Feel free to be ME.

 
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 ตุลาคม 2554
 

เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 7 (ต่อ)



เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 7 (ต่อ)


ยาซะลากฟ้าลดามาตามทาง

“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันจะกลับไปหาสายชล ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอร้อง”
“หุบปาก!”
ฟ้าลดาโมโหถุยน้ำลายใส่หน้ายาซะ
ยาซะโมโหสุดๆ ตบหน้าฟ้าลดาเพี๊ยะ!! ฟ้าลดาถึงกับมึน แล้วเสียงมือถือยาซะดังขึ้น ยาซะกดรับ
“ฮัลโหล..ว่าไงนะ!! พวกมันแย่งปืนไปได้..บ้าเอ๊ย ฉันได้ตัวมันมาแล้ว อีกห้านาทีเจอกัน”
ยาซะรีบฉุดฟ้าลดาให้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
ทางด้านซะละ และชาวเกาะ วิ่งมาที่ริมหาดเห็นสายชลนอนเลือดท่วมก็ตกใจ
“สายชล!”
มามิรีบเข้ามาดูสายชล
“สายชล...”
สายชลสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าทุกคน สายชลเสียงแหบพร่า
“นาง..ฟ้า...ถูกจับไปแล้ว...”
ทุกคนตกใจ
“ไป..ช่วยนางฟ้า...”
สายชลพยายามจะลุกขึ้นแต่ไม่ไหว เพราะเจ็บแผล
ปีร์กะเห็น
“สายชลโดนยิง!! เอ็งจะลุกไม่ได้นะ ไม่งั้นเลือดหมดตัวตายแน่”
สายชลจับแขนปีร์กะ
“ฉันสัญญากับนางฟ้าเอาไว้ว่าใครจะมาพาตัวนางฟ้าไปไม่ได้ ตราบใดที่นางฟ้ายังอยู่กับฉัน ฉันต้องไป..ฉันต้องไปพานางฟ้ากลับมา”
สายชลหน้าตามุ่งมั่นมากๆ จนทุกคนไม่รู้จะทำยังไง

+ + + + + + + + + + + +

ยาซะพาฟ้าลดามาหายศ หมึก ฉลามที่รออยู่ พยายามจะพาฟ้าลดาขึ้นเรือ แต่ฟ้าลดากัดแขน ยาซะร้องลั่น
“นังบ้า!!”
ฟ้าลดารีบผละแล้ววิ่งออกไป ยาซะรีบไล่ตามไปตะครุบตัวเอาไว้ ฟ้าลดาดิ้นๆๆๆ
“ปล่อยนะปล่อย...ปล่อย...”
ฟ้าลดาผละออกจากยาซะสำเร็จกำลังจะวิ่งหนี แต่ยาซะทุบไปที่ท้ายทอยฟ้าลดา ทำให้ฟ้าลดามหมดสติ ยศตกใจ หันไปมองยาซะ
“แกทำอะไร?!!”
“ไม่ต้องห่วง แค่สลบ ไม่ถึงตาย ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็พากลับไปไม่ได้”
ยศพูดไม่ออก ยาซะอุ้มฟ้าลดารีบเดินไปที่เรือกับคนอื่นๆ
นารา แตลอยพยุงสายชลมา ทุกคนตามมาด้วย แล้วเห็นฟ้าลดานั่งเรือไปที่เครื่องบินที่จอดอยู่กลางทะเล สายชลหัวใจแทบสลาย
“นางฟ้า..นางฟ้า!!”
สายชลผละออกจากนารากับแตลอยทั้งๆที่บาดเจ็บ แต่กลับสะดุดล้มลงพื้น จะลุกก็ลุกไม่ไหว ได้แต่เอื้อมมือไปข้างหน้า
“นาง...ฟ้า...”
ตาสายชลมองไปที่เรือที่แล่นออกไปไกล เปลือกตาค่อยๆปิดสนิท สายชลหมดสติไป

+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรกับหมอวัฒนา ยืนมองเครื่องบินที่กำลังบินมาด้วยความตื่นเต้น ด้านหลังมีทีมพยาบาลยืนอยู่พร้อมเตียง มีรถตู้จอดอยู่ ไม่นานเครื่องบินลงมาจอด ชมพูแพรกับหมอวัฒนารีบออกไป บุรุษพยาบาลรีบเข็นเตียงตามออกมา

