เขียนเรื่องราวของหนังไปเรื่อยเปื่อยของคนบ้าหนังเข้าเส้น
 
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
28 มีนาคม 2555

[สกู๊ปพิเศษ] เจมส์ แคเมรอน ชายผู้มองไปยังโลกอนาคตแล้วถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์ม ตอนที่ 1


เพิ่งเป็นข่าวดังไปไม่นานสำหรับยอดผู้กำกับระดับโลก ผู้มีภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของโลกในมือทั้ง 2 เรื่อง นั้นคือ Avatar และ Titanic (ผมไม่มองเรื่องการปรับอัตราเงินอะไรนั้นน่ะครับผม) นามเจมส์ แคเมรอน ที่เพิ่งจะขึ้นมาสูดอากาศหายใจบนพื้นผิวโลกอีกครั้งหลังจากที่ได้ทำการดำดิ่งลงจุดที่ลึกที่สุดในมหาสมุทรเรียนา แถบเกาะกวม เพื่อไปถ่ายทำสารคดีใต้น้ำแบบ 3 มิติ และเก็บภาพตัวอย่างเพื่อกลับมาวิเคราะห์อีก โดยโครงการมีชื่อว่า Deepsea Challenger ใช้ระยะเวลาการวางแผนร่วมงานกับทีม เนชั่นเนล จีโอกราฟฟิก และ โรเล็กซ์ ถึงเกือบ 7 ปี เขาดำลงไปกับยานดำน้ำแบบพิเศษที่มีชื่อเรียกเหมือนโครงการนั้นคือ Deepsea Challenger ที่ความลึก เกือบๆ 11 กิโลเมตร และอยู่ในนั้นยาวนานราวๆ 3 ชั่วโมงก่อนจะกลับขึ้นบนผิวน้ำในวันที่ 26 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้ทำสถิติดำน้ำลึกสุดและอยู่ยาวนานสุดไปอีกอันนึง

อ่านต่อเชิญด้านในครับผม

วันนี้ผมจึงขอนำเสนอบทความพิเศษของผู้กำกับผู้ทุมเทกับงานแบบสุดตัวอย่าง เจมส์ แคเมรอน กันน่ะครับท่านผู้อ่านทั้งหลายที่น่ารักทุกท่าน บางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดไปบ้าง อาจจะไม่ได้รู้อย่างที่ผู้อ่านบางคนรู้ไม่เหมือนกัน ยังไงก็ขอ อภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

วันลืมตาดูโลก…

เจมส์ แฟรนซิส แคเมรอน (James Francis Cameron) หรือที่เรารู้จักกันดีใน เจมส์ แคเมรอน ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง ผู้เขียนบท และอีกมากมายในวงการภาพยนตร์ เขาเกิดในปี 1954 ในวันที่ 16 สิงหาคม เกิดที่แคนาดา เติบโตที่นั้น พอจบจากการเรียนก็ทำงานเป็นคนขับรถบรรทุก ในระหว่างนั้นเขาก็ศึกษาระบบเทคนิคพิเศษของภาพยนตร์โดยการเข้าอ่านในหอสมุด และในปี 1977 เขาได้เห็นภาพยนตร์เรื่อง Star Wars ที่กำกับโดย จอร์จ ลูคัส หลังจากนั้นเขาลาออกจากงานทันที และมุ่งหน้าเข้าสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างเต็มตัว เขาได้มองว่า ศิลปะกับวิทยาศาสตร์ มันเป็นไปได้ในโลกภาพยนตร์ เขาจึงเขียนสคริปท์บทหนังขึ้นมากับเพื่อนโดยเป็นหนังสั้นๆ และถ่ายทำมันด้วยกล้อง อุปกรณ์ที่หายืมมาในชื่อหนังว่า Xenogenesis

ปิรันย่าทำพิษ


หลังจากนั้นมาเขาก็เข้าทำงานทางด้านสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ให้กับบริษัท โรเจอร์ คอร์แมน สตูดิโอ ที่นี่เขาได้เรียนรู้การทำเทคนิคพิเศษด้วยงบทุนอันน้อยนิดแต่ต้องมีคุณภาพ เขาได้อยู่เบื้องหลังงานสร้างเทคนิคพิเศษของหนังอย่าง Battle Beyond The Star (1980) ,Escape from the New York ผลงานของ จอห์น คาเพนเตอร์ ในปี 1981 ,Galaxy of Terror (1981) และ เรื่องราวของหุ่นยนตร์ Andriod (1982)

