| ประตูโทะริอิหน้าวิหารหลัก | | | อันที่จริง เรื่องความสวยและน่าสนใจคงต้องให้มาพิสูจน์ในสถานที่จริงจึงจะเข้าใจเต็มที่ แต่เรื่องความดัง ต่อให้นั่งอยู่ในเมืองไทยหรือที่ไหนๆ ในโลกก็คงรู้สึกได้ คนที่ไม่เคยมาญี่ปุ่นแต่สนใจญี่ปุ่น หรืออ่านข่าวเกี่ยวกับญี่ปุ่น หรือสนใจการต่างประเทศของญี่ปุ่นคงเคยได้ยินชื่อ ยะซุกุนิ แน่นอน คำถาม: ถามนิดเดียว ตอบเสียยาว ศาลนี้ชื่ออะไรนะ? เรียกยากจัง รู้สึกเหมือนกันครับว่ายิ่งอายุมากขึ้น พูดอะไรสั้นๆ ไม่ค่อยเป็น จะพยายามปรับให้ดีขึ้นครับ สำหรับชื่อของศาลเจ้า ตอนไปทีแรกผมเองก็เรียกชื่อศาลนี้ไม่ค่อยจะถูก ตอนนั้นมาญี่ปุ่นใหม่ๆ และด้วยความที่ภาษาญี่ปุ่นยังอ่อนหัด จึงเรียกชื่อศาลนี้เป็น ยะกินิกุ (เนื้อย่าง) อยู่นาน จนกระทั่งได้ไปสถานที่จริงนั่นแหละถึงเรียกได้ถูกต้องว่า ยะซุกุนิจินจะ (靖國神社; Yasukuni-jinja) คำว่า ยะซุกุนิ แปลว่า ประเทศอันสงบ ซึ่งเป็นชื่อตามวัตถุประสงค์ของการสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ตามพระราชประสงค์ของพระจักรพรรดิเมจิ (ครองราชย์ ค.ศ. 1867-1912) คือเพื่อ 国を靖んずる (Kuni o yasun zuruทำให้ประเทศเกิดสันติ) ส่วนคำว่า จินจะ แปลว่า ศาลเจ้า (ชินโต) คนญี่ปุ่นจำนวนมากบอกว่าตัวเองนับถือพุทธ บ้างก็บอกว่าไม่มีศาสนา แต่ขนบประเพณีญี่ปุ่นหลายอย่างมีส่วนชักนำให้คนญี่ปุ่นไปศาลเจ้าชินโตด้วย ขณะเดียวกันก็ไปวัดซึ่งเป็นของพุทธ และบางครั้งก็ไปโบสถ์คริสต์เพื่อการแต่งงาน คำถาม: ทำไมในชื่อภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า จินจะยะซุกุนิจินจะ, ทำไมไม่ใช้ จิงงู เหมือนศาลเจ้าเมจิเมจิจิงงู? เรียกไม่เหมือนกันเพราะเทพเจ้าที่ (ผู้คนเชื่อว่า) สถิตอยู่ มีที่มาต่างกัน คำญี่ปุ่นที่แปลว่า ศาลเจ้า มีหลายคำ ในจำนวนนั้น สองคำที่ได้ยินบ่อยที่สุดคือคำว่า จินจะ (神社; jinja) ซึ่งใช้สื่อถึงศาลเจ้าโดยรวม และใช้ประกอบชื่อเฉพาะอย่าง ยะซุกุนิจินจะ ส่วนอีกคำที่นักท่องเที่ยวคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดีคือคำว่า จิงงู (神宮;jingū) เช่น เมจิจิงงู ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทัวร์ไทยมักพานักท่องเที่ยวไป คำว่า จินจะ กับ จิงงู แปลว่าศาลเจ้าด้วยกันทั้งคู่ แต่ต่างกันตรงที่ว่า จินจะ คือศาลเจ้าที่มนุษย์ทั่วๆ ไปกลายเป็นเทพเจ้าสถิตอยู่หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว ส่วน จิงงู คือ ศาลอันเป็นที่สถิตของดวงพระวิญญาณบรรพบุรุษของจักรพรรดิวงศ์ ความเชื่อแบบชินโตคือคนธรรมดาที่ตายไปแล้วก็สามารถกลายเป็นเทพเจ้าได้ คำถาม : แล้วเทพเจ้าประจำศาลเจ้ายะซุกุนิมีอิทธิฤทธิ์ด้านไหน? ผมตอบไม่ได้ว่าด้านไหน แต่คิดว่าก่อนจะเป็นเจ้าคงมีฤทธิ์แน่นอน หลังจากเป็นเจ้าแล้วมีฤทธิ์หรือไม่...ไม่แน่ใจ และสิ่งที่ไม่แน่ใจว่าใช่ฤทธิ์หรือไม่ คือ พอถึงวันที่ 15 สิงหาคมซึ่งเป็นวันสิ้นสุดสงครามแปซิฟิก จีนและสองเกาหลีจะจับตามองทุกปีว่า มีนักการเมืองญี่ปุ่นไป (สักการะ? ขอพร?) ที่ศาลเจ้านี้หรือไม่ เอ...จะเรียกว่าศาลแผ่อิทธิฤทธิ์หรือบารมีดี? บางคนบอกว่าไม่ใช่ทั้งสองอย่าง แต่เป็นการเมือง สำหรับศาลแห่งนี้ คนที่รู้ก็เข้าใจว่าที่นี่ควรจะเป็นที่ ระลึกถึง ดวงวิญญาณ มากกว่าจะเป็นที่ขอพร ส่วนคนที่ไม่รู้ก็อาจจะก้มหน้าก้มตาขอ และถ้าบังเอิญทำอะไรสำเร็จอะไรขึ้นมาสักอย่าง ก็คงไม่มีใครตอบได้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของเทพเจ้าองค์ไหน เพราะมี 2 ล้านกว่าองค์ (คน?)
|