Feel free to be ME.

 
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
25 ตุลาคม 2554
 

เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 8



เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 8


ที่โรงพยาบาล...


ฟ้าลดาฟื้นขึ้นมาอย่างงงๆ ชมพูแพรยื่นหน้าเข้ามามองด้วยความดีใจ
“ฟ้า...”
ฟ้าลดาหันมามองชมพูแพรนิ่ง
“ฟ้าจำพี่ได้มั๊ย”
ฟ้าลดาไม่ตอบ หันไปมองเพดานห้อง ชมพูแพรหน้าเสีย ขณะเดียวกันนั้น หมอวัฒนาเดินเข้ามาในห้อง เห็นฟ้าลดาฟื้นก็ดีใจ
“น้องฟ้า...ฟื้นแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ ฟื้นแล้ว แต่ท่าทางคงยังจำอะไรไม่ได้ แพรถามว่าจำแพรได้มั๊ย ก็ไม่ตอบค่ะ”
“คงต้องให้เวลาแกซักพักล่ะครับ แพรใจเย็นๆนะ”
ฟ้าลดากรู้สึกอึดอัด กับเชือกที่มัดอยู่ตรงข้อมือ ชมพูแพรเห็น
“หมอคะ แก้เชือกนี่ออกดีกว่าค่ะ แพรคิดว่าน้องคงอึดอัด”
หมอวัฒนาเข้ามาใกล้ๆ
“น้องฟ้าอย่าอาละวาดอีกนะครับ จะได้ไม่ต้องถูกจับมัดอีก”
ฟ้าลดามองหน้าเขานิ่งๆ หมอวัฒนาแก้เชือกออกให้ ฟ้าลดาไม่อาละวาดกลับนอนเฉย ชมพูแพรมองแล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความสบายใจ

+ + + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น...


ชมพูแพรรื้อหาของตามชั้น ป้าเนียมเดินเข้ามาเห็นก็แปลกใจ
“คุณแพรทำอะไรคะ”
ชมพูแพรหันมา
“แพรกำลังหารูปเก่าๆค่ะ ว่าจะเอาไปให้ยัยฟ้าดู เผื่อยัยฟ้าจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง”
“ป้าช่วยหานะคะ”
ชมพูแพรกับป้าเนียมช่วยกันหารูป

+ + + + + + + + + + + +

วันต่อมา...

ฟ้าลดานั่งอยู่บนเตียง ชมพูแพรเอารูปตอนเด็กๆให้ดู
“รูปนี้เป็นรูปที่น้องเข้าโรงเรียนวันแรก น้องร้องไห้ไม่ยอมไปจนคุณพ่อคุณแม่ต้องไปนั่งเรียนด้วยในห้อง”
ชมพูแพรหยิบอีกรูปมา
“ส่วนรูปนี้น้องประกวดนางนพมาศได้ที่หนึ่ง”
ฟ้าลดาตั้งใจดู ชมพูแพรหยิบรูปมาให้ดูอีก
“รูปนี้ตอนที่ไปเรียนไฮสกูลที่อเมริกา แล้วก็แต่งตัวเป็นผีในคืนวันฮาโลวีน”
ฟ้าลดาตั้งใจดูมากขึ้น
“พอจะจำอะไรได้บ้างมั๊ย”
ฟ้าลดาหันไปมองชมพูแพรแล้วส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรนะ ค่อยๆดูไป” ชมพูแพรนึกได้ “เออ...พี่มีอะไรให้ดูด้วย”
ชมพูแพรเอาไอแพดขึ้นมาแล้วกดเปิด...ฟ้าลดาหันไปมอง ภาพในจอ เป็นงานวันเกิดฟ้าลดา พ่อ แม่ ชมพูแพร หมอวัฒนา ป้าเนียม แหวน กำลังร้องเพลงวันเกิดให้เธออยู่
“งานวันเกิดอายุครบ 18 ปีของน้อง ที่เพิ่งจัดไปเมื่อต้นปี”
ฟ้าลดาเห็นตัวเองเป่าเทียน พ่อ แม่ ชมพูแพร เข้ามาหอมแก้ม ชมพูแพร หมอวัฒนา ป้าเนียม เอาของขวัญให้

