วันที่ 3 เที่ยว Bern, Spiez และ Interlaken อย่างที่เล่าไปตั้งแต่ตอนที่แล้วว่า เมื่อวานเรามาถึงเมือง Bern ตอนเย็นพอสมควร ก็เลยไม่ค่อยได้รูปสวยๆ มากนัก เช้าวันนี้หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าที่ทางที่พักจัดไว้ให้ ซึ่งก็มีทั้ง ขนมปัง แฮม แยมผลไม้ ชีสแบบต่างๆ รวมทั้ง นม กาแฟ และเครื่องดื่มน้ำผลไม้ไว้บริการ พวกเราก็รีบออกจากที่พัก เพื่อเดินเที่ยวและเก็บภาพสวยๆ ของเมือง Bern กันต่อแล้วค่อยไปเมืองอื่นๆ ต่อ ![]() ![]() ![]() เมื่อดูหมีเสร็จแล้ว พวกเราก็เดินเส้นทางเดิม ย้อนกลับมาในตัวเมืองกันต่อ บรรยากาศภายในตัวเมือง Bern ในวันอาทิตย์อย่างนี้ นอกจากเสียงระฆังที่ดังกังวานโสตประสาทหูแล้ว ก็ไม่มีเสียงจ้อกแจ้กใดๆ อีกเลย ร้านรวงสองข้างทางก็ปิดสนิท เงียบสงัด น่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่ไม่มีโอกาสช้อปปิ้ง แต่ก็อย่างว่า ถ้าร้านรวงเปิดล่ะก็ พวกเราก็คงหลงแสงเสียง ข้าวของนานาชนิด โดยไม่ได้เที่ยวที่อื่นเป็นแน่แท้ จากสะพานข้ามแม่น้ำสู่ตัวเมือง สิ่งที่ตั้งเด่นก่อนที่จะเข้าสู่ถนนช้อปปิ้งก็คือ หอนาฬิกาขนาด... อืม ก็ไม่ใหญ่มากนัก หอนาฬิกานี้มีชื่อเรียกว่า Zeitglockenturm สร้างขึ้นเพื่อเป็นประตูเมืองทางด้านตะวันตกเมื่อปี ค.ศ. 1191-1256 ต่อมาในปี 1530 ก็มีการติดตั้งระบบนาฬิกาดาราศาสตร์เพิ่มเข้าไป ![]() ![]() ร้านค้าในตัวเมือง Bern เป็นตึกแบบเก่าๆ แต่ก็ดูสะอาดมากๆ เลยล่ะ เป็นร้านค้าที่มีหลังคาคลุมเป็นแนวยาวติดต่อกันยาวที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ![]() เราอยู่เมือง Bern จนกระทั่งเกือบๆ 11 โมงนั่นแหละ เราจึงออกเดินทางไปยังเมืองที่อยู่ริมฝั่งทะเลสาบ Thun แต่ก่อนที่เราจะออกเดินทาง พี่ห่งก็เสนอไอเดียว่า เราควรที่จะหาจุดชมวิวซักที่ เพื่อที่จะชมทัศนียภาพของเมืองนี้อีกครั้งก่อนที่จะต้องอำลาจากกันไป หลังจากที่เราดูในแผนที่แล้ว เราก็เลยขับรถย้อนไปข้ามสะพานเดิมที่เราใช้เป็นเส้นทางไปบ่อหมีอีกครั้ง แล้วก็ขับขึ้นเนินเขาเล็กๆ ซึ่งก็เป็นทางที่จะไปเมือง Thun นั่นแหละ หลังจากที่ฉันและพี่ณีเล็งหาวิวสวยๆ แล้ว พี่ห่งก็ขับรถเข้าเทียบริมขอบทางเพื่อลงไปถ่ายรูปกัน ฉันก็เลยมีรูปสวยๆ มาทิ้งท้ายเมือง Bern อีก 2 รูปเนี่ยแหละ ![]() ![]() เมื่อถึงช่วงที่เวลาที่พระอาทิตย์เกือบจะอยู่ในแนวเดียวกับศีรษะ อากาศก็ร้อน แดดก็ร้อน พวกเราก็หลบเข้ารถ เพื่อที่จะเดินทางไปยังเมือง Thun ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทะเลสาบ Thuner See จากเมือง Bern เราก็ขับรถขึ้น Autobahn สาย 6 เพื่อเดินทางไปเมือง Thun จริงๆ แล้ว ถ้าเราขับรถบนถนนสายเล็กๆ ที่ขนานกัน เราอาจจะได้เส้นทางที่งดงามกว่า แต่ฉันคิดว่า ก็คงไม่ค่อยสวยเท่าไหร่หรอกมั้ง (เพราะว่าในหนังสือไม่ได้แนะนำเส้นทางนี้เอาไว้) ประกอบกันที่ว่าอยากจะใช้ตั๋ว