Feel free to be ME.

 
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 ตุลาคม 2554
 

เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 2 (ต่อ)



เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 2 (ต่อ)


สายชลกับฟ้าลดาเดินมาด้วยกัน สายชลยังทำหน้าไม่ค่อยถูก แต่ก็สั่งไปด้วย...
“ห้ามทำแบบนี้อีกนะนางฟ้า”
“ทำอะไร”
สายชลอึกอัก
“ก็...ก็...แก้ผ้าลงน้ำไงล่ะ”
“ก็นางฟ้าเห็นเด็กๆเค้าก็แก้ผ้าเล่นน้ำกัน”
“นั่นมันเด็ก แต่เราโตแล้ว”
“นางฟ้ายังไม่โตซักหน่อย นางฟ้าเด็กกว่าสายชลตั้งเยอะ”
สายชลชะงักมองฟ้าลดารู้สึกแปลกๆ ระหว่างนั้นเสียงมามิดังขึ้น
“นางฟ้า!”
ฟ้าลดากับสายชลหันไปเห็นซะละ แสงดาว มามิ นารา อารีฟะ สวยกรูกันเข้ามาหาด้วยความดีใจ
“นางฟ้าหายไปไหนมา” มามิถามอย่างร้อนใจ
“นางฟ้าวิ่งตามหมูเข้าไปในนั้น” ฟ้าลดาชี้ไปที่ป่า
แสงดาวโล่งอก
“ขอบคุณ คุณพระคุณเจ้าที่นางฟ้าไม่เป็นอะไร พวกเราเป็นห่วงแทบแย่ วันหลังจะไปไหนมาไหนต้องบอกรู้มั๊ยนางฟ้า”
ฟ้าลดายิ้มรับคำ
“จ๊ะ”
“แล้วทำไมเนื้อตัวเปียกกันแบบนี้ ไปทำอะไรกันมา” นาราถามอย่างสงสัย
ฟ้าลดาจะตอบ แต่สายชลรีบพูด
“ฉันกับนางฟ้าพลัดตกน้ำน่ะจ๊ะ”
แสงดาวตกใจ
“ตายแล้ว! โชคดีที่ไม่เป็นอะไร วันหลังก็ระวังกันหน่อยนะ”
สายชลยิ้มแหยๆ
“จ๊ะ”

ระหว่างนั้นแตลอยเดินออกมา
“อยู่นี่กันเอง ฉันตามหาตั้งนาน” แตลอยหันไปทางฟ้าลดา “นางฟ้าจ๋า วันหลังมาแก้ผ้าเล่นน้ำตกกับลอยก็ได้นะจ๊ะ”
ฟ้าลดาพยักหน้าพร้อมยิ้มหวาน สายชลชะงัก ทุกคนหันขวับไปมองสายชลแล้วพูดพร้อมกัน
“แก้ผ้าเล่นน้ำตก!”
สายชลหน้าจ๋อย หันไปมองแตลอย อยากจะฆ่ามันนัก

+ + + + + + + + + + + +

ทุกคนพากันมาที่หน้าบ้านปีร์กะ นาราพอรู้เรื่องว่า ฟ้าลดาแก้ผ้าเล่นน้ำตกก็พูดขึ้น
“บ้า...นางฟ้าต้องบ้าแน่ๆ คนสติดีดีที่ไหนจะแก้ผ้าเล่นน้ำโทงๆ”
อารีฟะยิ้มๆ
“ก็ผัวไงจ๊ะ...วันดีคืนดีก็แก้ผ้านอนโทงๆเหมือนกัน”
นาราสะดุ้ง
“โธ่เมียจ๋า นั่นผัวทำที่บ้าน...ไม่ได้ทำประเจิดประเจ้อเหมือนนางฟ้า”
ปีร์กะกับทุกคนหันไปมองฟ้าลดา ที่นั่งกินกล้วยอยู่คนเดียว
“ดูนางฟ้าซิ ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเล้ย หรือว่าจะบ้าอย่างที่พี่นาราบอกจริงๆ” มามิออกความเห็น
สายชลเข้าไปขอร้องปีร์กะ
“ป้า...ป้าช่วยตรวจนางฟ้าให้อีกทีได้มั๊ยจ๊ะ คือ...หลังจากที่นางฟ้าฟื้นขึ้นมา นางฟ้าเค้าดูแปลกๆ ทำตัวเหมือนเด็ก ช่างซักช่างถาม แล้วก็บอกว่าตัวเองเด็กกว่าฉันด้วยนะป้า”
“ฉันเห็นด้วยกับสายชล ฉันกับพี่ซะละก็รู้สึกว่านางฟ้าแปลกๆเหมือนกัน” แสงดาวเสริม
มามิคิดแล้วตกใจ
“หรือว่าเจ้าป่าเจ้าเกาะจะไม่พอใจนางฟ้า เพราะปกติเกาะเราไม่เคยมีคนนอกเข้ามาอยู่”
“แต่เราทำพิธีขอบคุณเจ้าป่าเจ้าเขาไปแล้ว มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง” ปีร์กะแย้ง
สวยพยักหน้าเห็นด้วย
“เออจริง ป้าปีร์กะพูดถูก...พี่มามินี่โง๊โง่”
มามิโกรธเท้าเอวจ้องหน้าสวย
“นังสวย!”

