"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
28 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 

สะดุดคำ “ซื้อระเบิดระเบ้อ...คำประจำปี”

 

สะดุดคำ “ซื้อระเบิดระเบ้อ...คำประจำปี”
การมอบรางวัล “คำประจำปี” (ที่มา //www.yahoo.co.jp)
       
ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์
       Tokyo University of Foreign Studies


       
       สะดุดคำ คือ มุมพิเศษซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคอลัมน์ญี่ปุ่นมุมลึกที่ลงทุกวันจันทร์ มุมนี้จะเป็นการบอกเล่า ‘ความเคลื่อนไหว’ หรือ ‘สิ่งที่อยู่ในความสนใจ’ ของคนญี่ปุ่นตามโอกาสพิเศษผ่าน ‘คำสำคัญ’ หรือ ‘คำเด่น’ ในช่วงเวลาหรือฤดูกาลนั้น มีกำหนดนำเสนอเดือนละ 1 ครั้ง

เพื่อให้ผู้อ่านสามารถติดตามสิ่งที่เป็นปัจจุบันหรือร่วมสมัยได้ในเวลาใกล้เคียงกับคนญี่ปุ่น อีกทั้งยังต้องการให้ผู้ที่เรียนหรือสนใจภาษาญี่ปุ่นได้นำคำหลักและคำที่เกี่ยวข้องไปใช้พูดคุยกับคนญี่ปุ่น หากมีโอกาสเพื่อให้บทสนทนาน่าสนใจและมีชีวิตชีวา โดยได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อคนหรือคำญี่ปุ่นไว้ในระดับหนึ่ง

เพื่ออำนวยประโยชน์แก่ผู้ที่ต้องการค้นคว้าเพิ่มเติม อนึ่ง การถ่ายเสียงจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาไทยในทุกบทความอิงหลักการเขียนคำทับศัพท์ภาษาญี่ปุ่นของราชบัณฑิตยสถานเป็นหลักแม้ไม่ทั้งหมดก็ตาม โดยเฉพาะเรื่องการใช้เสียงสั้นและเสียงยาวตามหลักภาษาญี่ปุ่น
       
       ภาษาญี่ปุ่นมีตัวอักษรคันจิ 爆 อ่านว่า “บะกุ” (baku) มีความหมายตามตัวอักษรว่า “ระเบิด” ใช้ประกอบคำที่เกี่ยวข้องกับการระเบิดจริง ๆ เช่น ระเบิด (爆発する; บะกุฮะสึ ซุรุ; bakuhatsu suru) , ลูกระเบิด (爆弾; บะกุดัง; bakudan), ระเบิดปรมาณู (原爆; เก็มบะกุ; genbaku)และใช้ประกอบคำอื่นเพื่อสื่อถึงพลังรุนแรงอย่างได้อารมรณ์

เช่น หัวเราะหนักมาก (爆笑する;บะกุโช;bakushō suru), นอนอย่างเอาเป็นเอาตาย(爆睡する;บะกุซุอิ ซุรุ; bakusui suru) หรือแม้แต่คำว่า คำว่า “บะกุนีว” (爆乳;baku-nyū)—อกระเบิด (หมายถึง หน้าอกใหญ่) ก็ด้วย
       
       คำที่มี “บะกุ” ประกอบและสะท้อนปรากฏการณ์เด่นประจำปี 2558 ของญี่ปุ่นได้เด่นชัด คือคำว่า “บะกุไง” (爆買い; bakugai) —ซื้อระเบิดระเบ้อ (หมายถึง ซื้อมากมาย ซื้อแหลก) ซึ่งถือได้ว่าเป็นคำเกิดใหม่ในภาษาญี่ปุ่น พจนานุกรมหลายเล่มอาจจะยังไม่ได้บรรจุไว้

ในญี่ปุ่นช่วงปลายปีจะมีการประกาศคำประจำปี ซึ่งเป็นคำที่สะท้อนเหตุการณ์เด่น หรือกระแสที่อยู่ในความสนใจของผู้คนสำหรับปีนั้น พร้อมทั้งมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่ทำให้เกิดคำนั้นขึ้นมา

การประกาศรางวัลคำประจำปีจัดโดยสำนักพิมพ์เก่าแก่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น “จิยูโกะกุมินชะ” (自由国民社;Jiyūkokuminsha) และเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป สื่อมวลชนก็นำเสนอข่าวอย่างกว้างขวาง
       
       คำที่ได้รับรางวัลใหญ่ในปี 2558 และประกาศไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม มี 2 คำคือ “ทริปเปิลทรี” และ “บะกุไง” คำว่า “ทริปเปิลทรี” ค่อนข้างไกลตัวคนไทยเพราะเป็นคำในวงการเบสบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น แต่ไม่แพร่หลายในเมืองไทย

