We are twin. P&P => Travelling is our life.
มื้ออร่อย...ที่เกาหลี Part 1

นี่ก็กลับจากเกาหลีมาจวนเจียนจะครบอา่ทิตย์แล้ว แต่ความสนุกและความประทับใจยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม หุหุSmileySmiley ในวันนี้มีเวลาว่างนิดหน่อยเลยขอเอาอาหารแต่ละมื้อที่ได้กินไปมายั่วน้ำลายกันหน่อย (เหมือนจะยั่วตัวเองด้วยนะ กิกิ)

เนื่องจากการไปเที่ยวเกาหลีครั้งนี้ไปกับทัวร์ Asianplustravel ซึ่งถือว่าเป็นทัวร์ที่ราคาสูงนิดนึง แต่ขอบอกว่าคุ้มค่าจริงๆค่ะ ก่อนจะมาเล่าเรื่องเที่ยวขอเล่าเรื่องอาหารก่อน ขอบอกว่าทางทัวร์จัดให้เต็มอิ่มทุกมื้อ และบริการอย่างเต็มที่ พี่ๆหัวหน้าทัวร์และไกด์ค่อยผลัดกันมาดูตลอดเวลา ย่างหมูให้ ตัดหมูให้ เรียกเติมโน้นเติมนี่ จนต้องบอก "กินไม่ไหวแล้วค่าาา"


 ชื่นชมทัวร์ไปพอสมควรก็มาถึงเวลาที่จะได้ดูกันแล้วว่า อาหารมันน่ากินกันขนาดไหน


เริ่มต้นตั้งแต่มื้อแรกบนเครื่องบินเลยค่ะ การเดินทางครั้งนี้ใช้บริการของ Korean Air ค่ะ จากสุวรรณภูมิไปยังที่โซล ด้วยเที่ยวบิน KE652 ออกเดินทางจากประเทศไทย เวลา 22.40 น. และถึงที่เกาหลีเวลา 6.00 น. เพราะฉะนั้นแล้วในเที่ยวบินนี้ก็มีบริการอาหารค่ะ เป็นมื้อเช้า ซึ่งมีให้เลือก 2 อย่าง คือข้าวต้มสาหร่ายกับออมเล็ต ด้วยความที่ปกติไม่ชอบกินข้าวต้มก็เลยสั่งออมเล็ตมาทั้งสองที่เลยค่ะ เลยไม่มีรูปข้าวต้มให้ดู (จริงๆตอนนั้นสะลึ่มสะลือตื่นมา เลยบอกเอาแบบพี่สาวเลย)


ในเซตอาหารก็มีออมเล็ตกับไส้กรอก ผลไม้ เค้กกล้วยหอม โยเกิร์ตรสผลไม้รวม แล้วก็น้ำเปล่าค่ะ แล้วก็ขอน้ำส้มเพิ่มมาอีก 1 แก้วค่ะ รสชาติก็อร่อยดีค่ะ



มื้อบนเครื่องนั้นกินกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางเลย พอลงจากเครื่องเริ่มออกเดินทาง ทัวร์ของเราก็ยังมีบริการอาหารเช้าอีก โอ้...เริ่มสับสนมื้อแหละ (โชคดีนะที่เมื่อวานไม่ได้กินมื้อเย็น ไม่งั้นท้องแตกแน่ๆ)


อาหารมื้อเช้านี้ทัวร์พาไปกินที่ร้านด้านบนของซูเปอร์มาเก็ตที่จะพามาซื้อของฝากตอนจะกลับจากประเทศไทยค่ะ อากาศหนาวๆยามเช้าก็ต้องหาอะไรร้อนๆกิน ซึ่งก็ได้แก่ "อูด้ง (U-dong)" นั้นเองค่ะ Smiley