ไม่นานประตูเครื่องบินเปิดออก ยศอุ้มฟ้าลดาเดินออกมา ชมพูแพรกับหมอวัฒนาตกใจกับสภาพของฟ้าลดา

“ยัยฟ้า!!”
สองคนรีบเดินเข้าไปตรงปลายบันได ยศอุ้มฟ้าลดาลงมา ยาซะ หมึก ฉลาม ลูกน้องตามลงมาติดๆ บุรุษพยาบาลเข็นเตียงเข้าไป ยศวางฟ้าลดาลงบนเตียง
ชมพูแพรรีบเข้าไปหาฟ้าลดา ลูบหน้า ลูบผมเป็นห่วงมากๆ หันไปมองยศ
“ทำไมน้องฉันเป็นแบบนี้”
ยศกำลังจะตอบ แต่ยาซะชิงตอบก่อน
“ไม่ทราบครับ”
ยศชะงัก
“ตอนพวกผมไปถึง คุณฟ้าลดาก็อยู่สภาพนี้แล้ว ไม่รู้ผัว..เออ..สามีคุณฟ้าลดาทำอะไรเธอรึเปล่า เพราะไอ้หมอนั่นไม่ใช่คนดี”
ยศหันไปมองยาซะอึ้งๆ ยาซะทำหน้านิ่ง ชมพูแพรโมโหแทนฟ้าลดา
“สารเลว!” ชมพูแพรรีบหันมาดูฟ้าลดาแล้วเงยหน้ามองหมอ “ยัยฟ้าจะเป็นอะไรมั๊ยคะหมอ”
หมอวัฒนาจับชีพจร
“ชีพจรเต้นปกติ แต่ต้องไปตรวจละเอียดที่โรงพยาบาลอีกที ผมว่าเรารีบพายัยฟ้าไปโรงพยาบาลดีกว่าครับ”
บุรุษพยาบาลรีบเข็นฟ้าลดาออกไป ชมพูแพรกับหมอวัฒนาตามไปติดๆ ยศหันมาทางยาซะ
“ฉันชักจะสงสัยแล้วว่าใครกันแน่ที่ไม่ดี..แกหรือคนบนเกาะนั้น”
ยาซะยิ้ม
“ทางที่ดีอย่ามีใครพูดอะไรดีกว่า เพราะผมอยากเจอคุณ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย”
ยาซะเปิดแจ็คเก็ตตัวนอกให้ยศเห็นด้ามปืนเป็นการขู่ ทำให้ยศไม่กล้า ยาซะเดินออกไปกับหมึกและฉลาม

+ + + + + + + + + + + +

ซะละ แตลอย นารา ช่วยกันแบกสายชลมานอนบนเตียง สายชลเลือดท่วม สภาพแย่มาก ปีร์กะรีบเข้ามา
“หลีกไป”
ซะละ นารา แตลอย ออกไปยืนกับแสงดาว มามิ อารีฟะ สวย มองสายชลเป็นห่วงสุดๆ ปีร์กะเห็นแผลที่ถูกยิงก็กังวลมาก
“เราต้องผ่ากระสุนออก”
“ป้าเคยทำเหรอ?” มามิถาม
“ไม่เคย”
“ไม่เคยทำ!! โธ่ป้า..แล้วไอ้สายชลมันจะไม่ตายเพราะฝีมือป้าเหรอ” นาราหนักใจ
“มันไม่มีทางเลือกแล้ว ทำหรือไม่ทำ ไอ้สายชลก็มีโอกาสตายทั้งนั้น”
ทุกคนเงียบ เครียด ปีร์กะหันไปมองสายชลหน้าเสียไปตามๆกัน
ขณะที่ปีร์กะเตรียมผ่าเอาลูกกระสุนที่สายชลออกนั้น นารา แตลอยจับตัวสายชลเอาไว้ ปีร์กะเอามีดลนที่ไฟตะเกียง ก่อนจะเอาแอลกอฮอล์ราดไปที่แผล สายชลสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บปวด จะดิ้น นารากับแตลอยล็อคตัวสายชลเอาไว้แต่สู้แรงไม่ไหว ซะละต้องเข้าไปช่วย และในที่สุดปีร์กะผ่ากระสุนออกมาได้สำเร็จ สายชลหมดสติ หน้าซีดเซียว เหงื่อท่วม

+ + + + + + + + + + +

ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ...

