"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 
25 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 

ศึกษาประวัติศาสตร์ "กระบี่" ผ่านงานศิลป์กลาง "ถนนประติมากรรม"

คอลัมน์ บันทึกเดินทาง 

โดย อรพรรณ จันทรวงศ์ไพศาล

 

 

พูดถึง "กระบี่" สิ่งที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นชายหาดแสนงาม และหมู่เกาะน้อยใหญ่ในทะเลอันดามันสีมรกตนับร้อย ทั้งอ่าวนาง ทะเลแหวก เกาะลันตา เกาะห้อง และหมู่เกาะพีพี ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือนมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

พอเที่ยวบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 246 แตะพื้นรันเวย์ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาเหยียบเมืองกระบี่เต็มๆ เป็นครั้งแรกก็ผุดขึ้นมา หลังจากเทียวไปเทียวมาปักษ์ใต้หลายครั้ง เฉียดไปเฉียดมาก็หลายหน แต่ไม่เคยมาถึงกระบี่สักที

เมื่อมีโอกาสได้มาเยือนเมืองเขาขนาบน้ำซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติและท้องทะเลทั้งที ก็แอบหวังนิดๆ ว่าจะได้สัมผัสกับความเย็นฉ่ำ ชื่นใจของน้ำเค็มๆ สีมรกตและรับลมทะเลเย็นให้ชุมปอด เมื่อล้อกลมๆ ของรถตู้คันใหญ่เคลื่อนออกจากสนามบิน มุ่งหน้าสู่เมืองกระบี่

ผ่านภูเขาหินรูปทรงตั้งฉากกับพื้นโลกเหมือนใครตั้งใจนำมาตั้งไว้ สลับกับบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ทั้งรูปแบบเก่าและใหม่ เรียงรายเป็นทิวแถว ด้วยความเร็วคงที่ ทำให้รู้ข้อดีของเมืองนี้อีกอย่างคือ แม้จะเข้าเขตเมือง แต่บนท้องถนนก็โล่งว่าง ไม่มีรถติดหนาแน่นอย่างที่พบเห็นจนชินตา-ชาใจแบบในเมืองบางกอก

รถหยุดชะงักเป็นครั้งแรก ที่ 4 แยกไฟแดง "ถนนมหาราช"  ถนนสายนี้ไม่ใช่ธรรมดา เป็นจุดเด่นที่ใครไปใครมาก็ต้องเห็น และอดสงสัยไม่ได้ แต่ก็เก็บงำความสงสัยส่วนตัวไว้จนถึงวันรุ่งขึ้น จึงได้มีเวลามาสำรวจถนนสายนี้แบบจริงจัง แยกต่อแยก!

หลังจากพักผ่อน และเพลิดเพลินไปกับการนอนฟังเสียงฝนตกฟ้าร้องขับกล่อมตลอดค่ำคืนที่แสนหวาน ณ "โซฟิเทล โภคีธรา กระบี่ รีสอร์ท แอนด์ สปา"  ก็แอบภาวนาให้วันรุ่งขึ้นฝนไม่ตกด้วยเถิด

แล้วเช้าวันใหม่ก็เป็นไปตามที่ภาวนาไว้ ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆ คณะของเราจึงออกเดินทางจากที่พักซึ่งตั้งอยู่ริมหาดคลองเมือง เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองกระบี่ และเป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ "ถนนสายประติมากรรม"

เมื่อรู้ประวัติของถนนเส้นนี้จากผู้นำทางชาวกระบี่ ก็ยิ่งทึ่งกับแนวความคิดในการสร้าง "จุดเด่น" จากถนนสายธรรมดาๆ ให้เป็นมากกว่าทางผ่านของนักเดินทาง ด้วยการยกหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องการปกครอง การค้าขาย ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของผู้คนชาวกระบี่ ผ่านประติมากรรมปูนปั้นรูปสิ่งมีชีวิตขนากยักษ์สี่แยกละ 4 ตัวหันหน้าเข้าหากัน

ทันทีที่รถจอดริมร้านค้าเล็กๆ ก็มองเห็น "สี่แยกมนุษย์โบราณ" ใจกลางเมืองกระบี่ สิ่งแรกที่เห็นคือรูปปั้น "สยามโมพิเทตัศ อีโอซีนัส" ในสายพันธุ์โฮมินิดส์ ที่รูปร่างหน้าตาคล้ายวานรมากกว่ามนุษย์ สีน้ำตาลเข้มเกือบดำ กำลังยืนหิ้วสัญญาณไฟจราจรไว้ในมือทั้งสองข้างไม่สะทกสะท้านต่อแดดเปรี้ยงๆ ยามนั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า "กระบี่ เป็นแหล่งกำเนิดของมนุษย์เอเชีย เพราะพบซากฟอสซิลที่มีอายุถึง 35 ล้านปี!!!"