แสงดาวรีบห้ามตวาดเสียงดัง
“พอ! นังสองคนนี้จะกัดกันไปถึงไหนห๊ะ”
สวยกับมามิเงียบ ไม่กล้า ทุกคนหน้าเครียดหันไปมองฟ้าลดาที่ยัดกล้วยเข้าปากทั้งลูก กินไปยิ้มไป ดูดนิ้วท่าทางเหมือนเด็กๆ ปีร์กะครุ่นคิดก่อนจะหันมาทางทุกคน
“ข้าว่าที่นางฟ้ามานอนสลบอยู่ที่ริมหาด หัวมันคงไปกระแทกโดนอะไรแรงๆเข้า ก็เลยทำให้สมองเลอะเลือนไปบางส่วน จนไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ หรืออะไรที่เคยทำได้ ก็จำไม่ได้ว่าทำยังไง”
แสงดาวกังวลใจ
“อย่างนี้ไม่ได้เรียกว่าบ้าใช่มั๊ย”
“ไม่ได้บ้า แค่ความจำบางส่วนหายไป”ปีร์กะอธิบาย
ซะละคิดตาม
“มันก็เลยทำให้นางฟ้าคิดว่า ตัวเองเป็นเด็กด้วยรึเปล่า”
“มันก็เป็นไปได้”ปีร์กะพูดเรียบๆ
ทุกคนหันไปมองฟ้าลดาอีกครั้ง ซะละกังวลใจหันไปสั่งทุกคน
“ถ้าอย่างนั้น ต่อไปนี้พวกเราต้องช่วยกันสอนนางฟ้าว่า อันไหนทำได้ อันไหนทำไม่ได้ เพราะถ้าขืนนางฟ้าไปแก้ผ้าเล่นน้ำกับผู้ชายคนอื่น แบบที่ทำกับสายชล นางฟ้าจะเป็นอันตราย”
ทุกคนพยักหน้า สายชลหันไปมองฟ้าลดาอย่างเป็นห่วง

+ + + + + + + + + + + +

กรุงเทพ...
วันเปิดโรงแรม Hip Hotel นักข่าวและแขกเหรื่อมากันพร้อมเพรียง ช่างภาพกำลังถ่ายรูป หญิงซึ่งเป็นหุ้นส่วนของโรงแรมอยี่ที่ด้านหน้า หญิงจัดเต็ม โพสท่าถ่ายรูปอย่างสุดแสนเซ็กซี่ ระหว่างนั้นมีนักข่าวเข้ามาขอสัมภาษณ์
“คุณหญิงขา ขอสัมภาษณ์หน่อยนะคะ”
หญิงหันไปทางนักข่าว
“ได้ค่ะ”
“อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณหญิงหันมาจับธุรกิจโรงแรมคะ”
หญิงยังไม่ทันตอบ ก็มีเสียงดังกระหึ่มของรถคันหนึ่งที่แล่นเข้ามา ทำให้ทุกคนหันไปมอง รวมทั้งหญิงด้วย รถสีดำเงาวับแล่นเข้ามาจอดตรงบริเวณที่คนยืนอยู่ ผู้คนให้ความสนใจกับเจ้าของรถ มีแต่หญิงคนเดียวที่เบ้หน้าด้วยความไม่พอใจเพราะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าของรถคือใคร
สักครู่คนขับก็เปิดประตูรถ เจ้าของรถคันนั้นคือ ชมพูแพร ที่ลงมาจากรถอย่างสวยสง่า ชมพูแพรถอดแว่นดำหันมาทางทุกคน แล้วยกมือไหว้
“ขอโทษนะคะทุกคนที่แพรมาช้า”
นักข่าวที่กำลังสัมภาษณ์หญิง รีบผละไปหาชมพูแพรทันที ทำให้หญิงอ้าปากค้าง
“วันนี้คุณชมพูแพรสวยมากเลยค่ะ งานไหนงานนั้น ไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวัง” นักข่าวชม
ชมพูแพรยิ้มหวาน
“แหม...งานเปิดตัวโรงแรมของแพรทั้งที จะให้น้อยหน้างานอื่นที่เคยไปได้ไงล่ะคะ” ชมพูแพรหันไปเห็นหญิง “อ้าว หญิง...หวัดดีจ๊ะ”
หญิงยิ้มเจื่อน พูดอะไรไม่ออก
“ถ้างั้นขอสัมภาษณ์คุณแพรเลยนะคะ”
ชมพูแพรหันไปยิ้มให้นักข่าว
“ได้ค่ะ”
ช่างภาพเข้ามา
“แต่ก่อนจะสัมภาษณ์ ขอถ่ายภาพคุณชมพูแพรก่อนนะครับ ทางนี้ครับ”
ช่างภาพคนอื่นเรียกชมพูแพรให้หันมาเสียงดังระงม ชมพูแพรหันไปโพสท่าน้อยๆ แต่ดูดี ให้ถ่ายภาพ ยิ่งทำให้หญิงหัวเสีย หงุดหงิดเต็มที่ แล้วหญิงก็นึกอะไรออก...เสนอตัวมายืนข้างๆชมพูแพรด้วยอีกคน
“พี่ๆขา...ถ่ายรูปแพรคนเดียวได้ไง อย่าลืมสิคะว่าหญิงก็เป็นเจ้าของโรงแรมนี้อีกคน เรามาถ่ายรูปด้วยกันนะจ๊ะแพร”
ชมพูแพรผงะไปเล็กน้อย แต่ก็ฝืนยิ้มออกมา ระหว่างนั้นมีพนักงานถือช่อดอกไม้ช่อโตเดินเข้ามา มองหา...เห็นชมพูแพร ก็ตรงปรี่เข้าไปกลางวงที่เค้ากำลังถ่ายรูปกันอยู่
“คุณชมพูแพรรึเปล่าครับ”
ชมพูแพรหันมา หญิงกับคนอื่นหันไปเห็นช่อดอกไม้ก็ตะลึงอึ้ง
“ค่ะ”
พนักงานยื่นช่อดอกไม้