หมอวัฒนาตรวจฟ้าลดา เปิดเปลือกตาเช็ค วัดความดัน เจาะเลือดฟ้าลดา จากนั้นส่งเข้าเครื่องเอ็มอาร์ไอ กระทั่งได้เห็นผลเอ็กซเรย์ จึงเดินออกมาด้านนอก ชมพูแพรเห็น รีบลุกเดินไปหา
“ยัยฟ้าเป็นไงคะพี่หมอ”
“ผมตรวจร่างกายโดยละเอียดแล้ว ไม่พบอะไรน่าเป็นห่วง ร่างกายของน้องฟ้าแข็งแรงมาก ตอนนี้ก็ต้องรอให้น้องฟ้าพื้นขึ้นมาอย่างเดียวครับ”
ชมพูแพรอึกอัก
“แล้ว..น้องของแพร เออ..ไม่ได้ท้องใช่มั๊ยคะพี่หมอ”
“ไม่ครับ น้องฟ้าไม่ได้ท้อง และไม่มีแนวโน้มว่าจะท้องด้วย”
ชมพูแพรสบายใจ
“งั้นแพรเข้าไปหาน้องได้มั๊ยคะ”
หมอวัฒนาพยักหน้า แล้วพาชมพูแพรเข้าไปในห้อง
ชมพูแพรลูบหัวฟ้าลดาที่นอนหมดสติ ให้น้ำเกลืออยู่บนเตียง
“ยัยฟ้าซูบลงไปมาก” ชมพูแพรหันไปทางหมอวัฒนา ”คืนนี้แพรขออยู่เฝ้าน้องนะคะ”
“ได้สิครับ ถ้างั้นผมจะกลับไปเอาเสื้อผ้ามาให้แพรเอง”
“ขอบคุณค่ะ”
ชมพูแพรหันไปจับมือฟ้าลดา เอาขึ้นมาแนบแก้มแล้วก็หอม ก่อนจะลูบหัวฟ้าลดาอีกครั้ง

+ + + + + + + + + + + +

สายชลนอนหมดสติ หน้าซีดจนขาว สภาพดูแย่มากๆ ปีร์กะจับชีพจร ทุกคนยืนมองสายชลอย่างเป็นห่วง
“สายชลเป็นไงบ้างป้า” ซะละถาม
“อาการไม่ดีเลย คงเพราะเสียเลือดมาก”
“ป้าต้องช่วยสายชลนะ สายชลจะตายไม่ได้” มามิขอร้อง น้ำตาท่วม
“ดวงชะตาของไอ้สายชลยังไม่ถึงฆาต แต่ความเสียใจอาจจะทำให้มันถอดใจ”ปีร์กะบอก
ทุกคนอึ้ง หันไปมองสายชลด้วยความวิตกกังวล มามิเข้ามาจับมือสายชลแน่น
“สายชล เธอห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดนะ...สายชล”
สายชลยังคงนอนไม่ได้สติ

+ + + + + + + + + + + +

ฟ้าลดาค่อยๆขยับเปลือกตา ลืมตาขึ้นมาอย่างเบลอๆงงๆ ทันใดนั้นก็นึกถึงเหตุการณ์ที่ถูกจับมาจากเกาะได้ ฟ้าลดาหอบหายใจถี่ แล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง กรี๊ดดังลั่นด้วยความกลัว ทำให้ชมพูแพรที่นอนฟุบอยู่ข้างๆสะดุ้งตื่นเห็นฟ้าลดาฟื้น
“ยัยฟ้า..!!”
ฟ้าลดาไม่สนใจชมพูแพร ดึงน้ำเกลือออก ชมพูแพรตกใจ
“ฟ้าจะทำอะไร”
ชมพูแพรเข้ามาจับตัว ฟ้าลดาแกะมือชมพูแพรออก
“ปล่อย!! ฉันจะกลับบ้าน”
ฟ้าลดาหันไปมองชมพูแพรตากร้าว ชมพูแพรตกใจ พยายามตั้งสติ จับตัวฟ้าลดา
“ฟ้าจำพี่ไม่ได้เหรอ พี่แพร...พี่สาวของฟ้าไง”
ฟ้าลดาผลักชมพูแพรแล้วลงจากเตียง
“ฉันจะกลับบ้าน” ฟ้าลดาพึมพำกับตัวเอง ”สายชล สายชล”
ชมพูแพรตกใจ รีบกดเรียกพยาบาล แล้วตามไปคว้าตัวฟ้าลดาไม่ให้ออกไปจากห้อง
“ฟ้าจะไปไหน?? ฟ้า...ฟ้า..”
ฟ้าลดาไม่ค่อยมีแรง
“ปล่อย..ปล่อย...”

