Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
20 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
เรื่องของเรากับโรคมะเร็ง

           เคยเล่าแค่สั้น ๆ กับเรื่องของร่างกายเรา ขอเล่าใหม่ล่ะกันนะคะ  สรุปเมื่อเราเป็นโรคมะเร็งที่เต้านม เป็นเรื่องที่เรากลัวมาก ร้องไห้เลยเมื่ออาจารย์หมอบอกว่าเราเป็นมะเร็ง ต้องทำการผ่าตัดที่เต้านม  เราเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงมากคนหนึ่ง หลังการผ่าตัดเราฟื้นตัวเร็วมาก ระหว่างที่รอการสรุปจากหมอว่าจะต้องรับคีโมกี่เข็มก็จะมีการตรวจร่างกายว่าเรากระดูกแข็งแรงมั้ย การทำงานของหัวใจดีมั้ย ปวดดีมั้ย ก็จะทำการตรวจเช็คร่างกายครบทุกอย่าง ตับ ไต ไส้ พุง 
          หลังจากนั้นก็รอคุณหมอนัด เราได้รับการรักษาจากคณะอาจารย์แพทย์ เราจะต้องมีการประชุมว่าเราจะรับคีโมอย่างไร อะไรอย่างไร จะเป็นการประชุมโดยคณะอาจารย์แพทย์และหมอ วันที่เราเข้าห้องประชุมนั้น เมื่ออาจารย์เปิดสไลด์แผ่นฟิลม์เอ็กซเรย์ ทั้งหลายของเราปรากฏว่าเรามีจุดที่ตับ เป็นจุดที่น่าเป็นห่วง อาจารย์ว่ารูปร่างมันไม่สวย ซึ่งสรุปไม่ได้ว่าเป็นจุดอะไร ซึ่งเราร้องไห้เลย เพราะเรากลัวมาก ลูกยังเล็กในสายตามเรา แอบไปถามหลานชายที่เป็นนักเรียนแพทย์ของที่นี่ก็บอกว่า ถ้าเป็นอย่างที่อาจารย์ว่านั้นเราจะมีอายุอีกแค่ 1 ปีเท่านั้น 

         เหมือนคำสั่งประหารเลย ...........

         อาจารย์หมอต้องการรู้ว่าจุดที่เห็นที่ตับนั้นคืออะไร นัดวันทำการเจาะที่ตับเพื่อเอาชิ้นเนื้อมาตรวจ  เราต้องมานอนโรงพยาบาล 2-3 วันเพื่อให้ร่างการพร้อมที่จะเข้าห้องปฏิบัติการอีกครั้ง  เมื่อถึงวันเข้าห้อง เพื่อเจาะเอาชิ้นเนื้อที่ตับออกมาตรวจนั้น หมอก็ทาแจลตรงบริเวณชายโครง และใช้เครื่องอัลต้าซาว ดูบริเวณชายโครง  เราได้ยินหมอพูดออกมาว่า " เจาะไม่ได้เพราะถ้าแค่คนไข้หายใจเท่านั้นอันตรายมาก."  เราได้ยินเรากลัวและตกใจมาก  ถามหมอว่าเพราะอะไร  หมอบอกว่า จุดที่เห็นใกล้เส้นเลือดใหญ่มาก แค่ถ้าคุณหายใจเท่านั้นอาจไปโดนเส้นเลือดใหญ่ได้ อันตรายมาก 

        ซึ่งปรากฏว่า เราไม่สามารถเจาะดูชิ้นเนื้อที่ตับได้ เขาเข็นเรากลับห้องพัก ระหว่างทางเราเจออาจารย์หมอที่ดูแลเราอยู่ เราลุกขึ้นจากเตียงนอนเลย และบอกหมอว่าเจาะไม่ได้ ทำไงดีค่ะหมอ  อาจารย์หมอเป็นหมอที่ดีมากปหลอบใจเราว่าไม่เป็นไรเราก็รักษาโดยการให้คีโมไปก่อนและค่อยทำ CT ดูว่าจุดนั้นยุบมั้ย ก็นัดกันอีกทีว่าจะให้ยาคีโมได้วันไหน 

       เมื่อถึงเวลานัดวางแผนการรักษา สรุปอาจารย์ให้เราได้รับคีโมทั้งหมด 6 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 3 อาทิตย์  

       เมื่อถึงวันนัดให้ยาคีโม เข็มแรก เป็นอะไรที่แย่มากสำหรับเรา เราอ่านและศึกษาผลข้างเคียงจากการให้คีโมว่าเป็นอย่างไร  ถ้าแพ้ก็จะอาเจียน ตลอด ทานอะไรไม่ได้  เรากลัวมาก แล้วสิ่งที่เรากลัวก็มาถึงตัวเราเป็นอะไรที่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้เลย  หลังจากที่เราได้คีโมเข็มแรก เรามีอาการแพ้มาก อาเจียนทุกชัวโมง ทานอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้ำ อาเจียนจนหมด เราเป็นอย่างนี้ 5 วัน ทานอะไรไม่ได้เลย อาเจียนตลอด น้ำหนักลงไป 10 กิโล ภายในอาทิตย์เดียว

      แพ้มากและอาเจียนมากจนเส้นเลือดที่ตาแตก ตาขาวของเรากลายเป็นสีแดงเราตกใจมาก ไปให้หมอดูหมอยังงงว่าเป็นมากเลย 
     เข็ฒที่ 2 ก็มีอาการแพ้เหมือนเดิม

     ยาคีโมที่เราได้รับนั้น เราไม่ได้จดหรือถามหมอว่าคือยาอะไร เพียงแต่เห็นว่าเป็นสีเหมือนน้ำแดง  เราเกิดอาการหลอนมาถ้าเห็นอะไรที่เป็นสาย ๆ แล้วเป็นสีแดง เราจะเกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมาทันที

    เราทานอะไรไม่ได้เลย รสชาดอาหารไม่รู้รส ผมร่วง หน้าดำ เหนื่อยง่าย น้ำหนักลด 

     เข็มที่ 3 อาการแพ้ก็เหมือนเดิม  และจนมาถึงเข็มที่ 4  หลังได้รับยาแล้วกลับมาบ้านเราเกิดอาการท้อแท้กับอาการแพ้มาก เรานั่งร้องไห้บอกสามีว่า ไม่เอาอีกแล้ว ไม่ไหวแล้ว มันทรมานมาก ภายในร่างกายเราร้อนไปหมด เราหมดความอกทน สามีก็ได้แต่นั่งปลอบเรา เราโชคดีที่มีสามีดี และคอยดูแลเราทุกเวลา ตลอดเวลาเขาจะอยู่เคียงข้างเราตลอด ลางานเพื่อจะมาดูและเรา เผอิญเขาเจอเจ้านายดีด้วย เราได้กำลังใจจากสามี  ลูก  ญาติพี่น้อง  ตลอดเวลา นี่แหละทำให้เราต้องสู้เพื่อเขาทั้งหลายนี่แหละ  สรุปเราต้องสู้ต่อ....

    เมื่อถึงเวลานัดเพื่อได้รับยาคีโมเข็มที่ 5 อาจารย์บอกว่าเราได้รับการพิจารณาเข้าโครงการวิจัยยาเราตอบตกลงเลยเพราะเท่าที่เราเคยศึกษามานั้น เป็นโครงการยาตัวใหม่และใครที่ได้รับแล้วเหมือนได้ยาดีและเป็นยาต่างประเทศ เรารับเป็นตัวอย่าง  ตัวอย่างหนึ่งขอโครงการทันที เพราะเราคิดว่าถ้าตัวอย่างอย่างเราอาจจะเป็นตัวอย่างที่ทำประโยชน์ให้แก่บุคคลอื่นได้แล้วเราพอใจค่ะ

    ยาที่ได้เป็นยาใหม่ชื่อยา แทคซอร์ ให้ทุกอาทิตย์  ทั้งหมด 12 เข็ม ยาตัวนี้ไม่มีอาการแพ้ ไม่อาเจียน จะมีก็ปวดเมื่อยตามร่างกายเท่านั้น  เราได้ยาตัวนี้เข็มแรกเรามีอาการหลอนจากครั้งก่อนก่อน  เรายังแอบ อาเจียนตลอด เราสังเกตุว่า เราได้รับยาแก้แพ้ซู่ซ่า เมื่อไหร่เราจะอาเจียนทันที เราเลยบอกหมอขอเปลี่ยนยาแก้แพ้ตัวใหม่ ตั้งแต่นั้นเมื่อเปลี่ยนยาแพ้ อาการแพ้ อาเจียนก็หมดไป สรุปเราแพ้ยาแก้แพ้นั่นเอง แปลกมั้ยล่ะคะ

     ขอเล่าเท่านี้ก่อนนะคะแล้วจะมาเล่าต่อค่ะ 

     ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ








Create Date : 20 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2555 20:14:25 น. 0 comments
Counter : 793 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่น้อยอุบล
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นผู้หญิงรักธรรมชาติ
New Comments
Friends' blogs
[Add แม่น้อยอุบล's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.