พระกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
พันธุ์แท้พระเครื่อง ราม วัชรประดิษฐ์
พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นกรุสำคัญกรุหนึ่งของพระเครื่องเมืองไทย ซึ่งอาจารย์มนัส โอภากุล อรรถาธิบายไว้ว่า
"...วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ กลายสภาพเป็นวัดร้าง ไม่มีพระเณรอยู่จำพรรษา เป็นผลเนื่องจากสงครามไทยพม่าเป็นสำคัญ ใกล้ๆ กับวัดมีไร่ผักของจีนคนหนึ่ง วันหนึ่งจีนผู้นั้นนึกอย่างไรก็ไม่ทราบได้ ปีนขึ้นไปบนองค์พระปรางค์ใช้แรงผลักพระประธานให้เขยื้อนออก แล้วลงไปในกรุขนเอาแก้วแหวนเงินทองและเพชรพลอยขึ้นมา จากนั้นทิ้งไร่หนีไปเมืองจีน
วันหนึ่งในฤดูหนาวราวๆ เดือนธันวาคม-มกราคม 2456 ลุงเปล่ง สุพรรณโรจน์ (อดีตจ่าเมือง ทนายความ และนายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี ผู้ให้ข้อมูลแก่อาจารย์มนัส โอภากุล) ไปเที่ยวยิงนกในดงไม้ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ กับนายเก๊า นายไปรษณีย์สุพรรณบุรี ก็ได้ยินเสียงเด็กๆ ส่งเสียงเอะอะเจี๊ยวจ๊าวอยู่บนองค์พระปรางค์ จึงเข้าไปดูพบเด็ก 4-5 คน กำลังหอบเอาพระกำแพงศอกไต่กระทู้ลงมา ลุงเปล่งก็เข้าไปห้ามเด็กเหล่านั้น "ของวัดเอาเข้าบ้านไม่ได้ บาป" แล้วให้เอาพระขึ้นไปเก็บไว้บนองค์พระปรางค์ตามเดิม เด็กๆ จึงไต่กระทู้เอาพระขึ้นไปเก็บไว้แล้วก็พากันวิ่งหนีกลับบ้าน
ลุงเปล่งเองก็สงสัยว่าบนองค์พระปรางค์นั้นมีอะไร จึงไต่กระทู้ขึ้นไปดูพร้อมกับนายเก๊า เห็นพระกำแพงศอกวางพิงกับผนังองค์ปรางค์ ที่วางนอนก็มี ที่ตอกตะปูติดไว้กับผนังก็มี (เรื่องพระกำแพงศอกมีรูตะปูตอกตอนบนขององค์พระนั้นเป็นความจริง ข้าพเจ้าเคยเห็นมาหลายองค์ ตรงกับคำบอกเล่าของลุงเปล่ง)
ลุงเปล่งจึงทำรายงานเสนอให้ผู้ว่าราชการเมืองสุพรรณบุรี พระยาสุนทรสงคราม (อี้ กรรณสูต) เดิมเป็นที่พระทวีประชาชน ได้เลื่อนเป็นพระยาสุพรรณสงครามในปลายปีพ.ศ.2456 แล้วเลื่อนเป็นพระยาสุนทรบุรี เป็นสมุหเทศาภิบาล มณฑลนครชัยศรี) จึงออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไปขุดกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าปีที่กรุพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุแตก เป็นปีเดียวกับที่จังหวัดสุพรรณบุรีค้นพบเจดีย์ยุทธหัตถี
|
อาจารย์มนัสเล่าว่า ก่อนหน้าลุงเปล่งไปพบกับเด็กๆ เหล่านั้น กรุพระปรางค์วัดพระศรีฯ แตกไปแล้ว 10 วัน และประชาชนอาณาบริเวณนั้นต่างลงไปในกรุขนเอาพระเครื่องนานาชนิดไปเป็นเจ้าของนับไม่ถ้วน แต่พระในกรุก็ยังมีอีกเป็นจำนวนมากมายมหาศาล
เมื่อตั้งคณะกรรมการขุดกรุแล้ว วันแรกๆ ใช้แรงนักโทษไปขุดค้นเอาพระเครื่อง พระบูชามาเป็นจำนวนมาก ลุงเปล่งเล่าว่า เอาไปเก็บที่จวนผู้ว่าราชการเมืองเป็นเล่มเกวียน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เอาพระบูชาเข้ากรุงเทพฯ ไปหลายองค์ เหลืออยู่ที่สุพรรณบุรีก็มีบ้าง เช่นที่วัดประตูสาร เป็นพระพุทธรูป อู่ทอง 2 กับอู่ทอง 3 ต่อมาระยะหลังไม่ได้ใช้แรงงานนักโทษ เพราะมีประชาชนอาสาไปขุด จากการขุดกรุคราวนี้ได้ลานทอง 3 แผ่น และพระเครื่องพระบูชาเป็นเล่มเกวียน
พระยาสุนทรสงคราม (อี้ กรรณสูต) ผู้ว่าราชการเมืองสุพรรณบุรี จัดส่งลานทองจำนวน 3 แผ่น ไปให้กรมศิลปากรในขณะนั้น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระวชิรญาณวโรรส ทรงแปลอักษรโบราณในแผ่นจารึกจากภาษามคธเป็นภาษาไทย แล้วส่งคำแปลลานทองนั้นกลับมาจังหวัดสุพรรณบุรี
ความสำคัญของจารึกลานทองที่พบจะทำให้ทราบได้ว่าพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี สร้างขึ้นและบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยใด อันจะนำไปสู่ข้อสันนิษฐานถึงผู้สร้างตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในการจัดสร้างพระผงสุพรรณอันลือลั่นของจังหวัดสุพรรณบุรี ตลอดจนเรื่องราวของพระที่บรรจุอยู่ในกรุสำคัญแห่งนี้อันประกอบไปด้วยพระมากมายหลายชนิดทั้งพระพุทธรูปและพระเครื่อง อาทิ พระผงสุพรรณ และพระสุพรรณยอดโถ พระกำแพงศอก พระกำแพงคืบ พระกำแพงนิ้ว พระลีลาพิมพ์ต่างๆ พระมเหศวร พระปทุมมาศ
เขาว่าบรรทุกกันเป็นเล่มเกวียนทีเดียวเชียวครับผม
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง คุณราม วัชรประดิษฐ์
สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2557 9:45:49 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1789 Pageviews. |
|
|