ปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการและความสามารถของผู้ประกอบการ และผู้ผลิตภาพยนตร์ไทยได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยในการสร้างให้มีความสมจริงหรือเสมือนจริงมากขึ้น เทคโนโลยีเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากการประสมประสานกับความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ประกอบเข้ากับการนำอุปกรณ์เครื่องมือที่สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยในการสร้างภาพแอนนิเมชั่น สร้างการเคลื่อนไหวและสามารถถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านั้นออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว แอนนิเมชันจึงเป็นส่วนในการเข้าไปช่วยเพิ่ม เสริมเติมแต่งให้สมจริงมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการประหยัดต้นทุนในการผลิตอีกด้วย

ในปี 2542 มหาวิทยาลัยรังสิต นับเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้เปิดการเรียนการสอนเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์แอนนิเมชัน ตลอดจนสื่อมัลติมีเดียต่างๆในชื่อ “สาขาวิชาคอมพิวเตอร์อาร์ต” ของคณะศิลปะและการออกแบบ จนได้รับการยอมรับในวงการภาพยนตร์และวงการโทรทัศน์ ดังเป็นที่ประจักษ์ในผลงานของบัณฑิตผู้ที่สำเร็จการศึกษาออกไปจำนวนมาก ประกอบกับเป็นวิสัยทัศน์ของผู้บริหารมหาวิทยาลัยรังสิต ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาบัณฑิตไทยให้มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับอุตสาหกรรมแอนนิเมชันชั้นนำในต่างประเทศและด้วยความพร้อมและศักยภาพในการผลิตบัณฑิต ทั้งทางด้านบุคลากรและอุปกรณ์การศึกษา จึงได้มีนโยบายให้ขยายสาขาวิชาคอมพิวเตอร์อาร์ต เพื่อให้สามารถรองรับหลักสูตรใหม่ๆที่สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมแอนนิเมชันให้เติบโตสมบูรณ์แบบ จึงได้แยกตัวออกมาจากคณะศิลปะและการออกแบบเพื่อเป็นคณะใหม่ โดยมีชื่อเรียกว่า “คณะดิจิทัลอาร์ต” เพื่อรองรับการเรียนการสอนอย่างเต็มรูปแบบของงานแอนนิเมชันในรูปแบบ 2มิติ และ3มิติ ตลอดจนเทคนิคต่างๆที่ใช้ประกอบในงานแอนนิเมชันและงานภาพยนตร์                จากนั้นในปี 2554 ก่อตั้ง “สาขาวิชวลเอฟเฟค” ซึ่งนับเป็นสาขาใหม่ของคณะดิจิทัลอาร์ต วิชวลเอฟเฟคมีบทบาทมากในทุกขบวนการผลิตภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ใช้นักแสดงจริงหรือภาพยนตร์แอนนิเมชั่น เช่นการปรับเปรียนสีของภาพเพื่อให้ได้อารมส์ความรู้สึกสอด คล้องกับบรรยากาศของเรื่องหรือการนำภาพมาทับซ้อนกันแล้วตกแต่งด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อให้ผู้ชมเชื่อว่าเหตุการนั้นเกิดขึ้นจริง

"อาจารย์อำนวยวุฒิ สาระศาลิน" คณบดีคณะดิจิทัลอาร์ต มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า คณะดิจิทัลอาร์ตมุ่งเน้นในการที่จะสร้างเยาวชนที่มีความสนใจ และต้องการที่จะศึกษาหาความรู้เพื่อนำไปเป็นฐานความรู้ในการประกอบอาชีพในสายที่ตนเองมีความถนัด                “การเรียนการสอนในคณะดิจิทัลอาร์ตจะเน้นการเรียนการสอนทางด้านความคิดสร้างสรรค์ การสร้างภาพแอนนิเมชัน ทั้ง 2มิติ และ 3มิติ ตลอดจน เทคนิคต่างๆ ที่ใช้ในการทำแอนนิเมชัน เพื่อใช้ในวงการภาพยนตร์และในวงการโทรทัศน์ เป็นการตอบสนองความต้องการทรัพยากรบุคคลด้านงานแอนนิเมชัน ทางด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ ที่กำลังเป็นที่ต้องการทั้งตลาดภายในประเทศ และต่างประเทศทั่วโลก”

