| ภาพ นางหิมะ โดยซูชิ ซะวะกิ (佐脇嵩之; Sawaki, Sūshi;1707-1772) | | | ข้าตั้งใจจะปฏิบัติกับท่านหมือนที่ทำกับชายอื่น แต่ข้าอดสงสารท่านอยู่บ้างไม่ได้เพราะท่านยังหนุ่มนัก ท่านเป็นชายหนุ่มรูปงาม มิโนะกิชิ ข้าจะไม่ทำร้ายท่านตอนนี้ แต่ถ้าท่านเล่าให้คนอื่นฟัง ว่าท่านได้เห็นอะไรในคืนนี้ แม้แต่กับแม่ของท่านก็ตาม ข้าก็จะล่วงรู้และจะฆ่าท่านเสีย ท่านจำเรื่องที่ข้าพูดเอาไว้นะ พอเอ่ยถ้อยคำเหล่านี้แล้ว นางก็หันออกจากเขา และผ่านประตูออกไป ต่อมาเขาก็พบว่าตัวเองขยับเขยื้อนได้ เขาเด้งตัวขึ้นและมองออกไป แต่ไม่เห็นหญิงผู้นั้นเลยไม่ว่าที่ใด หิมะยังคงกระหน่ำอย่างโกรธเกรี้ยวเข้ามาในกระท่อม มิโนะกิชิปิดประตูและทำให้แน่น โดยใช้ท่อนไม้หลายท่อนยันไว้ เขาสงสัยว่าเมื่อครู่นี้ลมพัดประตูเปิดออกหรือ เขาคิดว่าตัวเองอาจเพียงฝันไปและอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าแสงหิมะจากทางประตูหลอกตา ให้มองเห็นเป็นตัวตนของสตรีสีขาว แต่เขาก็ไม่อาจแน่ใจ เขาเรียกโมะซะกุและตกใจที่ชายชราไม่ตอบ เขายื่นมือออกไปในความืด สัมผัสหน้าของโมะซะกุ และพบว่ามันกลายเป็นน้ำแข็งไปเสียแล้ว โมะซะกุแข็งทื่อ เขาตายแล้ว พายุสงบช่วงรุ่งสาง พอคนเรือกลับมาที่จุดพักของตน หลังจากพระอาทิตย์ขึ้น เขาก็พบมิโนะกิชินอนหมดสติอยู่ข้างร่างที่เย็นเยียบแข็งทื่อของโมะซะกุ มิโนะกิชิได้รับการช่วยเหลือทันที และไม่ช้าก็ได้สติ แต่เขาป่วยอยู่นาน จากผลของความหนาวในคืนเลวร้ายนั้น ทั้งยังตื่นกลัวอย่างมากจากการตายของชายชราด้วย แต่เขาก็ไม่ปริปากพูดอะไรเกี่ยวกับภาพสตรีสีขาวที่เห็น ทันทีที่ดีขึ้นอีกครั้ง เขาก็กลับไปทำอย่างเดิมอีก เข้าป่าเพียงลำพังทุกเช้าและกลับมาตอนย่ำค่ำพร้อมกับมัดไม้ที่แม่ของเขาช่วยขาย เย็นวันหนึ่งในฤดูหนาวของปีต่อมา ขณะที่มิโนะกิชิกำลังกลับบ้าน เขาเจอเด็กสาว ซึ่งบังเอิญเดินทางบนถนนเส้นเดียวกันพอดี เธอเป็นหญิงที่สูง ผอม และหน้าตาสะสวยมาก เธอทักตอบคำทักทายของมิโนะกิชิ ด้วยน้ำเสียงรื่นหูดุจเสียงนกร้องเพลง จากนั้นเขาก็เดินข้างๆ เธอและเริ่มพูดคุย หญิงสาวบอกว่าเธอชื่อโอะยุกิ และบอกว่าเมื่อไม่นานมานี้เธอสูญเสียทั้งพ่อและแม่ เธอกำลังจะไปเอะโดะ ไม่ช้า มิโนะกิชิก็รู้สึกชอบพอเด็กสาวแปลกหน้าคนนี้ และยิ่งเขามองเธอ เธอก็ยิ่งดูสวยขึ้น เขาถามเธอว่ามีคู่หมั้นคู่หมายหรือยัง เธอตอบเศร้าๆ ว่ายังไม่มีพันธะใด แล้วเธอก็ถามมิโนะกิชิกลับบ้างว่าแต่งงานหรือยัง หรือมีกำหนดจะแต่งงานหรือยัง เขาตอบเธอว่า เขามีแม่ที่เป็นม่าย แต่ก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องลูกสะใภ้ของแม่ เพราะตัวเขายังอายุน้อยอยู่ หลังจากพูดคุยเรื่องส่วนตัวกันแล้ว