ใครๆ ก็พูดกันว่า ไปเกาะเสม็ด เสร็จทุกราย เฮ้อออ นานเท่าไหร่กันแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้เข้ามาอัพเดทเรื่องเที่ยวมันส์ในบล๊อกแห่งนี้ ประมาณเกือบสามปีเห็นจะได้ล่ะมั้ง หลังจากที่ทำการรีโนเวทบล๊อกเก่าหลายต่อหลายรอบ วันนี้ขอประเดิมบล๊อกใหม่ด้วยทริปเที่ยวมันส์ๆ ที่เกาะเสม็ดก็แล้วกัน หลังจากที่กลับเมืองไทยมาได้เกือบสองปี เราก็ประเดิมทริปค้างคืนทริปแรกในเมืองไทยที่เกาะเสม็ดในช่วงปีใหม่ 2011 เราจัดทริปนี้กันแบบฉุกละหุกเหลือเกิน ประมาณว่าจะเดินทางวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว วันนี้เพิ่งจะเริ่มหาที่พัก วิ่งวุ่นโอนเงินค่าที่พักกันให้วุ่นวาน ชีวิตทั้งชีวิตยังไม่เคยได้ไปเที่ยวเกาะเสม็ดเลย ตอนหาที่พักก็เห็นว่ามีหลายหาด ทั้งเลือกไม่ถูกว่าจะพักที่หาดไหน และไม่มีที่พักให้เลือก เพราะที่พักส่วนใหญ่เต็มหมด จับพลัดจับผลูได้ที่พักที่หาดเทียน จำได้ว่าที่พักชื่อ "บ้านแสงเทียน" พอได้ที่พักแล้ว ก็เตรียมตัวกลับคอนโดมาเก็บข้าวเก็บของเตรียมออกเดินทางเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เราเดินทางด้วยรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัย จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่านั่งรถตู้ที่หน้าพงหลีภัตราคาร ราคาประมาณ 140 บาทต่อคน ออกจากกรุงเทพตอนประมาณตีห้าได้ นั่งรถตู้เที่ยวแรก นั่งไปเสียวไปว่า จะได้ไปเฝ้ายมบาลก่อนที่จะไปถึงเกาะเสม็ดรึเปล่า รถตู้ขับซิ่งเหลือเกิน นั่งลุ้นหัวใจแทบจะวาย แต่แล้ว ในที่สุด เราก็มาถึงท่าเรือบ้านเพ ซื้อตั๋วเรือคนละ 70 บาทไปถึงหาดเทียน หรือว่าอ่าวเทียนเลย ได้ขึ้นเรือตอนประมาณ 11:00 น. บนเรือคนค่อนข้างเยอะ ก็เลยหนีไนั่งตากแดดให้หัวแดงเล่นๆ บนดาดฟ้าเลย โล่งมาก ไม่มีใครเลย กลายเป็นว่าดาดฟ้าเรือเป็นของเรา รูประหว่างนั่งเรือไปเกาะ
นั่งเรือชมวิวไปเรื่อยๆ ชวนให้นึกถึงเพลงเพลงหนึ่ง "โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบ อยู่ในท้องทะเล" ถึงแม้เราจะมองไม่เห็นเรือใบ แต่ก็ชวนให้เพลินตาเพลินใจ จนลืมแดดร้อนๆ ไปได้เหมือนกัน เห็นเกาะอยู่ลิบๆ ช่วงนี้ของเกาะ น่าจะเป็นหาดทรายแก้ว แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เรานั่งเรืออ้อมไปจนถึงอ่าวเทียน ก็จะเห็นพื้นดินของเกาะเสม็ดใกล้ๆ และแล้ว เราก็ได้เห็นที่หมายของเรา "อ่าวเทียน" เนื่องจากเกาะเสม็ดเป็นอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นเมื่อลงจากเรือก็จะเจอเจ้าหน้าที่คอยเก็ยสตางค์ค่าเข้าชม โดยราคาค่าเข้าอุทยาน ถ้าเป็นคนไทยตกสนนราคา คนละ 40 บาท แต่ถ้าเป็นคนต่าชาติ จะตกคนละประมาณ 200 บาทได้มั้ง ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จเรียบร้อยล้ว เราก็ออกมาเดินเล่นชิวๆ ตามประสาคนช่างเที่ยว รูปชุดต่อไปจะเป็นหาดทรายสีขาวเม็ดละเอียดบริเวณอ่าวเทียน