อัพเดทข่าวน้ำท่วมทุกจุด เย็นนี้ 9พ.ย.54 กลุ่มผู้อาศัย 'หอพัก-คอนโดมิเนียม'ชั้นบน อดเงินชดเชยน้ำท่วม

กลุ่มผู้อาศัย 'หอพัก-คอนโดมิเนียม'ชั้นบน อดเงินชดเชยน้ำท่วม

ประชาชนแห่โทรแจ้งเขตบางเขน ขอรับเงินชดเชยน้ำท่วม 5,000 บาท กทม.แนะให้ส่งหลักฐานภายใน 45 วัน ด้านหอพัก-คอนโด น้ำไม่ท่วมหมดสิทธิ์

นางวัชราภรณ์ กวยะปาณิก ผอ.เขตบางเขน เปิดเผยว่า ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีมีอนุมัติ เการจ่ายงินเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(กรณีอุทกภัย)ครัวเรือนละ 5,000 บาท ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น ในเบื้องต้นทางกรุงเทพมหานครยังไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ที่เป็นรายละเอียดชัดเจน และต้องเรียกประชุม ผู้อำนวยการเขตที่ได้รับผลกระทบก่อน จากนั้นจะส่งหลักเกณฑ์ต่างๆมายังฝ่ายปกครอง

หลักเกณฑ์ในเบื้องต้น ในส่วนของหลักฐานของผู้มีสิทธิ์รับเงินชดเชยเยียวยา ประกอบด้วย สำเนาทะเบียนบ้าน ในเขตพื้นที่ภัยพิบัติและอยู่ในกรุงเทพมหานคร สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าบ้าน และรูปถ่ายบริเวณที่ถูกน้ำท่วม โดยยื่นเอกสารได้ที่สำนักงานเขตภายใน45 วัน ภายหลังจากที่ถูกน้ำท่วม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคอนโดมิเนียม อพาทเมนต์ หรือหอพัก ต้องอยู่ในชั้นที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น ซึ่งวานนี้(9พ.ย.)ได้มีประชาชนสอบถามมายัง สำนักงานเขตเป็นเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้เขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบใน พื้นที่ กทม.ทั้งสิ้น 30 เขต ประกอบด้วย เขตบางซื่อ เขตดุสิต เขตพระนคร เขตสัมพันธวงศ์ เขตสาธร เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา เขตคลองเตย เขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตราษฏร์บูรณะ เขตคลองสามวา เขตมีนบุรี เขตหนองจอก เขตลาดกระบัง เขตดอนเมือง เขตคันนายาว เขตจตุจักร เขตตลิ่งชัน เขตบางเขน เขตบางแค เขตภาษีเจริญ เขตลาดพร้าว เขตวังทองหลาง เขตสายไหม เขตหนองแขม เขตหลักสี่ และเขตทวีวัฒนา

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ จะแบ่งเป็น 2 กรณี น้ำท่วมถึงบ้านพักอาศัยโดยฉับพลัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และบ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยต้องเป็น บ้านเรือนที่อาศัยประจำในเขตพื้นที่ 30 เขตที่กำหนด โดยทางสำนักงานเขตต้องเป็นผู้ออกหนังสือรับรอง ผู้ประสบภัย

"ประชา"ตอบไม่ได้"อนุสาวรีชัยฯ-พระราม 2"จะท่วมหรือไม่ ยัน"บิ๊กแบ๊ก"กั้นน้ำได้เป็นเดือนไม่ใช่แค่ 7 วัน


เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ ศปภ.กระทรวงพลังงาน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ. กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนกังวลว่า การวางกระสอบทรายยักษ์ หรือบิ๊กแบ๊ก จะสามารถกั้นน้ำได้แค่ 7 วัน หลังจากนั้น ปริมาณน้ำเหนืออาจจะไหลข้ามบิ๊กแบ๊กเข้ามาทางด้านเหนือของกรุงเทพฯอีกว่า คงไม่น่าจะใช่ที่จะรับน้ำได้แค่ 7 วัน แต่ประสิทธิภาพของบิ๊กแบ๊กนั้นน่าจะกั้นน้ำได้เป็นเดือน แต่ยอมรับว่ามีน้ำซึมแนวบิ๊กแบ๊กบ้าง แต่ก็ใช้เครื่องมือต่างๆ เสริม ส่วนมวลชนเหนือแนวบิ๊กแบ๊กที่ไม่พอใจเรื่องการระบายน้ำนั้น ทางเจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปทำความเข้าใจอย่างเต็มที่แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย

ส่วนการระบายน้ำของ กทม. สามารถทำได้มากน้อยแค่ไหนนั้น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ตนประสานกับนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. ซึ่งเป็นที่น่าพอใจว่าระบายน้ำได้ดีทุกจุด และได้ประสานกับการประปานครหลวง ให้ลดการปล่อยน้ำจากคลองประปาไปในช่องทางต่างๆ ทั้ง สามเสน บางซื่อ ซึ่งการกระปาได้ปิดประตูน้ำแล้ว ดังนั้น ขณะนี้เป็นหน้าที่ของ กทม. ต้องเร่งระบายน้ำ

ส่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และถนนพระราม 2 ที่ประชาชนให้ความสนใจว่าน้ำจะท่วมเมื่อไหร่นั้น ผอ.ศปภ. กล่าวยอมรับว่า สิ่งหนึ่งที่ประเมินได้ยากคือ น้ำใต้ดินและน้ำตามระบบท่อที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งน่าเป็นห่วง แต่พยายามอย่างเต็มที่โดยอาศัยเครื่องสูบน้ำของ กทม.เป็นหลัก สำหรับการระบายน้ำฝั่งตะวันออกให้สามารถระบายน้ำลงคลองแสนแสบ และคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ทางกรุงเทพมหานคร ต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบ เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนของครัวเรือนและดำเนินการจ่ายเงินให้ผู้ประสบภัยภายใน 2 สัปดาห์แรก และช่วยเหลือให้แล้วเสร็จภายใน 45วัน


ผอ.ศปภ.ยัน'บิ๊กแบ็ก'ทำงานได้ดี ช่วยลดระดับน้ำได้10-20ซม.

ห่วงสถานการณ์น้ำบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและถนนพระราม 2 น้ำในท่อจำนวนมาก ทำให้ประเมินยาก

เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) กล่าวถึงความสามารถของเรากั้นน้ำกระสอบทรายขนาดใหญ่ หรือบิ๊กแบ็กว่า ก็สามารถที่จะกั้นน้ำได้เป็นเดือน คงไม่ใช่แค่ 7 วัน ส่วนที่ประชาชนย่านดอนเมืองแสดงความไม่พอใจในการวางแนวบิ๊กแบ็กนั้น เราได้พูดคุยทำความเข้าใจแล้วว่าเราทำเพื่อส่วนรวมประเทศ ก็เข้าใจดีขึ้นแล้ว ขณะที่ความสามารถในการระบายน้ำในพื้นที่นั้นทั้งเขตน้ำก็ลดลง 10-20 เซนติเมตรก็เป็นที่น่าพอใจ

ส่วนสถานการณ์น้ำบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและถนนพระราม 2 นั้น พล.ต.อ.ประชา ผอ.ศปภ.กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เราประเมินยาก ก็คือเรื่องน้ำจากระบบท่อต่างๆที่ลงไปมากแล้วควบคุมไม่ได้ ส่วนน้ำทะเลก็ไม่น่าเป็นห่วง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือน้ำในท่อใต้ดิน ซึ่งเราก็ทำอย่างเต็มที่ที่จะใช้เครื่องสูบของกทม.เป็นหลักในการระบาย


ส่วนน้ำด้านเหนือของกทม.นั้นบิ๊กแบ็กยังทำงานได้เต็มที่ ส่วนฝั่งตะวันออกก็มีการระบายน้ำอย่างต่อเนื่องโดยเร่งระบายน้ำในคลองแสนแสบ พระองค์เจ้าไชยานุชิต นครเนื่องเขต โดยระบายน้ำลงทุกคันคลองเท่าที่จะทำได้ซึ่งเราก็ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าเป็นห่วงแนวบิ๊กแบ็กจะพังหรือไม่เพราะยังมีปริมาณน้ำเหนืออีกจำนวนมาก พล.ต.อ.ประชา ผอ.ศปภ. กล่าวว่า ก็มีโอกาสที่น้ำจะเอ่อเข้ามาบ้างแต่เราก็ยังแนวบิ๊กแบ็กเสริมอีกซึ่งเราสามารตีเสริมได้ต่อเนื่องเท่าที่เราจะทำได้

ทั้งนี้พล.ต.อ.ประชา กล่าวอย่างมั่นใจว่า ด้วยว่าการระบายตนได้ประสาน ผอ.สำนักระบายน้ำ กทม. แล้วทุกจุดดำเนินการได้ดี ขณะเดียวกันตนได้ขอให้การประปานครหลวงงดการปล่อยน้ำลงในจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคลองสามเสน บางซื่อ บางเขน ซึ่งการประปาได้ปิดประตูน้ำแล้ว หลังจากนี้จึงเป็นหน้าที่ของ กทม.ที่จะต้องเร่งระบายน้ำ ส่วนเครื่องสูบน้ำบางส่วนที่พังก็ดำเนินการซ่อมแซมแล้ว ส่วนเครื่องใหม่ก็กำลังเร่งติดตั้ง

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2554		1 comments
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2554 22:29:57 น.
Counter : 712 Pageviews.
Share Tweet