และแล้วงานแรกกะจะแจ้งเกิดแต่ที่ไหนได้เกือบทำให้ดับ นั้นคือการที่เขาได้รับการทาบทามจากผู้อำนวยการสร้างนาม โอวิดิโอ จี เอซโซนิติ ที่กำลังต้องการจะสร้างภาพยนตร์เรื่อง Piranha Part Two: The Spawning ทุกอย่างดูจะไปได้ดี แต่จริงๆแล้ว เอซโซนิติ อยากได้เพียงให้ เจมส์ ทำตามคำสั่งเท่านั้นไม่ได้ให้โอกาสสร้างสรรค์อะไรเอง อีแบบนี้ทำให้มีปัญหากันตรงที่ความคิดไม่ตรงกัน เจมส์ แกก็ไม่ยอมจึงโดนไล่ออกจากกองถ่ายทั้งๆที่ได้เข้าทำงานเพียงแค่ 7 วัน เท่านั้น แล้วจากนั้นพี่เอซโซนิติก็จัดการกำกับเองซะอย่างงั้น แต่ทำไปทำมาดูเหมือนพี่แกจะรู้ตัวยังไงไม่รู้ พอถ่ายทำเสร็จก็ยัดชื่อ เจมส์ แคเมรอน ว่าเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนั้นไปซะเลย กลายเป็นตราบาปติดตัวของเขาตั้งแต่เริ่มต้นเพราะตัวหนังได้รับคำวิจารณ์ที่แย่และกลายเป็นหนังห่วยประจำปีนั้นไป

คนเหล็กมาช่วยแล้ว…


หลังจากที่เริ่มต้นไม่สวยงามมาก เจมส์ ก็ออกมาทำงานเบื้องหลังเหมือนเดิม จนกระทั่งวันหนึ่งเขาเจออาการอาหารเป็นพิษ เขาป่วย ไข้ ทรมาน แล้วเมื่อนอนหมดสติจากความเจ็บปวดไป เขาเกิดอาการฝันร้าย เขาฝันว่ามีหุ่นยนตร์จากโลกอนาคตเดินทางข้ามกาลเวลามายังโลกปัจจุบันเพื่อฆ่าเขา เขาสะดุ้งตื่นครุ่นคิดถึงเรื่องที่เพิ่งได้เจอในความฝัน และมันทำให้เขาคิดเรื่องราวได้เรื่องหนึ่ง เรื่องของหุ่นยนตร์สังหารมาจากอนาคต จุดเริ่มต้นของ The Terminator ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

เขาได้จินตนาการถึงหุ่นยนตร์ตัวนั้นจะมีรูปแบบไหน เขาครุ่นคิดและก็ตกลงไว้ว่า ควรให้เป็นเหมือนมนุษย์ที่สุด โครงสร้างเหมือนกับมนุษย์เพียงแต่มันเป็นเหล็กภายในภายนอกต้องคนเราต้องดูไม่ออก จากนั้นเขาก็เริ่มที่จะเขียนบทขึ้นมาครับ บทคร่าวๆนั้นคือ โลกในปี 2029 ระบบ สกายเน็ตสามารถควบคุมหุ่นยนตร์ได้เองหมดแล้วและเริ่มออกล้างบางมนุษย์บนโลก มีมนุษย์ผู้นำที่ยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับเหล่ามนุษย์ที่เหลืออยู่นั้นคือ จอห์น คอนเนอร์ เหล่าสกายเน็ตเห็นดังนั้นในเมื่อฆ่ามันในโลกนั้นไม่ได้ก็ขอฆ่ามันตอนเจ้า จอห์น คอนเนอร์ ยังไม่เกิดแล้วกัน โดยการส่งหุ่นรบสังหารรุ่นล่าสุดอย่าง T-800 ย้อนกลับไปในอดีตเพื่อไปฆ่าแม่ของ จอห์น คอนเนอร์ นาม ซาร่า คอนเนอร์ ซะ แต่ฝั่งมนุษย์มีหรือจะยอม จึงได้ส่งนายทหารฝีมือดี ไคล์ รีส ไปยังอดีตเช่นกันเพื่อปกป้อง ซาร่า คอนเนอร์ จากการสังหารของหุ่นยนตร์สุดโหดตัวนั้น