ชมพูแพรหันไปมอง รู้สึกดีที่น้องสาวสนใจภาพที่เธอเปิดอยู่ เธอชี้ที่หน้าจอ
“นี่ป้าเนียม...ป้าเนียมเลี้ยงพี่กับฟ้ามาตั้งแต่เกิด นี่พี่หมอ กับพี่ไงจ๊ะ”
ฟ้าลดาพยายามนึกตามไปด้วย ภาพในไอแพด เป็นภาพ ภมร ลัดดา ชมพูแพร หมอวัฒนา พาฟ้าลดามาที่รถมินิป้ายแดงผูกโบว์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน ชมพูแพรบรรยายให้น้องฟัง
“รถคันนี้เป็นของขวัญของ คุณพ่อ คุณแม่ที่ให้ฟ้า”
ฟ้าลดามองภาพในจอนิ่ง แต่แล้วอยู่ดีๆก็เกิดภาพบางอย่างปรากฏขึ้นในหัวสมองของเธอ...เป็นภาพที่ตัวเธอ ตื่นตาตื่นใจ กับรถมินิ หันไปกอดภมร กับลัดดาดีใจสุดๆ รับกุญแจมาจากภมรแล้วขึ้นไปนั่ง ครู่หนึ่งฟ้าลดาลงจากรถ จับมือชมพูแพรให้ขึ้นไปนั่งด้วยกัน แล้วฟ้าลดาก็ขับรถออกไป สองพี่น้องโบกมือให้พ่อกับแม่
ฟ้าลดาปวดหัว ยกมือขึ้นมาจับหัวตัวเอง
“โอ๊ย!”
ชมพูแพรตกใจ หันไปมองฟ้าลดา
“ยัยฟ้า...”
ฟ้าลดาค่อยๆหันมา มองชมพูแพร แววตาสั่นระริก
“พี่แพร...”
ชมพูแพรอึ้ง
“ยัยฟ้า...น้องจำพี่ได้แล้วเหรอ”
ฟ้าลดาพยักหน้า ชมพูแพรน้ำตาไหล...ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ดึงน้องสาวมากอดแน่น ฟ้าลดากอดพี่สาวตอบด้วยความดีใจ

+ + + + + + + + + + + +

เช้าวันใหม่...


รถชมพูแพรแล่นเข้ามาจอดในบ้าน ป้าเนียมกับแหวนออกมายืนรอรับด้วยความตื่นเต้น ชมพูแพรกับฟ้าลดาลงจากรถ ทันทีที่ป้าเนียมกับแหวนเห็น ฟ้าลดาก็ดีใจรีบเข้าไปหาทันที
“คุณฟ้า”
ป้าเนียมเข้าสวมกอด ฟ้าลดางงๆสักครู่ป้าเนียมก็ผละออกมามองฟ้าลดายิ้มทั้งน้ำตา
“ทูนหัวของป้า”
ฟ้าลดาหันไปมองชมพูแพรงงๆ ชมพูแพรยิ้ม
“นี่ป้าเนียมไงจ๊ะฟ้า ฟ้าจำได้มั๊ย”
ฟ้าลดานึกๆ
“อ๋อ...ป้าเนียม ที่พี่แพรบอกว่าเลี้ยงพี่กับฟ้ามาตั้งแต่เกิด”
“ใช่จ๊ะ”
ฟ้าลดาหันไปมองหน้าป้าเนียม พยายามนึก
“ฟ้ายังจำป้าไม่ได้หรอก่คะ แต่ฟ้าจะพยายามจำให้ได้เร็วที่สุด”
ป้าเนียมยิ้มสบายใจ
“คุณฟ้าจำป้าตอนนี้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะคะ ไว้ป้าจะค่อยๆเล่าเรื่องสมัยเด็กๆให้คุณฟ้าฟัง”
ฟ้าลดาพยักหน้ารับ แล้วก็หันไปทางแหวน
“แล้วคนนี้...”