จากนั้นในปีการศึกษา 2554 ได้มีการปรับปรุงหลักสูตรเดิมคือ คอมพิวเตอร์อาร์ต และมีการเปิดหลักสูตรใหม่อีกสองหลักสูตร ทั้งนี้เพื่อให้มีความทันสมัย สอดคล้อง กับความต้องการในสายวิชาชีพแอนนิเมชันที่มีการแตกแขนงในวิชาชีพมากขึ้น การเรียนการสอนของหลักสูตรที่จะปรับปรุงใหม่จะเน้นให้นักศึกษามีความรู้ความสามารถในด้าน Pre-Production และ Post-Production ตลอดจนการเรียนรู้จากเทคโนโลยี เช่นเครื่อง Motion Capture ในการมาช่วยผลิตผลงานแอนนิเมชันให้สมจริงมากขึ้น ตลอดจนจะเน้นให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการทำงานในระบบ Team Work ร่วมกับนักศึกษา ในคณะศิลปะและการออกแบบ คณะนิเทศศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และวิทยาลัยดนตรี ซึ่งความรู้ในศาสตร์ต่างๆ มาประกอบในการสร้าง แอนนิเมชัน และเชื่อว่าจะมาเป็นประสบการณ์ของนักศึกษา ที่จะออกไปทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป                ปัจจุบันคณะดิจิทัลอาร์ต เปิดการเรียนการสอน 2 สาขาวิชาในระดับปริญญาตรี คือ

1. คอมพิวเตอร์อาร์ต (Bachelor of Fine Arts Program in Computer Art) เป็นสาขาที่เปิดเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีการเรียนการสอนด้านการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการออกแบบ สร้างสรรค์ทางความคิด มุ่งเน้นการฝึกทักษะปฏิบัติในการใช้คอมพิวเตอร์ และการปรับพื้นความรู้ทางศิลปะ โดยแบ่งออกเป็น 3 หลักสูตรคือ 2D Animation, 3D Animation และ Broadcast Design เพื่อมุ่งเน้นให้นักศึกษามีโอกาสในการใช้ความรู้พื้นฐานทางด้านศิลปะ และนำมาพัฒนา สร้างสรรค์ โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการนำเสนอผลงาน และนำไปประยุกต์ใช้ในวิชาชีพต่อไป                ระบบการศึกษาแบบทวิภาค โดย 1 ปีการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษาปกติ 1 ภาคการศึกษาปกติมีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 15 สัปดาห์ และอาจมีภาคฤดูร้อนอีก 1 ภาคการศึกษาก็ได้ ซึ่งมีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 6 สัปดาห์ ระยะเวลาการศึกษาตลอดหลักสูตร 4 ปี โดยใช้เวลาการศึกษาไม่เกิน 8 ปีการศึกษา

2. วิชวลเอฟเฟค (Bachelor of Fine Arts Program in Visual Effects) เป็นสาขาที่สอนทำภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ใช้นักแสดงจริงหรือภาพยนตร์แอนนิเมชั่น เช่นการปรับเปรียนสีของภาพเพื่อให้ได้อารมส์ความรู้สึกสอด คล้องกับบรรยากาศของเรื่องหรือการนำภาพมาทับซ้อนกันแล้วตกแต่งด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อให้ผู้ชมเชื่อว่าเหตุการนั้นเกิดขึ้นจริง ทำงานร่วมกันระหว่างการสร้างภาพสามมิติด้วยคอมพิวเตอร์ (CG หรือ 3D Animation)บวกกับการถ่ายทำภาพยนตร์ในระบบดิจิตอลเพื่อให้ได้ภาพที่มีความสมจริง ประกอบไปด้วยขบวนการผลิตจากสี่สายงานดังนี้ 3D Dynamic Simulation, 3D Visual Effects , 3D Digital Compositing และ 3D Modeling