ในชามอุด้งก็มีเส้นอุด้ง เส้นใหญ่ๆ ฟองเต้าหู้ทอด ไข่ครึ่งฟอง (แต่เรารู้สึกว่ามันตัดเกินครึ่งนะ) แล้วก็มีเม็ดๆที่เป็นแป้งทอดอ่ะคะ่ รสชาติหนักเค็มไปนิดหน่อย (แต่ไกด์บอกที่หลังค่ะว่าคนเกาหลีทานอาหารหนักเค็มค่ะ เลยเป็นความดันกันเยอะ คนเกาหลีเลยกินโสมไปปรับสมดุลร่างกาย) เครื่องเคียงก็ตามสไตล์เลยค่ะ ต้องมีกิมจิ ในร้านนี้จะมีกิมจิ 2 อย่างค่ะ คือ กิมจิหัวผักกาดกับกิมจิหัวไ้ชเท้า ใส่ไว้ในโถประจำทุกโต๊ะเลยค่ะ แล้วก็มีจานไว้ให้ตักมาใส่ค่ะ ตักได้ตามแต่ใจกันเลย สำหรับรสชาติของกิมจินะค่ะ กิมจิหัวผักกาดจะออกไปทางเปรี้ยวและเค็มค่ะ แต่ก็อร่อยดี ส่วนกิมจิหัวใชเท้ากรอบและหวานมากค่ะ เราชอบมากๆเลยSmiley


มาต่อกันที่มื้อกลางวัน หลังจากเที่ยวชมโซลกันไปบ้างส่วน (ทัวร์เราจะไปเกาะเชจูด้วยค่ะ คือชิตี้เที่ยวโซลครึ่งเช้า่ก่อน แล้วตอนบ่ายก็บินไปเกาะเชจู) เราก็ไปมาแวะกินมื้อเที่ยงก่อนจะไปขึ้นเครื่องบินภายในประเทศที่สนามบินกิมโปค่ะ อาหารมื้อเที่ยงนี้ได้แก่ "โอซัม บูลโกกิ" ค่ะ



โอซัมบลูโกกิสำหรับจะคล้ายๆพวกสุกี้อ่ะค่ะ Smiley แบบเป็นเนื้อ ผัก และเห็ดตั้งในน้ำค่ะ ใส่วุ้นเส้นเกาหลีด้วย วุ้นเส้นเกาหลีเส้นจะใหญ่กว่าวุ้นเส้นของไทยนะค่ะ รสชาติโอซัมบลูโกกิจะออกหวานนะค่ะ หมูก็นุ่มมากค่ะ เห็นและผักต่างๆก็รสชาิตลงตัวมากๆ กินกับข้าวเกาหลีร้อนๆ อร่อยมากค่ะ มื้อนี้กินไปไม่ใช่น้อย เครื่องเคียงก็มีหลายอย่างค่ะ แถมทุกอย่างเติมได้ไม่ทั้นอีกต่างหาก


หลังจากมื้อเที่ยงก็ถึงเวลาไปรอขึ้นเครื่องที่สนามบินกิมโป ด้วยเวลาที่ไปรอนั้นมีค่อนข้างมากอยู่ก็เลยเดินไปเดินมา และในที่สุดก็ได้ของกินมาอีกแล้ว นั้นก็คือ "นมกล้วย"Smiley จากที่ได้เห็นหลายๆคนแนะนำกันมา แล้วก็พบว่า หวานมากกกกก หอมและอร่อยค่ะ แต่สำหรับเราคิดว่ามันหวานไปหน่อยอ่ะ แต่กลิ่นกล้วยนี่หอมมากๆ ราคาก็พอประมาณค่ะ 1000 วอน มีเห็นบางร้านก็ 900 วอนค่ะ 



มาถึงเชจูก็เที่ยวอีกครึ่งวันก่อนจะไปต่อกันทีมื้อแรกของเชจู เป็นอาหารขึ้นชื่อกันเลยทีเดียว นั้นก็คือ "Jeju BBQ"Smiley หรือถ้าเข้าใจง่ายๆก็คือ หมูย่างเกาหลีนั่นเอง แต่ที่พิเศษก็คือที่เชจูจะใช้หมูดำค่ะ เนื้อหมูจะสีเข้มกว่าหมูทั่วไปนะค่ะ หมูดำนี้จะมีเฉพาะที่เชจู เลี้ยงกันที่นี่ กินกันที่นี่เลยSmiley