ฟ้าลดาพยายามนึก แหวนรีบเสนอหน้า
“แหวนค่ะคุณฟ้า คุณฟ้าชอบมาปลุกแหวนตอนดึกๆ ให้ทำบะหมี่ให้กินเป็นประจำเลยไงคะ จำได้มั๊ยเอ่ย”
ฟ้าลดาส่ายหน้า
“ว้า...ไม่เป็นไรค่ะ ถ้างั้นคืนนี้แหวนจะทำบะหมี่ให้คุณฟ้ากิน เผื่อรสชาติอร่อยๆของบะหมี่ที่แหวนทำจะทำให้คุณฟ้าจำแหวนได้”
ฟ้าลดายิ้ม...แล้วก็หันไปมองรอบๆบ้านพยายามจะนึก ก่อนจะเหลือบไปเห็นบ้านหลังเล็กในสวน ฟ้าลดารู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก...หันไปทางชมพูแพร
“นั่นบ้านใครคะ”
“บ้านหลังเก่าของคุณพ่อคุณแม่จ๊ะ”
“ฟ้าขอไปดูได้มั๊ยคะ”
ฟ้าลดาหันไปมองบ้านหลังเล็กอีกครั้ง แววตาเป็นประกาย ด้วยความรู้สึกอยากจะเข้าไปมาก

+ + + + + + + + + + + +

ป้าเนียมไขกุญแจเปิดประตูบ้าน ฝุ่นคลุ้งออกมา ชมพูแพรเอามือปิดจมูก...
“ฟ้า...พี่ว่าอย่าเพิ่งเข้าไปเลย สกปรกจะตาย”
“ขอฟ้าดูแป๊บเดียวนะคะ”
ฟ้าลดาไม่รอคำตอบ รีบเข้าไปในบ้าน ป้าเนียมเข้ามาเปิดหน้าต่าง แสงจากข้างนอกเข้ามาทำให้ฟ้าลดาเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้น เธอมองไปรอบๆบ้าน ยิ้มออกมา เพราะรู้สึกอบอุ่น และ ปลอดภัย ก่อนจะเห็นรูปพ่อกับแม่ที่ถ่ายกับตัวเองและชมพูแพรสมัยเด็กวางอยู่บนชั้น ฟ้าลดาหยิบขึ้นมาดูแล้วก็ยิ้มดีใจที่จำได้
“คุณพ่อ...คุณแม่...”
ชมพูแพรชะงัก หันไปมองหน้าป้าเนียมแล้วก็เดินเข้ามาหาฟ้าลดา
“ฟ้าจำคุณพ่อคุณแม่ได้แล้ว แล้วก็ยังจำได้อีกด้วยว่าตอนฟ้าเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่ชอบพาฟ้ามาเล่นที่นี่ใช่มั๊ยคะ”
ชมพูแพรยิ้ม
“ใช่จ๊ะ “
ฟ้าลดาดีใจมาก
“แล้วคุณพ่อคุณแม่อยู่ไหนคะพี่แพร”
ชมพูแพรกับป้าเนียมชะงัก หันมามองหน้ากัน ชมพูแพรเดินมาตรงหน้าน้องสาว กลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก
“คุณพ่อคุณแม่...เสียชีวิตแล้วจ๊ะ”
ฟ้าลดาแทบช็อค...น้ำตารื้นขึ้นมาทันที ก้มมองรูปพ่อกับแม่อีกครั้ง ชมพูแพรเข้ามากอดน้องสาวปลอบใจ

เมื่อกลับไปที่บ้านใหญ่...


ฟ้าลดาวางรูปภมรกับลัดดาวางอยู่บนชั้น ฟ้าลดายื่นมือไปจับรูปพ่อกับแม่หน้าเศร้า แล้วก็หันมาทางชมพูแพร
“พี่แพรคะ ฟ้าอยากอยู่บ้านหลังเล็กค่ะ”
“แต่บ้านหลังนั้นทั้งเก่าทั้งโทรมนะฟ้า”
“ให้ฟ้าอยู่ที่นั่นเถอะนะคะ” ฟ้าลดาหันไปมองรูปพ่อกับแม่อีกครั้ง “ฟ้าไม่มีโอกาสได้ร่ำลาพ่อกับแม่ ฟ้าอยากจำเรื่องราวที่เกี่ยวกับพ่อแม่ให้ได้มากที่สุด ฟ้ามั่นใจว่าการที่ฟ้าอยู่บ้านหลังนั้นจะทำให้ฟ้าจำทุกอย่างได้เร็วขึ้นค่ะ”
ฟ้าลดาหันมามองชมพูแพรอีกครั้งด้วยแววตาที่เว้าวอน ชมพูแพรมองน้องสาวด้วยความอ่อนใจ

+ + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น...


สายชลเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสะพาย แล้วก็หยิบสร้อยของฟ้าลดาขึ้นมาจูบ ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋า หันไปเห็นกีตาร์อูคูเลเล่แขวนอยู่ก็หยิบออกมาเล่น คิดถึงตอนที่สอนฟ้าลดาเล่นกีตาร์ แล้วก็ยิ้มออกมา พลันเสียงมามิดังขึ้น
“สายชล”
สายชลหันไปมอง
“เห็นไอ้ลอยบอกว่าเธอจะไปตามหานางฟ้า”
“อื้อ”
“เธอคิดว่าจะเจอนางฟ้าเหรอ”
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอนางฟ้ารึเปล่า แต่ฉันต้องไป”
“ถ้าเธอเจอนางฟ้า แล้วเธอคิดว่านางฟ้า จะกลับมากับเธออีกเหรอ”
“ฉันก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ...ว่านางฟ้าจะกลับมาหาฉันรึเปล่า แต่ฉันทำใจให้มีใคร มาแทนที่นางฟ้าไม่ได้จริงๆ ฉันขอบใจเธอมากนะมามิ...ที่ช่วงหลายวันมานี้ เธอคอยดูแลฉัน แต่ฉันรักนางฟ้ามาก จนไม่อาจรักใครได้อีก”
มามิพยักหน้าอย่างเข้าใจ เดินมาตรงหน้าสายชล
“ฉันจะเอาใจช่วย ให้เธอเจอนางฟ้านะสายชล”
สายชลยิ้มให้ แล้วก็หันมาจัดของต่อ มามิมองเศร้าๆ

+ + + + + + + + + + + +

เช้าวันต่อมา...

ปีร์กะ ซะละ และทุกคนมาส่งสายชลกับแตลอยที่ท่าเรือ
“โชคดีนะ” อารีฟะบอก
สายชลพยักหน้า ปีร์กะเอาเครื่องรางให้สายชลกับแตลอย
“เก็บไว้ มันจะช่วยคุ้มครอง ป้องกันภัยให้กับเอ็งสองคน”
แตลอยกับสายชลรับเครื่องรางมาจากปีร์กะ แตลอยหันไปทางสวยที่น้ำตาคลอ
“ไปดีมาดีนะพี่ลอย”
“จ๊ะ”
แตลอยกับสวย มองกันเศร้าๆ นาราหันไปทางสายชล
“เดินทางปลอดภัยนะสายชล”
“จ๊ะ”
แสงดาว เดินมายื่นเงินให้สายชล
“เงิน...เอ็งต้องใช้ รับไปซะ”
สายชลรับมายกมือไหว้
“ขอบคุณป้าแสงดาวมากนะจ๊ะ”
“เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว”
สายชลหันมาทางมามิ
“ขอให้เจอนางฟ้านะสายชล” มามิให้กำลังใจ
สายชลพยักหน้า แล้วเดินไปขึ้นเรือ เมื่อขึ้นเรือแตลอยโบกมือลาสวย สายชลหันไปมองทุกคน สักครู่แตลอยก็ขับเรือออกไป สายชลหันไปมองด้านหน้าแววตามุ่งมั่น

+++++++++++++++++++++++++

ป้าเนียมกับแหวน ยกอาหารเช้ามาวางบนโต๊ะหน้าบ้านหลังเล็กซึ่งถูกทำสะอาดจนเรียบร้อยสวยงาม ฟ้าลดาออกมาดูอาหารอย่างดีใจ
“โจ๊กหมู...แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าอร่อย”
“ปากหวานแบบนี้ ป้าเนียมเขาถึงได้หลงเรานัก” ชมพูแพรแหย่
“ฟ้าไม่ได้ปากหวานนะคะ ฟ้าพูดจริง โจ๊กป้าเนียมอร่อยจนแม่ช้อยเลิกรำไปเลยล่ะค่ะ”
ป้าเนียมหัวเราะชอบใจ
“แล้วน้ำส้มของแหวนล่ะคะคุณฟ้า”
ฟ้าลดาเอาน้ำส้มขึ้นมาดื่ม
“น้ำส้มของแหวนก็อร่อยจนเชลยังไม่กล้าชิม”
ทุกคนหัวเราะ แหวนหน้างอ
“แหม คุณฟ้าอ่ะ”
ฟ้าลดายิ้มขำๆ
“ฟ้าล้อเล่น น้ำส้มของแหวนต้องอร่อยที่สุดในโลกอยู่แล้ว”
“เชิญคุณแพรกับคุณฟ้าทานกันตามสบายนะคะ ป้ากับนังแหวนขอตัวไปทำงานต่อก่อน”
“ค่ะ”

