วันที่ 4 ล่องเรือใน Como, เที่ยวมหาวิหารใน Milan วันนี้เป็นวันที่ 3 ของทริปนี้แล้วล่ะ ทุกๆ เช้าที่ฉันตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่ฉันทำก็คือ การโผล่หน้าออกไปดูที่หน้าต่าง เพื่อที่จะลุ้นว่าอากาศวันนี้จะดีมั้ย ท้องฟ้าจะสดใสรึเปล่า... หลังจากที่เมื่อวานอากาศดีมากมาทั้งวัน แต่วันนี้ท้องฟ้ากลับไม่กระจ่างใสเท่าที่ควร และดูเหมือนว่ามันจะหม่นๆ เหมือนจะมีฝนตกในเวลาไม่ช้า ฉันก็ได้แต่ภาวนาว่า ขอให้มีแดดออกมาบ้างหลังจากที่เราทานอาหารเช้าเสร็จก็ยังดี แต่กลับไม่ได้ผลแฮะ จนกระทั่งทานอาหารเช้าเสร็จ แดดก็ยังไม่ออกเหมือนเดิม แต่ก็ยังดีที่ยังไม่มีฝนตก ไม่อย่างนั้น ฉันคงรู้สึกเซ็งยิ่งกว่าเดิม เพราะว่าโปรแกรมวันนี้ เราจะล่องเรื่อในทำเลสาบโคโม่ ไปยังเมือง Varenna และเมือง Bellagio กัน เมือง 2 เมืองนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองที่ฉันพักเท่าไหร่ เพียงล่องเรือแค่ 20 นาทีก็ถึงแล้ว พวกเราซื้อตั๋วแบบตั๋ววัน ราคาก็พอสมควร ฉันจำไม่ค่อยได้หรอก แต่ก็ราวๆ 6 ยูโรกว่า หลังจากที่เช็คเวลาเที่ยวเรือเรียบร้อย ก็ตกลงกันว่า เราจะล่องเรือไปที่เมือง Varenna ก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาที่เมือง Bellagio ก่อนที่นั่งเรื่องเที่ยวก่อนบ่ายโมงเพื่อกลับมายังรถ ดังนั้น เราจึงต้องทำเวลากันอีกแล้ว ระยะเวลาที่อยู่นแต่ละเมืองก็ประมาณเกือบๆ ชั่วโมงเอง ![]() ![]() สองรูปข้างบนนี้เป็นถ่ายไว้ตอนเย็นของเมื่อวานนี้ เป็นบรรยากาศยามโพล้เพล้ของทะเลสาบ Como ![]() ![]() ยามเช้าของ Como บริเวณบ้านพัก ทั้งเมือง Varenna และเมือง Bellagio เป็นเมืองเล็กที่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมทะเลสาบ Como บ้านเรือนแถวนี้จะมีมีการทาสีหลากหลายสีสัน มองดูแล้วแปลกแล้วก็ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาดี ทางเดินในเมืองก็เป็นทางเล็กทางน้อยเต็มไปหมด อย่างในรูปเนี่ยแหละ ![]() ![]() นี่ก็เป็นอีกบรรยากาศหนึ่งของเมือง Bellagio ก็อย่างที่เล่าว่าคณะของพวกเรานั้นไม่มีเวลามากเท่าไหร่ เราก็ได้แต่เดินถ่ายภาพริมทะเลสาบเนี่ยแหละ ![]() ทางจากทะเลสาบที่จะเข้าไปในตัวเมือง Bellagio นั้น ส่วนมากจะเป็นบันไดเล็กๆ สองข้างทางของบันได้ก็เป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัย โดยตามขั้นบันได้ก็จะมีเจ้าของบ้านบริเวณนั้น เอากระถางต้นไม้มาประดับให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น ![]() เราเดินเล่นอยู่ที่เมือง Bellagio จนเกือบๆ เที่ยงครึ่งนั่นแหละ เราจึงนั่งเรือกลับมาที่ฝั่ง เพื่อที่จะเตรียมต่อขับรถต่อไปยังเมือง Como ซึ่งเมือง Como นี้ตั้งอยู่สุดปลายทะเลสาบ Como.... ถาพสุดท้ายของเมือง Ballegio คือภาพที่ถ่ายลอดหน้าต่างออกมายังทะเล เห็นเรือน้อยล่องลอยในทะเลสาบ 2 ลำจ้ะ ![]() จากเมือง Ballegio เราใช้เวลาขับรถเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงก็มาถึงเมือง Como แล้ว ต้องของสารภาพว่า ก่อนหน้าที่จะมาเที่ยว ฉันได้ยินผู้คนส่วนใหญ่พูดกันว่า Como สวย ฉันก็เลยคิดว่าหมายถึงเมือง Como ก็เลยจัดให้ใช้เวลาเที่ยวในเมือง Como ตั้งเกือบ 2 ชั่วโมง แต่จริงๆ แล้วเนี่ย คำว่า Como ที่เค้าบอกว่าสวยกันนั้น เค้าหมายถึงทะเลสาบ Como ตังหากล่ะ ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของพวกเราที่ตัดสินใจล่องเรือในทะเลสาบ Como ในช่วงเช้า (ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีแดดออกก็เถอะ) เพราะว่าเมื่อพวกเรามาเมือง Como แล้ว เมืองนี้กลับไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเลยสำหรับฉัน สิ่งที่ฉันเห็นว่าดูดีที่สุดแล้วของเมืองนี้ก็คือ โบสถ์ที่เห็นในรูปเนี่ยแหละ ![]() หลังจากถ่ายภาพที่เมืองนี้ซักแชะ สองแชะ ฉันก็ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่มิลานดีกว่า มิลาน ที่ใครๆ เค้าบอกว่าเป็นเมืองแฟชั่น เฮ้อ... ในที่สุดก็หาจอดรถในมิลานได้ซักที ที่บ่นเนี่ยก็เพราะว่าวนหาที่จอดรถในมิลานจนเหนื่อยน่ะสิ ก็อย่างที่บอกตั้งแต่อยู่ที่มิวนิคนั่นแหละว่า การหาที่จอดรถในเมืองใหญ่ๆ นั้นหายากจริงๆ นอกจากจะหาที่จอดรถยากแล้วเนี่ย ก็ยังมีปัญหาเรื่องการซื้อบัตรจอดรถอีก ในเมือง Como ตรงที่ที่พวกเราจอดรถนั้น มันจะมีตู้หยอดเงินอัตโนมัติอยู่ เพี่ยงแค่หยอดเงินเข้าตู้ ก็รับบัตรจอดรถมาได้เลย แต่ที่มิลานเนี่ยซิ เราต้องหาซื้อบัตรจอดรถก่อน แล้วก็ต้องขูดวัน เดือน ปี และ เวลาที่เราเริ่มจอดรถ แล้วก็วางเอาไว้ที่หน้าคอนโซลรถ เผื่อว่ามีเจ้าหน้าที่มาตรวจ เค้าจะได้รู้ว่าเราจ่ายเงินค่าจอดแล้ว มีรูปบัตรจอดรถมาให้ดูจ้ะ ![]() ตอนแรกเราไม่รู้ว่าไอ้เจ้าบัตรเนี่ย ต้องไปซื้อที่ไหน ต้องเดินไปถามคนอื่นๆ แต่มันก็ยังมีปัญหาอีกล่ะว่า ผู้คนที่นี่เค้าไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษกับเราแฮะ เลยต้องส่งภาษาใบ้ไปเรื่อย... กว่าจะได้ไอ้บัตรนี่นา เสียเวลาจริง....... แต่ก็ยังดีที่บ่ายนี้ เริ่มมีแสงแดดส่องขึ้นมาบ้าง ไม่เหมือนตอนเมื่อเช้าที่ดูหม่นหมองซะเหลือเกิน กว่าจะจัดการกับปัญหาเรื่องจอดรถเรียบร้อยก็เกือบบ่ายโมงครึ่งล่ะ พวกเราก็เลยมุ่งหน้าไปที่มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่จอดรถเท่าไหร่ ระหว่างทางเดินก็ไม่เห็นว่าผู้คนที่นี่จะแต่งตัวเผ็นผู้นำแฟชั่นตรงไหนเลย ก็เลยได้แต่สงสัยว่า "แล้วทำไม เค้าถึงบอกว่ามิลานเป็นเมืองแฟชั่นหว่า ???" หรือเพราะว่าพวกเราไม่ได้ไปตรงส่วนที่เป็นตัวเมืองจริงๆ ที่นั่นอาจจะมีสาวๆ หนุ่มๆ ในชุดแฟชั่นหรูหรา อู้ฟู่ ให้เราได้ยลโฉมบ้างก็ได้... กลับมาที่มหาวิหารมิลาน (Milan Duomo) กันต่อดีกว่า มหาวิหารแห่งนี้ได้ชื่อว่า เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว ใช้เวลาสร้างยาวนานนับ 4 ศตวรรษ โดยมีการเริ่มสร้างครั้งแรกตั้งแต่ปี 1386 โดย Gian Galeazzo Visconti จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์ในต้นศตวรรษที่ 18 โบสถ์นี้เป็นโบสถ์สไตล์โกธิค (อีกล่ะ) มียอดที่ทำจากหินอ่อนรวมทั้งสิ้น 135 ยอด และประกอบไปด้วยรูปปั้นต่างๆเป็นจำนวนถึง 3400 รูปปั้น น่าเสียดายที่ช่วงที่พวกเราไปนั้น ด้านหน้าของโบสถ์ได้ทำการปิดบูรณะซ่อมแซม ฉันก็เลยได้แต่ถ่ายรูปจากด้านข้างมาให้ดูกัน (อายจัง แต่นี้ก็เป็นรูปที่ดีที่สุดที่ฉันถ่ายได้แล้วล่ะ) ![]() ฉันไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าไปในโบสถ์หรอก