“ดอกไม้จากคุณหมอวัฒนาครับ”
ทุกคนฮือฮา ชมพูแพรหน้าบาน รับดอกไม้มาถือเอาไว้ นักข่าวรีบเข้ามายิงคำถาม
“ขนาดเจ้าตัวไม่มา ยังโรแมนติคได้เลยนะคะเนี่ย แล้วนี่คุณแพรจะมีข่าวดีกับคุณหมอวัฒนาเมื่อไหร่คะ”
ชมพูแพรยิ้มแย้ม
“คงไม่เร็วๆนี้หรอกค่ะ แพรยังอยากทำงานอยู่ แต่ถ้าถึงวันนั้นเมื่อไหร่ รับรองแพรบอกทุกคนแน่นอนค่ะ”
ทุกคนเข้ามารุมให้ความสนใจชมพูแพร หญิงมองด้วยความอิจฉาที่ชมพูแพรขโมยซีนเธอไปได้ถึงสองซีนติดๆกัน

+ + + + + + + + + + + +

หมอวัฒนากำลังผ่าตัดสมองคนไข้ ทันใดนั้นคนไข้ความดันต่ำ หัวใจกำลังจะหยุดเต้น หมอวัฒนารีบเข้ามาปั๊มหัวใจ ฉีดยากระตุ้นหัวใจก็ยังไม่ดีขึ้น แต่หมอวัฒนาไม่ถอดใจ ไม่ยอมแพ้ ใช้กำปั้นทุบไปที่หน้าอกคนไข้อย่างแรงหลายหมัด จนกระทั่งหัวใจกลับมาเต้นได้อีกครั้ง หมอวัฒนาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หลังการผ่าตัด หมอวัฒนาเดินออกมา ญาติคนไข้รีบโผเข้าไปหา หมอเปิดหน้ากากที่ปิดปากออก เผยให้เห็นใบหน้าของเขา ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น หมอวัฒนายิ้มให้ญาติ
“การผ่าตัดสำเร็จไปด้วยดีครับ”
ญาติคนไข้ดีใจกันสุดๆ เข้ามารุมกอด รุมจับมือหมอวัฒนา
“ขอบคุณมากนะคะ“
“ขอบคุณมากครับคุณหมอ”
หมอวัฒนายิ้มมีความสุข แล้วหันไปเห็นชมพูแพรถือช่อดอกไม้ยืนอยู่ เขายิ้มออกมาอีกครั้งด้วยความดีใจ แววตาเป็นประกาย ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน...
“ขอบคุณมากนะคะพี่หมอสำหรับดอกไม้ แพรชอบมากค่ะ”
“ผมดีใจนะครับที่แพรชอบ แสดงว่าผมยังรู้ใจแพรอยู่”
ชมพูแพรจับเนคไทของเขาดึงแบบแกล้งๆ
“ก็ลองไม่รู้ใจแพรสิคะ” ชมพูแพรยื่นหน้าเข้าไปใกล้ “พี่หมอได้มีเรื่องกับแพรแน่”
หมอวัฒนาหัวเราะชอบใจ
“แล้วนี่แพรมาหาผมคนเดียวเหรอครับ”
“ค่ะ พี่หมออยากให้แพรมาใครมาด้วยเหรอ”
“ผมนึกว่าคุณอาภมร คุณอาลัดดา แล้วก็น้องฟ้าจะมาด้วยซะอีก”
ชมพูแพรชะงักหน้าเศร้า
“คุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็ยัยฟ้า ไม่ได้มางานเปิดโรงแรมของแพรค่ะ...พวกเค้าคงสนุกจนลืมวันสำคัญของแพร ทั้งๆที่...รับปากว่าจะมา”
หมอวัฒนาอึ้ง
“แพร...”

ชมพูแพรฝืนยิ้ม
“ช่างมันเถอะค่ะ แพรชินซะแล้วกับการที่เป็นคนถูกลืม”
“ไม่มีพ่อแม่คนไหน ที่ลืมลูกตัวเองหรอกนะครับ ผมว่าอาจจะมีเหตุขัดข้องบางอย่าง ทำให้พวกท่านแล้วก็น้องฟ้ากลับมาไม่ทัน”
ชมพูแพรหันมาถอนหายใจ
“ใครจะยังไงก็ช่าง แค่แพรมีพี่หมออยู่ข้างๆ แพรก็มีความสุขแล้วค่ะ”
หมอวัฒนากับชมพูแพรยิ้มให้กัน ทันใดนั้นเสียงมือถือของชมพูแพรดังขึ้น เธอผละจากเขาหยิบมือถือออกมากดรับ
“ฮัลโหล”
ชมพูแพรฟังแล้วก็แทบช็อค ทำช่อดอกไม้ร่วงลงพื้น หมอวัฒนาแปลกใจ
“เป็นไปไม่ได้! ฉันไม่เชื่อ!...แน่ใจแล้วเหรอว่าใช่”
หมอวัฒนานิ่วหน้าสงสัย ชมพูแพรฟังอีกครั้งยังตะลึงไม่หาย น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด จนหมอเป็นห่วง
“แล้วยัยฟ้า...ยัยฟ้าน้องสาวฉันล่ะ”
ชมพูแพรฟังปลายสายได้ไม่นาน ก็กรีดร้องออกมาดังลั่นอย่างคนที่คุมสติไม่อยู่
“ไม่จริง ไม่จริง...ง ไม่จริง...ง...ง!”
ชมพูแพรเป็นลม หมอวัฒนารีบประคองชมพูแพรไว้ในอ้อมกอดด้วยความตกใจ
“แพร...แพรครับ แพร”

