ตำรวจไม่ได้เปิดเผยข้อสันนิษฐานการตาย และไม่มีความชัดเจนว่ามีการสืบสวนหาคนผิด เพราะตอนนี้เรื่องเงียบไปแล้ว แต่ชาวบ้านร่ำลือกันว่าเป็นฝีมือ สหายชาติ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านม่งคั๋วะ ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแม่จัน การร่ำลือมาจากท่าทีแข็งกร้าวอย่างรุนแรงในระหว่างการประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่ และหน่วยงานในอำเภออุ้มผาง ช่วงเกิดวิกฤติการมอบงาช้างให้กะเหรี่ยงพุทธ
ในปี 2552 ผมและเพื่อนๆ พร้อมกับเยาวชนจากระยอง เดินทางไปอุ้มผางด้วยความตั้งใจว่าจะไปบ้านเลตอคุ และเยี่ยมชมงาช้างฤๅษี พวกเราเดินจากกรุงเทพฯ ด้วยรถกระบะธรรมดา แล้วไปเปลี่ยนรถของเสี่ยตี๋ แม่สอด จากนั้นพวกเราออกเดินทางไปยังจุดหมายแรกคือ บ้านม่งคั๋วะ
เมื่อไปถึงม่งคั๋วะ ได้บ้านสหายชาติบ้านแรก ผมถามสหายชาติว่า ใครยิงหม่อเอเหม่ สหายชาติ บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่คนพูดกันว่า สงสัยเขาเป็นคนยิง เขาไม่ทำหรอก ไม่มีความจำเป็น เพราะงาช้างกับพระแก้วก็ได้รับคืนแล้ว ผมถามต่อว่า มีคนโกรธแค้นหม่อเอเหม่หรือเปล่า สหายชาติ ตอบว่า หม่อเอเหม่ชอบใช้อำนาจข่มขู่ชาวบ้าน เขารับรองออกบัตรประจำตัวประชาชนให้คนเขตพม่าเยอะแยะ คนอยู่มาดั้งเดิม กลัวหม่อเอเหม่ เพราะคิดว่าคนจากเขตพม่าเป็นพวกหม่อเอเหม่ คนจากเขตพม่าก็กลัวหม่อเอเหม่เหมือนกัน สหายชาติ เล่าต่อว่า หม่อเอเหม่บอกอะไรกับฤๅษี ฤๅษีก็ยอมทำตามนั้นเสมอ
เช้าวันรุ่งขึ้น เยาวชนจากระยอง จัดกิจกรรมกับเด็กๆ บ้านม่งคั๋วะ แล้วพวกเราเดินทางไปเยี่ยมศูนย์เด็กเล็กที่ คุณเมธาและคุณต๋อย เพื่อนของผม ระดมมาได้หนึ่งแสนสามหมื่นบาท ก่อสร้างเป็นอาหารไม้ขนาด 6 เมตร X 20 เมตร หลังจากพวกเรารับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ ก้ออกเดินทางไปเปิ่งเคลิ่ง บางส่วนพักที่วัดเปิ่งเคลิ่ง บางส่วนไปพักบ้านสหายภาวนา สหายเก่าของเรา
เช้าวันต่อมา สหายภาวนา พาเราไปส่งที่บ้านไร่ของเขา พร้อมกับผู้นำทางคนหนึ่งเพื่อกันเหนียว ความจริงเราเดินตามทางปกติก็คงไม่หลง เราเดินไปประมาณ 2 ชั่วโมง ได้พบทางชันมากประมาณ 60 องศา คนนำทางเล่าว่า คนดักยิงหม่อเอเหม่ ซุ่มอยู่ในที่รกด้านบน เมื่อหม่อเอเหม่ มาถึงน่าจะต้องขับช้าลงและเร่งเครื่องเพื่อไต่ขึ้นทางชัน จึงทำให้ผู้ลอบสังหารมีโอกาสยิงได้ง่ายขึ้น
เมื่อมาถึงบ้านเลตอคุประมาณบ่ายโมง ก็ไปหาบ้านมวลชนดั้งเดิม วางเป้ แล้วไปที่น้ำตกเลตอคุทันที ห้วยเลตอคุกว้างประมาณ 4 5 เมตร ช่วงไหลตกลงผาก็กลายเป็นน้ำตกที่น่าทึ่งมาก พวกเราลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
หลังรับประทานอาหารเย็น มวลชนคนหนึ่งเป็นญาติกับภรรยาหม่อเอเหม่มาร่วมวงสนทนา เขาเล่าว่า มีคนในหมู่บ้านมาหาเขา แล้วบอกว่า เป็นเรื่องของหม่อเอเหม่คนเดียว เขาและคนอื่นๆ ไม่เกี่ยว อยู่ได้ตามปกติ แต่ด้วยความไม่คุ้นเคย ผมไม่ได้ถามหาสาเหตุ
วันที่สองที่เลตอคุ พวกเราแวะเยี่ยมเช้าบ้านมวลชนดั้งเดิม เงยหน้ามองหาเขาหม่องไมล่าด้านหลังหมู่บ้าน เขาสูงชันที่เป็นเส้นทางตัดตรงไปม่งคั๋วะ ระยะเวลาประมาณครึ่งวัน ช่วงสาย เข้าไปยังสำนักฤๅษี พบกับฤๅษีองค์ที่9 ชมงาช้างและพระที่เรือนไม้ แล้ววันที่สามเราจึงเดินทางกลับมาเปิ่งเคลิ่ง
เรากลับ ก.ท.ม. ด้วยความเข้าใจข้อขัอแย้งในเรื่องหม่อเอเหม่มากขึ้น
เรื่องเกี่ยวข้อง