รสชาติของหมูดำนั่นต้องบอกว่า อร่อยมากกก ค่ะ เนื้อหนา นุ่ม ไม่เหนียวเลยค่ะ จุ่มกะซอสแก้มเครื่องเคียงห่อด้วยผักเขียวใส่ข้าวลงไปนิด สุดยอดค่ะ กินอย่างมีความสุขมากๆSmiley



ก่อนจะจบคืนแรกที่เกาหลีและที่เชจู ทัวร์ก็ได้แวะให้ซื้อของในร้านมินิมาร์ทข้างทาง ถึงแม้จะซัดอาหารมื้อเย็นไปซะเต็มที่ ก็ยังไม่วายขอลงไปเดินดูเสียหน่อย พร้อมกับที่พี่หัวหน้าทัวร์ลงไปแนะนำขนม ของว่างอร่อยๆด้วย ก็เลยได้ Peporo เคลือบช็อกโกแลตและอัลมอนด์มา 1 กล่องSmiley กินเพลินดีมากค่ะ กรุบกรอบ อาจจะติดฟันนิดหน่อย แต่ก็อร่อยดีค่ะ



เป็นอันจบสำหรับอาหารการกินในวันแรกของทัวร์เกาหลีครั้งนี้ค่ะ


สำหรับวันที่ 2 นั้น อาหารมือเช้าก็คือบุฟเฟ่ห์ของโรงแรม Jeju Kal HotelSmiley ค่ะ ต้องบอกว่าอาหารยอดเยี่ยมมากค่ะ พอเราเข้าไปในห้องอาหารพนักงานจะรับคูปองและพาไปที่โต๊ะที่ว่างอยู่ แล้วก็เติมน้ำเปล่าที่แก้วให้เมื่อเราเลือกที่นั่งแล้วค่ะ อาหารก็เหมือนตามโรงแรมปกติค่ะ มีแบบอเมริกัน และพวกข้าวต้มให้เลือกค่ะ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือกิมจิค่ะ คนเกาหลีคงขาดกิมจิกันไม่ได้สักมื้อ


ไม่มีรูปไลน์อาหาร เอาแต่รูปของที่เราตักมาโชว์แล้วกัน ก็เยอะอยู่ วอฟเฟิลที่นี่อร่อยมากค่ะ กรอบดี ราดครีมสดหวานๆ เยี่ยมไปเลย ขนมปังก็มีหลากหลายค่ะSmiley ตักมาแบ่งๆกันชิม



ในวันนี้ที่เชจูฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน Smiley แต่เป็นฝนปรอยๆทั้งวันและลมก็แรงมาก เวลาอย่างนี้เหมาะกับอาหารร้อนๆที่สุดค่า


มื้อกลางวันก็เป็นอาหารร้อนๆสมใจ (จริงๆที่เกาหลีก็อาหารร้อนทุกมื้อ เพราะเตาตั้งกลางโต๊ะตลอด) อาหารมื้อนี้คือ "บลูโกกิ" ค่ะ มื้อนี้ต่างจากมื้ออื่นตรงที่เป็นเนื้อหมูหมักซอสวางบนบนฟอยส์อีกทีไม่ได้วางตรงๆกับกระทะ  และอันนี้หมูตัดมาเป็นชิ้นๆแล้วให้วิธีผัดๆในกระทะค่ะ ไม่ได้ย่าง การกินก็ห่อผักใส่เครื่องเคียงและข้าวนิดหน่อยเหมือนเดิม แต่ก็ให้ความรู้สึกดีตั้งแต่ได้จับถ้วยข้าวแล้วล่ะค่ะ เพราะถ้วยข้าวมันร้อน ช่วยคลายหนาวได้ดีมากๆ SmileySmileySmiley อีกอย่างเครื่องเคียงของที่เชจูจะต่างจากที่อื่นๆตรงที่มีเครื่องเคียงที่ทำจากปลาเส้นทอดค่ะ (โอเด้ง) ของที่นี่เป็นกิมจิโอเด้งค่ะ (เรียกเอาเอง เพราะไม่ได้ถามมาค่ะว่าเรียกอะไร) และก็จะมีอีกหนึ่งจานเป็นพวกสาหร่ายค่ะ คงเพราะเชจูเป็นเกาะที่มีทะเลค่ะ เลยเน้นอาหารที่ได้จากทะเล