ป้าเนียมกับแหวนออกไป ชมพูแพรมองฟ้าลดาแล้วก็ยิ้ม จนฟ้าลดาแปลกใจ
“พี่แพรยิ้มทำไมคะ หรือเช้านี้ฟ้าหน้าตาตลก”
“ไม่ใช่” ชมพูแพรจับมือฟ้าลดา “พี่ดีใจที่น้องสาวของพี่กลับมาสดใสร่าเริงเหมือนก่อนแล้วน่ะซิ”
ฟ้าลดายิ้มกว้าง แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“เออพี่แพรคะ ฟ้าได้คุยกับป้าเนียม ป้าเนียมบอกว่าคุณพ่อคุณแม่เสียไปหลายเดือนแล้ว แต่ฟ้าจำได้ว่าฟ้าอยู่โรงพยาบาลไม่นาน แล้วช่วงก่อนหน้านั้นฟ้าไปอยู่ไหนมาเหรอคะ”
ชมพูแพรแทบสำลัก เงยหน้ามองฟ้าลดาพยายามทำหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วโกหก
“ก็อยู่โรงพยาบาลนี่แหละ แต่เป็นโรงพยาบาลที่กระบี่ ตอนนั้นร่างกายฟ้ายังไม่แข็งแรง พี่หมอยังไม่อยากให้ฟ้าเดินทางไกลน่ะจ๊ะ”
“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”
“ฟ้ามีอะไรสงสัยอยากถามอีกมั๊ย”
ฟ้าลดายิ้ม
“ไม่มีแล้วค่ะ”
ชมพูแพจับมือฟ้าลดา
“ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วนะฟ้า เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องพยายามไปนึกถึงมัน ตอนนี้ฟ้ากำลังจะมีชีวิตใหม่ พี่สัญญาพี่จะเป็นคนทำให้ชีวิตของฟ้าดีกว่าเดิม”
“ค่ะ”
ฟ้าลดาก้มหน้ากินข้าวไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก ชมพูแพรมองฟ้าลดาอย่างไม่สบายใจ
+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรเข้ามาหาป้าเนียมในครัว ขณะที่ป้าเนียมกับแหวน กำลังทำความสะอาดห้องครัวอยู่
“ป้าเนียมจ๊ะ”
ป้าเนียมกับแหวนหันไป ชมพูแพรขยับมาใกล้
“ฉันมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับป้า”
แหวนยังนิ่ง ชมพูแพรเหล่ แหวนรู้ตัว
“เออ...แหวนไปทำความสะอาดห้องนั่งเล่นก่อนนะคะ”
แหวนออกไป แต่จริงๆรีบหลบมุมแอบฟัง
“คุณแพรมีอะไรคะ”ป้าเนียมถาม
“แพรอยากให้ป้า ช่วยปกปิดเรื่องที่ยัยฟ้าเคยไปอยู่เกาะมิน”
แหวนพยายามเงี่ยหูฟัง แล้วพึมพำเบาๆ
“ทำไมพูดกันเสียงเบาแบบนี้วะ”
ทางด้านป้าเนียมแปลกใจ กำลังจะอ้าปากถาม ชมพูแพรรีบบอก
“แพรอยากให้น้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ ความทรงจำที่เกาะมินมีแต่จะทำให้ชีวิตยัยฟ้าตกต่ำ”
แหวนได้ยินแบบไม่ได้ศัพท์ พึมพำเบาๆ
“เกาะมิน...คืออะไร”
ชมพูแพรจับมือป้าเนียม
“ป้ารับปากกับแพรนะคะ”
“ค่ะ อะไรที่ช่วยให้คุณฟ้าดีขึ้นได้ ป้ายินดีและเต็มใจค่ะ”
ชมพูแพรพยักหน้าแล้วก็ยิ้ม แต่แววตายังกังวลใจบางเรื่อง