Jahresvignette ให้คุ้ม และไม่อยากเสียเวลา ก็เลยตัดสินใจขึ้น Autobahn เราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงเมือง Thun ว่ากันตามความเป็นจริงก็คือ เมือง Thun ไม่ได้สวยอย่างที่ฉัน หรือว่าหลายๆ คนคิดเอาไว้ เมืองนี้เป็นเพียงที่ลงเรือเพื่อล่องทะเลสาบ Thuner See เท่านั้นเอง ดังนั้นฉันจึงเห็นนักท่องเที่ยวมากมายที่ท่าเรือของเมืองนี้ เพื่อที่จะรอต่อเรือล่องทะเลสาบ แต่สำหรับพวกเรา ก็คงต้องใช้เหตุผลเดิมนั่นแหละ คือ เราไม่มีเวลาสำหรับนั่งเรื่อ สิ่งที่เราทำได้ก็คือ การขับรถออกจากเมือง Thun เลียบทะเลสาบไปเรื่อยๆ โดยแวะเดินเที่ยว ชื่มชม ดื่มด่ำกับบรรยากาศของภูเขาและทะเสลาบบ้างในบางครั้ง โดยเมืองที่เราแวะเดินเล่นนั้น คือ เมือง Spiez ซึ่งในความคิดเห็นของฉันนั้น ฉันว่าแค่นี้ก็พอเพียงแล้วล่ะ สำหรับทริป 7 วัน 3 ประเทศอย่างนี้ เอารูปมาให้ดูกันเลยดีกว่า อิๆๆ ... คือว่า...ไม่รู้จะบรรยายอะไรดีอ้ะ :-(( ![]() อันนี้เป็นเส้นทางจาก Bern ไป Thun จ้า ![]() ถ่ายจากริมถนนไปยังเมือง Thun ![]() ![]() 2 รูปด้านบนนี้ เป็นเส้นทางระหว่างเมือง Thun ไป Spiez ในที่สุดก็มาถึง Spiez ซะที เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ตรงกลางระหว่างเมือง Thun และเมือง Interlaken เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองตากอากาศเลยทีเดียว ยิ่งหน้าร้อน และวันที่อากาศดีอย่างนี้ ก็มีคนเอาเรือใบ (รึเปล่าหว่า... ไม่แน่ใจ) ออกไปแล่นกันในทะเลสาบ บรรยากาศร้านอาหารก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แต่อื้มมมม...หืม พวกเราว่าจะทำเดิ้นซะหน่อย แต่พอไปดูราคาแล้ว ขอเดินเล่นอย่างเดียว แล้วกลับรถไปกินน๋มปังที่ตุนมาจาก Aachen ดีกว่าแฮะ ![]() ![]() ![]() ก็อย่างที่เล่านั่นแหละ เดินเล่นซักพักก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน พวกเราก็งัดเอาเสบียงที่ตุนไว้มารับประทานกันในรถ ก่อนที่เคลื่อนขบวนสู่เมือง Interlaken เมือง Interlaken เป็นเมืองที่เป็นจุดเชื่อมต่อของ 2 ทำเลสาบ คือ ทะเลสาบ Thun และทะเลสาบ Brienz จากเมืองนี้จะมีถนนตัดเข้าสู่ Grindelwald ทางที่จะนำไปสู่ยอดเขา Jungfrau แต่ว่าจาก Grindelwald จะต้องนั่งรถกระเช้าขึ้นไป ซึ่งราคาค่อนข้างสูงพอสมควร ทัวร์คนจนอย่างเราก็ได้แค่นั่งมองวิวยอดเขาจากเมือง Interlaken และขับรถต่อไปแค่ Grindelwald เมือง Thun , Spiez และ Interlaken เป็นเมืองที่อยู่ในเขต Berner Oberland ของสวิส ซึ่งในเขตนี้จะมียอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปที่ชื่อว่ายอดเขา Jungfrau ทีความสูง 4158 เมตร ในบริเวณเทือกเขาเดียวกันก็ยังมียอดที่สูงๆ อีก 2 ยอดเขา คือ ยอดเขา Mönch (4099 เมตร) และยอดเขา Eiger (3970 เมตร) ![]() ![]() 2 