โดย... ดร.ภัทรพล
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา นับว่าเป็นการสูญเสีย ดวงแก้วทางปัญญา ของแผ่นดินอีกท่าน อังคาร กัลยาณพงศ์ ( กวีซีไรต์ พ.ศ. 2529 และศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์, กวีนิพนธ์ พ.ศ. 2532 ) ได้ละสังขารไปด้วยความสงบในวัย 86 ปี หลังจากต้องต่อสู้กับอาการป่วยเรื้อรังจากโรคหัวใจ โรคเบาหวานมายาวนาน สำหรับประวัติของ ท่านอังคาร ได้รับการยอมรับว่าเป็น จิตกรกวี ที่มีชื่อของยุค อีกทั้งยังเป็นศิษย์เอกของศิลปินเอกหลายท่าน ที่ถือว่า เป็นครูใหญ่ของวงการศิลปกรรมของประเทศ
สำหรับผมแล้ว ท่านอังคาร ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน เสาหลัก ทาง ภูมิปัญญาไทยร่วมสมัย เพราะท่านเปรียบเสมือน รอยเชื่อมต่อ ระหว่าง ศิลปะของไทยกับสากล เพราะเชื่อว่า ศิลปะ คือการต่อยอดไม่อยู่นิ่งกับที่ ซึ่งทำให้บางครั้งสามารถเรียกว่าเป็น ศิลปะร่วมสมัย จากการที่ได้ร่ำเรียนฝึกฝนจาก ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ทำให้ท่านได้เรียนรู้ ราก ของ ศิลปะตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิลปะยุคเรย์เนซองค์ ซึ่งถือว่า เป็นสุดยอดของ ศิลปกรรมตะวันตก
นอกจากนี้ การที่ ท่านอังคาร ได้รับการฝึกฝน จาก อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ ทำการศึกษาค้นคว้า ศิลปกรรมตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางรอนแรมไปในที่ต่างๆ เพื่อคัดลอกจิตกรรมฝาผนัง ซึ่งก็เปรียบเหมือนกับแม่น้ำแห่งอารยธรรม 2 สาย ที่ไหลรวมมาที่ท่าน (ก่อให้เกิดการผสมผสานกันของศิลปกรรมทั้งทางตะวันออกและตะวันตก) จึงเกิดเป็นกระบวนการคลี่คลายออกมาจาก รากเหง้า อันเป็น ของดีมีอยู่ ในอดีต ดังจะเห็นได้ชัดเจนจาก ลายกนก ที่ ท่านอังคาร ได้รังสรรค์ขึ้น มีความเป็นเอกลักษ์งดงาม มีความร่วมสมัยเป็นที่สุด และก็เป็นหลักฐานที่สะท้อนให้เห็นการแตกดอกออกผลผลิตทาง ภูมิปัญญาร่วมสมัย
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ท่านอังคาร เปรียบเสมือนรอยเชื่อมต่อทางภูมิปัญญาระหว่างไทยกับสากลโดยแท้จริง สำหรับผมแล้วจึงชื่นชมท่านเป็นพิเศษ และถือว่าเป็นแรงบรรดาลใจ ที่ทำให้ผมมุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้า ดัง อมตะวาจา ที่ ท่านอังคาร ได้ฝากไว้ เพื่อเตือนสติให้เรารักษาคุณค่า บรรดา ของดีมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มรดกทางวัฒนธรรม
ที่กล่าวไว้ว่า คนที่สำนึกคุณค่าของบรรพบุรุษ แสดงว่า เอาใจใส่ต่อรากเหง้าของตัวเอง สมมุติว่า รากของมะม่วงดี ผลที่ออกไปก็จะดี ซึ่งผลงานรังสรรค์ทาง ศิลปกรรม ของ ท่านอังคาร ได้สะท้อนแนวคิดของท่านได้อย่างชัดเจน ศิลปกรรม ของท่านนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย เป็นเลือดเป็นเนื้อของชีวิตท่าน ซึมซับให้ต้องอนุรักษ์ สืบสาน และพัฒนา มรดกทางวัฒนธรรม ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่าง ร่วมสมัย
วันนี้ ท่านอังคาร ได้สิ้นแล้ว ดวงแก้วทางปัญญา อีกดวงหนึ่งของแผ่นดิน ที่เคยเปล่งประกายเจิดจรัส ก็ได้มอดดับลงเหมือนกับชื่อเดิมของท่าน จาก บุญส่ง ที่ได้เปลี่ยนเป็น อังคาร ซึ่งหมายถึง ได้ตายจากชีวิตเดิมไปแล้ว มาถึงยามที่ได้ไปกราบคารวะร่างที่ไร้วิญญาณท่าน ใจผมนึกถึงคำสอนของ ท่านศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่สั้นๆ แต่เฉียบคมเหลือเกินว่า ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น
ถึงวันนี้ชีวิตของปราชญ์ที่เป็น จิตกรกวี อย่าง ท่านอังคาร จะสิ้นแล้ว แต่งาน ศิลปะ ที่ท่านได้รังสรรค์ก็ยังคง ยืนยาว อยู่คู่กับสังคมไทยอีกตราบนานเท่านานครับ
ขอบคุณ
คม ชัด ลึกออนไลน์
ดร.ภัทรพล
อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