จิ๋วแต่แจ๋ว - นางพญาวังมะสะ
พันธุ์แท้พระเครื่อง ราม วัชรประดิษฐ์
| พูดถึงพระกรุประเภท "จิ๋วแต่แจ๋ว" อีกชนิดหนึ่ง ต้องยกให้ นางพญากรุวังมะสะ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ที่มีอายุถึงยุคสุโขทัย
"วังมะสะ" นั้น เป็นชื่อหมู่บ้านแหล่งที่พบพระสมัยสุโขทัยมากมายหลายประเภท ด้วยเหตุที่มีความเล็กกะทัดรัดและทรวด ทรงอ้อนแอ้น องค์พระมีขอบในเป็นรูปสามเหลี่ยม ผู้คนเลยยกให้เป็นตระกูล "นางพญา" เช่นเดียวกับ นางพญาพิษณุโลก แต่มีขนาดเล็กและบางกว่ากันอย่างเห็นได้ชัด
พระกรุนี้แตกกรุในช่วงปี พ.ศ.2500 มีจำนวนมากพอสมควร ชาวบ้านขุดตามบริเวณโบราณสถานเก่าๆ ไล่ตั้งแต่เขตตำบลสะพานหิน พบ "ขุนแผนกรุวังมะสะ" เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแถบบริเวณสระน้ำโบราณของหมู่บ้าน อันมีซากเจดีย์เก่าแก่ยืนปรักหักพังอยู่ไม่ไกลนัก
คณะขุดกรุครั้งแรกมีด้วยกัน 4-5 คน ใช้เวลาอยู่ถึงสามวันโดยขุดลึกลงไปประมาณ 6 เมตร บังเอิญพบอิฐเก่าก่อเป็นสี่เหลี่ยม ด้านบนมีฝาทำจากอิฐเผากว้างกว่าหนึ่งเมตรปิดทับอยู่ นับเป็นการพบ "นางกรุวังมะสะ" เป็นครั้งแรกและมีจำนวนมากพอสมควร เรียกว่าจำหน่ายจ่ายแจกกันทั่วทุกครัวเรือนเพราะมีคนจ้องขอแบ่งกันร่วม 20-30 คน ที่ปากหลุม ได้รับแจกไปคนละกำมือแล้วยังเหลืออีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อขุดลึกลงไปก็พบพระเครื่องเนื้อชินอีก มีทั้ง พระปางลีลา พระพิมพ์คล้ายกับพระลพบุรี เช่น นารายณ์ทรงปืน แต่ศิลปะยังไม่ลึกเท่าพระลพบุรี
นางกรุวังมะสะ ที่ขุดพบมีทั้งเนื้อชินเงินและเนื้อดิน ชินเงินพบน้อย ส่วนเนื้อดินมีหลายสีตั้งแต่ สีดำสนิทผสมผงใบลาน เนื้อดินจะละเอียดและหาชมได้ยากมาก ยังมีเนื้อมันปู คือออกสีแดงเข้ม เนื้อดินสีแดงอ่อนและสีแดงหยาบ อันเกิดจาการเผาแล้วโดนไฟ ไม่เท่ากัน แต่บางองค์โดนไฟน้อยมากเกือบจะเป็นดินดิบไปก็มี ซึ่งถ้าเอาโสรจสรงลงน้ำจะยุ่ยเสียของหมด
|
นางวังมะสะ จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับ "พระพิจิตรข้างเม็ด" เนื้อชินเงิน ที่มีผิวปรอทจับ และในองค์ที่เป็นเนื้อดินออกมันปูก็จะมีคราบไขขาวขึ้นเช่นเดียวกัน ประทับนั่งปางมารวิชัย ทรวดทรงอ่อนช้อยจนคิดว่าเป็นพระตระกูลเดียวกัน บางองค์ก็ตัดเป็นสามเหลี่ยมชิดองค์พระ บางองค์ก็ตัดมีปีกยื่นออก แต่เกือบทั้งหมดขนาดจะเล็กกว่า ด้านหลังของเนื้อดินจะเห็นรอยลายนิ้วมือกดลงพิมพ์แล้วดึงออกมาโดยใช้นิ้วหัวแม่มือกับ นิ้วชี้ ด้านหลังจึงนูนขึ้นเป็นสันลักษณะคล้าย "พระหูไห"
เมื่อเหลือจากแจกจ่ายในหมู่ชาวบ้านแล้ว วัดสะพานหินได้นำพระที่เหลือเปิดให้เช่าบูชาองค์ละ 5 บาท โดยจำหน่ายทั้งที่พรหมพิรามเองและในตลาดเมืองพิษณุโลก ในชั้นแรกผู้คนเห็นเป็นพระขนาดเล็กจึง ไม่ค่อยสนใจ กรรมการวัดได้ปัจจัยเพียง 1,500 บาท ต่อมาภายหลังเมื่อผู้คนที่บูชา ไปมีประสบการณ์ โดยเฉพาะทางด้านแคล้วคลาด คงทน ฟันไม่เข้ายิงไม่ออก และป้องกันเขี้ยวขออสรพิษ แม้แต่สุนัขยังกัด ไม่เข้า จึงเริ่มเป็นที่เสาะแสวงหา
เนื่องจาก "นางวังมะสะ" เป็นพระที่มีขนาดเล็กบวกกับชื่อตระกูล "นาง" จึงเป็น ที่นิยมของสุภาพสตรีแม่ค้าแม่ขาย ถือว่า มีเมตตามหานิยม ทำมาค้าขึ้น แต่นับวันก็จะหายากเพราะผู้คนหันมานิยมอาราธนาขึ้นคอเป็นพระชุดเล็ก พุทธคุณดีเยี่ยมและสนนราคาก็ไม่แพงเกินกว่าจะหยิบฉวยได้ แต่ถ้าถามว่าปัจจุบันมีปลอมหรือยัง ต้องตอบเสียงดังฟังชัดเลยครับว่ามีมานานแล้ว ก็ต้องหัดดูหัดจำให้แม่น
เรียกว่าขึ้นคอได้ไม่อายใคร สำหรับ พระจิ๋วแต่แจ๋วประเภทนี้ครับผม
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง คุณราม วัชรประดิษฐ์
สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 21 เมษายน 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 21 เมษายน 2557 10:12:36 น. |
Counter : 12363 Pageviews. |
|
|
|