BlogGang.com : : sirivinit : เมื่องาน "ดีไซน์ไทย" ไปเวทีโลก ได้ทั้ง "เงิน" ได้ทั้ง "กล่อง"

เมื่องาน "ดีไซน์ไทย" ไปเวทีโลก ได้ทั้ง "เงิน" ได้ทั้ง "กล่อง"

เมื่องาน "ดีไซน์ไทย" ไปเวทีโลก ได้ทั้ง "เงิน" ได้ทั้ง "กล่อง"

ใครจะไปรู้ว่านาฬิกาข้อมือเสียๆ จะกลายเป็นเครื่องประดับที่สร้างรายได้ หรือแม้แต่กรวยพลาสติกอันละสิบยี่สิบบาท จะแปลงโฉมกลายเป็นโคมไฟสุดเจิดที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์เพียงเล็กน้อย จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้อย่างมหาศาล

เมื่อไลฟ์สไตล์ของมนุษย์โลกรวมถึงผู้คนในสังคมไทยแปรเปลี่ยนไป เน้นกิน ดื่ม ใช้วัตถุที่รุ่มรวยไปด้วย "ไอเดีย" สร้างสรรค์เพื่อความสดใสซาบซ่าแต่ราคา "ไม่แพง" มากขึ้น

ส่งผลบรรดาผู้ออกแบบนั่งไม่ติดที่ ต้องขยับเขยื้อนออกไปค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ และเค้นเอาความคิดมาแปรเป็นสิ่งของตอบสนองความต้องการของผู้คนให้ได้

แต่การขยันแบบผิดที่ผิดทางก็อาจก่อให้เกิดข้อผิดพลาดและความเสียหายได้ง่าย โดยเฉพาะงานดีไซน์ที่เน้นการส่งออกด้วยแล้ว ทำให้กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการส่งออก รับบทพี่เลี้ยงให้แก่นักออกแบบไทยมากว่า 20 ปี

รากฐานที่แน่นหนาในวันวาน ส่งผลให้วันนี้ดีไซเนอร์ไทยเข้มแข็งพอที่จะต่อกรกับนักดีไซน์ระดับโลก!! โดยเฉพาะเมื่อโครงการรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบดี Design Excellence Award หรือ DEmark ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

จนทุกวันนี้ DEmark หรือดีมาร์ก กลายเป็นสัญลักษณ์การันตีถึง "สินค้าไทยคุณภาพ" ที่เติบโตและสร้างมูลค่าในโลกได้อย่างยั่งยืน

แหวนดีไซน์เก๋สุดหรูที่ประดิษฐ์จากซากนาฬิกาที่เสียแล้ว งานเครื่องประดับเซรามิกลวดลายดอกกล้วยไม้สุดอ่อนช้อย ที่ฝรั่งมังค่าขอออเดอร์ไปจำหน่ายที่ต่างประเทศ งานเฟอร์นิเจอร์หลากฟังก์ชัน

ของแต่งบ้านที่ไม่ได้มีแต่ความสวยงามอย่างเดียว แต่เน้นประโยชน์ใช้สอยที่สามารถใช้งานได้จริง อย่างแก้วใสหลากสีที่พอคว่ำก็จะกลายเป็นที่เสียบแปรงสีฟัน โคมไฟที่ผลิตจากกรวยพลาสติกแบบง่ายแต่ดูแล้วใช่ ยังไม่รวมถึงแพ็กเกจขนมเมืองเก่าภูเก็ตที่แสนน่ารักน่าชัง

ทั้งหมดนี้คือผลิตภัณฑ์ที่กลั่นจาก "ไอเดียสร้างสรรค์" ของ "คนไทย" ที่นิทรรศการ DEmark Roadshow ประจำปี 2555 นำมาวางโชว์อวดโฉมให้คนคลั่งดีไซน์ได้ยล ณ สยามดิสคัฟเวอรี่

เพราะนอกเหนือจากรางวัล DEmark ที่การันตีคุณภาพแล้ว ชิ้นงานที่จัดแสดงอยู่นี้ยังได้รับรางวัล Good Design Award หรือ G-mark จากญี่ปุ่นด้วย

"ขณะนี้ประเทศไทยมีผลงานที่ได้รับรางวัล DEmark แล้ว 256 รายการ ในระยะเวลาการส่งเสริม 4 ปี และมีการคัดเลือกผลงานที่ได้รับตรา DEmark จำนวน 94 รายการ ส่งเข้าประกวดรางวัล G-mark ที่ญี่ปุ่นในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ได้รับรางวัลกลับมาให้คนไทยได้ชื่นชมถึง 61 รายการ ถือว่าประสบความสำเร็จมากทีเดียว นอกจากนี้การส่งผลงานเข้าร่วมประกวดในปีที่แล้วก็เพิ่มมากขึ้นถึง 340 ชิ้นงาน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 30%"