+ + + + + + + + + + + +

ชมพูแพรมาหาหมอวัฒนาที่โรงพยาบาล ถามเรื่องของฟ้าลดาอย่างเครียดๆ
“แพรอยากรู้ว่ายัยฟ้า จะจำเรื่องอดีตของแกได้มั๊ย แพรกลัวถ้าแกเกิดจำเรื่องบนเกาะนั้นได้ แกจะกลับไปแย่กว่าเก่า”
หมอวัฒนาส่ายหน้า...
“เรื่องนี้ผมบอกไม่ได้ครับ ศาสตร์ทางด้านจิตใจ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราวิเคราะห์ตายตัวไม่ได้ แพรลองดูซิครับจากตอนแรกที่แกจำพวกเราไม่ได้ แล้วพอเราทำการรักษา แกก็จำพวกเราได้ แต่กลับลืมเรื่องช่วงที่แกหายตัวไป ในอนาคต...บางทีน้องฟ้าก็อาจจะจำเรื่องทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นได้ก็ได้”
ชมพูแพรเครียดหนักมากขึ้น
“ถ้าเกิดยัยฟ้ามาถามอะไรพี่หมอ พี่หมอต้องตอบแบบที่แพรบอกน้องนะคะ ยัยฟ้าจะได้ไม่พยายามนึกถึงเรื่องนั้นอีก”
“ตกลงครับ...ผมว่าแพรอย่าเพิ่งกังวลอะไรไปล่วงหน้าเลยนะ อืมม์...เอางี้มั๊ยให้น้องฟ้าไปเรียนอะไรซักอย่างที่แกชอบ ทำให้สมองแกไม่ว่าง แกจะได้ไม่มีเวลาหาเหตุผลในเรื่องที่จำไม่ได้ แล้วเดี๋ยวน้องฟ้าก็จะลืมไปเอง”
“แพรก็กำลังคิดอยากส่งแก กลับไปเรียนต่อที่อเมริกาอยู่เหมือนกันค่ะ ให้แกไปอยู่รัฐที่เคยอยู่ จะได้เจอเพื่อนเก่าๆ มีสังคม ได้เจอผู้คน และที่สำคัญแพรกลัวว่า วันนึงไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้น มันจะมาตามหายัยฟ้า แล้วถ้ามันรู้ว่ายัยฟ้าฐานะดี มันต้องคิดแบลคเมล์ยัยฟ้าแน่ๆ”
“ผมเห็นด้วยกับแพรทุกอย่าง ถ้าอย่างนั้นก่อนส่งน้องฟ้าไป ผมขอตรวจน้องฟ้าให้ละเอียดอีกครั้งนะครับ จะได้แน่ใจว่าแกไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ”
ชมพูแพรพยักหน้าสบายใจขึ้น

+ + + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น...


สายชลกับแตลอย มาถึงท่าเรือบนฝั่ง
“เราจะไปตามหายาซะที่ไหน” แตลอยสงสัย
“คงต้องเริ่มหาจากแถวๆนี้ก่อน”
ทั้งสองมองไปรอบๆหายาซะ แต่ไม่เห็น แตลอยเห็นร้านข้าวริมทาง เกิดอาการหิวขึ้นมาทันที
“สายชล...หาไรกินก่อนมั๊ย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง”
สายชลพยักหน้ารับ แล้วเข้าร้านไปด้วยกัน สองคนเดินไปสั่งข้าวแล้วนั่งรอ สักครู่คนขายเอาข้าวราดแกงมาวางตรงหน้า แตลอยยิ้มร่ามีความสุข สายชลก็เห็นหมึกกับฉลามเข้ามาในร้าน จึงกระซิบบอกแตลอยเบาๆ
“ไอ้หมึก! ไอ้ฉลาม!”
แตลอยที่กำลังจะเอาข้าวเข้าปาก หันไปมองตามสายชลแล้วก็ผงะ สายชลลุกขึ้นเดินไปกระชากไหล่หมึกให้หันมา หมึกกับฉลามเห็นสายชลก็ตกใจ
“ไอ้สายชล!” หมึกอุทานออกมาอย่างตกใจ
“แกยังไม่ตายเหรอวะ” ฉลามถามหน้าตื่น
สายชลกระชากคอเสื้อหมึกแววตาโกรธแค้น
“ไอ้ยาซะอยู่ไหน”
ยังไม่ทันที่หมึกจะตอบ ฉลามจับไหล่สายชล ให้หันมาแล้วต่อยเปรี้ยง!
คนในร้านร้องลั่น สายชลถลาไปชนโต๊ะตัวเอง ทำให้โต๊ะล้ม ข้าวหกเต็มพื้น แตลอยเหวอ มองข้าวด้วยความเสียดาย สายชลโมโหหันไปเปิดศึกกับหมึกและฉลาม สองคนสู้สายชลไม่ได้ พอได้จังหวะ หมึกก็รีบฉุดฉลามวิ่งหนี
“ไอ้ลอย...รีบตามพวกมันไป”
สายชลกับแตลอย วิ่งตามหมึกกับฉลามออกไปทันที หมึกกับฉลามวิ่งหนีสายชลกับแตลอยมาตามทาง หมึกรีบหันไปสั่งเพื่อน
“แยกกันตรงนี้ แกรีบไปบอกลูกพี่”
สองคนวิ่งแยกไปคนละทาง สายชลเห็นพวกมันแยกกันหนีจึงหันไปบอกแตลอย
“ไอ้ลอย ตามไอ้ฉลามไป ฉันจะตามไอ้หมึกเอง”
แตลอยพยักแล้วก็วิ่งตามฉลามไปติดๆ สายชลรีบไล่ตามหมึกไปอีกทาง