หลังจากผ่านมื้อกลางวันไปเผชิญความหนาวและฝนSmileyมาอีกครึ่งวัน มื้อเย็นก็เป็นอาหารอุ่นได้ใจมากๆ นั้นก็คือ ชาบู ชาบู นั่นเอง ต้องบอกว่าเป็นอาหารที่ผักเยอะสุดๆค่ะ ถั่วงอกหัวโตๆเต็มเลย ที่นี่แอบรอนานนิด เพราะทัวร์ำกรุ๊ปเรามี 4 โต๊ะ ใช้กระทะแบบเดียวกัน แต่ร้านดันมีฝาปิดกระทะแค่ 3 อัน Smiley สุดท้ายร้านก็ไปหาฝาของหม้อแบบอื่นมาปิดให้ มันก็ช่วยได้แหละค่ะ Smiley เครื่องเคียงของที่นี่ก็มีโอเด้งเหมือนกันค่ะ แต่มาแบบทอดหั่นเป็นชิ้นๆค่ะ 





นอกจากนี้ยังมีเส้นอุด้งไว้ให้ใส่ตามลงไปด้วยค่ะ น้ำจิ้มที่ให้มาจะเป็นเหมือนซีอิ๊วค่ะ มื้อนี้กินกันจนจุกเลยทีเดียว เยอะสุดๆ ยังดีทีเน้นไปที่ผัก ไม่งั้นแย่แน่ๆ กินแต่เนื้อ


วันที่ 3 ที่เกาหลี อาหารเช้าก็เหมือนเดิมคือทานกันที่โรงแรม เพราะฉะนั้นตามมาดูมื้อกลางวันกันดีกว่า


อาหารกลางวันของวันนี้เรียกว่า "Hanshik" ลักษณะจะคล้ายๆโต๊ะจีน คือมีอาหารเป็นเหมือนกับข้าวหลายๆอย่างSmiley ได้แก่ ปลาย่าง หมูต้มสุกหั้นเป็นชิ้นๆ จิ้มกับซีอิ๊ว (เนื้อนุ่มมากๆ)Smiley แล้วก็มีไข่ตุ๋น ไข่ตุ๋นของเกาหลีค่อนข้างแข็งมาก (สงสัยไข่ขาวเยอะ) แต่เด็ดสุดของมื้อนี้คือ "ซุปทะเล" อันนี้เด็ดมากค่ะ ดูคล้ายๆแกงส้ม แต่ไม่เผ็ดค่ะ (ตามสไตล์อาหารเกาหลี) เนื้อข้างในมีทั้งหอย (เหมือนจะมีอยู่ 2-3 อย่าง) ปู (มาทั้งก้าม) กุ้งทั้งตัว พร้อมผักอีกมากมายSmiley เอาเป็นว่าอาหารทะเลทะลักชามมากๆ ซุปอันนี้มีให้คนละชามเลยค่ะ โอ้...เยอะมากกก แต่นอกจากซุปที่ได้คนละชามแล้ว ที่เหลือทั้งหมดกินกันแค่ 4 คนเท่านั้น สำหรับเครื่องเคียงก็ขาดไม่ได้เช่นเดิมค่ะสำหรับอาหารเกาหลี







ขอจบ Part 1 ไว้แค่นี้ก่อน แล้วเดี๋ยวจะมาต่อ Part 2 อีกที ไม่รู้จะยั่วน้ำลายใครไปบ้างหรือเปล่าเอ่ย
 SmileySmiley






Create Date : 12 เมษายน 2554
Last Update : 12 เมษายน 2554 13:26:03 น. 2 comments
Counter : 2604 Pageviews.

 
น่าทานมากเลยค่ะ อยากลองหมูดำ


โดย: คะน้า IP: 2.51.88.97, 86.96.228.85 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:14:54:55 น.  

 


โดย: bbandp วันที่: 22 เมษายน 2554 เวลา:6:34:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PaB_KaP
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Group Blog
 
 
เมษายน 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
12 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add PaB_KaP's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.