ซึ่งเมื่อมองผ่านๆ มีลักษณะคล้ายลิง 4 ตัว กำลังหิ้วปิ่นโตเต็มสองมือ หันหน้าเข้าหา-ทักทายกันและกัน เลยอดอมยิ้มกับตัวเองไม่ได้

หลังจากชื่นชมและเก็บภาพมนุษย์โบราณได้ไม่นาน รถก็เคลื่อนขบวน มุ่งหน้าไปยังถนนรอดบุญและถนนหุตางกูร ที่ถูกเรียกว่า "สี่แยกนกอินทรี" หรือ "นกออก" ประติมากรรมรูปนกสีขาวขนาดใหญ่ กำลังสยายปีกที่มีปลายสีดำเข้ม ราวกับเตรียมตัวถลาไปกับสายลม ตั้งอยู่บนฐานกลมสีขาว สมฐานะนกประจำถิ่นที่อาศัยอยู่บนยอดเขาขนาบน้ำ

ตามความเชื่อของชาวกระบี่ เป็นนกที่บินได้สูง สายตาดีมองเห็นได้ในระยะไกล สามารถจับเหยื่อได้อย่างแม่นยำ ซึ่งความพิเศษของรูปปั้นนกออกตัวนี้คือ เป็นหลักกิโลมตรที่ 0 แสดงจุดเริ่มต้นของเมืองกระบี่

ไม่ไกลจากสี่แยกนกอินทรี เป็นท่าเทียบเรือขนาบน้ำที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมา มีประติมากรรมนกอินทรีอีก 2 ตัวตั้งเด่นเป็นสง่า ที่ติดกันยังมีประติมากรรมลูกปัดเม็ดมหึมาสูงกว่า 2 เมตร แต่พระเอกตัวจริงของเมือง คือ "ประติมากรรมปูดำ" สัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ มีฉากหลังเป็นเขาขนาบน้ำ จุดนี้จึงเป็นจุดที่บรรดานางแบบ-นายแบบจำเป็นพลาดไม่ได้ หากไม่ได้เก็บภาพที่ระลึกไว้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่ามาไม่ถึงกระบี่

กลับมาต่อกันที่ "สี่แยกช้าง" บนถนนประติมากรรม ภาพช้างเผือกตัวใหญ่สีขาวสูง ส่วนหนึ่งของตราเทศบาลเมืองกระบี่ กำลังชูกระบี่ไว้เหนือหัว ยืนตระหง่านอยู่หน้าที่ทำการเทศบาลเมืองกระบี่ ใต้ช้างตัวใหญ่ มีใบหน้าช้างชูงวงแขวนกับเสาสัญญาณไฟ ตัวเสาไม่ได้ลื่นเนียนเหมือนเสาอื่น เพราะเสาทั้ง 4 ต้นที่สี่แยกแห่งนี้แกะสลักเป็นลวดลายช้างอย่างละเอียดทั้งต้น

เล่ากันว่า ช้างตัวนี้ สร้างขึ้นเพื่อสื่อให้รู้ว่ากระบี่เคยเป็นจังหวัดที่มีช้างมากที่สุดในประเทศ เคยมีการคล้องช้างเผือกคู่พระบารมีช้างแรกของรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์พระราชทานนามว่า "พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนวนาถบารมี ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส บรมกมลาสนวิศุทธวงศ์ สรรพมงคลลักษณคเชนทรชาติ สยามราษฎรสวัสดิประสิทธิ์ รัตนกุญชรนิมิตบุญญาธิการ ปรมินทรพิตรสารศักดิเลิศฟ้า"  หรือที่รู้จักในพระนาม "พระเศวตฯ" ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์

แล้วก็มาถึงแยกไฟแดงสุดท้ายบนถนนมหาราช ตัดกับถนนหลวงพ่อ เรียกว่า "สี่แยกเสือเขี้ยวดาบ" ที่อยู่ใกล้กับทางเข้าตลาดสดมหาราช ความละเอียดอ่อนของเสาไฟแดงแยกนี้คล้ายๆ กับช้างเผือกหน้าเทศบาลเมือง เพราะนอกจากเสือเขี้ยวดาบตัวใหญ่จะนั่งอยู่บนเสาทรงกลมที่สลักรูปเสือตัวน้อยๆ แล้ว ยังมีเสือเขี้ยวดาบตัวน้อยนอนหมอบอยู่ใต้เสือตัวใหญ่ที่แยกเขี้ยวด้านบน ดูคล้ายกับราชาผู้แกร่งแกล้าท้าแสงตะวันไม่มีผิด

แม้ช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดินจะมีสายฝนโปรายปรายลงมาบ้าง และไม่ได้เล่นน้ำทะเลอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่การเดินทางมากระบี่ครั้งแรกนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะรู้สึกอิ่มเอมกับการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ผ่านศิลปะที่ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง ที่สามารถเรียนรู้ได้ไม่รู้จบ

ครั้งหน้าถ้ามีโอกาส คงไม่พลาดที่จะท่องเที่ยวและสำรวจทั่วกระบี่ เมืองเล็กๆ ที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ แฝงไว้ซึ่งมนต์เสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์

ใครอ่านจบแล้วคาใจ อยากรู้ต้องไปเอง

หน้า 13,มติชนรายวัน ฉบับวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 2555

ขอบคุณ
มติชนออนไลน์
คอลัมน์ บันทึกเดินทาง 
คุณอรพรรณ จันทรวงศ์ไพศาล

สิริสวัสดิ์โสรวารค่ะ




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2555
0 comments
Last Update : 25 สิงหาคม 2555 18:56:50 น.
Counter : 2745 Pageviews.


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.