+ + + + + + + + + + +

ชมพูแพรนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง หมอวัฒนาเอาแอมโมเนียให้ดม ไม่นานเธอก็ฟื้นขึ้นมา หมอวัฒนาดีใจมาก
“แพร...”
ชมพูแพรลุกขึ้นมา นั่งแล้วก็โผกอดเขาร้องไห้อย่างหนัก
“แพร...เกิดอะไรขึ้น เล่าให้ผมฟังสิครับ”
ชมพูแพรผละออกมาทั้งๆน้ำตานองหน้า
“มีคนเจอศพคุณพ่อ คุณแม่ที่ริมหาดจังหวัดกระบี่”
หมอวัฒนาตะลึงอึ้ง ชมพูแพรน้ำตาไหล
“แต่ไม่เจอยัยฟ้า”
หมอวัฒนากุมมือเธอแน่นด้วยความเป็นห่วง ชมพูแพรหันมาทางเขา
“ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ยัยฟ้าอยู่ที่ไหน...ไม่รู้ว่าป่านนี้ยัยฟ้าจะเป็นตายร้ายดียังไง” ชมพูแพรจับแขนหมอวัฒนา “แล้วถ้าเกิดยัยฟ้าเป็นอะไรขึ้นมา แพรจะทำยังไง”เธอเขย่าแขนเขา “แพรจะทำยังไง”
ชมพูแพรร้องไห้หนักมาก จนหมอวัฒนาต้องดึงมากอด
“ใจเย็นนะครับแพร ใจเย็นๆนะ”
“แพรไม่อยากให้น้องเป็นอะไรไปอีกคน พี่หมอช่วยแพรด้วยนะคะ พี่หมอช่วยแพรด้วย”
ชมพูแพร้องไห้ไม่หยุด หมอวัฒนาได้แต่กอดปลอบใจ หน้าเครียด

+ + + + + + + + + + + +

เช้าวันใหม่...
สายชลเดินมาที่เรือ ทันใดนั้นเสียงฟ้าลดาก็ดังขึ้น
“สายชล”
สายชลหันไปเห็นฟ้าลดาวิ่งมาหา ด้วยท่าทีร่าเริงแจ่มใส เพราะหายป่วยแล้ว
“นางฟ้าไปด้วย”
สายชลกำลังจะอ้าปากพูด แต่ฟ้าลดารีบพูดขัด
“นางฟ้าหายแล้ว ไปกับสายชลได้”
“แน่ใจ๊” สายชลน้ำเสียงเยาะๆ
ฟ้าลดาเชิดหน้ากอดอก
“แน่ใจ!”
สายชลยิ้ม
“ถ้าอยากไปด้วยก็ตามมาให้ทัน”
สายชลรีบวิ่งไปที่เรือ ฟ้าลดารีบวิ่งไล่ตามไปติดๆ แล้วกระโดดขึ้นหลังสายชล
“เย้! นางฟ้าตามสายชลทันแล้ว”
สายชลเสียหลัก ทั้งคู่ล้มไปบนหาด ฟ้าลดาทับตัวสายชลเอาไว้ สายชลอึ้งๆ ฟ้าลดาเอานิ้วจิ้มจมูกของเขา
“สายชลแพ้แล้ว”
ฟ้าลดายิ้มดีใจ แล้วรีบลุก วิ่งไปที่เรือ ก่อนชูมือเป็นผู้ชนะ สายชลหันไปมองแล้วก็ยิ้ม ก่อนตามเธอไปที่เรือ ทั้งคู่ช่วยกันเข็นเรือลงไปในทะเล
สายชลพายเรือออกไปกลางทะเล เรือโคลงเคลงไปมา ฟ้าลดาเริ่มกลัวจากจิตใต้สำนึก มือกำขอบเรือแน่น แล้วก็รู้สึกทนไม่ไหว
“สายชล...นางฟ้าอยากกลับบ้าน”
สายชลหยุดพายหันไปมอง
“ไหนเมื่อกี๊บอกว่าอยากมาด้วยไง”
ฟ้าลดาหน้าซีดตัวสั่น
“เมื่อกี๊อยากมา แต่ตอนนี้ไม่อยากแล้ว กลับเหอะนะสายชล”
“มาไกลขนาดนี้ กลับไม่ได้แล้ว ถ้าส่งเธอกลับไป แล้วต้องออกมาอีก วันนี้ไม่ได้ปลาแน่ๆ”
สายชลไม่สนใจ พายเรือต่อ ฟ้าลดาทนไม่ไหว...ลุกขึ้นยืน
“แต่นางฟ้าอยากกลับบ้าน สายชลต้องพายเรือกลับไปเดี๋ยวนี้!”
สายชลไม่พอใจลุกขึ้นยืน
“อย่าเอาแต่ใจสินางฟ้า”
ฟ้าลดายังไม่ทันพูดต่อ คลื่นมา ทำให้เรือกระดก เธอตกใจ ทรงตัวไม่อยู่ ตกลงน้ำตูม สายชลตกใจ
“นางฟ้า!”