และทางเชื่อมต่อไปยังอ่าววงเดือน หลังจากที่เดินเล่น รอเวลาตกเย็น เราก็เดินไปทางอ่าวลุงดำ ซึ่งเป็นบริเวณที่แคบที่สุดของเกาะเสม็ด โดยสามารถเดินข้ามถนนดินลูกรังเล็กๆ เพื่อเดินไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่อีกฝั่งหนึ่งของเกาะได้ รูปชุดต่อไปเป็น "ชุดตะวันลับฟ้า ที่เสม็ด" เสร็จจากถ่ายภาพชุกตะวันลับฟ้า เราก็เดินไปทางอ่าววงเดือน เมื่อไปหาอะไรกินตอนเย็น พยายามเลือกร้านที่อยู่ในงบประมาณที่สามารถยอมรับได้ มื้อนี้หมดไปสามร้อยกว่าบาทสำหรับสองคน เมื่อหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน เข้าที่พัก นอนเอาแรงไว้ลุยต่อในวันพรุ่งนี้ ... ... ... เวลาผ่านไปรวดเร็ว ราวกับฝันไป เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นขึ้นมานั่งเฝ้าพระอาทิตย์ที่ระเบียงห้องพักกันแต่เช้าตรู่ อันนี้เป็นรูปที่พัก ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ริมน้ำ ที่พักที่นี่จะเงียบสงบมาก ส่วนใหญ่แขกที่มาพักเป็นฝรั่งสูงวัย ส่วนคนไทย และฝรั่งวัยรุ่นมักจะไปหาที่พักบริเวณหาดทรายแก้ว ที่มีสถานบันเทิงเยอะแยะกว่ามากมาย เนื่องจากเราเป็นชีพจรลงเท้าอย่างรุนแรง หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเราก็เริ่มออกเดินทางผจญภัยบนเกาะเสม็ดอีกครั้ง โดยในวันนี้ตั้งใจจะเดินรอบเกาะ คือ ตอนเช้าจะเดินไปยังหาดทรายแก้ว ซึ่งอยู่บริเวณหัวเกาะ จากนั้นในตอนบ่ายจึงเดินไปยังปลายสุดของเกาะ การเดินช่วงเช้าเส้นทางเดินยังไม่ค่อยโหดเท่าไหร่ เป็นทางเดินดินลูกรัง ไม่มีการขึ้นหรือลงเขาสูง เลยยังมีพออารมณ์ถ่ายรูปเล่นชิวๆ ตามรายทาง รูปตอนเช้าส่วนใหญ่จะเป็นรูปที่อ่าวไผ่ และหาดทรายแก้ว ปิดท้ายด้วยรูปจากวรรณคดีของสุนทรภู่ ที่เปรียบเทียบเกาะเสม็ดเป็นเสือนเกาะแก้วพิศดาร โดยมีพระอภัยมณีและนางเงือกน้อยเป็นสัญลักษณ์ตั้งเด่นสง่าอยู่บริเวณหาดทรายแก้ว สำหรับการเดินทางในช่วงบ่ายที่เดินไปทางท้ายเกาะ หนทางค่อน้าวจะกันดาร มีรถมอไซด์แล่นฝั่นตลบอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เราเดินเท้าเอา อากาศก็ร้อนมีทางชันหลายแห่ง ทำให้ไปมีอารมณ์จะถ่ายรูปซักเท่าไหร่ รีบเดินรีบกลับมานอนพักดีกว่า รูประหว่างนั่งพักและเดินทางไปท้ายเกาะ เป็นอันว่าทริปเสม็ดที่ใครๆ ก็ว่า ไปเสม็ด เสร็จทุกราย เราก็มาเสร็จอย่างสมบูรณ์ที่การเดินทางไปท้ายเกาะนั่นเองง กลับที่พักหลับเป็นตาย เตรียมตัวกลับมาเริ่มต้นปี 2011 ที่ กทม. ได้ ถ่ายรูปสวยนะครับ ไม่คิดว่าเสม็ดจะสวยแบบนี้ ไม่ได้ไปหลายปีแล้ว ทั้งๆที่อยู่ระยองแท้ๆๆเนอะ..อิอิ
โดย: pooktoon วันที่: 30 เมษายน 2555 เวลา:1:11:20 น.
โดย: Kavanich96 วันที่: 30 เมษายน 2555 เวลา:7:37:51 น.
|
Yai Kaew
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]
Group Blog
All Blog |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |