พระอัฏฐารสสัญลักษณ์คู่สุโขทัย
พันธุ์แท้พระเครื่อง ราม วัชรประดิษฐ์
พระยอดอัฎฐารส
| พระอัฏฐารส พระพุทธรูปโบราณที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักรสุโขทัย ก่อนที่จะรวมเข้าสู่กรุงศรีอยุธยาในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่สูงตระหง่าน เป็นเอกลักษณ์แสดงถึงอิทธิพลเชิงช่างของสุโขทัย แต่ให้รายละเอียดและความงดงามสมบูรณ์สู้พระนั่งของสุโขทัยได้ไม่เต็มที่นัก ในศิลาจารึกสุโขทัยกล่าวถึงว่า
"...เบื้องตะวันตกเมืองสุโขทัยนี้ มีอรัญญิก พ่อขุนรามคำแหงกระทำโอยทาน (ให้ทาน : ผู้เขียน) แก่มหาเถรสังฆราชปราชญ์เรียนจบปิฎกไตรหลวกกว่าปู่ครูทั้งหลายในเมืองนี้ ทุกคนลุกแต่เมืองศรีธรรมราชมา ในกลางอรัญญิกมีพิหารอันหนึ่งบนใหญ่สูงงามแก่กม มีพระอัฏฐารสอันหนึ่งลุกยืน..."
จากเนื้อความแสดงให้เห็นว่าสุโขทัยมีเขต อรัญญิกหรือวัดป่าทางทิศตะวันตกของตัวเมือง และรับเอาสังฆราช ปราชญ์ผู้รู้อันได้แก่ภิกษุทั้งหลายมาเป็นแม่แบบจากเมืองนครศรีธรรมราช และทางด้านตะวันตกนี้เองมีเขาสะพานหิน ที่สะพานทำด้วยหินชนวนอันเกิดจากธรรมชาติและฝีมือของมนุษย์ ทอดยาวขึ้นไปบนยอด มีเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ และบนสุดมี "พระอัฏฐารส" ประทับยืน เมื่อมองลงมาจะเห็นทัศนียภาพเมืองสุโขทัยอย่างกว้างไกล ซึ่งข้าพเจ้ามีโอกาสนำนิสิตทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศขึ้นไปศึกษาหาความรู้มากมายหลายครั้ง
มาถึงข้อสันนิษฐานของข้าพเจ้าเองเกี่ยวกับ "พระอัฏฐารส" ตีความตามนามได้ว่า "อัฏฐะ" แปลว่า แปด เช่น เครื่องอัฏฐบริขารของพระภิกษุสงฆ์ 8 อย่าง รวมกับ "รส" ซึ่งเข้าใจว่าเพี้ยนมาจากคำว่า "ทศ" แปลว่า สิบ รวมความแล้วหมายถึง พระยืนสูงถึงสิบแปดศอก เข้าใจว่าเป็นศอกคนโบราณหรือการกะระยะของช่างที่สร้างบางองค์จึงสูงไม่เท่ากันนัก
ข้อสันนิษฐานประการต่อมาก็คือ ทำไมชาวสุโขทัยจึงสร้างพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ แล้วไม่ได้สร้างเฉพาะในเมืองสุโขทัยเท่านั้น หากแต่สร้างไปทั่วในเขตพระราชอำนาจสุโขทัย
มีเค้าเงื่อนว่าองค์พระอัฏฐารสนี้น่าจะมีวิวัฒนาการจากรอยพระพุทธบาทที่พบเห็นอยู่หลายองค์ในราชอาณาจักร แล้วแต่ละพระบาทมีขนาดใหญ่โต คนจึงเกิดจินตนาการว่ารอยบาทพระพุทธองค์ยังใหญ่โตขนาดนี้ แล้วองค์จริงของท่านจะใหญ่ขนาดไหน ซึ่งสุโขทัย ช่วงนั้นพระพุทธศาสนาเจริญอย่างสูงสุด จึงจินตนาการสร้างพระยืนขนาด ใหญ่ แต่เนื่องจากว่าพระประเภทนี้ในแถบ อัฟกานิสถาน อินเดีย หรือเส้นทางสายไหม มักจะสร้างหรือแกะอิงภูเขา แต่สุโขทัยไม่มีภูเขาให้แกะ เลยต้องสร้างเครื่องรองรับด้านหลังไม่ให้องค์พระล้มครืนลงมา พระอัฎฐารส สมัยสุโขทัย - พระอัฎฐารส วัดใหญ่ พิษณุโลก
|
จึงปรากฏในรูปอาคารที่เราเรียกว่า "คันธ กุฎี" กล่าวคือ ลักษณะคล้ายๆ มณฑป แต่มีขนาดแคบมาก ล้อมรูปปั้นพระพุทธองค์เอาไว้เพื่อค้ำยันองค์พระพุทธรูป กระทั่งองค์พระนั่งมีขนาดใหญ่ก็จะทำคันธ กุฎีในลักษณะเดียวกัน เช่น พระอจนะ ที่วัดศรีชุม เป็นต้น
พระอัฏฐารส เป็นพระที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญก้าวหน้าและความรุ่งเรืองทางด้านพุทธศิลป์ของสุโขทัย เข้าใจว่าจะมีการสร้างมาตั้งแต่ก่อนสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท แต่มารุ่งเรืองมากในสมัยของพระองค์ ถึงขนาดเมื่อทรงสร้าง "พระพุทธชินราช" ที่เมืองพระพิษณุโลกแล้ว ยังโปรดให้สร้างวิหารเก้าห้องทางด้านหลัง ประดิษฐาน "พระอัฏฐารส" ก่ออิฐถือปูนด้วย (พระอัฏฐารสที่เห็นในปัจจุบันบางส่วน ได้รับการบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ ทำให้ความงดงามของพระพุทธรูปเดิม ซึ่งเป็นศิลปะสุโขทัย สูญเสียไปโดยสิ้นเชิง)
พระอัฏฐารสที่วัดใหญ่ พิษณุโลกนี้ในระยะต่อมาเกิดชำรุดหักพังลงมา จึงพบพระพิมพ์เนื้อโลหะค่อนข้างแกร่งเรียกกันว่า "พระยอดอัฏฐารส" มีลักษณะเป็นพิมพ์ 2 หน้า องค์พระบางส่วนด้านหน้าประทับยืนเฉกเดียวกับ "พระอัฏฐารส" หากแสดงลักษณะการลีลาประทับยืนอยู่บนฐานเขียง มีเส้นกรอบโดยรอบเป็นเม็ดไข่ปลา ด้านหลังเป็นองค์พระนั่งปางสมาธิในซุ้มระฆังเรียกกันว่า "ซุ้มอรัญญิก" ยังมีพิมพ์เล็กที่ลักษณะเหมือนกันแต่ขนาดย่อมลงมาด้วย ทั้งหมดเป็นพระเนื้อชินเขียว (เกิดจากคณาจารย์เล่นแร่แปรธาตุ) มักเห็นไขไข่แมงดาขึ้นเกาะเต็ม เข้าใจว่าคงจะบรรจุกรุหลังการสร้างพระอัฏฐารส
วิธีการพิจารณา ให้สังเกตความเก่าเป็นสำคัญ กล่าวคือ ขอบไม่คม หากมีรอยกะเทาะในเนื้อจะเห็นเป็น "เนื้อเก่าไม่มันวาว" นอกจากนั้นให้ดู "สนิมไข" ซึ่งจะฝังแน่นอยู่ตามผิวเป็นเม็ดสีขาวเต่งตึงพอกไปพอกมา บางคนเรียก "สนิมไข่แมงดา"
ส่วนของปลอมนั้นจะไม่เป็นเม็ดเต่งทับไปทับมาส่วนใหญ่ จะทำเป็นไขขาวๆ คลุมทั่วองค์พระครับผม
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง คุณราม วัชรประดิษฐ์
สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ
Create Date : 13 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 12:01:06 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2250 Pageviews. |
|
|