บทหนังพร้อมแล้ว ต่อไปก็ตามหานายทุนเพื่อออกทุนสร้างหนังเรื่องนี้ให้ เขาตระเวนไปทั่วและแต่ละที่ก็ชื่นชอบมากมายซะด้วย เพราะบทหนังมันแปลกใหม่ถ้าได้สร้างในสมัยนั้นแล้วล่ะก็ ยังไงก็ต้องประสบความสำเร็จ การเจรจาเสนอบทหนังเป็นไปได้ด้วยดี แต่มักลงเอยด้วยการปฏิเสธเพราะว่า เจมส์ แคเมรอน ได้บอกกับทางผู้อำนวยการสร้างแต่ละเจ้าเป็นประโยคเดียวกันนั้นคือ “ถ้าตกลงจะสร้างหนังเรื่องนี้ ผมต้องได้กำกับน่ะครับ” เพราะงี้เองเขาจึงถูกปฏิเสธ อย่าลืมว่าปีก่อนนั้น เขาเป็นที่รู้จักจากการทำหนังแย่แห่งปีเรื่อง Piranha Part Two: The Spawning ที่เขาไม่ได้มีส่วนรวมมากมายเลยด้วยซ้ำ เป็นการเริ่มต้นที่ลำบากมากมายของ เจมส์ เลยก็ว่าได้ แม้ว่าจะอธิบายยังไง ชื่อของเขาก็ขึ้นเด่นเป็นสง่าว่า ผู้กำกับ Piranha Part Two: The Spawning คือ เจมส์ แคเมร่อน ซึ่งตอนนั้นไม่เป็นที่รูู้จักแล้วยังมาโดนแบบนี้อีก ผู้อำนวยการสร้างก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงเท่าใดนัก

แต่คนใจมันสู้ มันไม่ยอมแพ้ ก็ต้องประสบความสำเร็จได้แน่นอน หลังจากที่ตระเวนออกตามหานายทุนให้มาช่วยอำนวยการสร้างหน่อยอย่างไม่ลดความพยายาม และในที่สุดก็มาถึงที่ สตูดิโอนามว่า เฮมเดล พิคเจอร์ ที่มี เกล แอน เฮิร์ด ผู้อำนวยการสร้างหนังหญิงแกร่ง (ต่อมาได้กลายเป็นภรรยาคนแรกของเขาไปจนกระทั่งเลิกลากันไปน่ะครับ) โดยที่ เกล ได้พิจารณางานที่ผ่านมาของ เจมส์ อย่างละเอียด ไม่ได้มองที่งานปลาปิรันย่าอย่างเดียว และเธอก็เสนอการหักดิบกันไปเลยโดยบอกกับเจมส์ไว้ว่า “ตกลงฉันจะออกทุนสร้างและให้คุณกำกับด้วย โดยที่ฉันจะขอซื้อบทหนังเรื่องนั้นในราคา 1 ดอลล่าร์” ซึ่งมันแฝงนัยยะในตัวที่ว่า เจมส์ ได้โอกาสแล้ว เขาจะทำมันได้ดี ทุ่มเท ขนาดไหนนั้นเอง และ แคเมรอน เอาก็เอาว่ะ ตอบตกลงแล้วเริ่มงานสร้างทันที

แรกเริ่มเดิมทีนั้น ไคล์ รีส จะต้องเป็นหนุ่มกล้ามโต ทรงพลังพระเอกเต็มที่ ส่วนคนเหล็กหุ่นยนต์จากอนาคต จะบอบบางดูเป็นคนดีมากมาย เพื่อให้เกิดความคิดที่ว่าคนเราดูจากภายนอกไม่ได้น่ะ พระเอกของเรื่องผู้รับบท ไคล์ รีส ได้ อาร์โนลด์ ชวาเซเน็กเกอร์ มาอันดับต้นไม่ต้องแข่งใคร ส่วนคนเหล็กนั้นมีการแคสพอตัวทั้ง แลนซ์ เฮนริคเซน,โอ เจ ซิมป์สัน,และ เมล กิ๊บสัน ซึ่งผู้ที่มารับบทไปก็คือ แลนซ์ เฮนริคเซน ครับ นักแสดงสาวผู้ต้องมารับบทเป็น ซาร่า คอนเนอร์ ก็ได้ ลินดา ฮามิลตัน ที่ เจมส์ จะชื่นชอบเธอเป็นพิเศษเลยได้รับบทไป จากนั้นการได้พบปะพูดคุยกันระหว่างนักแสดงและผู้กำกับก็เริ่มต้นขึ้นระหว่างนั้น อาร์โนลด์ ได้พูดคุยแสดงความคิดเห็นกับ เจมส์ ไว้ว่าควรจะทำให้คนเหล็กเป็นอะไรที่ดูดุดัน น่าเกรงขาม พร้อมถล่มไปเลยดีกว่าไหมจะได้สร้างผลดีให้กับตัวหนังไปเลย อีกทั้งยังให้อารมณ์ร่วมของคนดูไปด้วย เพราะอย่าลืมว่าคนเราตัดสินใจแบบแรกๆจากการมองรูปลักษณ์ แล้ว เจมส์ ก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งและดูแล้ว อาร์โนลด์ เหมาะกับการเป็นคนเหล็กมากกว่า จึงมีการเปลี่ยนบทเกิดขึ้นให้เป็นแบบที่ลุงบึ้กแนะนำไว้ครับ งานนี้ ไคล์ รีส จึงต้องทำการหานักแสดงใหม่ โดยได้ ไมเคิล บีน มารับบทไป ส่วน แลนซ์ เฮนริคเซน ก็เปลี่ยนบทมาเป็นนายตำรวจในเรื่องแทน