+ + + + + + + + + + + +

ยาซะเดินหัวเสียออกมาจากในบ่อน
“หมดตัวเลยกู วันนี้มันเป็นวันอะไรวะ ซวยจริงๆ”
ทันใดนั้นฉลามวิ่งหน้าตาตื่นมาหาหยุดหอบ
“ลูกพี่...ลูกพี่...”
ยาซะงง
“มีอะไรก็รีบพูดมาซิวะ”
ฉลามเหนื่อยจนพูดไม่ออก หันไปเห็นแตลอยวิ่งมาพอดี ยาซะหันไปมองแตลอยก็ตกใจ แตลอยเบรกเอี๊ยด เห็นยาซะก็กลัว
“ไอ้สายชลมันมาตามหาพี่ ท่าทางมันเหมือนหมาบ้าไม่มีผิด”
ยาซะชะงัก หันไปมองแตลอยที่กลืนน้ำลายเอื๊อก ทำอะไรไม่ถูก
ทางด้านสายชลไล่ตามคว้าตัวหมึกได้ทัน จับหมึกอัดเข้ากำแพงอย่างแรง
“บอกฉันมาว่าไอ้ยาซะอยู่ไหน”
หมึกหน้าตาตื่น ยังไม่ทันตอบ เสียงยาซะก็ดังขึ้น
“ไอ้สายชล”
สายชลหันไป ฉลามผลักแตลอยที่ถูกอัดมากองกับพื้นข้างๆ สายชลตกใจ หมึกใช้โอกาสนี้ผลักสายชลแล้วรีบไปยืนข้างยาซะ สายชลประคองแตลอยให้ลุกขึ้นยืน
“ไอ้ลอย”
แตลอยหันมาหน้าบูดเบี้ยว
“ฉัน...ไม่เป็น...ไร”

สายชลกำมือแน่นด้วยความโกรธแค้น หันไปมองยาซะตากร้าว
“แกนี่มันตายยากจริงๆ” ยาซะคำราม
“ถ้าแกยังไม่ตาย ฉันก็ไม่มีวันตาย แกเอานางฟ้าไปไว้ที่ไหน”
“นางฟ้าไปแล้ว...ชาตินี้แกไม่มีวันได้เจอผู้หญิงคนนี้อีก ฮ่าฮ่าฮ่า สะใจเว้ยยยยย” ยาซะหัวเราะร่า
สายชลโกรธสุดๆ พุ่งเข้าหายาซะ แต่เจอหมึกกับฉลามขวาง สายชลตั๊นหน้าหมึกกับฉลามจนพวกมันกระเด็นไปคนละทาง นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น
ยาซะตกใจ หันไปมองลูกน้องเลยไม่ทันตั้งตัว สายชลพุ่งเข้ามาต่อยหน้าอย่างแรง ยาซะหน้าหันเลือดพุ่ง ออกจากปาก หันไปมองสายชลด้วยความโมโห ยาซะจะต่อย สายชลหลบแล้วซัดไม่ยั้ง ด้วยความโกรธแค้นเต็มที่ จนยาซะหน้าแหก หมดแรงกองกับพื้น สายชลกระชากคอเสื้อให้ลุกขึ้นมาตะโกนใส่หน้า
“บอกฉันมาว่านางฟ้าอยู่ไหน”
ยาซะส่ายหน้า
“ฉันไม่รู้”