ฟ้าลดาพยายามจะออกไป แต่ชมพูแพรกอดแน่น
“พี่ไม่ให้ฟ้าไป พี่จะไม่ปล่อยฟ้าไปไหนทั้งนั้น”
ฟ้าลดาร้องไห้ ทุบไปที่มือชมพูแพรอย่างแรงหลายครั้งเพื่อให้ปล่อย ชมพูแพรเจ็บแต่ก็ทนไม่ยอมปล่อย ไม่นานพยาบาลเข้ามาช่วยจับ ฟ้าลดาพยายามขัดขืน
“ปล่อย..ปล่อยฉัน! ปล่อยซิ...ปล่อย” ฟ้าลดากรีดร้อง ”อ๊าย! อ๊ายยยยย!!!!!!”
ฟ้าลดาคลุ้มคลั่งอาละวาด ชมพูแพรได้ยืนอึ้งตะลึง น้ำตาไหล ทำอะไรไม่ถูก ระหว่างนั้นหมอวัฒนาเข้ามาเห็นฟ้าลดาก็ตกใจไม่นึกว่าจะอาการหนักขนาดนี้ รีบหันไปทางชมพูแพร
“แพรออกไปรอข้างนอกก่อนนะครับ”
ชมพูแพรทำอะไรไม่ถูก หมอวัฒนาต้องพาชมพูแพรออกไป แล้วปิดประตู
ชมพูแพรยืนมองฟ้าลดาผ่านทางกระจกหน้าห้อง ยังตะลึงไม่หาย เห็นหมอวัฒนาเข้ามาจับตัวฟ้าลดาพาไปที่เตียงในห้อง...ฟ้าลดาดิ้นสู้
“น้องฟ้า..ใจเย็นๆ น้องฟ้า....”
“ปล่อยฉัน...ปล่อย! ปล่อย! ปล่อย! ฉันจะกลับบ้าน!”
พยาบาลรีบเอาเข็มฉีดยาให้ หมอวัฒนารีบฉีดยา ไม่นานฟ้าลดาก็หมดสติ หมอวัฒนาหันไปทางพยาบาล
“มัดเอาไว้”
พยาบาลรับคำ หมอวัฒนาหันไปมองฟ้าลดากังวลใจ

+ + + + + + + + + + + +

หมอวัฒนาออกมาจากห้อง พบชมพูแพรที่ยังยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง
“แพร..”
ชมพูแพรยังนิ่ง หมอวัฒนาจับมือ ชมพูแพรสะดุ้ง
“โอ๊ย!”
หมอวัฒนาก้มมอง เห็นมือชมพูแพรแดงจากการโดนฟ้าลดาทุบ
“มือแพรโดนอะไรครับ??”
ชมพูแพรไม่ตอบ หมอวัฒนาจึงพาเข้าไปที่ห้องทำงาน เอาน้ำแข็งประคบมือให้ชมพูแพรที่นั่งนิ่ง น้ำตารื้อด้วยความเสียใจ แล้วจากความเสียใจก็เปลี่ยนเป็นโมโห
“ต้องเป็นเพราะไอ้ผู้ชายคนนั้นแน่ๆ ถึงทำให้ยัยฟ้ากลายเป็นคนเกรี้ยวกราดแบบนี้” ชมพูแพรเริ่มกังวลใจ “แล้วนี่น้องแพรจะเป็นบ้ารึเปล่าคะ”
“น้องฟ้าไม่เป็นบ้าหรอกครับ สมองของน้องฟ้าได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรงพอควร คงจากอะไรซักอย่าง อาจจะเป็นตอนที่คลื่นซัดทำให้หัวไปกระแทกโดนอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะตกใจสุดขีดก็เป็นไปได้ ก็เลยทำให้น้องฟ้าเป็นอย่างที่เห็น”
“แล้วยัยฟ้าจะจำอะไรได้เหมือนเดิมมั๊ยคะ”
หมอวัฒนาถอนหายใจ
“ผมบอกไม่ได้ครับ ของแบบนี้ต้องใช้เวลา ตอนนี้สิ่งที่ต้องรีบทำก็คือ ฟื้นความทรงจำของน้องฟ้าให้เร็วที่สุด แต่มันก็อยู่ที่ว่าน้องฟ้าจะยอมร่วมมือกับเรารึเปล่า”
“แล้วถ้าน้องไม่ยอมร่วมมือล่ะคะ”
“เราก็ต้องค่อยๆรักษากันไปครับ เริ่มจากให้ยา แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้น ก็ต้องใช้วิธีการรักษาที่มันรุนแรงขึ้นไปอีก”
“วิธีอะไรคะ”
“ช๊อตไฟฟ้าครับ”
ชมพูแพรอึ้ง หน้าเครียด