ทั้งสองก็เดินไปเป็นเวลานานโดยไม่ได้พูดอะไร แต่ดังที่สุภาษิตว่าไว้ หากมีใจให้กัน ดวงตาก็สื่อภาษาได้ราวกับถ้อยคำ เมื่อเขาทั้งสองไปถึงหมู่บ้าน ต่างฝ่ายต่างก็พอใจซึ่งกันและกันมาก จากนั้นมิโนะกิชิก็ชวนให้โอะยุกิไปพักผ่อนสักครู่ที่บ้านของเขา เธอเขินอายลังเลอยู่หน่อยหนึ่ง แล้วจึงไปที่บ้านกับเขา แม่ของเขาต้อนรับเธอและเตรียมอาหารอุ่นๆ ให้ โอะยุกิปฏิบัติตัวอย่างดี เสียจนแม่ของมิโนะกิชิบังเกิดความคิดเกี่ยวกับเธอขึ้นโดยพลัน แล้วก็ชักชวนให้เธอเลื่อนการเดินทางไปเอะโดะ เรื่องก็ลงเอยอย่างธรรมดาว่า โอะยุกิไม่ได้ไปเอะโดะเลย เธอยังคงอยู่ในบ้าน ในฐานะลูกสะใภ้ โอะยุกิพิสูจน์ให้เห็นว่าตนเป็นลูกสะใภ้ที่ดีมาก ตอนที่แม่ของมิโนะกิชิตายเมื่อเวลาผ่านไปห้าปีกว่า ถ้อยคำสุดท้ายคือคำพูดแห่งความรักและความชื่นชมเมียของลูกชาย โอะยุกิมีลูกให้มิโนะกิชิ 10 คน ทั้งหญิงและชาย ทุกคนต่างรูปงามและมีผิวขาวกันทั้งนั้น คนในหมู่บ้านคิดว่าโอะยุกิเป็นหญิงที่วิเศษด้วยมีลักษณะที่แตกต่างจากพวกตน หญิงชาวนาส่วนใหญ่แก่เร็ว แต่โอะยุกิดูสาวและสดชื่นเหมือนกับวันที่เธอมาที่หมู่บ้านทีแรก ถึงแม้เป็นแม่ลูกสิบแล้วก็ตาม คืนหนึ่ง หลังจากที่เด็กๆ เข้านอนกันแล้ว โอะยุกิกำลังเย็บผ้าโดยมีโคมกระดาษให้แสง และมิโนะกิชิซึ่งกำลังมองเธอ เอ่ยว่า พอมองดูเจ้าตอนที่กำลังเย็บผ้าอยู่ตรงนั้นแล้วมีแสงส่องหน้า ทำให้ข้าคิดถึงเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นตอนที่เป็นหนุ่มอายุ 18 ตอนนั้นข้าเห็นคนคนนึง สวยแล้วก็ขาวเหมือนเจ้าตอนนี้เลย จริงๆ นะ นางคนนั้นเหมือนเจ้ามาก โอะยุกิตอบโดยไม่ละสายตาขึ้นจากงาน เล่าเรื่องหญิงผู้นั้นให้ฟังหน่อยสิ ท่านเห็นนางที่ไหน แล้วมิโนะกิชิก็เล่าถึงคืนเลวร้ายในกระท่อมคนเรือ เขาเล่าเรื่องสตรีขาวโพลนที่ก้มลงมาเหนือเขา ยิ้ม และกระซิบ และเล่าเรื่องการตายอย่างเงียบเชียบของชายชราโมะซะกุ แล้วเขาก็บอกว่า ไม่ว่าตอนหลับหรือตอนตื่น นั่นเป็นแค่ครั้งเดียวที่ข้าได้เห็นผู้ที่งามเหมือนเจ้า แน่นอน นางไม่ใช่คน และข้าก็กลัวนาง กลัวมากๆ แต่ว่านางช่างขาวนัก ที่จริง ข้าไม่เคยแน่ใจเลยว่า สิ่งที่ข้าเห็นนั้น มันเป็นความฝัน หรือว่าเป็นนางหิมะ โอะยุกิเขวี้ยงผ้าที่กำลังเย็บ ผุดลุกขึ้น ก้มไปหามิโนะกิชิตรงที่เขากำลังนั่งอยู่ แล้วก็กรีดร้องใส่หน้า มันคือข้า ข้า ข้านี่แหละ ยุกิคนนี้แหละ ตอนนั้นข้าบอกแล้วใช่ไหมว่า ข้าจะฆ่าเจ้าซะถ้าหากเจ้าเอ่ยเกี่ยวกับเรื่องนั้นแม้แต่คำเดียว แต่เพื่อเห็นแก่เด็กๆ ที่กำลังหลับอยู่ตรงโน้น ข้าจะไม่ฆ่าเดี๋ยวนี้ และตอนนี้เจ้าควรจะดูแลพวกแกให้ดียิ่ง เพราะไม่งั้น ถ้าหากพวกแกมีเรื่องบ่นว่าเกี่ยวกับเจ้าละก็ ข้าจะทำกับเจ้าอย่างที่เจ้าจะควรจะได้รับ
|