สายชลจับคอเสื้อแน่นแล้วเขย่า
“นางฟ้าอยู่ไหน...บอกมาซิเว๊ย”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้”
สายชลโกรธมากจนขาดสติ หยิบมีดสั้นออกมา จ่อไปที่คอหอย ยาซะหน้าตื่น แตลอยเห็นตกใจ
“จะบอกหรือไม่บอก”
ยาซะตัวสั่นด้วยความกลัว สายชลกดปลายมีด ลงไปที่คอหอยจนเลือดซิบออกมา
“ฉันไม่รู้...ฉันไม่รู้จริงๆ ฉันไม่รู้” ยาซะเสียงสั่นหวาดกลัวสุดๆ
สายชลตะคอกใส่หน้า
“โกหก!”
“ฉันไม่ได้โกหก ต่อให้แกฆ่าฉันตาย ฉันก็ไม่รู้ว่านางฟ้าไปไหน ฉันรู้แค่ว่าเขากลับไปกับพี่สาวเขา”
สายชลชะงัก ยาซะเห็นจังหวะหนี เลยปัดมือสายชล มีดกระเด็นหล่นพื้น ยาซะรีบวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว สายชลจะวิ่งตาม แตลอยรีบเข้ามาจับตัวสายชลเอาไว้
“พอแล้วสายชล พอแล้ว”
สายชลนิ่งด้วยความรู้สึก ความหวังพังทลายตรงหน้า
+ + + + + + + + + + + +

สายชลจ้ำเดินไปตามทางแววตามุ่งมั่น แตลอยตามมาติดๆ
“สายชล...แกจะไปไหน”
สายชลเดินไป พูดไป
“ฉันจะไปหานางฟ้า”
“แกจะไปหาเค้าที่ไหน”
“ไม่รู้ ฉันรู้แต่ว่าฉันต้องตามหานางฟ้าให้เจอ”
“โลกตั้งกว้าง แกจะเจอนางฟ้าได้ยังไง เขากลับไปกับครอบครัวเขาแล้ว ทำใจเถอะ”
สายชลหยุดกึก หันขวับมา
“ฉันคือครอบครัวเดียวของนางฟ้า ใครก็ไม่มีสิทธิ์เอานางฟ้าไปจากฉัน”
“พอเหอะสายชล”
“แกไม่ใช่ฉัน แกไม่เข้าใจหรอก นางฟ้ามีความหมายกับชีวิตฉันมาก นางฟ้าคือชีวิตของฉัน เขาเป็นครอบครัวของฉัน”
แตลอยจะห้าม สายชลรีบขัด
“แกกลับไปเถอะ ฉันจะตามหานางฟ้าด้วยตัวของฉันเอง”
“ไม่...ฉันไม่กลับ ถ้าแกจะให้ฉันกลับ แกต้องกลับไปกับฉัน” แตลอยเข้ามาจับไหล่สายชล “กลับบ้านนะสายชล”
สายชลปัดมือแตลอยออกมา
“ทำไมแกถึงพูดไม่รู้เรื่องอย่างนี้ห๊ะ”
แตลอยฉุน
“แกต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง เลิกหวังลมๆแล้งๆซักที นางฟ้าไม่มีวันกลับมาหาแกแล้ว”
สายชลโมโหผลักแตลอยอย่างแรง แตลอยโมโหผลักสายชลกลับ สายชลผลักแตลอย แตลอยผลักสายชลจนล้มไปบนพื้น
สายชลฟิวส์ขาด ลุกขึ้นต่อยแตลอยเปรี้ยง! แล้วก็ชะงัก มองมือตัวเองด้วยความตกใจเพราะไม่ได้ตั้งใจ แตลอยอึ้ง

“ฉัน....ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ แกกลับไปเถอะไอ้ลอย นี่มันเป็นเรื่องของฉัน”
สายชลหันหลังจะเดินไป แตลอยมองตามสายชลแล้วก็นึกอะไรออก ลุกขึ้นเดินมาทุบไปที่ท้ายทอยทำให้ เขาล้มหมดสติไปบนพื้น
“มันไม่ใช่เรื่องของแกคนเดียวสายชล แต่มันเป็นเรื่องของฉันด้วย”
แตลอยยืนมองสายชลรู้สึกผิด ที่ต้องทำร้ายเพื่อน




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2554
0 comments
Last Update : 25 ตุลาคม 2554 12:32:47 น.
Counter : 1547 Pageviews.

 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

houyhnhnms
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Hello!
[Add houyhnhnms's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com