++++++++++++++++++++++

ปีร์กะช่วยรักษาอาการสายชลจนอาการดีขึ้น สายชลค่อยๆลืมตาขึ้นมา กลอกตาไปรอบๆ ระหว่างนั้นมามิเข้ามาเห็นสายชลฟื้นก็ดีใจ รีบถลามาข้างๆ

“สายชล...”
สายชลหันไปทางมามิ
“นางฟ้า...นางฟ้าอยู่ไหน”
มามิหน้าเสีย พูดไม่ออก สายชลพยายามนึก
“ฉันฝันว่า...นางฟ้าถูกคนจับตัวไป”
มามิกล้ำกลืน
“สายชลไม่ได้ฝันหรอก นางฟ้าถูกจับตัวไปจริงๆ”
สายชลอึ้ง รีบลุกขึ้น ทั้งๆที่ยังเจ็บแผล
“โอ๊ย!”
“สายชลจะไปไหน? แผลสายชลยังไม่หายสนิทดีนะ”
“ฉันจะไปตามหานางฟ้า”
สายชลพยายามลุกขึ้น มามิห้าม...จับตัวสายชลไม่ให้ไป
“สายชลอย่าเพิ่งลุกซิ”
สายชลสะบัดแขนออก
“ปล่อย!”

สายชลผละจากมามิ พอจะเดินออกไป ก็ทรุดลงกับพื้น เลือดซึมออกมาจากผ้าพันแผล มามิตกใจ รีบเข้ามาจับตัว
“สายชล...ไปนอนก่อนเถอะ”
“ไม่! ฉันจะไปตามหานางฟ้า ไม่งั้นฉันจะตามนางฟ้าไม่ทัน”
“สายชลสลบไปตั้งหลายวัน ยังไงก็ตามนางฟ้าไม่ทันหรอก”
สายชลอึ้ง น้ำตารื้อขึ้นมา กำมือแน่น แหกปากดังลั่น
“อ๊ากกกก!!!”
มามิตกใจ สายชลลุกขึ้นยืน หยิบเก้าอี้มาทุ่ม จับโต๊ะทุ่ม อาละวาดขว้างปาข้าวของอย่างรุนแรง
“ไม่จริง...ไม่จริง...ไม่..ม..ม..ม..ม!!!!”
มามิร้องไห้ สายชลเจ็บแผล เลยทรุดเข่าลงกับพื้น..ร้องไห้อย่างหนัก มามิเข้ามากอดสายชลแน่น
“สายชล...สายชล...”
สองคนร้องไห้ไปด้วยกัน

+ + + + + + + + + + +

หลายวันต่อมา...

สายชลนั่งอยู่บนเตียง ในมือมีสร้อยของฟ้าลดา แล้วก็เงยหน้าเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มามิยื่นช้อนข้าวมาตรงหน้าสายชล
“กินข้าวหน่อยนะสายชล”
“ไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกิน สายชลไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว”
สายชลไม่ตอบ น้ำตารื้นตลอดเวลา มามิถอนหายใจ สายชลกำสร้อยในมือแน่น
มามิเอาถาดอาหารออกมาวางข้างนอก ปีร์กะ และทุกคนรออยู่ด้วยความเป็นห่วง
“สายชลไม่ยอมกินอะไรเลย”
“ทำแบบนี้ เดี๋ยวก็ตาย” แตลอยโพล่งขึ้นมา
สวยหยิกพุงแตลอย
“พี่ลอย ปากเสีย!”
“ก็มันจริงนี่ น้ำก็ไม่ดื่ม ข้าวก็ไม่กิน ยาก็ไม่กิน แล้วมันจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง”
“ไอ้ลอยพูดถูก ถ้าไอ้สายชลยังเป็นอยู่แบบนี้ ใครก็ช่วยมันไม่ได้” ปีร์กะถอนใจ
“เฮ้อ แล้วเราจะทำยังไงกันดี พ่อแม่มันตายไปแล้ว ถ้าเกิดไอ้สายชลเป็นอะไรไปอีกคน ฉันทำใจไม่ได้หรอกนะ” ซะละกังวล
นาราคิดออก ดีดนิ้ว

