เรื่องของเรากับโรคมะเร็ง ตอนที่ 2
เรื่องของเรากับโรคมะเร็ง ตอนที่ 2
เริ่มยาตามโครงการเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค. 2552 วันให้ยาเกิดอาการอาเจียนตั้งแต่ยังไม่ได้ให้ยา ระหว่างให้ยาอาเจียนตลอด เป็นเกิดอาการกลัวจะเหมือนยาคีโมครั้งก่อนที่มีอาการแพ้มาก แต่ครั้งนี้ยังพอทานอาหารได้บ้าง มีอาการท้องเสีย เบื่ออาหาร ในระหว่างให้ยาของโครงการวิจัยนี้ เราต้องกินยาลาพาทินิบ อีก 6 เม็ด ทุกวัน ยาลาพาทินิบ จะเม็ดใหญ่มาก เวลากินจะลำบากในการกลืนมากกกก หลังจาได้้รับยามา จะมีอาการไม่สบายตัวอยู่ประมาณ 4-5 วัน หลังจากนั้นก็สบายตัวดีขึ้น เราต้องได้รับยาทุกวันศุกร์ ทุกอาทิตย์ แต่ละครั้งจะต้องมีการเจาะเลือดเพื่อดูค่าของเม็ดเลือดขาว ว่ามีค่าเม็ดเลือดขาวมากพอมั้ย ถ้ามีค่าพอก็จะรับยาต่อ เรามีหน้าที่ต้องกลับมากิน กิน เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์ เพื่อที่จะผลิตเม็ดเลือดขาวออกมาพอกับการรับยา 28 เม.ย. 2553 มีเลือดออกมาจากทางช่องคลอด เป็นลิ่ม ๆ นิดหน่อย เราไม่สบายใจจึงเข้าไปตรวจภายใน หมอดูแล้วบอกว่า ให้มาทำอัลตร้าซาวด์ (16 มิ.ย. 2553)ดูว่าเป็นอย่างไร ผลออกมามีก้อนเนื้อประมาณ 2.4 เซ็นต์ที่โพรงมดลูก หมอนัดอีก 3 เดือนทำอัลตร้าซาวด์ใหม่อีกครั้งว่าก้อนเนื้อเป็นอย่างไรบ้าง ในช่วงนี้ก็ยังคงรับยาเป็นปกติ แต่ไม่เกิดอาการแพ้อะไร 21 ก.ย. 2553 ทำอัลตร้าซาวด์ที่มดลูกอีกครั้ง ผลออกมามีอาการโตขึ้น หมอแนะนำให้ตัดมดลูกออก เพื่อป้องกันการกลายมาเป็นมะเร็งอีก เราเลยตัดสินใจ ผ่าตัดอีกครั้งเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2553 หลังผ่าตัดร่างการเราแข็งแรงดี หมอเอาชิ้นเนื้อไปตรวจว่ามีเชื้อมะเร็งหรือเปล่า ผลออกมา ไม่เป็นเชื้อมะเร็ง โชคยังเข้าข้างเรา ชีวิตเราก็เลยลัลลาาาาาามาก
เราเป็นคนอารมณ์ดี มีปัญหาแล้วจะปล่อยวางได้เร็ว พยายามคิดบวกตลอด มีอารมณ์ดี หัวเราะง่าย เราเลยฟื้นตัวได้เร็ว เราเป็นคนรักสวยรักงาม กลัวที่สุดเรื่องกลัวไม่สวย เราเลยดูแลตัวเองตลอด ไม่อยากให้ใครมาเป็นกังวลในตัวเรา ไม่อยากให้ใครมาสงสาร ไม่อยากให้ใครเห็นเราเป็นคนอ่อนแอ เราเลยต้องพยายามทำตัวเองให้ดูดี และ สวย ให้เร็วยิ่งขึ้น ผมที่เคยร่วงก็เริ่มขึ้นมา หวังว่าตอนแรกผมที่ออกใหม่จะดำ (มีคนบอกว่าบางคนผมออกใหม่จากผมหงอกกลายเป็นสีดำ) แต่ของเราก็คือหงอกเหมือนเดิม
ระหว่างช่วงนี้เราก็จะมีนัดกับหมอเพื่อตรวจร่างกายตลอดเป็นประจำ และเราจะทำ CT ที่ตับตลอดทุก 6 เดือน ผลออกมาทุกครั้งคือไม่มีปัญหาอะไร ชิ้นเนื้อนั้นไม่ใหญ่หรือโตขึ้น ซึ่งแต่ละครั้งหมอก็ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นเนื้ออะไร ซึ่งเป็นอะไรที่คาใจเรามาโดยตลอด คุณพยาบาลที่ดูแลเราโทรศัพท์มาบอกว่าเราจะได้รีับยาเพิ่มอีกตัวคือ Herceptin ตอนแรกเราตกใจว่าทำไมต้องได้รับยา ปรากฏว่าเป็นยาที่ทางโครงการวิจัยฯ ให้เพราะเป็นยาที่ดีและไม่เกิดอาการแพ้อะไร และเป็นยาที่มีราคาแพง เราจะได้รับยา 17 ครั้ง แต่ละเข็มจะเว้นห่างกัน 3 อาทิตย์ เราเริ่มรับยา Herceptin เข็มแรกเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2554
การได้รับยา Herceptin เราจะไม่มีอาการแพ้อะไรเลย การใช้ชีวิตเป็นปกติดีทุกอย่าง เราเที่ยวต่างประเทศ เพื่อนชวน เราก็ไปกับเพื่อน พี่ ๆ ชวนเราก็ไปกับพี่ ๆ ใช้ชีวิตที่สนุกสนาน เหมือนตัวเองไม่ใช่คนป่วย เราคิดว่าเราไม่สบายก็ไปหาหมอรักษา ทุกครั้งที่หมอนัดเราไม่เคยผิดนัด หน้าที่ของเราคือรักษาตัวเองให้ดี ไม่ท้อแท้ ไม่คิดมาก ทุกคนที่เห็นเราจะไม่คิดว่าเราเป็นคนป่วย ถ้าเราไม่บอกเขา เขาจะไม่รู้เลยว่าเราต้องให้ยาอยู่ประจำ เรากลับจากเที่ยว ก็ไปรับยาตามนัดของหมอ
ขอเล่าเท่านี้ก่อนนะคะ แล้วจะมาต่อค่ะ
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 20:21:00 น. |
Counter : 1305 Pageviews. |
|
|
|