ในที่นี้ผมจะอธิบายไว้โดยสังเขปเท่านั้น กล่าวคือ “ทริปเปิลทรี” หมายถึงการทำสถิติของผู้ตีที่มีอัตราการตีได้เฉลี่ย 30 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ทำโฮมรันได้ 30 ครั้งขึ้นไป และทำสโตลึนเบส (เบสขโมย) ได้ 30 ครั้งขึ้นไปในฤดูกาลเดียวกัน

บังเอิญปีนี้มีนักกีฬาที่ทำ “ทริปเปิลทรี” ได้ 2 คน กลายเป็นประเด็นเด่นในญี่ปุ่น คำนี้จึงได้รับเลือกให้เป็นคำประจำปี และนักกีฬาเบสบอล 2 คนนี้ก็ได้รับรางวัลไป


สะดุดคำ “ซื้อระเบิดระเบ้อ...คำประจำปี”
“บะกุไง” (ที่มา blog.fujitv.co.jp)

       

ทว่าคำที่เลือกมาอธิบายโดยละเอียดในครั้งนี้คือคำว่า “บะกุไง” เพราะใกล้ตัวคนไทยมากกว่าและทำให้นึกภาพสิ่งที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นได้ง่ายกว่า เมื่อพิจารณาคำนี้ จะเห็นว่าประกอบด้วย 2 คำคือ “บะกุ” กับ “ไง” (งะอิ) และดังที่กล่าวนำไว้ข้างต้น คำว่า “บะกุ” แปลว่า ระเบิด,

ส่วน “ไง” มาจาก “ไค” (買い;kai) แปลว่า การซื้อ เมื่อนำมาประกอบกัน เสียง “ไค” เปลี่ยนเป็น “ไง” และกลายเป็นคำประสม “บะกุไง” ในที่สุด คำนี้เกิดขึ้นมาสักระยะแล้ว สื่อมวลชนเริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อประมาณปี 2552

แต่แพร่หลายจริง ๆ ในช่วงปี 2557 และ 2558 นี้ ผู้ที่ซื้อระเบิดเถิดเทิง หรือซื้อไม่บันยะบันยังอย่างโดดเด่นที่สุด จนคำนี้สะท้อนปรากฏการณ์ทางสังคมในญี่ปุ่นคือคนจีน
       
       ตัวเลขปี 2558 ชี้ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาญี่ปุ่นมากมาย ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน ญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 17,964,400 คน เพิ่มขึ้น 47.5 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คนจีนมามากที่สุดคือ 4,646,700 คน เพิ่มขึ้น 109.4 เปอร์เซ็นต์ อันดับรองลงมามีดังนี้คือ
       
       เกาหลีใต้ 3,586,400 คน
       ไต้หวัน 3,411,300 คน
       ฮ่องกง 1,366,900 คน
       อเมริกา 943,300 คน
       
       ต่อมาคือไทยซึ่งมีคนมาเที่ยวญี่ปุ่นมากเป็นอันดับ 6 ในช่วงเดียวกันนี้คือ 703,200 คน เพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว เมื่อมองตัวเลขของไทย จะเห็นได้ว่าคนไทยนี่ไม่เบา อยู่ไกลญี่ปุ่นมากกว่าจีน เกาหลีใต้ หรือไต้หวัน และขนาดเศรษฐกิจก็เล็กกว่าอเมริกา

แต่มีคนไทยมาญี่ปุ่นเกือบล้าน ด้วยเหตุนี้กระมัง ปัจจุบันจึงมีป้ายเขียนคำอธิบายเป็นภาษาไทยปรากฏอยู่ตรงโน้นตรงนี้ในญี่ปุ่น และแทบไม่มีวันไหนที่ผมไปย่านดังๆ ในกรุงโตเกียวแล้วจะไม่ได้ยินภาษาไทย
       
       เมื่อไปเที่ยว นักท่องเที่ยวก็ต้องกินต้องซื้อเป็นเรื่องธรรมดา รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งตารอมูลค่าตรงนี้อย่างใจจดใจจ่อ พอตัวเลขเดือนมกราคม-กันยายนปีนี้ออกมาก็เป็นที่น่าชื่นใจสมกับการตั้งความหวัง มูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวคือ 2 ล้าน 6 แสนล้านเยน (ประมาณ 860,000 ล้านบาท)

เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 600,000 แสนล้านเยน และเป็นที่คาดหมายว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในปีหน้าอีกเช่นกัน เป้าหมายแรกเริ่มของรัฐบาลญี่ปุ่นคือต้องการให้มีนักท่องเที่ยวมาญี่ปุ่นถึง 20 ล้านคนในปี 2563

 แต่แนวโน้มในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาชวนให้คิดว่า ตัวเลขอาจจะทะลุเป้าในปี 2559 นี้แล้ว และเป็นที่คาดหมายด้วยว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวก็อาจจะถึง 3 ล้านล้านเยนในปีหน้าเช่นกัน

สะดุดคำ “ซื้อระเบิดระเบ้อ...คำประจำปี”
“บะกุไง” (ที่มา //www.iza.ne.jp)

       

เมื่อมองเหตุผลที่คนจีนมาเที่ยวญี่ปุ่นและซื้อของมากมาย จะพบว่าไม่ใช่เพราะคนจีนมีเงินมากขึ้นสืบเนื่องจากปัจจัยภายในประเทศโดยตรงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีปัจจัยภายนอกที่ช่วยดึงดูดอีก หลักๆ คือเงินเยนอ่อนค่า สายการบินราคาประหยัด และการซื้อของปลอดภาษีในญี่ปุ่น ถูกกว่าการซื้อในจีน

อันเป็นผลจากระบบภาษีในจีนที่เรียกเก็บจากสินค้าบางชนิด แม้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีข่าวตลาดหุ้นจีนปั่นป่วนและเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว แต่หลายประเทศทั่วโลกก็ตระหนักดีว่า

จีนยังคงเป็นคู่ค้าที่สำคัญยิ่ง คนจีนรวยขึ้นและญาติเยอะ ถ้าทำของที่ถูกใจคนจีนได้ ก็จะขายได้มากมาย เงินจะไหลมาเทมา ดังที่ญี่ปุ่นกำลังประสบอยู่ในขณะนี้เมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนมาญี่ปุ่นและซื้อสะบั้นหั่นแหลกเหมือนของแจกฟรีจนเกิดเป็นคำยอดฮิต “บะกุไง”
       
       อันที่จริง ปรากฏการณ์ “บะกุไง” ไม่ได้เกิดจากคนจีนเท่านั้น นักท่องเที่ยวจากที่ไหน ๆ รวมทั้งจากไทยก็มีส่วนเช่นกัน แต่ในบรรดานักช้อปหลากสัญชาติทั้งหลาย คงต้องบอกว่าไม่มีใครสู้คนจีนได้

คำว่า “บะกุไง” จึงมีภาพลักษณ์ของคนจีนติดไปโดยปริยาย สิ่งที่คนชาติอื่นคงต้องหลีกทางให้คนจีนในการซื้อของคือเรื่อง ‘ปริมาณ’ และ ‘ประเภท’ ของสิ่งที่ซื้อ ถ้าว่ากันเรื่องปริมาณ ยิ่งขายของได้มาก คนขายย่อมดีใจเป็นธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกฝ่ายจะยิ้มรับได้ทุกอย่าง

เพราะคนจีนซื้อระเบิดระเบ้อลุกลามไปถึงสนามบิน จนมีข่าวออกมาเป็นระยะว่าเกิดกรณีเครื่องบินที่สนามบินนะริตะ บินออกได้ล่าช้ากว่าปกติ อีกทั้งทางสนามบินต้องเรียกร้องให้ผู้โดยสารรักษาระเบียบเรื่องปริมาณ และขนาดสิ่งของที่จะถือขึ้นเครื่องบินอย่างเข้มงวดด้วย

หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง ที่เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ซินเหวินเฉินเป้า (新闻晨报) ของจีนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีนี้คือ ชายจีนคนหนึ่งมาญี่ปุ่นและซื้อของจนขนไม่ไหว ต้องเรียกเพื่อนที่อยู่ในญี่ปุ่นมาช่วย

เพื่อนก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย เพราะสิ่งที่ชายผู้นั้นซื้อคือ โทรทัศน์ 3 เครื่อง, เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง, ตู้เย็น, เครื่องครัว, เครื่องฟอกอากาศ และอื่น ๆ อีก รวมเป็นเงินประมาณ 600,000 บาท

เมื่อซื้อมากขนาดนี้จึงต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์ส่งกลับ ค่าส่งคือประมาณ 1 ล้าน 2 แสนบาท นอกจากเรื่องปริมาณสินค้าซึ่งบางครั้งมากจนเกะกะขวางทางผู้อื่นในร้านหรือตามถนนแล้ว

จำนวนคนจีนที่มาเที่ยวกันเป็นกลุ่มใหญ่ ก็กลายเป็นจุดเพ่งเล็งในญี่ปุ่นด้วยในเรื่องมารยาททางสังคม เช่น การใช้ห้องน้ำ และการปฏิบัติตัวในที่สาธารณะ

สะดุดคำ “ซื้อระเบิดระเบ้อ...คำประจำปี”

       

ต่อมาคือเรื่องประเภท ผมเชื่อว่านักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาญี่ปุ่นคงมีน้อยคนมากหรืออาจจะไม่มีเลย ที่ซื้อหม้อหุงข้าวกลับไปใช้ที่เมืองไทย สำหรับคนจีน “หม้อหุงข้าว” ญี่ปุ่นนี่แหละคือสินค้ายอดฮิตมาพักใหญ่ทั้ง ๆ ที่ราคาก็สูงถึงหลักหมื่น (บาท)

แต่คนจีนมองว่าหม้อหุงข้าวญี่ปุ่นคุณภาพดี มีฟังก์ชันหลากหลายที่ทำให้หุงข้าวได้อร่อย นอกจากหม้อหุงข้าวแล้ว นิตยสารไดอะมอนด์ของญี่ปุ่น (ฉบับวันที่ 26 ธันวาคม 2558 – 2 มกราคม 2559) ให้ข้อมูลไว้ว่า

สินค้าทั่วไปที่ได้รับความนิยมคือเครื่องสำอาง ขนมญี่ปุ่นรสชาเขียว แนวโน้มล่าสุดคือน้ำยาล้างผักและผลไม้ เพราะผลิตภัณฑ์เกษตรในจีนมักมียาฆ่าแมลงตกค้างมาก น้ำยาของญี่ปุ่นที่สกัดจากสารธรรมชาติจึงถูกใจคนจีนมาก

ปากกาลูกลื่นที่ลบหมึกได้ก็กำลังดัง ในสังคมออนไลน์ของจีนมีการแสดงความคิดเห็นต่อๆ กันแพร่หลายออกไปอย่างรวดเร็วประมาณว่า “มีของที่สะดวกขนาดนี้เชียวหรอ!”

และสิ่งที่คงจะหลุดพ้นช่วง ‘แอบฮิต’ เข้าสู่ช่วง ‘ติดลมบน’ ก็คือถุงยางอนามัยเมดอินเจแปน คงจะฮิตเพราะได้อานิสงส์จากการที่จีนยกเลิกนโยบายลูกคนเดียว ไดอะมอนด์ว่าไว้อย่างนั้น

สะดุดคำ “ซื้อระเบิดระเบ้อ...คำประจำปี”
นิตยสารไดอะมอนด์ฉบับล่าสุด

       

ในปีนี้คำว่า “บะกุไง” ได้รับเลือกให้เป็นคำประจำปี แต่การจะระบุตัวคนที่ได้รับรางวัลจากคำนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเป็นคำที่ใครๆ ก็ใช้กันทั่วไปและผู้ที่ทำให้เกิดคำนี้คือสื่อมวลชนหลายแขนงกับนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล

ในที่สุดคณะกรรมการก็เลือกหลัว อี๋เหวิน (羅怡文; ภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า ระอิบุง) อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นชาวจีนเซี่ยงไฮ้ ที่มาศึกษาในญี่ปุ่นและปัจจุบันเป็นประธานบริษัทละออกซ์ (Laox) เครือข่ายร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในญี่ปุ่น

เหตุผลที่กรรมการเลือก คงเป็นเพราะร้านละออกซ์คือจุดหมายปลายทางหลักแห่งหนึ่งของนักช้อปชาวจีน โดยมีร้านอยู่ในย่านสำคัญๆ ของโตเกียวทั้งอะกิฮะบะระและกินซ่า

สะดุดคำ “ซื้อระเบิดระเบ้อ...คำประจำปี”
ร้าน LAOX ในย่านอะกิฮะบะระ
       

สะดุดคำ “ซื้อระเบิดระเบ้อ...คำประจำปี”
หลัว อี๋เหวิน ประธาน LAOX กับรางวัล “คำประจำปี”

       

“บะกุไง” คือคำประจำปีนี้ แต่ปีหน้าหรือปีต่อไป “บะกุไง” ของคนจีนจะยังมาแรงอยู่หรือไม่ก็ต้องจับตาดู ใครจะรู้..ไม่แน่นะ ถ้า “บะกุไง” ของคนจีนอ่อนแรงลงไป อาจจะได้พลัง “บะกุไง” ของคนไทยมาช่วยเศรษฐกิจญี่ปุ่นต่อยอดก็ได้

เพราะตอนนี้คนญี่ปุ่นที่รู้จักเมืองไทย ใครๆ ก็พูดกันว่าคนไทยรวยกว่าเมื่อก่อน ก็ดูราคาอาหารญี่ปุ่นที่ขายในกรุงเทพฯ สิ...แทบจะไม่ต่างจากในโตเกียว


ขอบคุณ MGR Online  

ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์

จันทรวารสิริสวัสดิ์ค่ะ    




 

Create Date : 28 ธันวาคม 2558
0 comments
Last Update : 28 ธันวาคม 2558 11:04:04 น.
Counter : 995 Pageviews.


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.