“ฉันนึกออกแล้ว พวกเราก็ช่วยกันจับสายชลง้างปาก แล้วเอาข้าวยัดลงไปในคอมันเลยดีมั๊ย”
“เออ ก็ดีเหมือนกันนะ งั้นเราก็ต้องบีบจมูกสายชล พอสายชลหายใจไม่ออก สายชลก็จะต้องอ้าปาก” อารีฟะเห็นด้วย
“หยุดเพ้อเจ้อกันได้แล้ว ถ้าคิดอะไรไม่ออก ก็ไม่ต้องพูด” แสงดาวมองอย่างรำคาญ
นารากับอารีฟะจ๋อย แสงดาวหันไปมองสายชล
“ฉันจะไปพูดกับสายชลเอง”
แสงดาวเดินไปนั่งบนเตียงข้างสายชลที่ยังคง มองเหม่อออกไปข้างนอก แสงดาวจับแขนสายชล
“สายชล..”
สายชลหันมาทางแสงดาว น้ำตาคลอ
“ป้าแสงดาว...ฉันคิดถึงนางฟ้า”
สายชลน้ำตาไหล แสงดาวสงสารสายชลสุดๆ ดึงสายชลมากอดแน่น สายชลร้องไห้อย่างสุดจะกลั้นได้อีกต่อไป
“เป็นเพราะฉัน...ฉันทำให้นางฟ้าถูกจับตัวไป ฉันทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนางฟ้าไม่ได้ ฉันมันอ่อนแอ ฉันมันไม่เอาไหน ฉันปกป้องนางฟ้าไม่ได้”

แสงดาวผละออกมาจากสายชล
“สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความผิดของสายชล สายชลพยายามแล้ว ตอนนี้สิ่งที่สายชลต้องทำก็คือ สายชลต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป...เพื่อนางฟ้า”
“แต่นางฟ้าไม่อยู่กับฉันแล้ว ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไม”
“สายชลไม่คิดเหรอว่า นางฟ้ากำลังรอสายชลอยู่”
สายชลชะงัก ปีร์กะเดินเข้ามาหาสายชลกับแสงดาว
“แม่แสงดาวพูดถูก”
สายชลกับแสงดาวหันไปมองปีร์กะ
“จำที่ข้าเคยบอกเอ็งได้มั๊ย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่านางฟ้าจะเป็นยังไง คนที่นางฟ้ารักคือเอ็ง เอ็งกับนางฟ้าเป็นเนื้อคู่กัน อย่าให้ความอ่อนแอ มาทำให้จิตใจที่เข้มแข็งดุจหินผาของเอ็ง ต้องเป็นดั่งต้นหญ้าที่เอนไหวเพราะลมพัดเลยสายชล”
สายชลคิดตามที่ปีร์กะพูด แล้วก็มองสร้อยของฟ้าลดาในมือ

+ + + + + + + + + + + +

ฟ้าลดานอนนิ่งบนเตียง แววตาไร้ชีวิต ชมพูแพรถือชามข้าวนั่งลงตรงหน้า
“ทานข้าวหน่อยนะยัยฟ้า”
ฟ้าลดาหันหน้าไปอีกทาง ชมพูแพรถอนหายใจ แต่ก็พยายามเดินมาอีกด้าน ตักข้าวขึ้นมายื่นไปตรงหน้าฟ้าลดา
“ข้าวต้มกุ้งฝีมือป้าเนียม ของโปรดฟ้าไงจ๊ะ ทานซักคำหนึ่งนะ”
ฟ้าลดาหันหน้าหนีไปอีก ชมพูแพรสุดทนเดินมาตรงหน้า ฟ้าลดาหันหน้าหนี ชมพูแพรกระชากไหล่ฟ้าลดาแล้วเขย่าด้วยความโมโห ฟ้าลดาหันมามองด้วยความตกใจ
“พอซักทีนะฟ้า!! พี่ทนไม่ไหวแล้ว”
ฟ้าลดาอึ้ง
“พี่กับพี่หมอพยายามช่วยฟ้า แต่ทำไมฟ้าถึงไม่คิดจะช่วยเหลือตัวเองบ้าง ฟ้าจะเอาแต่นั่งๆนอนๆ ทำเป็นไม่รับรู้ ไม่ได้นะ!!”
ฟ้าลดาจ้องหน้าชมพูแพร ไม่พูด เบือนหน้าหนี ชมพูแพรถอนหายใจ ปล่อยมือออกจากฟ้าลดา หันไปเจอเจตน์ยืนอยู่ ชมพูแพรตกใจ
“คุณลุง...!!”

