐไว้ได้ดีท่ามกลางความคาดหวังต่อความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ จึงน่าจะเป็นปัจจัยช่วยประคอง Downside ของ SETI ในวันนี้
กลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นยังคงเน้นการเก็งกำไรแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ไปก่อน โดยจำกัดพอร์ตหุ้นเพียง 50% ต่อไปก่อน ระหว่างรอความคืบหน้าของปัจจัย แนวต้าน : 1040-1043 แนวรับ : 1030-1027
การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%
ถือต่อในพอร์ต : BWG, IVL
หุ้นที่ปรับออก : SIRI, PTTEP
หุ้นที่ปรับเข้า :
1. AIT คาดหมายเงินปันผลครึ่งปีหลังปี 54 ราว 3-3.50 บาท/หุ้น ให้ Yield ประมาณ 6-7% ราคาพื้นฐาน 61 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน50-50.75 รับ 40.25-47.75Cut loss 47.25 บาท
2. TISCO คาดผลกระทบการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจากเรื่องโอนหนี้ FIDF น้อยสุด+คาดมีปันผล 2.24 บาท Yield ราว 6%ราคาพื้นฐาน 44.60 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 37.5-40 รับ 36.5-36 Cut loss 35.75
บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดเริ่มแกว่งผันผวนอีกครั้ง คาดใกล้ที่จะปรับพักฐานลงรอบใหม่แล้ว!!
แนวโน้ม ตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มแกว่งตัวผันผวนมากขึ้น และมีจังหวะพักตัวลงอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารบางแห่งอาจจะต้องทำตามอย่างธนาคารยูนิเครดิตของอิตาลี ด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในราคาต่ำมาก ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังต้องการรอดูผลการเปิดประมูลพันธบัตรของสเปนและอิตาลีในสัปดาห์หน้าด้วย หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในยุโรปยังคงพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากนี้ในบ้านเรายังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มแบงก์ หลังมีประเด็นลบจากข่าวการเก็บเงินสมทบประกันเงินฝากเพิ่ม รวมทั้งยังต้องระวังแรงขายในส่วนของกองทุน LTF ที่ครบกำหนดอายุด้วย ทำให้ FSS คาดว่า SET ใกล้ที่จะมีการปรับพักตัวลงให้เห็นแล้ว ซึ่งเราคาดหมายว่า SET ยังมีโอกาสที่จะไหลย้อนลงไปแถว 1000 จุดหรือลุ้นหลุดต่ำกว่าลงไปได้ด้วย
กลยุทธ์: ดังนั้นช่วงนี้จึงยังเน้นหาจังหวะขายทำกำไรเมื่อตลาดบวกขึ้น ส่วนจังหวะกลับเข้าเลือกหุ้นเพื่อซื้อยังแนะนำให้รอรอบปรับพักฐานลงก่อนเช่นเดิม โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ยังมีประเด็นลบกดดันอยู่ ทั้งประเด็นเรื่องการเก็บเงินสมทบประกันเงินฝากเพิ่ม แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกจากที่ประชุม กนง.ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ รวมทั้งผลประกอบการไตรมาส 4 ที่จะประกาศประมาณวันที่ 20 ม.ค.นี้อาจแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้
KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ทรงตัวหรืออ่อนตัวเล็กน้อย ภาพรวมปัจจัยภายนอกเป็นการปะทะกันของเรื่องบวกในฝั่งสหรัฐฯ และเรื่องลบในฝั่งยุโรป โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในภาคแรงงานออกมาดีมาก ไม่ว่าจะเป็นยอดจ้างงานเอกชน ADP ที่เพิ่มขึ้น 3.25 แสนตำแหน่ง (ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 1.78แสนตำแหน่ง) ดัชนี ISM ภาคบริการที่ยังชี้ถึงการขยายตัวที่ดี และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงสู่3.72 แสนตำแหน่ง (ตลาดคาด 3.75 แสนตำแหน่ง) และช่วยยันให้หุ้นสหรัฐฯ แทบไม่ลบเลยแม้ว่าความกังวลในยุโรปเพิ่มขึ้นและกดดันเงินยูโรให้ลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือนที่ต่ำกว่า 1.28 ก็ตาม
ทั้งนี้ความกังวลต่อการเพิ่มทุนของธนาคารในยุโรปรวมทั้งผลประมูลพันธบัตรฝรั่งเศส 10 ปี ที่สูงขึ้นบ้างจากครั้งก่อนกดดันตลาดหุ้นยุโรป ส่วนตลาดน้ำมันปรับฐานหลังวิ่งแรง รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นรายสัปดาห์ที่สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ทิศทางของหุ้นกลุ่มหลักก็ชี้ว่าตลาดหุ้นน่าจะทรงตัวหรืออ่อนลงบ้างเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารจะยังถูกถ่วงจากความไม่แน่นอนของแผนการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ 1.14 ล้านล้านบาทไปยัง ธปท. ซึ่งโยงไปถึงแนวคิดเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากธนาคารพาณิชย์ ในขณะที่หุ้นพลังงานคงจะดีกว่าธนาคาร แต่ก็คงไม่ปรับขึ้นมากนักแล้ว หลังจากวิ่งขึ้นมา 2 วันและในวันนี้เผชิญกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ภาพรวม KGI ยังคงมุมมองว่า SET จะแกว่งตัวลงในเดือน ม.ค. จากความเสี่ยงยุโรป และแรงขาย LTF ต้นทุนต่ำที่เคยกล่าวไปแล้ว
กลยุทธ์: ยังคงจำกัดพอร์ตหุ้นไว้ที่หุ้นขนาดกลางในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง คอนโด และยานยนต์ เช่น DCC,LPN, STEC และ SAT และเราแนะนำให้เลี่ยงหุ้นขนาดใหญ่ต่อไปก่อน เราคิดว่ามีโอกาสสูงที่ SET จะปรับฐานลงมาต่ำกว่า 1 พันจุดในเดือน ม.ค.
| Create Date : 06 มกราคม 2555 |
| Last Update : 6 มกราคม 2555 22:13:38 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 1197 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: M011  วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:9:45:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [