จันทน์ผาด่าง ลวดลายเด่น หลากสายพันธุ์ คุณภาพระดับพรีเมี่ยม
อภิวัฒน์ คำสิงห์ เรื่อง / รูป
ไม้ด่าง เป็นพืชซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางธรรมชาติ แต่ความผิดปกติทางสายพันธุ์นี้เองกลับทำให้เกิดความแปลกแตกต่าง กลายเป็นจุดเด่นจากสีเดิมๆ กลายเป็นแถบสี ลายจุดหรืออาจมีหลายสีสัน และลวดลายในใบเดียวกันที่แสดงอาการด่างตามส่วนต่างๆ ทั้งลำต้น ใบ และดอก
ลายด่างที่เกิดตามลำต้นและใบ ความแปลกใหม่และหายากของไม้ด่างบางชนิด กลับมีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลจนทำให้มีคนหันมานิยมปลูกเลี้ยงประดับบารมีเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันมีไม้ด่างหลายชนิดที่ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสม ยิ่งเป็นไม้แปลก หายาก ยิ่งดูเหมือนเป็นการกระตุ้นให้นักสะสมทั้งหลายต้องดั้นด้นค้นหาและยอมจ่ายเงินค่อนข้างสูงเพียงเพื่อให้ได้ต้นไม้มาเชยชมเป็นเจ้าของ
ไม้ด่างที่เห็นจำหน่ายตามท้องตลาดมีหลากหลายชนิดให้เลือกสรรจับจองเป็นเจ้าของ นำมาปลูกประดับตกแต่งตามสถานที่ทำงาน อาคาร สวนหน้าบ้าน ซึ่งราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับความแปลกของสีสัน รูปทรง และความหายาก
จันทน์ผาด่าง ซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์ของเมล็ดจันทน์ผาที่เห็นกันทั่วไป มีขนาดต้น สี และใบที่แตกต่างกันจากต้นแม่ โดยเฉพาะใบจะมีลวดลายและสีที่แปลกกว่าจันทน์ผาที่ปลูกเป็นไม้ประดับตามสนามหญ้าและสวนหิน เป็นไม้ประดับชนิดหนึ่งที่เหล่านักสะสมต้นไม้ต้องใช้เวลาแสวงหามาไว้เป็นของตนเอง ไม่ว่าจะด้วยราคาเท่าไหร่ก็ตาม
ด้วยลักษณะของใบ สี และขนาดต้นที่แปลกแตกต่างจากต้นจันทน์ผาเดิม ทำให้หลายคนหันมาให้ความสนใจหาซื้อและเพาะเก็บสะสมไว้ดูเล่น เนื่องจากการเพาะขยายพันธุ์ยังค่อนข้างยาก อีกทั้งต้องใช้ระยะเวลาในการเพาะกว่าจะได้ต้นด่างที่มีลักษณะต่างจากต้นแม่ ดังนั้น ปริมาณจึงมีไม่มากเหมือนกับจันทน์ผาที่เห็นวางจำหน่ายอยู่
สร้างมูลค่า ผลิตจำหน่าย
ในปัจจุบัน จันทน์ผาด่าง มีปลูกกันเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะมีทั้งปลูกไว้ดูเล่นและปลูกเก็บสะสม พอมีปริมาณมากพอก็นำมาแลกเปลี่ยน ดั่งเช่น ลุงสวัสดิ์ เที่ยงตรง เกษตรกรที่เปลี่ยนจากอาชีพทำไร่ มาเพาะเลี้ยงจันทน์ผาจำหน่ายหาเลี้ยงครอบครัวอยู่ที่ตำบลคลองหาด อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว
ลุงสวัสดิ์ เล่าให้ฟังว่า เดิมตนเป็นเกษตรกรปลูกข้าวโพดอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีพื้นที่ปลูกกว่า 300 ไร่ แต่ด้วยสภาพอากาศที่ทำอยู่ในช่วงนั้นแห้งแล้งอย่างต่อเนื่อง ข้าวโพดที่ปลูกล้มตาย กู้เงินมาลงทุนจนเป็นหนี้ จนตัวเองไม่ไหวจึงตัดสินใจขายทุกสิ่งที่มีอยู่ใช้หนี้และย้ายครอบครัวมาหาอาชีพและที่ทำกินใหม่ที่จังหวัดสระแก้ว
มาครั้งแรก ชาวบ้านที่รู้จักเขาก็แบ่งที่ให้สร้างที่อยู่อาศัย ตอนนั้นก็ยังไม่รู้จะมาทำอาชีพอะไรหาเลี้ยงครอบครัว พอดีชาวบ้านบริเวณนี้เขามีอาชีพเสริมในช่วงที่ว่างจากการทำการเกษตร คือขึ้นเขาไปหาเก็บต้นจันทน์ผาที่ขึ้นตามป่ามาจำหน่าย ในราคากิ่งละ 10-20 บาท
จากจุดเริ่มต้นของการตามขึ้นไปดู ทำให้เกิดแนวคิดทำเป็นอาชีพ แต่เราจะเปลี่ยนจากการตัดกิ่งมาจำหน่าย มาเป็นการนำกิ่งที่ตัดมาปลูกเลี้ยงในกระถางบริเวณพื้นที่รอบบ้าน พอต้นสมบูรณ์มีฟอร์มสวยก็จำหน่าย ซึ่งจะได้ราคาขายที่สูงกว่า โดยครั้งแรกได้เงินมาประมาณ 80,000 บาท
ลุงสวัสดิ์ ใช้เวลาศึกษาการปลูก การดูแล และการขยายพันธุ์ ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งจนประสบความสำเร็จสามารถเพาะขยายพันธุ์เองได้ จากนั้นจึงหยุดออกไปหาจันทน์ผาตามป่ามาจำหน่าย หันมาเพาะขยายพันธุ์จากต้นที่มีอยู่ โดยวิธีการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และการปักชำ
จันทน์ผา ของลุงสวัสดิ์ที่ปลูกจำหน่ายอยู่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะได้จากการเพาะขยายพันธุ์เองทั้งหมด เนื่องจากมีกฎหมายออกมาคุ้มครองให้จันทน์ผาเป็นไม้ที่อยู่ในกลุ่มไม้หวงห้าม ห้ามนำออกจากป่าแต่สามารถเพาะขยายพันธุ์ไว้ปลูกประดับตกแต่งบ้านเรือน สถานที่ราชการ
นำเข้าไม้ด่าง วางแผนการผลิต
หลังจากที่ประสบความสำเร็จสามารถปลูกจันทน์ผาได้ระยะหนึ่ง ลุงสวัสดิ์ ก็เริ่มนำจันทน์ผาด่างที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านมาทดลองปลูกควบคู่กับเพาะขยายจันทน์ผาพันธุ์ที่มีอยู่จำหน่าย
เป็นความสนใจส่วนตัว เห็นว่าเป็นจันทน์ผาเหมือนกัน การปลูกการดูแลน่าจะคล้ายๆ กัน พอดีมีคนรู้จักข้ามไปชายแดนฝั่งโน้นและนำเข้ามาปลูกขาย เลยไปขอแบ่งซื้อมาปลูกสะสมดู พอฟอร์มต้นสวย ใบมีลวดลายที่เด่น ซึ่งแตกต่างจากจันทน์ผาเดิม ราคาซื้อ-ขายก็สูง จากนั้นมาจึงเริ่มเพาะขยายพันธุ์เก็บสะสม ต้นไหนที่มีปริมาณจะประกาศขาย โดยราคาซื้อ-ขายสูง 10,000-50,000 บาท ต่อต้น บางต้นได้ถึง 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับความสวยงามและฟอร์มต้น
ลุงสวัสดิ์ ใช้เวลา 4 ปี เก็บรวบรวมจันทน์ผาด่างได้มากถึง 20 แบบ (ลวดลาย สีสัน) มีปริมาณต้นแม่ที่ให้กิ่งกว่า 100 ต้น โดยขนาดและรูปทรงจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับอายุและการดูแล
และด้วยราคาขายที่สูงกว่าจันทน์ผาทั่วไป ลุงสวัสดิ์จึงหันมาให้ความสนใจเพาะขยายจันทน์ผาด่างและลดปริมาณการเพาะขยายจันทน์ผาที่ขายอยู่ทั่วไปลง
การดูแลเหมือนกันทุกอย่าง แต่ต่างกันที่ราคาขาย จันทน์ผาทั่วไป ต้นฟอร์มสวยๆ ราคาขายจะอยู่ที่หลักพัน แต่จันทน์ผาด่างเพียงกิ่งเดียวที่ยังไม่มีราก ราคาก็สูงกว่า 10 เท่า นอกจากนี้ สีสันที่แปลกและความหลากหลายของลวดลาย ผลิตเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโต เราจึงหันมาทำตรงนี้ให้แทนเพราะคุ้มค่ากับระยะเวลาที่เราต้องเสียไป
ปลูก ดูแล เพาะขยายพันธุ์
สำหรับเรื่องของวิธีการปลูก ลุงสวัสดิ์ บอกว่า จันทน์ผาเป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ดินที่ใช้ปลูกก็ใช้ดินร่วนทั่วไป แต่ถ้าจะให้ดีให้ใช้ดินภูเขา เนื่องจากจะระบายน้ำได้ดี
การขยายพันธุ์ สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับว่าผู้ปลูกจะเลือกวิธีใด แต่สำหรับลุงสวัสดิ์จะเพาะขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอน ปักชำ และเพาะเมล็ด
การตอนกิ่งเป็นวิธีที่คิดขึ้นเอง จะใช้เพาะขยายต้นจันทน์ผาด่างที่มีกิ่งแตกออกมาจากต้นแม่ โดยเริ่มจากใช้ใบมีดหรือใบเลื่อยเฉือนที่ใต้กิ่งตอนให้มีรอยลึกของแผล ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นนำขุยมะพร้าวมาหุ้มที่แผล ประคองด้วยถุงพลาสติก มัดด้วยเชือก รดน้ำให้ขุยมะพร้าวมีความชื้นอยู่ตลอด ปล่อยไว้ 45 วัน รากก็จะเริ่มเดิน จากนั้นตัดและนำมาปลูกในกระถาง
ลุงสวัสดิ์ ยังบอกต่ออีกว่า การทำให้ต้นจันทน์ผามีปริมาณกิ่งเยอะ ทำได้โดยการตัดยอดไปปักชำ ปล่อยต้นตอที่มีใบเลี้ยงประมาณ 6-7 ใบ ปล่อยไว้ระยะหนึ่ง ต้นตอที่ถูกตัดจะแตกกิ่งและผลิใบออกมาใหม่เพื่อสังเคราะห์แสง หาอาหารไปเลี้ยงลำต้น
สำหรับการปักชำและการเพาะเมล็ด ลุงสวัสดิ์บอกว่า มีขั้นตอนและวิธีเหมือนกับการเพาะไม้ทั่วไป นำกิ่งที่ต้องการปลูกมาทาด้วยปูนแดงที่รอยแผล จากนั้นนำไปปลูกในกระถาง
ส่วนการเพาะเมล็ด เลือกเมล็ดที่มีความพร้อม (แก่) มาผ่านกระบวนการลอกเปลือกนอกออก นำมาล้างน้ำเปล่า จากนั้นนำไปโรยในถาดเพาะที่มีดินร่วนรองพื้น กลบด้วยดินอีกครั้ง รดน้ำ ปล่อยไว้ประมาณ 10-20 วัน เมล็ดที่โรยจะเริ่มงอกออกมา
การดูแลจันทน์ผาในแต่ละวัน มีกิจกรรมให้ทำไม่มาก เดินตรวจดูโรคที่แสดงอาการออกทางใบ และอาการเน่าที่เกิดทางลำต้น ซึ่งเกิดจากการให้น้ำมากจนเกินไป ดังนั้น การให้น้ำก็สำคัญ ควรให้ 3 วันครั้ง ก็เพียงพอ เนื่องจากเป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ตามภูเขา ตามโขดหิน ค่อนข้างจะทนแล้ง น้ำจึงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญสำหรับไม้ชนิดนี้ ส่วนการให้ปุ๋ย สูตร 15-15-15 ก็สามารถใช้ได้
นอกเหนือจากจันทน์ผาด่าง ลุงสวัสดิ์เอง ยังเก็บรวบรวมไม้แปลกที่หาดูได้ยาก อย่างปรงทอง ปรงรูปทรงแปลก เพื่อเพาะขยายพันธุ์ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาศึกษา กว่าจะนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักสะสมที่ถามกันมาปากต่อปาก และอีกส่วนคือพ่อค้าแม่ค้าขาประจำที่เข้ามารับซื้อที่บ้าน ในราคาที่ค่อนข้างสูง
ทุกวันนี้ ลุงสวัสดิ์ มีรายได้จากการขายจันทน์ผาเดือนละไม่น้อยกว่า 10,000 บาท จากที่ไม่มีทรัพย์สินและสมบัติติดตัวมา วันนี้มีบ้าน 1 หลัง มีเงินสะสมซื้อที่ทำมาหากิน 12 ไร่ มีเงินใช้จ่ายในครอบครัวได้อย่างไม่เดือดร้อน
ถือว่าเป็นตัวอย่างของคนสู้ชีวิต ที่ไม่เคยท้อกับอุปสรรคและปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมที่จะเผชิญหน้าและแก้ปัญหา ทำให้เขาผ่านพ้นจุดวิกฤตของชีวิตมาได้ถึงทุกวันนี้
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ คุณอภิวัฒน์ คำสิงห์
สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ
Create Date : 17 เมษายน 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 17 เมษายน 2556 11:47:04 น. |
Counter : 3385 Pageviews. |
|
|
|