-3D Dynamic Simulation (3D Animation & Dynamic Simulation) การใช้หลักการคำนวณทางด้านฟิสิกส์เพื่อจำลองปรากฎการทางธรรมชาติหรือการเคลื่อนไหวของเครื่องจักรกล เช่น ฝนตก, แสงไฟ, การหมุนของฟันเฟือง, กระจกแตก, ระเบิด เป็นต้น หรือการบันทึกการเคลื่อนไหวของนักแสดงจากโมชั่นแคปเจอร์แล้วถ่านทอดไปที่ตัวละคร CG แล้วนำไปซ้อนกับภาพที่ถ่ายจากกล้องดิจิตอลเพื่อสร้างให้เหตุการนั้นดูสมจริง เช่น ฉากแผ่นดินไหวหรือน้ำท่วมโลกในภาพยนตร์เรื่อง 2012 หรือ Tron legacy 2010                - 3D Visual Effects (3D Animation & Visual Effects) การออกแบบฉากหรือเหตุการณ์ที่จะต้องมีตัวละครหรือวัตถุที่สร้างจากซอฟแวร์สามมิติ (3D Animation)นำมาผสมกับภาพที่ถ่ายจากกล้องดิจิตอลเพื่อให้ได้ภาพที่มีความสมจริงกับเหตุการนั้นๆ เช่น จากภาพยนตร์ AVATAR, Gollum ในภาพยนตร์เรื่อง the lord of the ring และภาพยนตร์เรื่องTransformers1,2และ3 เป็นต้น                - 3D Digital Compositing (3D Animation & Digital Compositing) การทับซ้อนภาพที่ถ่ายบนฉากหลังกรีนสกรีนหรือบลูสกรีนแล้วนำมาทับซ้อนกับภาพที่สร้างจากซอฟแวร์สามิติ (CG) เพื่อให้ได้ภาพที่สมจริงหรือการนำภาพถ่ายจากหลายสถานที่มาทับซ้อนกันจนได้ภาพที่แปลกแตกต่างไปจากเดิมเพื่อมุ่งหวังให้ผู้ชมเชื่อว่ามีอยู่จริง เช่น จากภาพยนตร์300, Inception, Superman เป็นต้น                - 3D Modeling For Film and Game (3D Animation & Modeling For Film and Game)การสร้างตัวละคร CG จากซอฟแวร์สามมิติ เช่น Maya, ZBrush และ Mudbox รวมถึงการสร้างพื้นผิวที่มีความสมจริงเนื่องจากการสร้างภาพยนตร์ในปัจจุบันต้องการภาพของตัวละคร CG ที่มีความเหมือนจริงมากๆซึ่งสามารถนำไปแทนที่นักแสดงจริงได้ในฉากที่มีความเสียงสูง หรือตัวละครที่ไม่มีอยู่จริง เช่น ตัวละคร Jake จากภาพยนตร์เรื่อง AVATAR, Bumblebee จากภาพยนตร์เรื่อง transformer หรือ brad pitt จากภาพยนตร์ Benjamin Button หรือ ตัวละครจากเกมส์ DC universe online                ระบบการศึกษาแบบทวิภาค โดย 1 ปีการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษาปกติ 1 ภาคการศึกษาปกติมีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 15 สัปดาห์ และอาจมีภาคฤดูร้อนอีก 1 ภาคการศึกษาก็ได้ ซึ่งมีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 6 สัปดาห์ ระยะเวลาการศึกษาตลอดหลักสูตร 4 ปี โดยใช้เวลาการศึกษาไม่เกิน 8 ปีการศึกษา

นอกจากนี้ ในส่วนปริญญาโท คณะดิจิทัลอาร์ต ได้เปิดการเรียนการสอนสาขาแรก คือ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์อาร์ต (Master of Fine Arts Program in Computer Art)เปิดหลักสูตร พ.ศ.2550 เป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาของเอกชนในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์เป็นแห่งแรกที่เปิดหลักสูตรด้านสาขาวิชาคอมพิวเตอร์อาร์ต ในระดับปริญญาโทโดยร่วมมือทางการศึกษากับ บริษัทบ้านอิทธิฤทธิ์

อาจารย์อำนวยวุฒิ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในอนาคตคณะดิจิทัลอาร์ต มหาวิทยาลัยรังสิต มีแนวโน้มที่จะเปิดสาขาแยกย่อย มีความสามารถในแต่ละด้าน การแยกสาขาออกมา เพื่อค้นหาความถนัดของตัวเอง ทำให้คณะดิจิทัลอาร์ตสามารถผลิตนักศึกษาผลงานป้อนอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นได้อย่างครบวงจร รวมถึงตอบโจทย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้อย่างดี                "ผมเคยถามนักศึกษาว่า เคยดูภาพยนตร์ เรื่อง Avatar ไหม เคยดูถึงตอนจบหรือเปล่า ว่ามีกี่อาชีพที่ทำงานให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะผมหวังว่า เด็กไทยเราเองก็สามารถทำได้ไม่แพ้ต่างชาติ เพียงแต่ต้องรู้หลายละเอียดของแต่ละส่วนในการทำงาน และต้องรู้จักทำงานร่วมกับผู้อื่นด้วย ปัจจุบันความต้องการทางด้านวิชาชีพนี้ ยังเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากทั้งในประเทศและนอกประเทศ อีกทั้งเพื่อต้องการพัฒนาศักยภาพของคนไทย และเป็นการนำผลงานแอนนิเมชันของคนไทย ออกสู่สายตาในระดับชาติ และในระดับโลก”

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์อาทิตยวารค่ะ

Create Date : 29 กรกฎาคม 2555
Last Update : 29 กรกฎาคม 2555 9:12:03 น.		0 comments
Counter : 1780 Pageviews.
Share Tweet