สายชลรีบกระโดดตามลงไปทันที ฟ้าลดาตาเหลือก ดิ้นอยู่ใต้น้ำด้วยความกลัว สายชลว่ายเข้ามารวบตัวเธอ แล้วดึงขึ้นเหนือผิวน้ำ ฟ้าลดาสำลักพลางหอบหายใจถี่ และกอดสายชลเอาไว้เขามองเธออย่างเป็นห่วง
สายชลนำตัวฟ้าลดาขึ้นมาบนเรือ เธอยังตัวสั่นด้วยความกลัว เขามองเธออย่างแปลกใจ
“นางฟ้าว่ายน้ำไม่เป็นเหรอ”
ฟ้าลดาพยักหน้า ยังตื่นกลัว
“เป็นไปได้ยังไง ตอนสายชลเจอนางฟ้า นางฟ้าอยู่ในชุดดำน้ำ แสดงว่านางฟ้าต้องว่ายน้ำเป็นสิ”
ฟ้าลดาส่ายหน้า
“นางฟ้าว่ายน้ำไม่เป็นจริงๆ”
“สายชลว่านางฟ้าอาจจะลืมไปมากกว่าว่า...ว่ายน้ำยังไง”
ฟ้าลดามองสายชล
“ลองดูอีกครั้งมั๊ย”
ฟ้าลดาส่ายหน้าตื่นกลัว
“ไม่ นางฟ้ากลัวน้ำ”
“มีสายชลอยู่ด้วย นางฟ้าไม่ต้องกลัว สายชลไม่มีทางให้นางฟ้าเป็นอะไรเด็ดขาด”
ฟ้าลดานิ่งคิดมองหน้าสายชล
“จริงนะ”

สายชลพยักหน้า
“สัญญาก่อนว่าสายชลจะไม่ให้นางฟ้าเป็นอะไร”
สายชลจับหัวนางฟ้าเข้ามาชนกับหน้าผากของตัวเอง
“สายชลสัญญา”
สายชลยิ้มมั่นใจให้ ฟ้าลดาพยักน้า สายชลลงน้ำแล้วหันไปยื่นมือให้เธอ ฟ้าลดายังสั่นนิดๆ เพราะกลัว แล้วก็กระโดดลงมาในทะเล สายชลเข้าไปประคองเธอเอาไว้ในอ้อมกอด
“กลั้นหายใจ แล้วดำลงไปพร้อมกัน หนึ่ง...ส่อง...ส่าม”
สายชลกับฟ้าลดากลั้นหายใจ แล้วดำลงไปในน้ำพร้อมกัน แต่เธอกลัว เลยพรวดขึ้นจากน้ำ สายชลตามขึ้นมา
“นางฟ้าทำไม่ได้ นางฟ้าทำไม่ได้”
สายชลมองฟ้าลดาอย่างครุ่นคิดว่าจะทำยังไงดี แล้วเขาก็นึกอะไรออก

++++++++++++++++++++

บ่ายวันนั้น...สายชลพาฟ้าลดามายืนตรงริมผา ฟ้าลดามองลงไปก็กลัว ค่อยๆถอยแต่เขาแตะหลังเธอเอาไว้

“ถ้านางฟ้าคิดว่าทำไม่ได้ มันก็จะทำไม่ได้ นางฟ้าต้องเชื่อมั่นในตัวเอง และเชื่อใจสายชล”
ฟ้าลดามองหน้าเขาแล้วส่ายหัว สายชลจึงคว้ามือเธอมาจับ
“นางฟ้ามั่นใจในตัวสายชลมั๊ย”
ฟ้าลดาพยักหน้า
“ถ้างั้นหลับตา”
ฟ้าลดาหลับตา สายชลจับมือแน่น เธอบีบมือเขาอย่างตื่นเต้น แล้วเขาก็พาเธอวิ่งไปแล้วกระโดดจากหน้าผาตัวลอย ลงไปในน้ำพร้อมกัน
ใต้น้ำ...ฟ้าลดาลืมตาขึ้นมาเจอสายชลยิ้มให้ เธอดีใจสุดๆ พรวดขึ้นมาจากน้ำพร้อมกับเขา
“นางฟ้าทำได้แล้ว นางฟ้าทำได้แล้ว”
ฟ้าลดาโผกอดสายชลพร้อมหัวเราะด้วยความดีใจ เขากอดเธอตอบด้วยความลืมตัว แล้วก็นึกขึ้นได้ รีบผละออกห่าง
“สายชลจะปล่อยมือนางฟ้าล่ะนะ”
ฟ้าลดาพยักหน้า เขาค่อยๆปล่อยมือให้เธอพยุงตัวเอง แล้วเธอก็ลอยตัวได้สำเร็จ สายชลดีใจ
“วู้...ฮ่าๆ”
สายชลกับฟ้าลดาดำน้ำด้วยกัน เห็นความงามใต้ท้องทะเล สองคนมีความสุขกันสุดๆ