แต่ว่าซื้อตั๋วเพื่อขึ้นไปเดินชมยอดของมหาวิหารแทน ค่าตั๋วก็ประมาณ 5-6 ยูโรละมั้ง ไม่แน่ใจแฮะ กว่าจะเดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุดที่เป็นประตูออกไปสู่ยอดของโบสถ์นั้น เล่นเอาหอบแฮ่กๆ แถมเจ้า 2 ฝรั่งหนุ่มสาวที่เดินหน้าฉันนั้น เล่นเดินชักช้าอืดอาด ออเซาะ กันอยู่นั่นแหละ น่ารำคาญใจจริงๆ มาดูรูปรูปปั้นต่างๆ ที่อยู่บนยอดโบสถ์กันดีกว่า ![]() ![]() ![]() อันนี้รูปซูมที่ยอดอ้ะ แปลกดีเลยเอามาให้ดูกัน ![]() ![]() ลวดลายวิจิตรบนยอดของมหาวิหาร และสุดท้ายก็เป็นภาพที่ถ่ายจากบนยอดมหาวิหารไปยังตัวเมืองมิลาน ![]() พวกเราเดินสัมผัส และชื่นชมกับความยิ่งใหญ่ตระการตาของมหาวิหารแห่งนี้เกือบสองชั่วโมง จนกระทั่งบ่ายคล้อย จึงเดินลงมายอดมหาวิหารเพื่อกลับไปที่รถ แต่ยังเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ฝนก็เริ่มลงเม็ดลงมาซะละ พวกเราจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น แข่งกับฟ้าฝนที่ตกลงมา จนกระทั่งเข้ารถเรียบร้อย ฝนก็เริ่มเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ฮู้ๆๆๆ ช่างโชคดีจริงๆ ที่เราเที่ยวเสร็จพอดี จากมิลาน เราก็มุ่งหน้าสู่เมือง Pisa ซึ่งก็ต้องทำเวลาหน่อยล่ะ เพราะว่าเมืองนี้อยู่ค่อนข้างไกลพอสมควร ขับรถก็ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ แน่ะ แล้วเจอกันใหม่พรุ่งนี้ที่ Pisa แล้วกัน ส่วนเรื่องที่พักที่ Pisa ก็จะเล่าต่อพรุ่งนี้ด้วยละกัน บ๋าย บาย ...Click here to continue reading... รออ่านอยู่นะคะ เมื่อไหรจะถึงเวียนนา ซะทีง่ะ
โดย: อ้อนแอ้น UK IP: 144.173.6.76 วันที่: 28 มีนาคม 2549 เวลา:0:55:25 น.
ขอโทษค่ะ เผอิญเพิ่งมาอ่านเจอ ทริปนี้ไม่ได้ไปเวียนนาค่ะ
![]() โดย: yai kaew IP: 124.121.57.92 วันที่: 10 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:14:07 น.
สวยมาก ๆครับ ขอบคุณครับที่นำมาให้ชมกัน
โดย: JOE IP: 203.126.110.12 วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:27:14 น.
ถ่ายรูปได้สวยมากๆ เลยค่ะ ^^ เห็นแล้วอยากไปจัง
โดย: luvammie IP: 58.9.41.120 วันที่: 30 มิถุนายน 2549 เวลา:23:04:54 น.
ขอโทษน่ะค่ะ ไม่ทราบว่า หาข้อมูล การเดินทางได้ เกี่ยว กับ ค่าทางด่วน หรือว่า บ้านพักได้ที่ไหนค่ะ
ช่วยเนะนำ หน่อยค่ะ เพราะเรากำลังจะไปเที่ยว ![]() โดย: MVM IP: 203.121.159.170 วันที่: 16 สิงหาคม 2549 เวลา:10:04:09 น.
ตารางเดินรถไฟด้วยค่ะ
![]() โดย: MVM IP: 203.121.159.170 วันที่: 16 สิงหาคม 2549 เวลา:10:05:59 น.
To Khun MVM ka'
Is it too late to answer your question ka? Can you please mail me by mail? kaew_l@yahoo.com โดย: yai kaew IP: 137.226.69.178 วันที่: 30 สิงหาคม 2549 เวลา:4:12:52 น.
สวยมากๆค่ะ ขอบคุณนะคะ ทำให้เหมือนได้เที่ยวไปด้วย โดย: Rose IP: 115.67.121.255 วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:32:14 น.
|
Yai Kaew
![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
Group Blog
All Blog |
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |