การเห็นแก่ตัว คือจุดศูนย์กลาง ของความไม่มีศีลธรรมและปรมัตถธรรม
อสีติสังวัจฉรายุศมานุสรณ์ จากพุทธทาสภิกขุ
|
|
|
|
ท่านพุทธทาสกล่าวไว้ในคำนำว่า
ข้าพเจ้าไม่มีมรดกอะไร ที่จะฝากไว้กับเพื่อนพุทธบริษัท ผู้เป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายทั้งหลาย นอกจากสิ่งที่ระบุไว้ในข้อความข้างล่างนี้
ด้วยความหวังว่า ถ้ายังมีการสืบมรดกนี้อยู่เพียงใด กิจกรรมสวนโมกขพลาราม ก็จะยังคงมีอยู่ตลอดกาลนานเพียงนั้น และ "พุทธทาส" ก็จะยังคงมีอยู่ในสถานที่นั้นๆ ตลอดกาลเพียงนั้น
ขอได้โปรดรับพิจารณากันเสียแต่บัดนี้ ซึ่งจะเป็นการง่ายในการสืบมรดกดังกล่าว ขอให้ถือว่า เป็นมรดกธรรม แก่บรรดาเพื่อนผู้มอบกายถวายชีวิต ในการสืบอายุพระศาสนา เพื่อประโยชน์แก่คนทั้งโลกเถิด มิได้เป็นเรื่องส่วนบุคคลแต่ประการใด
กราบนมัสการ ขอน้อมนำมาเผยแพร่ ให้เพื่อนๆ ได้ทราบใน "มรดก" ที่ท่านพุทธทาสฝากไว้ ด้วยความเคารพอย่างสูง
ภาคหนึ่ง
มรดกที่เป็นเรื่องฝ่ายวัตถุธรรมและพิธีกรรม
๐ มรดกที่ ๙๐ การเห็นแก่ตัว คือจุดศูนย์กลาง ของความไม่มีศีลธรรมและปรมัตถธรรม
จึงทำบาปอกุศลได้อย่างมั่นใจ ว่าถูกต้องและเป็นธรรม ทุกประการแล้ว ดังนั้น ศาสนาทุกศาสนา จึงมุ่งหมายสอนการทำลายความเห็นแก่ตัว มิฉะนั้นก็มิใช่ศาสนา
๐ มรดกที่ ๙๑ โดยหลักธรรมะ เราอาจจะมีจิตเป็นสุขแท้จริง ได้ตั้งแต่เมื่อกำลังทำการงานนั้นๆ อยู่
แต่ไม่มีใครสนใจความสุขที่แท้จริงชนิดนี้ เพราะชะเง้อหาแต่ความเพลิดเพลินอันหลอกลวง เพื่อแลกเอาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานนั้นๆ อยู่ตลอดเวลา
๐ มรดกที่ ๙๒ การเกิดทางวิญญาณในขณะแห่งปฏิจจสมุปบาท ที่คนไม่รู้จัก
นั้นมีทุกคราว ที่คนสัมผัสอารมณ์ด้วยอวิชชาแล้วเกิดตัณหา มิใช่หมายถึงการเกิดหนเดียวตายหนเดียว ซึ่งเป็นการเกิดฝ่ายรูปธรรม ดังที่เข้าใจกัน แล้วก็ไม่อาจจะเข้าใจเรื่องปฏิจจสมุปบาท
๐ มรดกที่ ๙๓ การบรรลุธรรม หรือมีธรรม
นั้นไม่ได้หมายความว่า ต้องเรียนอภิธรรม - กินแต่ผัก -ห่มจีวรกรัก - แบกกลด - ถือไม้เท้ายาว -พูดเบา ๆ - เดินค่อย ๆ - แขวนลูกประคำ เป็นต้น แต่บรรลุหรือมีได้ ด้วยการปฏิบัติให้ถูกต้อง ตามกฎอิทัปปัจจยตา ของสีล - สมาธิ - ปัญญา
สิริชีววารวรวิบูลย์ รัศมิสูรย์พูนรุจีสิรีประภัสสร์นะคะ
Create Date : 07 เมษายน 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 7 เมษายน 2554 11:17:06 น. |
Counter : 1175 Pageviews. |
|
|
|