รูปนี้เป็นรูปถ่ายของยอดเขา Jungfrau จากเมือง Interlaken ภาพต่อๆ ไป เป็นบริเวณ Grindelwald ซึ่งเอาไว้ตอนที่จะขึ้นไป Grindelwald และภาพของธรรมชาติ 2 ข้างทางระหว่างที่กำลังเดินทางออกจากสวิสไปทะเลสาบโคโม่ (Como) ในอิตาลี ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการเที่ยวมาทั้งวัน ตอนนี้พวกเราก็มาถึงทำเลสาบโคโม่แล้วล่ะ ระหว่างที่จะเข้าเขตประเทศอิตาลี พวกเราก็ต้องเจอกับตำรวจอิตาลี 2-3 คน พวกเค้าขอดูพาสปอร์ตของเรา จริงๆ แล้วก็แทบจะไม่มีอะไรหรอก แต่ว่าตอนแรกตำรวจพวกนี้ทำท่าเหมือนกับว่าจะไม่ต้องการดูพาสปอร์ตของเรา เค้าไม่มีท่าทีว่าจะสนใจอะไรพวกเราเลย จนกระทั่งพี่ห่งขับรถเกือบจะเลยพวกเค้าไปแล้ว พวกเค้ากลับหันมาเรียกเราซะงั้นอ้ะ แล้วบอกว่าทีหลังต้องจอดเช็กพาสปอร์ตก่อนนะ แล้วค่อยเข้าไปได้ แหม... ฉันก็เถียงในใจว่า ตูจะไปรู้ได้ไงฟะ เห็นไม่สนใจอะไรเลย ยืนคุยกันเองเฉยๆ แล้วอยู่มาว่าเราอีกแหน่ะ แต่ช่างหัวมันเถอะ แค่อยากจะบอกว่าฉันมีประสบการณ์ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับที่อิตาลีอ้ะ ครั้งก่อนที่ไปโรม ก็เห็นคนโดนล้วงกระเป๋า ฉันว่าประเทศอิตาลีนี่ไม่น่าอยู่เอาซะเลย ยิ่งมากเจอการขับรถของคนอิตาลีในวันนี้อีก ซิ่งกันซะจริงๆ ไม่รู้ว่าจะรีบไปไหนกัน บีบแตรแม่....งมันอยู่นั่นแหละ พอดีกว่า ตอนนี้ก็กำลังโทรเพื่อที่จะสอบถามทางเข้าที่พัก เจ้าของบ้านก็บอกทางมาอย่างดี ไม่มีหลง เพียงแต่ขับรถเลยไป 2 ซอย เลยต้องย้อนกลับไปใหม่ บ้านที่พวกเราไปพักนั้น เป็นลักษณะที่เรียกว่า Bed and Breakfast ที่เจ้าของบ้านแบ่งห้องบางห้องให้เช่า เราได้ห้องแบบสามเตียง และมีห้องน้ำแยกต่างหาก เสียดายที่ฉันไม่ได้เอารูปที่พักมากฝาก แต่โดยรวมแล้วก็น่าอยู่ สมราคา 60 ยูโร สำหรับ 3 คน เจ้าของบ้านพักคนนี้พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก พูดคุยสนุกสนาน แถมยังแนะนำร้านอาหารเย็น (ที่ไม่ค่อยอร่อย) ให้เราอีก 1 ร้าน แต่ก็อย่างว่าแหละ กว่าเราจะไปถึงก็เกือบสี่ทุ่มครึ่งแล้ว มีร้านให้เรากินก็ดีถมไป...........วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน ขอไปพักผ่อนเอาแรงไว้เที่ยววันต่อไปดีกว่า good night ja~~ ...Click here to continue reading... ไปอิตาลี ไม่ปิชซ่า ก็สปาเก็ตตี้แหละจ้า เปอร์เซ็นต์ความผิดหวังจะน้อยหน่อย อิอิ
โดย: แหม่มกะปิสวิส (แตนต่อย
![]() Jungfrau ไม่ใช่ยอดเขาท่ี่สูงสุดในยุโรปนะคะ
ที่ถูกคือยอดมองบลังก์ อยู่ในฝรั่งเศสค่ะ โดย: อร IP: 27.130.202.180 วันที่: 1 พฤษภาคม 2555 เวลา:0:06:34 น.
ขอบคุณค่ะ คงเบลอเล็กน้อย เลยทำให้ข้อมูลผิดพลาด
โดย: Yai Kaew
![]() |
Yai Kaew
![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
Group Blog
All Blog |
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
แล้วจะแวะมาอีกนะ