วุฒิชัย ดวงรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวด้วยความภาคภูมิใจต่อโครงการดีๆ ที่สร้างชื่อเสียงและมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศไทย และยังไปไกลถึงตลาดโลก

ที่ต้องเร่งพัฒนางานดีไซน์ ก็เพราะตัวเลขการส่งออกของไทยมีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 7 ล้านล้านบาท ทว่าในส่วนของอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น จิวเวลรี่ แฟชั่น ยังเติบโตไม่ถึง 10% ทั้งๆ ที่หากพัฒนาให้ดีสามารถไปได้ไกลกว่าที่คาดไว้

ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวเสริมในเรื่องนี้ว่า เราตั้งเป้าไว้ว่าอยากให้อุตสาหกรรมในกลุ่มไลฟ์สไตล์เติบโตขึ้นทุกปี

โดยในปีนี้ก็วางไว้ที่ 12% ที่อยากให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าแรงงานฝีมือของไทยได้คุณภาพไม่แพ้ชาติใดเลย ยิ่งถ้าเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วยแล้ว ถ้าเราพัฒนาได้ไทยก็จะได้เปรียบ

อีกทั้งเราได้เห็นแล้วว่าเมื่อเกิดกรณีปัญหาน้ำท่วมใหญ่ อย่างที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมในส่วนของยานยนต์ หรืออิเล็กทรอนิกส์ที่เคยหวังพึ่ง ก็ชะงัก และสร้างความเสียหายแบบประเมินมูลค่ามิได้เช่นกัน

"นอกเหนือจากในเรื่องเศรษฐกิจแล้ว งานดีไซน์ที่ดีและราคาไม่แพงจนเกินไป จะช่วยให้คนไทยเลิกนิสัยบริโภคแล้วทิ้งได้ เนื่องจากในอดีตเราจะนิยมใช้ของถูกกัน แต่ของถูกส่วนมากไม่ทน หรือดีไซน์ไม่สวย ใช้แป๊บๆ ก็เสีย แป๊บๆ ก็เบื่อ แล้วก็ทิ้ง

แต่หากเราเน้นผสมผสานการดีไซน์เข้าไป ก็จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย คุ้มค่าเงินมากขึ้น และช่วยเซฟโลกทั้งในแง่จำนวนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต และมลพิษจากการผลิต ซึ่งก็คือการรีไซเคิลและการผลิตแบบห่วงใยสิ่งแวดล้อม"

รู้เช่นนี้แล้ว สำหรับใครที่คิดว่า "ดีไซน์" ไม่สำคัญ ก็จงปรับเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ เพราะขนาด "โอ๋ ฟูตอง" หรือ หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ ศิลปินและนักร้อง ในฐานะพรีเซนเตอร์โครงการ DEmark ปี 2011 ยังบอกว่า

ชีวิตมนุษย์ถ้าไม่มีดีไซน์อยู่รอดได้ก็จริง แต่ถ้ามีโอกาสเลือกของ 2 สิ่งที่มีประโยชน์ใกล้เคียงกัน แต่อีกสิ่งมีดีไซน์ที่สวยงาม ก็ย่อมต้องเลือกชิ้นหลังอยู่แล้ว ทั้งนี้ก็เพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมที่นิยมในความงาม นิยมในแฟชั่น

สิ่งของชิ้นไหนที่รุ่มรวยไปด้วยดีไซน์ มากล้นด้วยประโยชน์ใช้สอย ในปัจจุบันก็มักถูกเลือก เพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะของคนที่เลือกว่ามีรสนิยมแต่ไม่ฟุ้งเฟ้อค่ะ

สำหรับนักออกแบบคนไหนที่สนใจ ส่งผลงานของตัวเองเข้าร่วมประกวดรางวัล DEmark ประจำปี 2555 เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ โปรดเตรียมตัวไว้ เพราะเวทีแห่งโอกาสเขาจะเปิดช่วงกลางปี ติดตามได้ที่เว็บไซต์ //www.demarkaward.net

ขอบคุณ
ไทยโพสต์ออนไลน์
ภาพ demarkaward.net

สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ

Create Date : 06 มีนาคม 2555

Last Update : 6 มีนาคม 2555 19:30:45 น.

0 comments

Counter : 1879 Pageviews.