เรื่องของเรากับโรคมะเร็ง
เคยเล่าแค่สั้น ๆ กับเรื่องของร่างกายเรา ขอเล่าใหม่ล่ะกันนะคะ สรุปเมื่อเราเป็นโรคมะเร็งที่เต้านม เป็นเรื่องที่เรากลัวมาก ร้องไห้เลยเมื่ออาจารย์หมอบอกว่าเราเป็นมะเร็ง ต้องทำการผ่าตัดที่เต้านม เราเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงมากคนหนึ่ง หลังการผ่าตัดเราฟื้นตัวเร็วมาก ระหว่างที่รอการสรุปจากหมอว่าจะต้องรับคีโมกี่เข็มก็จะมีการตรวจร่างกายว่าเรากระดูกแข็งแรงมั้ย การทำงานของหัวใจดีมั้ย ปวดดีมั้ย ก็จะทำการตรวจเช็คร่างกายครบทุกอย่าง ตับ ไต ไส้ พุง หลังจากนั้นก็รอคุณหมอนัด เราได้รับการรักษาจากคณะอาจารย์แพทย์ เราจะต้องมีการประชุมว่าเราจะรับคีโมอย่างไร อะไรอย่างไร จะเป็นการประชุมโดยคณะอาจารย์แพทย์และหมอ วันที่เราเข้าห้องประชุมนั้น เมื่ออาจารย์เปิดสไลด์แผ่นฟิลม์เอ็กซเรย์ ทั้งหลายของเราปรากฏว่าเรามีจุดที่ตับ เป็นจุดที่น่าเป็นห่วง อาจารย์ว่ารูปร่างมันไม่สวย ซึ่งสรุปไม่ได้ว่าเป็นจุดอะไร ซึ่งเราร้องไห้เลย เพราะเรากลัวมาก ลูกยังเล็กในสายตามเรา แอบไปถามหลานชายที่เป็นนักเรียนแพทย์ของที่นี่ก็บอกว่า ถ้าเป็นอย่างที่อาจารย์ว่านั้นเราจะมีอายุอีกแค่ 1 ปีเท่านั้น
เหมือนคำสั่งประหารเลย ...........
อาจารย์หมอต้องการรู้ว่าจุดที่เห็นที่ตับนั้นคืออะไร นัดวันทำการเจาะที่ตับเพื่อเอาชิ้นเนื้อมาตรวจ เราต้องมานอนโรงพยาบาล 2-3 วันเพื่อให้ร่างการพร้อมที่จะเข้าห้องปฏิบัติการอีกครั้ง เมื่อถึงวันเข้าห้อง เพื่อเจาะเอาชิ้นเนื้อที่ตับออกมาตรวจนั้น หมอก็ทาแจลตรงบริเวณชายโครง และใช้เครื่องอัลต้าซาว ดูบริเวณชายโครง เราได้ยินหมอพูดออกมาว่า " เจาะไม่ได้เพราะถ้าแค่คนไข้หายใจเท่านั้นอันตรายมาก." เราได้ยินเรากลัวและตกใจมาก ถามหมอว่าเพราะอะไร หมอบอกว่า จุดที่เห็นใกล้เส้นเลือดใหญ่มาก แค่ถ้าคุณหายใจเท่านั้นอาจไปโดนเส้นเลือดใหญ่ได้ อันตรายมาก
ซึ่งปรากฏว่า เราไม่สามารถเจาะดูชิ้นเนื้อที่ตับได้ เขาเข็นเรากลับห้องพัก ระหว่างทางเราเจออาจารย์หมอที่ดูแลเราอยู่ เราลุกขึ้นจากเตียงนอนเลย และบอกหมอว่าเจาะไม่ได้ ทำไงดีค่ะหมอ อาจารย์หมอเป็นหมอที่ดีมากปหลอบใจเราว่าไม่เป็นไรเราก็รักษาโดยการให้คีโมไปก่อนและค่อยทำ CT ดูว่าจุดนั้นยุบมั้ย ก็นัดกันอีกทีว่าจะให้ยาคีโมได้วันไหน
เมื่อถึงเวลานัดวางแผนการรักษา สรุปอาจารย์ให้เราได้รับคีโมทั้งหมด 6 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 3 อาทิตย์
เมื่อถึงวันนัดให้ยาคีโม เข็มแรก เป็นอะไรที่แย่มากสำหรับเรา เราอ่านและศึกษาผลข้างเคียงจากการให้คีโมว่าเป็นอย่างไร ถ้าแพ้ก็จะอาเจียน ตลอด ทานอะไรไม่ได้ เรากลัวมาก แล้วสิ่งที่เรากลัวก็มาถึงตัวเราเป็นอะไรที่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้เลย หลังจากที่เราได้คีโมเข็มแรก เรามีอาการแพ้มาก อาเจียนทุกชัวโมง ทานอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้ำ อาเจียนจนหมด เราเป็นอย่างนี้ 5 วัน ทานอะไรไม่ได้เลย อาเจียนตลอด น้ำหนักลงไป 10 กิโล ภายในอาทิตย์เดียว
แพ้มากและอาเจียนมากจนเส้นเลือดที่ตาแตก ตาขาวของเรากลายเป็นสีแดงเราตกใจมาก ไปให้หมอดูหมอยังงงว่าเป็นมากเลย เข็ฒที่ 2 ก็มีอาการแพ้เหมือนเดิม
ยาคีโมที่เราได้รับนั้น เราไม่ได้จดหรือถามหมอว่าคือยาอะไร เพียงแต่เห็นว่าเป็นสีเหมือนน้ำแดง เราเกิดอาการหลอนมาถ้าเห็นอะไรที่เป็นสาย ๆ แล้วเป็นสีแดง เราจะเกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมาทันที
เราทานอะไรไม่ได้เลย รสชาดอาหารไม่รู้รส ผมร่วง หน้าดำ เหนื่อยง่าย น้ำหนักลด
เข็มที่ 3 อาการแพ้ก็เหมือนเดิม และจนมาถึงเข็มที่ 4 หลังได้รับยาแล้วกลับมาบ้านเราเกิดอาการท้อแท้กับอาการแพ้มาก เรานั่งร้องไห้บอกสามีว่า ไม่เอาอีกแล้ว ไม่ไหวแล้ว มันทรมานมาก ภายในร่างกายเราร้อนไปหมด เราหมดความอกทน สามีก็ได้แต่นั่งปลอบเรา เราโชคดีที่มีสามีดี และคอยดูแลเราทุกเวลา ตลอดเวลาเขาจะอยู่เคียงข้างเราตลอด ลางานเพื่อจะมาดูและเรา เผอิญเขาเจอเจ้านายดีด้วย เราได้กำลังใจจากสามี ลูก ญาติพี่น้อง ตลอดเวลา นี่แหละทำให้เราต้องสู้เพื่อเขาทั้งหลายนี่แหละ สรุปเราต้องสู้ต่อ....
เมื่อถึงเวลานัดเพื่อได้รับยาคีโมเข็มที่ 5 อาจารย์บอกว่าเราได้รับการพิจารณาเข้าโครงการวิจัยยาเราตอบตกลงเลยเพราะเท่าที่เราเคยศึกษามานั้น เป็นโครงการยาตัวใหม่และใครที่ได้รับแล้วเหมือนได้ยาดีและเป็นยาต่างประเทศ เรารับเป็นตัวอย่าง ตัวอย่างหนึ่งขอโครงการทันที เพราะเราคิดว่าถ้าตัวอย่างอย่างเราอาจจะเป็นตัวอย่างที่ทำประโยชน์ให้แก่บุคคลอื่นได้แล้วเราพอใจค่ะ
ยาที่ได้เป็นยาใหม่ชื่อยา แทคซอร์ ให้ทุกอาทิตย์ ทั้งหมด 12 เข็ม ยาตัวนี้ไม่มีอาการแพ้ ไม่อาเจียน จะมีก็ปวดเมื่อยตามร่างกายเท่านั้น เราได้ยาตัวนี้เข็มแรกเรามีอาการหลอนจากครั้งก่อนก่อน เรายังแอบ อาเจียนตลอด เราสังเกตุว่า เราได้รับยาแก้แพ้ซู่ซ่า เมื่อไหร่เราจะอาเจียนทันที เราเลยบอกหมอขอเปลี่ยนยาแก้แพ้ตัวใหม่ ตั้งแต่นั้นเมื่อเปลี่ยนยาแพ้ อาการแพ้ อาเจียนก็หมดไป สรุปเราแพ้ยาแก้แพ้นั่นเอง แปลกมั้ยล่ะคะ
ขอเล่าเท่านี้ก่อนนะคะแล้วจะมาเล่าต่อค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2555 20:14:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 793 Pageviews. |
|
|