+ + + + + + + + + + + +

เจตน์ยืนมองฟ้าลดาที่นอนนิ่ง แล้วก็หันมาทางชมพูแพรที่นั่งอยู่ตรงห้องรับแขกสีหน้าไม่ดี
“หนูฟ้าดูไม่ดีขึ้นเลยนะ”
เจตน์เดินมานั่ง ชมพูแพรกลุ้ม
“ค่ะ ยัยฟ้าแกยังจำใครไม่ได้เลยค่ะ แล้วแกก็พยายามต่อต้านการรักษาทุกทาง”
“เฮ้อ...ถ้างั้นก็แย่น่ะซิ”
“คุณลุงมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ”
“หนูก็รู้ว่าเรือที่ขาดหางเสือ มันก็แล่นต่อไปไม่ได้ บริษัทเราก็เป็นแบบนั้น ตอนนี้ลูกค้าไม่มีความเชื่อใจบริษัทเราเหมือนก่อน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทต้องขาดทุนย่อยยับแน่ๆ”
ชมพูแพรนิ่งคิด

+ + + + + + + + + + + + +

หมอวัฒนาเซ็นชื่อลงในใบรับรองแพทย์ ก่อนจะยื่นให้ชมพูแพรที่นั่งตรงข้าม
“นี่เป็นใบรับรองแพทย์ ที่ระบุว่าน้องฟ้ามีอาการสมองเสื่อม”
ชมพูแพรรับมาแววตาเป็นประกายด้วยความดีใจ แต่ต้องพยายามเก็บเอาไว้ไม่แสดงออก
“พี่หมอเข้าใจแพรใช่มั๊ยคะ แพรจำเป็นต้องยื่นร้องต่อศาล ขอเป็นผู้จัดการมรดกเพื่อให้บริษัทดำเนินงานต่อไปได้ “
“ผมเข้าใจครับ” หมอวัฒนาจับมือชมพูแพร “ตอนนี้แพรต้องคอยดูแลทั้งน้องฟ้า และบริษัทของคุณอา ถ้าแพรมีอะไรอยากให้ผมช่วย บอกผมได้ทันที ไม่ต้องเกรงใจ”
ชมพูแพรจับมือหมอวัฒนาตอบ
“พี่หมอต้องช่วยแพรแน่ค่ะ ช่วยรักและดูแลแพรไปอย่างนี้ แพรก็ดีใจแล้วค่ะ”
หมอวัฒนากับชมพูแพรยิ้มให้กัน

+ + + + + + + + + + + +

หญิงมาที่โรงแรม แต่รปภ.ซึ่งเคยห้ามไม่ให้ชมพูแพรเข้าไปในโรงแรม เดินมาขวางเธอไว้
“ไม่ให้ฉันเข้าไป!! สมองเสื่อมกันเหรอไง ฉันเป็นเจ้าของโรงแรม ทำไมฉันจะเข้าไปไม่ได้”
“เป็นคำสั่งของท่านประธานครับ”
หญิงชะงักหน้าเจื่อน
“ท่านประธานเหรอ”
ไม่นานชมพูแพรเดินเชิดออกมา หญิงหันไปมองด้วยความตกใจ
“แพร!”
รปภ.หันไปมองทำความเคารพชมพูแพร ชมพูแพรยกมือให้รปภ.ออกไป หญิงยังอึ้งและงง
“เธอมาทำอะไรที่นี่”
“ยังต้องให้อธิบายอีกเหรอ เธอน่าจะรู้แล้วนะว่าเกิดอะไรขึ้น”
หญิงเริ่มคิดได้
“ทีใครทีมันไงล่ะหญิง”
หญิงกำมือแน่น
“เธอฉวยโอกาสตอนที่ฉันไม่อยู่ เล่นงานฉันเหรอแพร”
ชมพูแพรขยับมาประจันหน้า
“เธอสอนฉันให้ทำแบบนี้เองนะ อย่าลืมซิ”
ชมพูแพรยิ้มหวานแต่ดูโหด หญิงหน้าถอดสีพูดไม่ออก
“ตอนนี้ก็ออกไปจากโรงแรมของฉันได้แล้ว”
หญิงกัดกราม กำมือแน่น พูดไม่ออก เสียหน้าอย่างแรง ได้แต่จ้ำเดินออกไป ชมพูแพรยิ้มอย่างผู้ชนะ ในที่สุดเธอก็มีโอกาสนำเงินมรดกของฟ้าลดามาใช้ได้อย่างที่เธอต้องการ

+ + + + + + + + + +

หลายวันต่อมา...

ชมพูแพรกับหมอวัฒนา ยืนมองฟ้าลดาที่นอนเหม่อ ชมพูแพรหันมาทางหมอวัฒนาอย่างกลุ้มๆ
“แพรว่ามันถึงเวลาที่เราต้องใช้วิธีนั้นแล้วค่ะหมอ”
หมอวัฒนามองชมพูแพร
“แพรทนเห็นน้องในสภาพนี้ไม่ได้แล้ว นี่ไม่ใช่น้องสาวของแพร แพรต้องการน้องสาวคนเดิมกลับมาค่ะ”
ชมพูแพรมุ่งมั่นจนหมอวัฒนาต้องพยักหน้ารับ ตัดสินใจที่จะใช้วิธีช็อตไฟฟ้าเพื่อเรียกความทรงจำกลับมาให้ฟ้าลดา
หมอวัฒนาเช็คร่างกายให้ฟ้าลดา จนเห็นว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมจะทำการรักษาแล้ว จึงบอกให้พยาบาลนำเอาเอาอุปกรณ์เครื่องช็อตไฟฟ้าออกมาแปะที่ขมับฟ้าลดาสองข้าง
ฟ้าลดาทั้งเบลอทั้งมึน หมอวัฒนาเปิดอุปกรณ์ ฟ้าลดาถูกช็อตจนตัวเด้งขึ้นมา ตาเบิกโพลง ในความคิดของฟ้าลดานั้น เธอนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกจับตัว ...วันทำพิธีลอยทุกข์ลอยโศก...คืนเข้าหอ...วันแต่งงาน...วันประกวด...ช่วงเวลาที่มีความสุขกับสายชล ภาพทุกอย่างผ่านไปด้วยความรวดเร็ว จนถึงภาพที่ตัวเองใส่ชุดดำน้ำลอยละล่องอยู่ใต้ทะเล....แล้วภาพก็ดับมืด

+ + + + + + + + + + + +

สายชลเอาผ้าพันแผลออก เห็นแผลหายสนิทมีเพียงแผลเป็น สายชลดีใจมาก ไม่นานนกแก้วบินมาหา สายชลยื่นมือออกไปให้นกแก้วเกาะ
“นางฟ้า...นางฟ้า”
สายชลหน้าเศร้า
“แกก็คิดถึงนางฟ้าเหมือนกันใช่มั๊ยแก้วตา”
สายชลมองนกแก้วอย่างตัดสินใจ จึงได้ไปหาซะละ แสงดาว และแตลอย ทุกคนมองสายชลอย่างแปลกใจ
“เอ็งจะไปตามหานางฟ้า!” ซะละถาม
“จ๊ะ”
“แล้วจะไปตามหาที่ไหน?” แสงดาวสงสัย
“คนเดียวที่รู้ว่านางฟ้าไปไหน คือไอ้ยาซะ!!! ฉันจะเข้าไปตามหามันในเมือง”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร” ซะละออกความเห็น
“ฉันก็ต้องเสี่ยง ยิ่งรอนาน...โอกาสที่จะได้เจอนางฟ้าก็ยิ่งน้อยลง ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องตามหานางฟ้าให้เจอ”
ซะละ แสงดาวหันมามองหน้ากัน
“ฉันเสียนางฟ้าไปไม่ได้ นางฟ้าคือชีวิตของฉัน”
ซะละฟังแล้วตัดสินใจ...
“ถ้าอย่างนั้น...ให้ไอ้ลอยไปด้วย”
“ห๊ะ!! ฉันเนี่ยนะพ่อ”
“เออ ถึงเอ็งจะโง่ แต่ไปสองคนก็ยังดีกว่าไปคนเดียว”
สายชลพยักหน้ารับ แตลอยหันไปมองพ่อกับแม่ด้วยความเซ็ง สายชลหน้าตามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง




 

Create Date : 24 ตุลาคม 2554
0 comments
Last Update : 24 ตุลาคม 2554 12:15:52 น.
Counter : 1110 Pageviews.

 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

houyhnhnms
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Hello!
[Add houyhnhnms's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com