การถ่ายทำต้องรอคิวของลุงบึ้กก่อน เพราะพี่แกเล่นหนัง โคแนน ด้วย แต่พอทุกอย่างเข้าที่ก็ลุยเต็มที่ครับ มีเรื่องฮาที่ว่าวันหนึ่ง อาร์โนลด์ หิวจึงไปเดินหาข้าวกลางวันแถวๆดาวทาวน์ในแอลเอ ผู้คนแถวนั้นถึงกับแตกกระเจิง เพราะพี่แกลืมไปว่าออกมาจากกองถ่ายทั้งๆที่ยังเมกอัพอยู่เลยนิหว่า ซึ่งหน้าตาตอนนั้นเป็นตอนที่เหลือตาแดงๆ ออกเหล็กแถบซีกนึงแล้วครับ แม้การถ่ายทำทุกอย่างจะเสร็จสิ้นแล้ว แต่ทว่าเหมือนอุปสรรคจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะ จอห์น เดลี่ ผู้อยู่เบื้องบนของ เฮมเดล พิคเจอร์ ได้เสนอให้ตอนจบของหนังเรื่องนี้ จบเพียงการระเบิดของรถบรรทุกที่คนเหล็กขับอยู่แล้วจบเลย ท่านผู้อ่านยังจำฉากไล่ล่าอันปวดตับในตอนท้ายหนังเรื่องคนเหล็กภาคแรกได้หรือไม่นั้นแหละครับ ตอนแรกมันจะไม่มีในหนัง แต่คราวนี้ เจมส์ ไม่ยอมถึงกับไปเถียงทะเลาะกัย เดลี่ ขึ้น กู มึง Fuck กันเลยทีเดียว เพราะฉากนั้นคือทุกอย่างเลยของหนังครับ

และสุดท้ายตัวหนังก็เสร็จหลังจากผ่านเรื่องราวดราม่ามาเยอะพอตัว ผลลัพธ์ที่ได้ ตัวหนังทำเงินในอเมริกาไป 38.3 ล้านดอลล่าร์ และอีก 40 ล้านดอลล่าร์จากต่างประเทศ กำไรมหาศาลจากการเป็นวิดีโอ และการนำไปถ่ายทอดผ่านเคเบิลทีวี จากทุนสร้างที่คุ้มค่ามากมาย 6.4 ล้านดอลล่าร์ ทำให้ผู้ที่เคยดูแคลน ดูถูก รวมถึง เดลี่ ถึงกับเหวอไปหมด แจ้งเกิดให้ อาร์โนลด์ เป็นที่รู้จักกันในนาม คนเหล็ก และปฐมบทแห่งตำนานหุ่นยนตร์ที่สร้างใหม่ได้เรื่อยๆครับ และดูเหมือนครั้งนี้การกำกับงานแรกแบบจริงจังจะเป็นใบเบิกทางให้ตัว เจมส์ แคเมรอน ได้เป็นที่รู้จักซะที แต่ถามว่านี่เป็นผลงานที่เยี่ยมที่สุดไหม ยังครับมันแค่เริ่มต้นเท่านั้น


จบตอนที่ 1 ตอนที่ 2 จะมาเร็วๆนี้น่ะจ๊ะ

แหล่งที่มา wikipedia google และ บทความดีๆของคุณพี่ 10000tip ครับผม

สามารถไปอ่านข่าวหนัง ข้อมูลข่าวสารภาพยนตร์ วิจารณ์รีวิวได้ที่ www.nangnadoo.com  ครับ


Create Date : 28 มีนาคม 2555
Last Update : 29 มีนาคม 2555 10:56:44 น. 1 comments
Counter : 1679 Pageviews.  

 
ติดตามตอนสองคับ


โดย: เดียร์ IP: 110.77.228.244 วันที่: 30 มีนาคม 2555 เวลา:18:46:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทับแก้วสาม
Location :
แพร่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผมชอบดูหนัง ผมตามอ่านเรื่องราวของหนังพอสมควร เรื่องที่รู้ๆบ้างก็อยากจะมาเขียนให้คนรักหนังอ่านกันครับ
[Add ทับแก้วสาม's blog to your web]