The German Alpine: Landsberg am Lech และ Rothenburg ob der Tauber

เช้าวันนี้ เราก็ออกเที่ยว Landsberg am Lech กันต่อจาก...ตอนที่แล้ว (เมื่อวานนี้)... แล้วค่อยออกเดินทางไปยังเมือง Rothenburg ob der Tauber

จริงๆ แล้วทั้งสองเมืองนี้ไม่ได้อยู่ในเขต Alpine ซักเท่าไหร่ แต่ว่าเป็นเมืองที่จะเป็นทางผ่านเพื่อขับรถจากทางตอนใต้ของเยอรมันกลับมายังเมือง Aachen ก็เลยถือโอกาสแวะเที่ยว เพื่อจะได้ไม่ต้องเบื่อกับการขับรถอันยาวนานและทั้งเมือง Landsberg am Lech และ Rothenburg ob der Tauber เป็นเมืองที่อยู่บนถนนสายโรแมนติกของเยอรมัน

เมือง Landsberg am Lech เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Lech ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก Forggensee (ทะเลสาบ Forggen) แถวๆ เมือง Füssen ตอนนี้เรามาเที่ยวเมือง Landsberg am Lech กันก่อนดีกว่า

จากที่พักเราก็ขับรถมาจอดไว้บริเวณจตุรัสกลางเมือง หน้าประตูเมืองที่กั้นระหว่างเขตเมืองเก่ากับเขตเมืองใหม่ จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ จนไปถึง Bayertor ซึ่งเป็นประตูเมืองอีกฝั่งหนึ่ง รูปข้างล่างเป็น Bayertor



จาก Bayertor เราก็เดินลงเขามาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดชมวิวที่จะมองเห็นโบสถ์ใหญ่ประจำเมือง



เมือง Landsberg am Lech เป็นเมืองที่ไม่ค่อยดังในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยซักเท่าไหร่ เราเองก็ยังไม่เคยได้ยินชื่อเมืองนี้มาก่อนด้วยซ้ำ แต่พอมาถึง ก็ยอมรับเลยว่า เมืองนี้ก็มีอะไรดีๆ เหมือนกัน ทางเดินจากประตูเมืองด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งเป็นทางขึ้นเขาที่มีตึกสีสวยๆ ขนาบไปทั้งสองข้างทาง บรรยากาศในเมืองเงียบสงบ มีผู้คนที่อยู่อาศัยในเมืองมาเดินเล่นรับอากาศบริสุทธ์ยามเช้า

ตอนนี้เราเดินเล่นในตัวเมืองเก่าและเดินลงเขามาเรื่อยๆ จนกระทั้งมาอยู่ตรงพื้นที่ราบด้านนอกเขตเมืองเก่าอีกครั้ง หลังจากที่เรามายืนอยู่ตรงจุดนี้เมื่อเย็นวาน มองไปจะเห็นศาลาว่าการเมือง Landsberg am Lech



ส่วนอันนี้เป็นตึกที่ตั้งเรียงรายอยู่บนถนนเส้นเล็กๆ ในตัวเมือง



เสร็จจากตรงนี้เราก็ขับรถออกมาจากเมือง Landsberg am Lech แต่พอออกมาได้หน่อยเดียวเอง ก็เจอมุมของเมืองที่มีแม่น้ำ Lech ไหลผ่าน ก็เลยแวะเก็บรูปมาไว้เป็นที่ระลึกซักหน่อย



จากมุมที่จอดแวะถ่ายรูปก็เหลือบไปเห็นตึกหินเก่าๆ ทรงโบราณตั้งอยู่ริมน้ำ



ตึกนี้พอมองดูแล้ว ก็นึกถึงบรรยากาศของปราสาทสมัยก่อน ที่เค้ายักษ์ตัวร้ายใช้เป็นที่คุมขังเจ้าหญิงราพันเซลในนิทานปรัมปรา พอเสร็จจากปราสาทของเจ้ายักษ์ใจร้ายก็ถือว่าเราได้ลาจากเมือง Landsberg am Lech โดยสมบูรณ์แบบ และต่อจากนี้ไป เราก็จะไปเที่ยวที่เมือง Rothenburg ob der Tauber กันต่อ