+ + + + + + + + + + + +

เย็นวันนั้น...
ฟ้าลดาเดินมาหน้าห้องน้ำหลังบ้าน เห็นสายชลนุ่งผ้าขาวม้า...กำลังอาบน้ำตรงมุมหนึ่ง สายชลอาบน้ำเสร็จ เอาผ้าเช็ดตัวแบบลวกๆ แล้วก็สะบัดหัวให้ผมแห้ง ฟ้าลดาเห็นแล้วก็ทำตามบ้าง เธอสะบัดหัวแบบเขาแต่สะบัดแรงไปหน่อย คอเลยเคล็ด
“โอ๊ย!”
สายชลตกใจรีบวิ่งมาหาฟ้าลดา
“นางฟ้าเป็นไร”
“นางฟ้าเห็นสายชลสะบัดหัวแล้วผมก็แห้ง นางฟ้าก็เลยทำตามบ้าง แต่สะบัดแรงไปหน่อย”
ฟ้าลดาหน้าเหยเกเพราะเจ็บต้นคอ สายชลยิ้มขำๆ หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว สองคนมานั่งที่ระเบียงบ้าน สายชลนวดคอให้
“ดีขึ้นยัง”
“หายเจ็บแล้ว”
สายชลหยุดนวด หยิบผ้าขนหนูยื่นให้
“นางฟ้าผมยาว ต้องใช้ผ้าขนหนูเช็ดถึงจะแห้ง สายชลผมสั้น สะบัดทีเดียวก็แห้งแล้ว”
ฟ้าลดาพยักหน้า เอาผ้าขนหนูเช็ดผม สายชลมองๆ
“เช็ดแบบนี้เมื่อไหร่จะแห้ง”
สายชลนั่งลง เอาผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้ฟ้าลดา กลิ่นหอมจากผมลอยมาเตะจมูกของเขาทำเอาเคลิ้มจ้องมองหน้าสวยนั้น มือค่อยๆเอื้อมมือลูบผมแล้วเอาขึ้นมาดม โดยที่ฟ้าลดาไม่เห็น ทันใดนั้นเสียงมามิก็ดังขึ้น
“สายชลจ๋า”
สายชลสะดุ้งตกเก้าอี้โครม
“โอ๊ย”
ฟ้าลดาหันไปมองตกใจ มามิรีบเดินมาหา
“สายชลเป็นไงบ้างอ่ะ”
“เจ็บน่ะซิ ถามได้” สายชลลุกขึ้นจับก้นกบตัวเอง “เธอมาทำไม”
มามิยิ้ม พร้อมชูตะกร้าใส่ผัก ใส่ปลาในมือขึ้นมาพร้อมยิ้มหวาน
“มามิจะมาทำอาหารให้สายชล กับนางฟ้ากินจ๊ะ”
มามิเอาผัก เอาปลาออกมาวาง ฟ้าลดายื่นหน้ามาดูปลาตัวโตอย่างตื่นเต้น
“โอ้โฮ...ปลาตัวโตจังเลย”
ทันใดนั้นเสียงสวยก็ดังขึ้น
“นางฟ้า”
ฟ้าลดา มามิเห็นสวยถือถุงกระดาษอยู่ในมือ มามิผงะมองสวยไม่พอใจ สวยเดินเบียดมามิเข้ามาหาฟ้าลดา
“แม่ให้เอาเสื้อมาให้จ๊ะ”
สวยยื่นถุงกระดาษให้ ฟ้าลดารับมาเปิดดู แล้วก็ตื่นตาตื่นใจกับเสื้อผ้า
“สวยจัง”
ฟ้าลดาหันมาสนใจเสื้อผ้าที่สวยเอามาให้ทันที สวยหันไปมองมามิเย้ยๆ
“นางฟ้า ไหนบอกว่าจะช่วยพี่มามิทำอาหารไง” มามิต่อว่า
ฟ้าลดาอึกอัก
“อ้อ...ใช่ใช่ สวย...กินข้าวด้วยกันนะ”
มามิหันขวับไปมองฟ้าลดาไม่พอใจ สวยยิ้ม
“ได้สิจ๊ะนางฟ้า”
ฟ้าลดาหันไปทางมามิ
“ให้สวยช่วยทำอาหารด้วยนะพี่มามิคนสวย”
มามิแพ้คำยอเลยพยักหน้า ฟ้าลดาดีใจ
ขณะเดียวกัน แตลอยเดินเข้ามาพร้อมดอกไม้ในมือ
“นางฟ้าอยู่มั๊ย”
“อยู่ แต่ฉันไม่ให้แกเจอหรอก” สายชลบอกทันที
“ทำไม”
“ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไรกับนางฟ้า”
“นางฟ้าสวยขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนจะไม่ชอบ หรือแกจะบอกว่าแกไม่ชอบไอ้สายชล”
สายชลชะงัก
“แกไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง ออกไปได้แล้วไป”
“ไม่ไป” แตลอยเดินเข้าไปในบ้าน “นางฟ้าจ๋า นางฟ้า”
“เฮ้ย...ไอ้ลอย”

สายชลรีบตามแตลอยเข้าไปในบ้าน
ในครัว...มามิกำลังสับหมู สวยกำลังหั่นผักด้วยท่าทางหนักหน่วงทั้งคู่ สองคนเขม่นมองกัน ฟ้าลดาจุดเตาถ่าน พัดเร่งไฟ มามิสุดทนวางมีด
“นังสวย...แกมองฉันมานานแล้วนะ มีไรก็พูดมาสิ”
สวยวางมีดบ้าง
“พี่ต่างหากที่มองฉัน ฉันรู้นะว่าพี่อิจฉาที่นางฟ้าสนิทกับฉันมากกว่าพี่”
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย นางฟ้าไปสนิทกับแกตอนไหน”
“เดี๋ยวก็จะสนิทแล้ว พี่อย่าลืมสิว่านางฟ้าเค้าคิดว่าตัวเองเป็นเด็ก เพราะฉะนั้นเค้าต้องคบเด็กอย่างฉันเป็นเพื่อนมากกว่าพี่”
มามิเท้าเอว
“แกคิดจะใช้นางฟ้าเป็นเครื่องมือทำให้แกได้ใกล้ชิดสายชลใช่มั๊ย ฝันไปเถอะนังสวยสยอง ยังไงสายชลก็ต้องเป็นผัวฉัน”
สวยฉุกกึก ตบโต๊ะปัง!
“พี่สายชลต้องเป็นผัวฉัน!”
มามิตบโต๊ะบ้าง
“สายชลต้องเป็นผัวฉัน”
ฟ้าลดาที่กำลังพัดเตาถ่านเห็นไฟลุกพรึ่บตกใจ หันมองหาที่ดับไฟ เลยเอาผ้ามาปิด แต่ไฟกลับลุกมากขึ้นกว่าเดิม ฟ้าลดาเหรอหรา รีบหันไปทางมามิกับสวย
“พี่มามิ...”
มามิไม่หันไป จ้องหน้าเอาเรื่องสวย
“อย่าเพิ่งนางฟ้า ขอพี่จัดการนังเด็กเมื่อวานซืนก่อน”
ฟ้าลดาหันไปเรียกสวย
“สวย...”

สวยไม่สนใจกำลังจะเปิดศึกกับมามิ
“เดี๋ยวก่อนนางฟ้า สวยยังไม่ว่าง”
ฟ้าลดาหน้าเสีย หันไปเห็นไฟลุกลามไปทั่ว...มามิถลกแขนเสื้อ
“ฉันจะไม่ปล่อยแกไปอีกแล้วนังสวย วันนี้ทุกอย่างต้องจบ”
สวยถลกแขนเสื้อบ้าง
“เออ เข้ามาเลย นึกว่าฉันกลัวพี่เหรอ”
สวยผลักมามิ มามิเลือดขึ้นหน้า เข้ามาผลักสวย สองคนผลักกันไปผลักกันมา ฟ้าลดาพยายามจะดับไฟ แต่ยิ่งทำ ไฟก็ยิ่งลุกลามไปใหญ่โต ฟ้าลดาทนไม่ไหว หันไปเห็นมามิกับสวยผลักกันไปผลักกันมา ก็รีบเข้าไปขวาง
“หยุด...”
“นางฟ้าหลีกไป”มามิไล่
“ไฟไหม้...”ฟ้าลดาบอก
สวยไม่สน
“ไฟไหม้ก็ช่างมันสิ”
แต่แล้วสวยกับมามิก็ผงะ หันขวับไปเห็นไฟลุก กรี๊ดกันลั่น
“กรี๊ดดดด...ไฟไหม้”

สายชลกับแตลอยเข้ามาเห็นก็ตกใจ
“เฮ้ย...ไฟไหม้” สายชลหันไปทางแตลอยที่ยืนตะลึง “ไอ้ลอย ยืนเฉยทำไม รีบไปหาน้ำมาดับไฟเร็วเข้า”
สายชลรีบออกไป แตลอยเหรอๆหราๆ แล้วก็รีบตาสายชลออกไป ฟ้าลดาหน้าเสีย
เวลาผ่านไป สภาพครัวเละเทะ ไหม้เกรียมบางส่วน สายชลหันไปมองฟ้าลดา มามิ สวยที่ยืนหน้าดำอยู่
“สายชล...” มามิเสียงอ๋อย
“ไม่ต้องพูดแล้ว กลับไป” สายชลตวาดไล่
สวยหัวเราะเยาะมามิ
“ฮ่าๆ”
สายชลหันขวับมาตวาดสวย
“เธอด้วยสวย”
สวยสะดุ้ง จ๋อย แล้วมามิกับสวยก็เดินออกไป แตลอยหันไปมองยิ้มๆ
“สมน้ำหน้า”
“แกด้วยไอ้ลอย”
แตลอยหันไปมองสายชลไม่กล้าขัด แล้วก็หันไปมองฟ้าลดา
“ลอยไปนะจ๊ะนางฟ้าจ๋า”
แตลอยเห็นสายตาสายชลมองมาก็รีบออกไป สายชลหันไปมอง ฟ้าลดาก้มหน้าจ๋อย รู้สึกผิด สายชลถอนหายใจ

+ + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น...
สายชลเอาจานใส่ปลาย่างที่ย่างจนเกรียมกับผักต้ม วางตรงหน้าฟ้าลดา
“เหลือแค่นี้แหละ กินซะ”
ทั้งสองกินข้าวกัน ฟ้าลดามองสายชลสำนึกผิด
“สายชล...”
สายชลเงียบไม่พูด ไม่พอใจ ฟ้าลดาคิดว่าจะทำยังไง เอาถั่วฝักยาวขึ้นมาใส่ปากทำเป็นเขี้ยว
“สายชลอย่าโกรธนางฟ้านะ นางฟ้าขอโทษ”
สายชลแปลกใจ ทำไมฟ้าลดาพูดไม่ชัด เงยหน้าเห็นเธอเอาถั่วฝักยาวทำเป็นเขี้ยว ก็หัวเราะออกมา ฟ้าลดาดีใจ เอาถั่วฝักยาวออกจากปาก
“สายชลหัวเราะ สายชลหายโกรธนางฟ้าแล้วใช่มั๊ย”
สายชลขยี้หัวฟ้าลดา
“สายชลโกรธนางฟ้าได้ไม่นานหรอก”
ฟ้าลดายิ้มสบายใจ แล้วกินข้าว
“แล้วทำอีท่าไหน ไฟถึงไหม้”
“นางฟ้าจุดเตาถ่าน แล้วอยู่ดีดีไฟก็ลุก นางฟ้าเรียกให้มามิกับสวยช่วย แต่เค้าทะเลาะกันเรื่องที่ใครจะได้สายชลเป็นผัว”
สายชลสำลักข้าว ฟ้าลดาเงยหน้ามอง สายชลรีบดื่มน้ำ
“ทำไมมามิกับสวยต้องอยากได้สายชลเป็นผัว”
สายชลรีบตบอกตัวเอง
“แฮ่ม...”เขาไม่รู้จะอธิบายยังไง “นางฟ้าไม่ต้องรู้หรอก”
“แต่นางฟ้าอยากรู้นี่ สายชลบอกหน่อยนะ...หรือว่าเป็นความลับ”
“ไม่ใช่ความลับ แต่มันไร้สาระ”
สายชลไม่ตอบ ก้มหน้ากินข้าว ฟ้าลดามองอยากรู้ว่าทำไมสวยกับมามิ ถึงอยากได้เขาเป็นผัว

+ + + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น...
พระจันทร์ทอแสงสวยงาม สายชลกับฟ้าลดาออกมาเดินเล่นที่ชายหาด สายชลกินอิ่มเลยเรอเสียงดัง
“เอิ๊ก”
ฟ้าลดาได้ยิน เลยเรอเสียงดังบ้าง
“เอิ๊กกกกก”
สายชลตกใจหันไปมอง ฟ้าลดาหัวเราะ สายชลหัวเราะตาม
“จะเลียนแบบสายชลทุกอย่างเลยเหรอไง”
ฟ้าลดายิ้มไม่ตอบ แล้วก็เห็นชิงช้าพังๆอันหนึ่งห้อยอยู่กับต้นไม้ก็ตื่นเต้น รีบเดินไปดู
“ชิงช้ามันพังแล้ว”
ฟ้าลดามองอย่างเสียดาย
“อยากเล่นเหรอ”
ฟ้าลดาพยักหน้า
“ถ้างั้นสายชลจะซ่อมให้ดีมั๊ย”
ฟ้าลดาปรบมือ
“ดี...สายชลสัญญาแล้วนะ”
สายชลจับหัวฟ้าลดาเอาหน้าผากมาแตะกัน
“สัญญา”
ฟ้าลดาดีใจสุดๆ กอดเขาแน่น
“เย้...สายชลใจดีที่สุดในโลกเลย”

สายชลตกใจ รีบดึงเธอออก
“อย่าทำแบบนี้กับฉันอีก กับผู้ชายคนอื่นก็ห้ามทำเหมือนกัน”
ฟ้าลดาไม่เข้าใจ
“ทำไม”
“ผู้ชายผู้หญิงกอดกันไม่ได้ นอกจากเป็นพี่น้อง เป็นพ่อแม่ลูก หรือเป็นคนที่รักกัน”
ฟ้าลดานิ่งคิด
“คนที่รักกัน แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าใครคือคนที่เรารัก”
“ถ้านางฟ้าเจอคนที่ตัวเองรักเมื่อไหร่ นางฟ้าก็จะรู้เองว่าความรักคืออะไร”
ฟ้าลดามองเขานิ่วหน้าสงสัย ไม่เข้าใจ
ช่วงเวลาเดียวกันนั้น...
ปีร์กะกำลังสวดมนต์ อยู่หน้ารูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ ปีร์กะท่องคาถาไม่หยุด ทันใดนั้นเกิดภาพบางอย่างขึ้น
ในสำนึก...
เป็นภาพของ ชายฉกรรจ์กำลังซ้อมสายชล จนอาการปางตาย ส่วนฟ้าลดาถูกชายฉกรรจ์อีกกลุ่มล็อคแขนเอาไว้ เธอร้องโวยวายแทบขาดใจ...
ปีร์กะเหงื่อผุดเต็มใบหน้า ลืมตาขึ้นมา ขมวดคิ้วหน้าเครียด
“ภาพที่เห็นมันหมายความว่ายังไง หรือสายชลกับนางฟ้าจะต้องพบกับวิบากกรรมครั้งใหญ่”
ปีร์กะครุ่นคิด วิตกกังวล

+ + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น ชมพูแพรในชุดดำเดินหัวเสียเข้ามาในบ้าน พลางคุยโทรศัพท์ไปด้วย หมอวัฒนาใส่ชุดดำเดินตามเข้ามา ผ่านหน้าป้าเนียมที่รออยู่
“ยังไม่เจอน้องสาวฉันอีกเหรอ...นี่มันผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วนะ ทำไมทำงานช้ากันแบบนี้”
ป้าเนียมกับหมอวัฒนามองหน้ากัน ใจคอไม่ดี
“ตราบใดที่ฉันยังไม่เจอศพยัยฟ้า ฉันไม่มีทางเชื่อว่าน้องสาวฉันตายไปแล้ว ฉันไม่สนว่าพวกคุณจะหาวิธีไหน แต่ยังไงก็ต้องรีบตามหาน้องสาวฉันให้เจอโดยเร็วที่สุด”
ชมพูแพรวางสายด้วยความหงุดหงิด หมอวัฒนาเข้ามาจับไหล่
“แพร...ใจเย็นนะครับ”
ชมพูแพหันมา
“น้องสาวแพรทั้งคนนะคะ พี่หมอจะให้แพรใจเย็นได้ยังไง พี่หมอไม่มีน้องสาว พี่หมอก็พูดได้สิ”
หมอวัฒนาเงียบ ชมพูแพรรู้ตัวว่าพูดแรงไป
“แพรขอโทษค่ะ แพรเป็นห่วงยัยฟ้า แพรอยากรีบตามหายัยฟ้าให้เจอ”
“ผมรู้ครับว่าแพรเป็นห่วงน้องฟ้า แต่แพรก็ต้องห่วงตัวเองด้วย ถ้าแพรเป็นอะไรขึ้นมาอีกคน มันจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่นะครับ”
“คุณหมอพูดถูกค่ะ ป้ารู้ว่าคุณเครียด แต่คุณก็ต้องดูแลด้วยนะคะ” ป้าเนียมเข้ามาจับมือชมพูแพร “ป้าเป็นห่วงคุณจริงๆ”
“ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เป็นห่วงแพร แต่แพรเสียพ่อกับแม่ไปแล้ว”
ชมพูแพหันไปดู รูปครอบครัวที่วางอยู่บนชั้นมีรูปภมร ลัดดา ฟ้าลดาและชมพูแพร
“แพรจะไม่มีวันยอมเสียน้องสาวคนเดียวไปอีก ต่อให้ต้องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินหา แพรก็จะทำ”
ชมพูแพรมองรูปฟ้าลดา อย่างมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้



Create Date : 18 ตุลาคม 2554
Last Update : 18 ตุลาคม 2554 9:41:51 น. 0 comments
Counter : 1063 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

houyhnhnms
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Hello!
[Add houyhnhnms's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com