เรามาถึง Rothenburg ob der Tauber ประมาณบ่ายสองกว่า เนื่องจากวันนี้ถือว่าเป็นวันหยุดทางศาสนาซึ่งเป็นช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ร้านค้าที่มีที่จอดรถขนาดใหญ่ที่อยู่นอกตัวเมืองเก่าไปหน่อยเดียวปิด เราก็เลยไปจอดรถที่นั่น (ไม่เสียตังค์ค่าจอดรถ) แล้วค่อยไปเดินเล่นในเขตเมืองเก่าของ Rothenburg

รูปแรกใน Rothenburg เป็นรูปประตูเมืองก่อนเข้าเขตเมืองเก่า



พอเข้าไปในเขตเมืองเก่าของ Rothenburg แล้ว เราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ ถนนในเขตเมืองเก่า เป็นถนนที่ปูด้วยหินก้อนใหญ่ๆ แบบถนนในสมัยโบราณที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ เห็นแล้วก็ทำให้นึกไปถึงรถม้าของอัศวินที่ควบกับดังกึบกับๆ อยู่ทั่วตัวเมือง

บริเวณนี้เป็นจตุรัสขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่เป็นที่ๆ บรรดานักท่องเที่ยวจากหลายชาติมารวมตัวกัน



จากจตุรัวกลางเมืองเราก็เดินไปตามถนนสายหลักในเมืองเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะมีตึกที่มีป้ายสวยๆ แขวนเอาไว้ โดยป้ายลวดลายต่างๆ เหล่านี้ จะบอกว่าตึกแต่ละตึกเป็นร้านขายของลักษณะไหน ป้ายต่างๆ เหล่านี้ ถือว่าเป็นลักษณะเด่นของตัวเมืองที่ตั้งอยู่บนถนนสายโรแมนติกของเยอรมันเลยทีเดียว

ป้ายแบบต่างๆ



เราเดินชมเมืองมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึง Plönlein ซึ่งเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง

ที่ Plönlein หรือว่า Little square แห่งนี้ เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันมากที่สุดในเมืองเลยทีเดียว เรายืนรอกันอยู่นานทีเดียวกว่า Plönlein จะว่างปราศจากผู้คน เราต้องใช้เวลาที่มีเพียงแค่ช่วงวินาทีเดียวที่มีถ่ายรูปให้เสร็จก่อนที่จะมีนักท่องเที่ยวคณะใหม่เข้ามาถ่ายรูปคู่กับ Plönlein กันอีกรอบ



จาก Plönlein เราก็จะเดินชมเมืองไปจนกระทั่งถึงทางเดินบนกำแพงรอบเขตเมืองเก่า มาดูรูปเมือว Rothenburg ไปเรื่อยๆ ดีกว่า





ตอนนี้เราเดินมาถึงกำแพงเมืองแล้ว เราเลยลองขึ้นบันไดไปเดินบนกำแพงเมืองกันซักหน่อย บนกำแพงเมืองมีการทำเป็นทางเดินขนาดไม่ใหญ่นัก กว้างประมาณสองเมตร ตัวกำแพงเมืองทำด้วยหิน ส่วนราวจะเป็นราวไม้ มีบันไดสร้างเป็นทางขึ้นลงเป็นจุดๆ เราเดินไปได้สักพักนึงก็ลงบันได้มาด้านล่าง ก็เจอบ้านน่ารักๆ หลังนี้



ภาพสุดท้ายของ Rothenburg ob der Tauber ก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับ Aachen คือภาพของป้อมปราการที่อยู่อีกด้านหนึ่งของเขตเมืองเก่า ด้านนอกของป้อมนี้เป็นสนามหญ้าสีเขียวขจี มีเก้าอี้ให้นั่งสำหรับชมเมืองด้วย



พอเสร็จจากเมือง Rothenburg เราก็ขับรถรวดเดียวมาที่เมือง Aachen เลย ทริปนี้ก็ถือว่าเป็นทริปที่สวยถูกใจเรามากอีกทริปหนึ่ง ถึงแม้ว่าอากาศในวันที่สามของทริปจะได้ดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แย่มากนัก พบกันใหม่ทริปหน้า

Create Date : 23 กันยายน 2551 Last Update : 23 กันยายน 2551 18:56:12 น. Counter : 3133 Pageviews.		11 comments
Share Tweet